วันเวลาปัจจุบัน 03 ส.ค. 2025, 02:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 88 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สัทธา ความเชื่อ, ความเชื่อถือ, ในทางธรรม หมายถึง เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ, ความเชื่อที่ประกอบด้วยเหตุผล, ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม, ความเลื่อมใสซาบซึ้งชื่นใจสนิทใจรับคุณความดีในบุคคลหรือสิ่งนั้นๆ, ความมั่นใจในความจริง ความดี สิ่งดีงาม และในการทำความดี ไม่ลู่ไหลตื่นตูมไปตามลักษณะอาการภายนอก; เขียนอย่างสันสกฤตเป็น ศรัทธา

อรรถกถาทั้งหลายจำแนกว่ามี สัทธา ๔ ระดับ (เช่น ที.อ.3/227 ฯลฯ) คือ

๑. อาคมนสัทธา ความเชื่อความมั่นใจของพระโพธิสัตว์ อันสืบมาจากการบำเพ็ญสั่งสมบารมี (อาคมนียสัทธา หรืออาคมสัทธา ก็เรียก)

๒. อาธิคมสัทธา ความเชื่อมั่นของพระอริยบุคคล ซึ่งเกิดจากการเข้าถึงด้ว้ยการบรรลุธรรมเป็นประจักษ์ (อาธิคมนสัทธา ก็เรียก)

๓. โอกัปปนสัทธา ความเชื่อหนักแน่นสนิทแน่วเมื่อได้ปฏิบัติก้าวหน้าไปในการเห็นความจริง (โอกัปปนียสัทธา ก็เรียก ท่านว่าตรงกับอธิโมกข์ หรืออธิโมกขสัทธา)

๔. ปสาทสัทธา ความเชื่อที่เป็นเพียงความเลื่อมใสจากการได้ยิน ได้ฟัง

ปสาทะ ความเลื่อมใส, ความชื่นบานผ่องใส, ความเชื่อถือมั่นใจ, ความรู้สึกยอมรับนับถือ, ความเปิดใจรับ, อาการที่จิตเกิดความแจ่มใสโปร่งโล่งเบิกบานปราศจากความอึดอัดขัดข้องขุ่นมัวโดยเกิดความรู้สึกชื่นชมนิยมนับถือ ต่อบุคคลหรือสิ่งที่พบเห็น สดับ หรือ ระลึกถึง; มักใช้คู่กับสัทธา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ปรุงแต่งเป็นก็เป็นบุญ (ปุญญาภิสังขาร) ปรุงแต่งไม่เป็นก็เป็นบาป (อปุญญาภิสังขาร)

viewtopic.php?f=1&t=47940


ความคิดปรุงแต่ง กับ ความคิดวิปัสสนา

viewtopic.php?f=1&t=47890

คนเรามันต้องคิด แต่คิดให้เป็น :b1:



เห็นมาตอบกระทู้แล้วชื่นใจ

แต่คิดเท่าไรก็ไม่รู้ แต่จะรู้เมื่อหยุดคิด


ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ

มีแต่จะทำให้สิ้นภพจบพรหมจรรย์ได้
บ๊ายบายค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
ทำยังไงถึงจะชนะใจเองให้ได้

มีสองวิธี ค่ะ

คือหนึ่งทำตามลัทธิเดียรถีย์
ทำตามใจไปจนตายแล้วเกิดใหม่ จนกว่ากิเลสต่างๆจะค่อยๆหมดไปทีละชาติๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สอง ทำตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ที่ถูกต้องสอดคล้องทั้งปริยัติและปฎิบัติ
ในแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ไม่ได้มีแค่พุทธวจนะอย่างเดียว
ยังมีพระอภิธรรม 42000 ด้วยในนั้นค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 13:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ม่ายรู้ใครจะไปนรกก่อน...ระหว่าง..คนอวยพรที่พูดคำก็เสียดสีคำ..คนที่ยกคำใครก็ไม่รู้ว่าเหนือกว่าคำพระพุทธเจ้า...คนที่ยกความคิดตนว่าเจ่งกว่าพระธรรมคำสอนที่พระองค์ได้สอนสั่ง....

