...ต้นไม้..ถ้ามีแต่แก่นจะเจริญเติบโตมาได้อย่างไร
...มันต้องมีเปลือกมีกระพี้คอยบำรุงรักษา
...เพื่อที่แก่นนั้นมันจะได้เจริญงอกงามต่อไป
...การมีวัตถุมงคล..
..บางคนมีไว้เพื่อ..ตอบสนองความกลัวในรูปแบบต่างๆ
ที่มีอยู่ในตัวเองเป็นที่ยึดของใจในเวลานั้น
..บางคนมีไว้เพื่อ..ระลึกถึงคุณของพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ เตือนสติไม่ไปในทางชั่ว
...บางคนมีไว้เพื่อ..มูลค่าการซื้อขาย ตอบสนองทางวัตถุให้ตัวเอง...ฯลฯ
...สิ่งเหล่านี้เป็นไปตาม..สติและปัญญาในแต่ละคนในการที่ได้ครอบครองวัตถุมงคล
...ผลที่ได้รับก็แตกต่างกันตามความต้องการ
นั้นๆ
...อยากให้ช่วย..อยากให้ดี..หรืออยากให้รวย ก็อยู่ที่ใจของผู้ครอบครอง

มนุษย์เราเหมือนบัวสี่เหล่า การที่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงศาสนาเหมือนกันหมดนั้น เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นครูบาอาจารย์ท่านจึงมีกุศโลบายที่จะให้มนุษย์เข้าใกล้ศาสนามากที่สุด "วัตถุมงคล" ก็เป็นวิธีหนึ่ง ...ท่านเคยได้ยินไหมครับว่า ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าห้อยคอไว้นะ แล้วอย่าผิดลูกผิดเมียผู้อื่นนะ แล้วจะดี เป็นต้น ...หรือบอกว่าก่อนห้อยคอให้ท่องนะโม 3 จบนะ แล้วจะคลาดแคล้ว (คลาดแคล้วแน่เพราะมีสติแล้ว)
...หรืออีกแง่หนึ่ง ท่านเคยเห็นคนที่ห้อยรูปของพ่อแม่ไหมครับ ..เพื่ออะไร... ก็เป็นกุศโลบายเพื่อให้ตัวเองระลึกถึงพ่อแม่ ระลึกอยู่เสมอว่าอย่าทำอะไรให้พ่อแม่เสียใจนะ
...ห้อยรูปหลวงพ่อ หลวงปู่ที่เรานับถือก็เหมือนกัน เราจะได้เตือนสติตัวเองระลึกถึงคำสอนของหลวงพ่อ หลวงปู่ที่สอนเอาไว้ไงครับ
นี่แหละวัตถุมงคล
...นี่ผมมองแง่ดีของ "วัตถุมงคล" นะครับ
...ส่วนที่ไม่ดีนั้นเป็นเพราะ "มนุษย์"หากินกับวัตถุมงคล แล้วโยนบาปให้ "วัตถุมงคล" มากกว่า

วัตถุมงคล เบื้องต้นจะเริ่มทำให้คนเสื่อม

เมื่อคนเสื่อมแก่นแท้ของศาสนาจะเริ่มเสื่อม คิดว่าวัตถุมงคล ก็จัดเป็นสิ่งเสพติดมัวเมาได้เหมือนกัน

หากไม่เข้าใจในจุดประสงค์ที่แท้ของวัตถุมงคลคือเรื่องการมีส่วนช่วยยกระดับจิตแล้วย่อมติดอยู่ในสิ่งนี้อยู่เรื่อยไป

ทุกวันนี้ที่ศาสนาอยู่ได้ไม่ใช่เพราะมวลแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคล

แต่อยู่ได้เพราะมวลแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของพระสายอรัญวาสี ที่มีความสงบแห่งจิตเป็นมงคล และพระที่อุทิศตนเพื่อสังคม มากกว่าที่จะกอบโกยจากสังคมมากกว่า

หวัดดีคับทุกท่านผมน้องใหม่นะคับอย่ากมีส่วนร่วมในเวบนี้คับ

บางทีคนเราไปยึดติดแต่เปลือกของศาสนาจนเกินไปไม่มองเห็นเนื้อแท้เลย

บ้างครั้งเครื่องรางของคังก็ช่วยยึงจิตใจผู้คนใด้