สัพพจิตตสาธารณะเจตสิก (เจตสิกที่เกิดกับจิตทุกดวง) 5 คือ ผัสสะ เจตนา เอกัคคตา (สมาธิ) ชีวิตินทรีย์ มนสิการ (จำนวนเดิมมี 7 ทั้งเวทนา กับ สัญญา)

เจตสิก เกิดร่วมกับจิต ดับพร้อมกับจิต มีอารมณ์เดียวกับจิต เป็นสัมปยุตธรรม มิใช่ไปกวักมาที่ละตัวๆ คิกๆๆ

นี่ล่ะนะ เรียกว่า โง่อวดฉลาด ถามจริงๆ ไปอ่านแล้วยัง ถึงยก อะไรออกมามั่วๆซั่วๆ

ทำเป็นเก่งอีก ก็มนสิการประกอบกับจิตได้ทั้งหมดทั้งกุศล อกุศล แล้วมันจะแปลกตรงไหนล่ะพ่ออุโมงค์

ประกอบเวลาเดียวกันไหมล่ะ

คำถามนี่โง่ของจริง ปูดโธ่ ก็จิตมันเกิดทีละขณะทีละดวง แล้วมันจะเกิดพร้อมกันได้ยังไงเล่า มันก็ต้องเกิดทีอย่างซี่ เออ ขรรมจินๆ ถามโง่ๆ

โง่นำหน้าไปอีก

จากเน่า แล้วมาเวิ้นเว้อ แล้วก็มาถึงโง่ คิกๆๆ หมดทางไปด้วยเหตุผลจริงแท้ ขรรม

เช่นนั้นขอรับ คุณออกมาจากพระสูตรเถอะ มาดูธรรมที่คน (ภาษาสมมติ) ก่อนที่คุณจะถูกท่อนซุงทับตาย คิกๆๆ

กรัชกาย
อย่าอวดฉลาดเลยนะ
มนสิการ คือสมาธิ ก็ขำกลิ้งแล้ว
ไม่ให้กรัชกายไปอ่านพระสูตร ให้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด

ก็เท่ากับไม่อนุเคราะห์กรัชกายให้หายโง่

อ้าวๆๆวน คิกๆๆ

บอกให้อ่านพระสูตร ต้องเตือนกรัชกายบ่อยๆ บอกบ่อยๆ

ธรรมอยู่ที่คนหรือนามรูปเช่นนั้น คิกๆๆ

เซ๊าซี้ จะเอาคำตอบ
ธรรม ได้แก่นามรูป ...... อิอิ

ถ้างั้นได้แก่อะไรบ้างล่ะ ยกมาสิเอ้า