:b9: :b9: :b9:


เอาว่า ระหว่างคุณกบ กะหนู
ขออารธนาให้พระแม่ธรณีทรงเป็นพยานนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 13:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สัทธา (ศรัทธา) คือ ความเชื่อ ความซาบซึ้ง ไม่ใช่ความรู้ (ไม่ใช่ปัญญา) แต่อาจเป็นทางเชื่อมไปสู่ความรู้ได้ เพราะศรัทธามีลักษณะเป็นการยอมรับความรู้ของผู้อื่น ฝากความไว้วางใจในปัญญาของผู้อื่น ยอมพึ่ง และอาศัยความรู้ของผู้อื่น หรือแหล่งแห่งความรู้นั้นเป็นเครื่องชี้นำแก่ตน
ถ้าผู้มีศรัทธา รู้จักคิด รู้จักใช้ปัญญาของตนเป็นทุนประกอบไป ศรัทธา นั้น ก็สามารถนำไปสู่ความเจริญปัญญา และการรู้ความจริงได้ เฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อผู้อื่นนั้น หรือแหล่งความรู้นั้น มีความรู้แท้จริง และมีกัลยาณมิตรช่วยชี้แนะให้รู้จักใช้ปัญญา
แต่ถ้าเชื่ออย่างงมงายคือไม่รู้จักคิด ไม่ใช้ปัญญาของตนเลย และผู้อื่นหรือแหล่งแห่งความรู้นั้นไม่มีความรู้จริง ทั้งไม่มีกัลยาณมิตรที่จะช่วยชี้แนะ หรือมีปาปมิตร ผลอาจกลับตรงข้าม นำไปสู่ความหลงผิด ห่างไกลจากความรู้ยิ่งขึ้น



ศรัทธานำไปสู่ปีติ (ดูพุทธพจน์ที่ สํ.นิ. 16/69/37) ศรัทธานำไปสู่วิริยะ (ดู สํ.ม.19/1011/297) อนึ่ง ศรัทธา ย่อมช่วยให้เกิดกำลังใจ มีความเข้มแข็ง หายกลัวได้ ซึ่งจัดเข้าในวิริยะเหมือนกัน เช่น เรื่องในธชัคคสูตร สํ.ส.15/863-6/320-3 พึงสังเกตด้วยว่า ศรัทธาที่ไม่มีปัญญารองรับ ก็เป็นแรงส่งถึงสมาธิเหมือนกัน (อาจเป็นสมาธิขั้นสูงมาก ถึงเจโตวิมุตติชนิดที่ยังกำเริบกลับกลายได้) แต่ติดจบอยู่แค่นั้น ไม่ส่งผลต่อถึงปัญญา และอาจขัดขวางปัญญาด้วย ส่วนศรัทธาที่มีปัญญากำกับ หนุนสมาธิให้เกิดขึ้น เพียงเพื่อเป็นพลังช่วยส่งเสริมความเจริญปัญญายิ่งๆขึ้นไป (อย่างสูงสุด คือให้เกิดปัญญาวิมุตติ ที่ทำให้เจโตวิมุตติไม่กำเริบ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 19:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:

แต่คิดเท่าไรก็ไม่รู้ แต่จะรู้เมื่อหยุดคิด


ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ

มีแต่จะทำให้สิ้นภพจบพรหมจรรย์ได้
บ๊ายบายค่ะ


:b8: ... :b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:

ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ



มีแต่อภิธรรมหัวตอ ต่อเติม
ที่สอนว่า นิพพาน เป็นอเนญชาภิสังขาร



นิพพาน ไม่ใช่อเนญชาภิสังขารครับ

ลอกมาตอบดีกว่า ง่ายดี
มีการอธิบายง่ายๆ เกี่ยวกับ อเนญชาภิสังขาร ดังนี้

" อนิญฺช (ไม่หวั่นไหว) + อภิ (ยิ่ง) + สงฺขาร (การปรุงแต่ง) การปรุงแต่งอย่างยิ่งคือสภาพที่ไม่หวั่นไหว หมายถึง เจตนาเจตสิกที่เกิดร่วมกับอรูปาวจรกุศลจิต ๔ ดวง เป็นสภาพที่ปรุงแต่งอย่างยิ่ง คือให้ผลเป็นอรูปาวจรวิบากทำให้ปฏิสนธิเป็นอรูปพรหมบุคคล และเป็นสภาพที่ไม่หวั่นไหวต่ออกุศลนิวรณ์ เพราะอยู่ห่างไกลจากกามอารมณ์มาก แม้รูปกรรมฐานก็ยังเห็นโทษว่าพึ่งพ้นมาจากกาม จึงละรูปกรรมฐานแล้วถือเอาอรูปกรรมฐานเป็นอารมณ์ อรูปาวจรจิตจึงเป็นจิตที่ประณีต และมีกำลังมากกว่ารูปาวจรจิต เพราะมีอารมณ์ที่ละเอียดกว่า แม้จะเป็นปัญจมฌานที่มีองค์ฌาน ๒ คือ อุเบกขาและเอกัคคตาเหมือนกัน"
Cr. บ้านธรรมะ

"โลกสวย" < ขอแนะนำด้วยความหวังดีนะครับ
หาครูอาจารย์เรียนพระอภิธรรมใหม่นะครับ
ทิ้งอภิธรรมหัวตอซึ่งกำลังศึกษาอยู่นี้ไป

อนิชาภิสังขาร ไม่มีคำในบาลี ครับ ^ ^

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 21:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ม่ายรู้ใครจะไปนรกก่อน...ระหว่าง..คนอวยพรที่พูดคำก็เสียดสีคำ..คนที่ยกคำใครก็ไม่รู้ว่าเหนือกว่าคำพระพุทธเจ้า...คนที่ยกความคิดตนว่าเจ่งกว่าพระธรรมคำสอนที่พระองค์ได้สอนสั่ง....

:b9: :b9: :b9:


เอาว่า ระหว่างคุณกบ กะหนู
ขออารธนาให้พระแม่ธรณีทรงเป็นพยานนะคะ


:b32: :b32:
เป็นพยานเรื่องอะไรละ?

แต่ว่า..หนูรู้จักพระแม่ธรณีด้วยหรือ?..ไปรู้จักตอนไหน?

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2018, 02:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โลกสวย เขียน:

ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ



มีแต่อภิธรรมหัวตอ ต่อเติม
ที่สอนว่า นิพพาน เป็นอเนญชาภิสังขาร



นิพพาน ไม่ใช่อเนญชาภิสังขารครับ

ลอกมาตอบดีกว่า ง่ายดี
มีการอธิบายง่ายๆ เกี่ยวกับ อเนญชาภิสังขาร ดังนี้

" อนิญฺช (ไม่หวั่นไหว) + อภิ (ยิ่ง) + สงฺขาร (การปรุงแต่ง) การปรุงแต่งอย่างยิ่งคือสภาพที่ไม่หวั่นไหว หมายถึง เจตนาเจตสิกที่เกิดร่วมกับอรูปาวจรกุศลจิต ๔ ดวง เป็นสภาพที่ปรุงแต่งอย่างยิ่ง คือให้ผลเป็นอรูปาวจรวิบากทำให้ปฏิสนธิเป็นอรูปพรหมบุคคล และเป็นสภาพที่ไม่หวั่นไหวต่ออกุศลนิวรณ์ เพราะอยู่ห่างไกลจากกามอารมณ์มาก แม้รูปกรรมฐานก็ยังเห็นโทษว่าพึ่งพ้นมาจากกาม จึงละรูปกรรมฐานแล้วถือเอาอรูปกรรมฐานเป็นอารมณ์ อรูปาวจรจิตจึงเป็นจิตที่ประณีต และมีกำลังมากกว่ารูปาวจรจิต เพราะมีอารมณ์ที่ละเอียดกว่า แม้จะเป็นปัญจมฌานที่มีองค์ฌาน ๒ คือ อุเบกขาและเอกัคคตาเหมือนกัน"
Cr. บ้านธรรมะ

"โลกสวย" < ขอแนะนำด้วยความหวังดีนะครับ
หาครูอาจารย์เรียนพระอภิธรรมใหม่นะครับ
ทิ้งอภิธรรมหัวตอซึ่งกำลังศึกษาอยู่นี้ไป

อนิชาภิสังขาร ไม่มีคำในบาลี ครับ ^ ^


คุณเช่นนั้น ก็แสดงความตื้นเขินออกมาอีกแล้วหละค่ะ
ด้วยการไปลอกกูเกิลมาแสดงทีละคำ ๆๆ
และแสดงความเข้าใจผิดๆๆๆๆซ้ำซาก


เพราะว่าคุณเช่นนั้นไม่ได้เรียนพระอภิธรรม
และก็กล่าวดูถูกปรามาสพระอภิธรรม ว่า "พระอภิธรรมหัวตอ "

ไม่สังเกตุหรอคะ

ลองอ่านทั้งประโยคที่หนูกล่าวนะคะ

หนูกล่าวว่า
"ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ"

หนูกล่าวว่า ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน
ซึ่งเป็นคนละเรื่องกะนิพพาน
เข้าใจมั๊ยคะ

หัวข้อกระทู้ คือ เป็นเรืองธรรมานุปัสนานิพพาน
ไม่ใช่ เรื่องนิพพาน

เพราะผู้วิปัสสนานั้นยังไม่ได้นิพพาน
แต่วิปัสสนาถึงนิพพาน ได้ทั้งโดยประจักษ และโดยอนุมาน
เข้าใจมั๊ยคะ

และไม่ได้กล่าวแค่อนิชาภิสังขารเท่านั้น แต่หนูก็เจตนาเติมต่อด้วย คำว่าที่เป็นอัพยา
ซึ่งหมายถึง

หมายถึงผู้ที่วิปัสสนานั้น ยังมีเจตนา และวิบากยังมีอยู่ เพราะผู้ที่วิปัสสนานิพพานนัั้น
ยังไม่ถึงนิพพานค่ะ ยังไม่ใช่นิพพาน


หนูแนะนำให้คุณเช่นนั้น ไปหัดเเรียนอ่านภาษาไทยให้ได้ทั้งประโยคก่อนนะคะ
ให้เข้าใจความหมายได้ทั้งประโยคก่อน

จะได้ไม่เหมือนกูเกิลที่แปลได้ที่ละตัวๆๆ

ถ้าไม่เข้าใจก็ยกมือขึ้นนะคะ






โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2018, 02:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ม่ายรู้ใครจะไปนรกก่อน...ระหว่าง..คนอวยพรที่พูดคำก็เสียดสีคำ..คนที่ยกคำใครก็ไม่รู้ว่าเหนือกว่าคำพระพุทธเจ้า...คนที่ยกความคิดตนว่าเจ่งกว่าพระธรรมคำสอนที่พระองค์ได้สอนสั่ง....

:b9: :b9: :b9:


เอาว่า ระหว่างคุณกบ กะหนู
ขออารธนาให้พระแม่ธรณีทรงเป็นพยานนะคะ


:b32: :b32:
เป็นพยานเรื่องอะไรละ?

แต่ว่า..หนูรู้จักพระแม่ธรณีด้วยหรือ?..ไปรู้จักตอนไหน?

:b1: :b1: :b1:


ก้อารธนาให้พระแม่ธรณีมาพยานเรื่องใครจะไปนรกก่อนกันไงคะ ระหว่างหนู กะคุณกบ

และพระแม่ธรณีนี้หนูก็รู้จักมาตั้งแต่อ่านโคลงศรีปราช ก่อนที่จะมาหัดอ่านพระไตรปิฎกเสียอีก
และก็รู้ว่าพระแม่ธรณีปรากฎอยู่แค่ตอนเดียวในพระไตรปิฎก และไม่เคยกล่าวถึงอีกเรย
เช่นเดียวกันกะนางเมขลา ที่มาแค่หนเดียวในพระไตรปิฎก



แต่ถึงยังไง หนูก็ตั้งจิตอธิฐานไว้ตลอด แล้วว่า หนุจะไปนรกในชาตินี้
เพื่อแสดงธรรมแสดงตัวอย่างไปโปรดสรรพสัตว์ ในนรกก่อนเข้านิพพานค่ะ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2018, 02:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โลกสวย เขียน:

ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ



มีแต่อภิธรรมหัวตอ ต่อเติม
ที่สอนว่า นิพพาน เป็นอเนญชาภิสังขาร



นิพพาน ไม่ใช่อเนญชาภิสังขารครับ

ลอกมาตอบดีกว่า ง่ายดี
มีการอธิบายง่ายๆ เกี่ยวกับ อเนญชาภิสังขาร ดังนี้

" อนิญฺช (ไม่หวั่นไหว) + อภิ (ยิ่ง) + สงฺขาร (การปรุงแต่ง) การปรุงแต่งอย่างยิ่งคือสภาพที่ไม่หวั่นไหว หมายถึง เจตนาเจตสิกที่เกิดร่วมกับอรูปาวจรกุศลจิต ๔ ดวง เป็นสภาพที่ปรุงแต่งอย่างยิ่ง คือให้ผลเป็นอรูปาวจรวิบากทำให้ปฏิสนธิเป็นอรูปพรหมบุคคล และเป็นสภาพที่ไม่หวั่นไหวต่ออกุศลนิวรณ์ เพราะอยู่ห่างไกลจากกามอารมณ์มาก แม้รูปกรรมฐานก็ยังเห็นโทษว่าพึ่งพ้นมาจากกาม จึงละรูปกรรมฐานแล้วถือเอาอรูปกรรมฐานเป็นอารมณ์ อรูปาวจรจิตจึงเป็นจิตที่ประณีต และมีกำลังมากกว่ารูปาวจรจิต เพราะมีอารมณ์ที่ละเอียดกว่า แม้จะเป็นปัญจมฌานที่มีองค์ฌาน ๒ คือ อุเบกขาและเอกัคคตาเหมือนกัน"
Cr. บ้านธรรมะ

"โลกสวย" < ขอแนะนำด้วยความหวังดีนะครับ
หาครูอาจารย์เรียนพระอภิธรรมใหม่นะครับ
ทิ้งอภิธรรมหัวตอซึ่งกำลังศึกษาอยู่นี้ไป

อนิชาภิสังขาร ไม่มีคำในบาลี ครับ ^ ^


คุณเช่นนั้น ก็แสดงความตื้นเขินออกมาอีกแล้วหละค่ะ
ด้วยการไปลอกกูเกิลมาแสดงทีละคำ ๆๆ
และแสดงความเข้าใจผิดๆๆๆๆซ้ำซาก


เพราะว่าคุณเช่นนั้นไม่ได้เรียนพระอภิธรรม
และก็กล่าวดูถูกปรามาสพระอภิธรรม ว่า "พระอภิธรรมหัวตอ "

ไม่สังเกตุหรอคะ

ลองอ่านทั้งประโยคที่หนูกล่าวนะคะ

หนูกล่าวว่า
"ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ"

หนูกล่าวว่า ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน
ซึ่งเป็นคนละเรื่องกะนิพพาน
เข้าใจมั๊ยคะ

หัวข้อกระทู้ คือ เป็นเรืองธรรมานุปัสนานิพพาน
ไม่ใช่ เรื่องนิพพาน

เพราะผู้วิปัสสนานั้นยังไม่ได้นิพพาน
แต่วิปัสสนาถึงนิพพาน ได้ทั้งโดยประจักษ และโดยอนุมาน
เข้าใจมั๊ยคะ

และไม่ได้กล่าวแค่อนิชาภิสังขารเท่านั้น แต่หนูก็เจตนาเติมต่อด้วย คำว่าที่เป็นอัพยา
ซึ่งหมายถึง

หมายถึงผู้ที่วิปัสสนานั้น ยังมีเจตนา และวิบากยังมีอยู่ เพราะผู้ที่วิปัสสนานิพพานนัั้น
ยังไม่ถึงนิพพานค่ะ ไม่ใช่นิพพาน


หนูแนะนำให้คุณเช่นนั้น ไปหัดเเรียนอ่านภาษาไทยให้ได้ทั้งประโยคก่อนนะคะ
ให้เข้าใจความหมายได้ทั้งประโยคก่อน

จะได้ไม่เหมือนกูเกิลที่แปลได้ที่ละตัวๆๆ

ถ้าไม่เข้าใจก็ยกมือขึ้นนะคะ
ไม่ต้องอายหรอกค่ะ ที่ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม


แต่น่าอาย ที่คุณเช่นนั้น น่ามีหิริโอตตัปะบ้าง ละอายบาปเสียหน่อยก็จะดี

ที่ไปเรียกพระอภิธรรมว่า พระอภิธรรม หัวตอ
อันนี้ มีหิริโอตัปปะบ้างหรือเปล่าคะ ที่ไปเรียกพระอภิธรรมอันเป้นคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่าตัวตอ แบบนั้น
หนูถามบ้างนะ ตอบด้วยนะคะ
ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ถึงได้กล่าวปรามาสแบบนั้นได้


อายครูไม่รู้วิชชานะคะ
ถ้าไม่ได้เรียนก็บอกตรงๆได้
หนูจะได้สอนเบื้องต้นให้ค่ะ

หรือถ้าคุณเช่นนั้นอายหนูจนไม่กล้าให้สอน

หนูก็แนะนำคนสอนให้คุณไปก่อนหน้าแล้วว่า
พระเตปิฎกอาจารย์จากมหามกุฎราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปภัมป
หลายท่านที่ได้ถวายคำสอนพระพุทธองค์แด่สมเด็จพระพี่นาง ท่านสอนให้ได้
ก็ไปหาท่านเหล่านั้นให้สอนพระปริยัติให้คุณเช่นนั้นนะคะ






โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2018, 02:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:

แต่คิดเท่าไรก็ไม่รู้ แต่จะรู้เมื่อหยุดคิด


ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ

มีแต่จะทำให้สิ้นภพจบพรหมจรรย์ได้
บ๊ายบายค่ะ


:b8: ... :b16: :b16: :b16:

คุณเอรากอนโจ๋คะ
เงียบนี่แสดงว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2018, 03:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
โลกสวย เขียน:

ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ




หมายถึงผู้ที่วิปัสสนานั้น ยังมีเจตนา และวิบากยังมีอยู่ เพราะผู้ที่วิปัสสนานิพพานนัั้น
ยังไม่ถึงนิพพานค่ะ ไม่ใช่นิพพาน


อภิธรรมหัวตอ ต่อเติมพระวจนะ
1.ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน >พิจารณาเห็นธรรม ในธรรม ที่มิใช่ภายใน และมิใช่ภายนอก อยู่เนืองๆ
2. นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร (คงจะหมายถึง นิพพาน เป็นอเนญชาภิสังขาร)
วันนี้ อภิธรรมหัวตอใหม่เพิ่มอีก วิปัสสนานิพพาน

"โลกสวย" ยิ่งนานยิ่งไปกันใหญ่
ไม่มีหรอกครับ วิปัสสนานิพพาน นิพพาน ไม่ใช่อารมณ์ในวิปัสสนาภูมิ นะครับ

ไปถามเตปิฏกาจารย์ที่สอนอภิธรรมหัวตอนั้นใหม่ คงจะตอใหญ่กว่าตอนี้อีก
จะให้ดี เชิญมาเลยดีกว่าจะได้เผาพร้อมกัน

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2018, 04:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โลกสวย เขียน:
โลกสวย เขียน:

ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน

ไม่ได้เป็นทั้งกุศล หรือ อกุศล
แต่นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร ที่เป็นอัพพยา
ไม่ได้เกิดร่วมกะรูปาวจรกุศลจิต ไม่ได้เกิดร่วมกะอรูปาวจรกุศลจิต
ไม่ได้สร้างภพ ไม่ได้สร้างรูปภพ อรูปภพ




หมายถึงผู้ที่วิปัสสนานั้น ยังมีเจตนา และวิบากยังมีอยู่ เพราะผู้ที่วิปัสสนานิพพานนัั้น
ยังไม่ถึงนิพพานค่ะ ไม่ใช่นิพพาน


อภิธรรมหัวตอ ต่อเติมพระวจนะ
1.ธรรมานุปัสสนา เรื่องนิพพาน >พิจารณาเห็นธรรม ในธรรม ที่มิใช่ภายใน และมิใช่ภายนอก อยู่เนืองๆ
2. นิพพาน เป็นอนิชาภิสังขาร (คงจะหมายถึง นิพพาน เป็นอเนญชาภิสังขาร)
วันนี้ อภิธรรมหัวตอใหม่เพิ่มอีก วิปัสสนานิพพาน

"โลกสวย" ยิ่งนานยิ่งไปกันใหญ่
ไม่มีหรอกครับ วิปัสสนานิพพาน นิพพาน ไม่ใช่อารมณ์ในวิปัสสนาภูมิ นะครับ

ไปถามเตปิฏกาจารย์ที่สอนอภิธรรมหัวตอนั้นใหม่ คงจะตอใหญ่กว่าตอนี้อีก
จะให้ดี เชิญมาเลยดีกว่าจะได้เผาพร้อมกัน


คุณเช่นนั้น อวดความเขลาเบาปัญยา อีก
เพราะไม่ได้เรียนปรมัตถ์ ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม
เลยเข้าใจผิดๆ ไม่ตรงในพระไตรปิฎก

ไม่รู้ว่า
นิพพาน พิจารณาได้สองแบบ
โดยประจักษ์สำหรับผู้ที่เป็นพระอริยะขี้นไป
และโดยอนุมานสำหรับผู้ไม่ได้เป็นอริยะ

คนในสำนัก มหามกุฎราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมถ์
ผู้ศึกษาพระอภิธรรม ต่างรู้ดีว่า
การพิจารณานิพพาน ทำได้ สองกรณีนี้

ถ้าคุณจะเผา หนูก็ห้ามไม่ได้หรอก

นรกพร้อมเสมอ สำหรับคุณ ทั้งกาย วาจา ใจ

แต่ให้รู้ว่าคุณได้แสดง ความโง่เขลาเบาปัญญา
เข้าใจผิดๆๆๆๆๆ

ยิ่งดิ้นยิ่งแสดงความตื้นเขินออกมาค่ะ

แถมไม่มีหิริโอตัปปะ ไม่มีความละอายบาป


หนูขออำนาจคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกให้ เป็นพยาน
ว่า คุณเช่นนั้น ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบอร์ดนี้ ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม
และยังปรามาสพระอภิธรรมว่า "พระอภิธรรมหัวตอ "
ทั้งๆที่พระอภิธรรมเป็นคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า












โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2018, 05:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ม่ายรู้ใครจะไปนรกก่อน...ระหว่าง..คนอวยพรที่พูดคำก็เสียดสีคำ..คนที่ยกคำใครก็ไม่รู้ว่าเหนือกว่าคำพระพุทธเจ้า...คนที่ยกความคิดตนว่าเจ่งกว่าพระธรรมคำสอนที่พระองค์ได้สอนสั่ง....

:b9: :b9: :b9:


เอาว่า ระหว่างคุณกบ กะหนู
ขออารธนาให้พระแม่ธรณีทรงเป็นพยานนะคะ


:b32: :b32:
เป็นพยานเรื่องอะไรละ?

แต่ว่า..หนูรู้จักพระแม่ธรณีด้วยหรือ?..ไปรู้จักตอนไหน?

:b1: :b1: :b1:


ก้อารธนาให้พระแม่ธรณีมาพยานเรื่องใครจะไปนรกก่อนกันไงคะ ระหว่างหนู กะคุณกบ

และพระแม่ธรณีนี้หนูก็รู้จักมาตั้งแต่อ่านโคลงศรีปราช ก่อนที่จะมาหัดอ่านพระไตรปิฎกเสียอีก
และก็รู้ว่าพระแม่ธรณีปรากฎอยู่แค่ตอนเดียวในพระไตรปิฎก และไม่เคยกล่าวถึงอีกเรย
เช่นเดียวกันกะนางเมขลา ที่มาแค่หนเดียวในพระไตรปิฎก



แต่ถึงยังไง หนูก็ตั้งจิตอธิฐานไว้ตลอด แล้วว่า หนุจะไปนรกในชาตินี้
เพื่อแสดงธรรมแสดงตัวอย่างไปโปรดสรรพสัตว์ ในนรกก่อนเข้านิพพานค่ะ




นู๋เมโลกสวยไม่กลัวนรกนิ ทำเป็นพระมาลัยไปได้ ลงไปโปรดสัตว์ในนรก คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 88 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร