วันเวลาปัจจุบัน 05 ส.ค. 2025, 16:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2017, 19:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อิธ โสจติ เปจฺจ โสจติ
ปาปการี อุภยตฺถ โสจติ
โส โสจติ โส วิหญฺญติ
ทิสฺวา กมฺมมิลิฏฺฐมตฺตโน.


บุคคลผู้มีปกติทำบาป ย่อมเศร้าโศกในโลกนี้ ละไปแล้ว ก็ย่อมเศร้าโศก ย่อมเศร้าโศกในโลกทั้ง ๒ เขาเห็นกรรมอันเศร้าหมองของตนแล้ว ย่อมเศร้าโศก เขาย่อมเดือดร้อน.


อิธ โมทติ เปจฺจ โมทติ
กตปุญฺโญ อุภยตฺถ โมทติ
โส โมทติ โส ปโมทติ
ทิสฺวา กมฺมวิสุทฺธมตฺตโน.


บุคคลผู้ทำบุญไว้ ย่อมบันเทิงในโลกนี้ ละไปแล้ว ย่อมบันเทิง ย่อมบันเทิงในโลกทั้ง ๒ เขาเห็นความหมดจดแห่งกรรมของตนแล้ว ย่อมบันเทิง เขาย่อมรื่นเริง.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2017, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุกรานิ อสาธูนิ อตฺตโน อหิตานิ จ
ยํ เว หิตญฺจ สาธุญฺจ ตํ เว ปรมทุกฺกรํ.


กรรมทั้งหลายที่ไม่ดี และไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ตน ทำได้ง่าย
กรรมใดแล เป็นประโยชน์เกื้อกูลและเป็นกรรมดี กรรมนั้นแล ทำได้ยากอย่างยิ่ง.


สุกรํ สาธุนา สาธุ สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ
ปาปํ ปาเปน สุกรํ ปาปมริเยหิ ทุกฺกรํ.

กรรมดีคนดีทำง่าย กรรมดีคนชั่วทำได้ยาก
กรรมชั่วคนชั่วทำได้ง่าย กรรมชั่วพระอริยเจ้าทั้งหลายทำได้ยาก.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2017, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กึสุ อธิปตี ราชา กึสุ ราชา ราชสฺสิโร
กถํสุ วิรโช โหติ กถํ พาโลติ วุจฺจติ.

ผู้เป็นใหญ่อย่างไรเล่า ชื่อว่าพระราชา ? อย่างไรเล่าพระราชาชื่อว่ามีธุลีบนพระเศียร ? อย่างไรเล่าชื่อว่าปราศจากธุลี ? อย่างไร ท่านจึงเรียก คนพาล?

ฉทฺวาราธิปตี ราชา ราชมาโน ราชสฺสิโร
อรชํ วิรโช โหติ รชํ พาโลติ วุจฺจติ.

ผู้เป็นใหญ่ในทวาร ๖ ชื่อว่า เป็นพระราชา พระราชาผู้กำหนัดอยู่ ชื่อว่ามีธุลีบนพระเศียร
ผู้ไม่กำหนัดอยู่ ชื่อว่าปราศจากธุลี ผู้กำหนัดอยู่ ท่านเรียก คนพาล.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2017, 08:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มนาปเมว ภาเสยฺย นามนาปํ กุทาจนํ
มนาปํ ภาสมานสฺส ครุภารํ อุทพฺพหิ
ธนญฺจ นํ อลาเภสิ เตน จตฺตมโน อหุ.

บุคคลพึงกล่าวคำเป็นที่พอใจเท่านั้น ไม่พึงกล่าวคำไม่เป็นที่พอใจในกาลไหนๆ (เพราะ) เมื่อพราหมณ์กล่าวคำเป็นที่พอใจอยู่ โคนันทวิสาลเข็นภาระอันหนักไปได้
ยังพราหมณ์นั้นให้ได้ทรัพย์ และพราหมณ์นั้น ได้เป็นผู้มีใจเบิกบานเพราะการได้ทรัพย์นั้น.

มาโวจ ผรุสํ กญฺจิ วุตฺตา ปฏิวเทยฺยุ ตํ
ทุกฺขา หิ สารมฺภกถา ปฏิทณฺฑา ผุเสยฺยุ ตํ
สเจ เนเรสิ อตฺตานํ กํโส อุปหโต ยถา
เอส ปตฺโตสิ นิพฺพานํ สารมฺโภ เต น วิชฺชติ.


เธออย่าได้กล่าวคำหยาบกะใครๆ ชนเหล่าอื่นถูกเธอว่ากล่าวแล้ว จะพึงว่ากล่าวตอบเธอ เพราะการกล่าวแข่งขันกันเป็นทุกข์ อาชญาตอบก็จะพึงถูกต้องเธอ
ถ้าเธอสามารถยังตนไม่ให้หวั่นไหวได้ ดังกังสดาลที่ถูกกำจัดแล้วไซร้ เธอนั้นย่อมเป็นผู้บรรลุพระนิพพาน การกล่าวแข่งขันกัน ย่อมไม่มีแก่เธอ.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2017, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จตูสุ สมุทฺเทสุ ชลํ ปริตฺตกํ
ตโต พหํุ อสฺสุชลํ อนปฺปกํ
ทุกฺเขน ผุฏฺฐสฺส นรสฺส โสจโต
กึการณา สมฺม ตุวํ ปมชฺชสิ.


น้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ นิดหน่อย (แต่) น้ำคือน้ำตาของนรชนผู้อันทุกข์ถูกต้องแล้ว เศร้าโศกอยู่ มีประมาณไม่น้อย มากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ นั้น
แน่ะสหาย เพราะเหตุไร ท่านจึงยังประมาทอยู่เล่า ?


อปฺปมาโท อมตํปทํ ปมาโท มจฺจุโน ปทํ
อปฺปมตฺตา น มียนฺติ เย ปมตฺตา ยถา มตา.

ความไม่ประมาทเป็นทางแห่งอมตะ ความประมาทเป็นแห่งความตาย
ผู้ไม่ประมาทแล้วชื่อว่าย่อมไม่ตาย ผู้ที่ไม่ประมาทแล้ว เป็นเหมือนคนตายแล้ว.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2017, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ โข สิปฺปกนฺนาม อปิ ยาทิสกีทิสํ
ปสฺส ขญฺชปฺปหาเรน ลทฺธา คามา จตุตฺทิสา.


ธรรมดาว่าศิลปะ แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้
ท่านจงดูเถิด ด้วยการดีด (มูลแพะ) ของคนง่อย เขาได้บ้านส่วยอันตั้งอยู่ใน ๔ ทิศแล้ว.


ศิลปะ ฝีมือ, ความฉลาดในฝีมือ, ฝีมือทางการช่าง, การแสดงออกมาให้ปรากฏอย่างงดงามน่าชม, วิชาที่ใช้ฝีมือ, วิชาชีพต่างๆ


ศิลปวิทยา ศิลปะและวิทยาการ


ศิลปศาสตร์ ตำราว่าด้วยวิชาความรู้ต่างๆ มี ๑๘ ประการ เช่น ตำราว่าด้วยการคำนวณ ตำรายิงธนู เป็นต้น อันได้มีการเรียนการสอนกันมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาล , ๑๘ ประการนั้นมีหลายแบบ ยกมาดูแบบหนึ่งจากคัมภีร์โลกนิติ และธรรมนิติ ได้แก่

๑. สุติ ความรู้ทั่วไป

๒. สัมมุติ ความรู้กฎธรรมเนียม

๓. สังขยา วิชาคำนวณ

๔. โยคา การช่าง การยนตร์

๕. นีติ วิชาปกครอง (คือ ความหมายเดิมของ นิติศาสตร์ ในชมพูทวีป)

๖. วิเสสิกา ความรู้การอันให้เกิดมงคล

๗. คันธัพพา วิชาร้องรำ

๘. คณิกา วิชาบริหารร่างกาย

๙. ธนุพเพธา วิชายิงธนู (ธนุพเพทา ก็ว่า )

๑๐. ปูรณา วิชาบูรณะ

๑๑. ติกิจฉา วิชาบำบัดโรค (แพทย์ศาสตร์)

๑๒. อิติหาสา ตำนานหรือประวิติศาสตร์

๑๓. โชติ ความรู้เรื่องสิ่งส่องสว่างในท้องฟ้า (ดาราศาสตร์)

๑๔. มายา ตำราพิชัยสงคราม

๑๕. ฉันทสา วิชาประพันธ์

๑๖. เกตุ วิชาพูด

๑๗. มันตา วิชาเวทมนตร์

๑๘. สัททา วิชาหลักภาษาหรือไวยากรณ์

ทั้ง ๑๘ อย่างนี้ โบราณเรียกรวมว่า สิปปะ หรือศิลปะ ไทย แปลออกเป็น ศิลปศาสตร์ (ตำราว่าด้วยศิลปะต่างๆ) แต่ในสมัยปัจจุบัน ได้แยกความหมาย ศิลปะ กับ ศาสตร์ ออกจากกัน คือ ศิลปะ หมายถึง วิทยาการที่มีวัตถุประสงค์ตรงความงาม เช่น ดุริยางค์ศิลป์ นาฏศิลป์ และจิตรกรรม เป็นต้น ศาสตร์ หมายถึง วิทยาการที่มีวัตถุประสงค์ตรงความจริง เช่น คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2017, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตันติ ๑. แบบแผน เช่น ตันติธรรม (ธรรมที่เป็นแบบแผน) ตันติประเพณี (แนวทางที่ยึดถือปฏิบัติสืบกันมาเป็นแบบแผน) เช่น ภิกษุทั้งหลายควรสืบต่อตันติประเพณีแห่งการเล่าเรียนพระธรรมวินัย และเที่ยวจาริกไปแสดงธรรม โดยดำรงอิริยาบถอันน่าเลื่อมใส ๒. เส้น, สาย เช่น สายพิณ

ตันติภาษา ภาษาที่มีแบบแผน คือมีหลักภาษา มีไวยากรณ์ เป็นระเบียบ เป็นมาตรฐาน, เมื่อพระพุทธโฆษาจารย์แปลอรรถกถาจากภาษาสิงหล ท่านกล่าวว่า ยกขึ้นสู่ตันติภาษา คำว่า “ตันติภาษา” ในที่นี้หมายถึง ภาษาบาลี (บาลี ตนฺติภาสา)

บาลี ๑. “ภาษาอันรักษาไว้ซึ่งพุทธพจน์” ภาษาที่ใช้ทรงจำและจารึกรักษาพุทธพจน์แต่เดิมมา อันเป็นหลักในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ถือกันว่าได้แก่ ภาษามคธ ๒. พระพุทธวจนะ ซึ่งพระสังคีติกาจารย์รวบรวมไว้ คือ พระธรรมวินัยที่พระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ประชุมกันรวบรวมจัดสรรให้เป็นหมวดหมู่ในคราวปฐมสังคายนา และรักษาไว้ด้วยภาษาบาลี สืบต่อกันมาในรูปที่เรียกว่า พระไตรปิฎก อันเป็นคัมภีร์พระพุทธศาสนาต้นเดิม ที่เป็นหลักของพระพุทธศาสนาเถรวาท, พุทธพจน์, ข้อความที่มาในพระไตรปิฎก,

ในการศึกษาพระพุทธศาสนา มีประเพณีที่ปฏิบัติกันมาในเมืองไทย ให้แยกคำว่า “บาลี”


ในความหมาย ๒ อย่างนี้ ด้วยการเรียกให้ต่างกัน คือ ถ้าหมายถึงบาลีในความหมายที่ ๑. ให้ใช้คำว่า ภาษาบาลี (หรือ ศัพท์บาลี คำบาลีหรือบาลี) แต่ถ้าหมายถึงบาลีในความหมายที่ ๒. ให้ใช้คำว่า พระบาลี

มคธภาษา ภาษาของชนชาวมคธ, ภาษาของชนผู้อยู่ในแคว้นมคธ

มคธ ๑. ชื่อแคว้นหนึ่งในบรรดา ๑๖ แคว้นใหญ่แห่งชมพูทวีปครั้งพุทธกาล ตั้งอยู่ฝั่งใต้ของแม่น้ำคงคาตอนกลาง เป็นแคว้นที่มีอำนาจมากแข่งกันกับแคว้นโกศล และเป็นที่พระพุทธเจ้าทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล มคธมีนครหลวงชื่อ ราชคฤห์ ราชาผู้ปกครองพระนามว่า พิมพิสาร


ตอนปลายพุทธกาล พระเจ้าพิมพิสารถูกพระโอรสชื่อ อชาตศัตรู ปลงพระชนม์ และขึ้นครองราชย์สืบแทน

ต่อมาในสมัยพระเจ้ากาลาโศก หรือก่อนนั้น เมืองหลวงของมคธ ย้ายไปตั้งที่เมืองปาฏลีบุตร บนฝั่งแม่น้ำคงคา เหนือเมืองราชคฤห์ขึ้นไป มคธรุ่งเรืองถึงที่สุดในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งแคว้นใหญ่อื่นทั้งหมดได้รวมเข้าอยู่ภายในมหาอาณาจักรของพระองค์ทั้งหมดแล้ว

บัดนี้ บริเวณที่เคยเป็นแคว้นมคธในสมัยพุทธกาล เรียกว่า แคว้นพิหาร ๒. เรียกภาษาที่ใช้พูดในแคว้นมคธ หรือภาษาของชาวแคว้นมคธว่า ภาษามคธ และถือกันว่าภาษาบาลีที่ใช้รักษาพระพุทธพจน์สืบมาจนบัดนี้ คือ ภาษามคธ


รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร