วันเวลาปัจจุบัน 26 ก.ค. 2025, 14:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 98 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2011, 03:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธคุณ เขียน:
ธรรมชาติคือสิ่งที่โลกสร้างสรรมาเพื่อให้คุณประโยชน์แก่มวลมนุษย์
หากมนุษย์ใช้ประโยชน์แก่ธรรมชาติจนเกินพอดี ธรรมชาติก็จะย้อนกลับมาทำลายมนุษย์เอง
โลกสร้างธรรมชาติเพื่อเป็นที่พึ่งพิงของสิ่งต่างๆ โดยมีพันธสัญญาต่อกันว่าสิ่งต่างๆต้องปกป้อง
ดูแลธรรมชาติ....หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
หากเปรียบมนุษย์เป็นนายของธรรมชาติ มนุษย์คงเป็นนายที่เอาเปรียบบริวารเป็นที่สุด เพราะมนุษย์
จ้องแต่จะเอาเปรียบบริวารอย่างเดียว จ้องแต่จะจิกหัวใช้อย่างเดียว โดยไม่เคยคำนึงถึงจิตใจของ
บริวาร.....นอกจากมนุษย์จะเอาจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียวแล้ว มนุษย์ยังไม่เคยดูแลรักษา
ธรรมชาติไม่พอ.....มิหนำซ้ำยังคอยทำลายอีกด้วย เช่นการทิ้งขยะไม่เป็นที่ มักง่าย ปล่อยของเสียลง
แม่น้ำ ทำให้สัตว์น้ำตาย อพยพ ไร้ที่อยู่ สุดท้ายมนุษย์ก็ขาดอาหาร ต้องนำเข้าอาหารในราคาแพง
ถือเป็นการทำลายเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงตนเอง.....ร่ายอีกยาวก็ไม่จบครับ เรื่องมลภาวะและสิ่งแวดล้อม
เอาพอหอมปากหอมคอพอครับ


คุณครับผมอ่านความเห็นของคุณแล้ว ผมหาประเด็นที่มันเกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ไม่ได้เลย
ข้อเขียนของคุณมันเหมือนกับคนที่กำลังหลงในอารมณ์ตัวเอง นึกอะไรขึ้นมาได้ก็เอามาใส่
มันก็แค่อยากแสดงออก แต่สิ่งที่แสดงออกมามันไม่มีจุดหมาย ความเห็นคุณมันเลยออกมาใน
ลักษณะหัวมังกุท้ายมังกร เหมือนเรียงความของเด็กนักเรียนครับ
(ถ้าอยากรู้ว่ามันหัวมังกุอย่างไรท้ายมังกรอย่างไร ก็ไปจับประเด็นความเห็นคุณที่ละประโยค
แล้วก็จะเห็นว่ามันขัดแย้งกันเอง)

เป็นชาวพุทธต้องรู้จักหาเหตุผลครับ ไม่ใช่เอะอะก็ตีโพยตีพาย กล่าวหาคนอื่น
เป็นตัวการในการสร้างปัญหา โดยลืมดูว่า ตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปัญหานั้น
ถามหน่อยครับ คุณว่า มนุษย์ทำลายธรรมชาติ คุณเข้าใจคำๆนี้เพียงพอแค่ไหนครับ
อยู่ดีๆมีคนไปเผาป่าโค่นต้นไม้เล่นหรือครับ หรือว่าอยู่ดีๆน้ำในแม่น้ำมันใสสะอาดไม่ชอบ
ชอบให้น้ำมันเน่า การกระทำทุกอย่างเขาก็มีเหตุผลของแต่ละคนครับ
ซึ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ ความต้องการใช้ประโยชน์จากมันครับ
ส่วนเรื่องการใช้มากไปน้อยไป มันแล้วแต่มุมมอง
ปัญหาของคุณมันเกิดก็เนื่องจากมุมมองเหมือนกัน แต่เป็นมุมที่ใช้ไม่ได้
เพราะมันเป็นมุมมองของคนริษยา

ความเห็นของคุณ ชาวโลกเขารู้ครับ เขาสอนกันมาตั้งแต่ชั้นประถม
แต่ที่มันยังแก้ไม่ได้ แสดงว่ามันไม่ใช่ต้นเหตุที่แท้จริง
การไม่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง แล้วเที่ยวออกมาพูดกล่าวหาคนอื่น มันก็เป็นการสร้าง
ปัญหาให้ทวีคูณ แค่ปัญหาของธรรมชาติไม่พอยังมาสร้างปัญหาในเรื่องลมปากอีก
ดูแล้วมันก็น่าขำครับ ปัญหาที่กำลังกล่าวตัวเองก็มีส่วนในการกระทำ แต่เที่ยวไปว่า
คนอื่นแบบนี้ผมว่า ปัญหามันใหญ่กว่าในสิ่งที่คิดว่ามันเป็นปัญหาอีกนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2011, 04:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
ปาบก็ต่อเมื่อไปเบียดเบียนตนและผู้อื่น
เราไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเราก็เบียดเบียนตนเอง ใช้มากไปก็เบียดเบียนผู้อื่น
ดังนั้นเราควรใช้แต่พอดี

แล้วคุณเอาอะไรมาตัดสินกับคำว่า "ความพอดีครับ"
กรุณาอย่าเอาตัวเองเป็นตัวตั้งซิครับ คุณมองคนอื่นที่ใช้ทรัพยากรมากกว่าคุณ
แล้วกล่าวหาเขาว่า ใช้เกินพอดีทำลายธรรมชาติ
ถ้ามองในมุมของคนที่เขาใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่าคุณล่ะ คุณว่าตัวคุณอยู่
ในลักษณะไหนในเรื่องของความพอดี
ฉะนั้นอย่างเอาตัวเองเป็นหลักครับ ถ้าใครเอาตัวเองเป็นหลักก็จะเข้าใจว่า
ตัวเองนั้นแหล่ะคือความพอดี มันเป็นความหลง ที่แท้มันเป็นความอิษฉาริษยาครับ

ในเรื่องของมนุษย์ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่การใช้เกินพอดีในระหว่างมนุษย์กันเองหรอกครับ
แต่ปัญหามันเกิดจากมีมนุษย์มากเกินพอดีกับทรัพยากรธรรมชาติ
การแก้ปัญหาต้องไปแก้ที่จำนวนประชากร หรือการเกิด การตายของมนุษย์

din เขียน:
วัดป่าก็เป็นการอนุรักษ์ป่าโดยวิธีหนึ่ง :b32:

อนุลักษณ์อย่างไรหรือครับ พระป่าอยู่ป่าแบบทาร์ซานหรือครับ
พระไม่ได้สร้างกุฏิหรือครับ พระอาศัยจำวัดบนยอดไม้หรือครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2011, 08:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


โฮฮับ เขียน:

คุณครับผมอ่านความเห็นของคุณแล้ว ผมหาประเด็นที่มันเกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ไม่ได้เลย
ข้อเขียนของคุณมันเหมือนกับคนที่กำลังหลงในอารมณ์ตัวเอง นึกอะไรขึ้นมาได้ก็เอามาใส่
มันก็แค่อยากแสดงออก แต่สิ่งที่แสดงออกมามันไม่มีจุดหมาย ความเห็นคุณมันเลยออกมาใน
ลักษณะหัวมังกุท้ายมังกร เหมือนเรียงความของเด็กนักเรียนครับ
(ถ้าอยากรู้ว่ามันหัวมังกุอย่างไรท้ายมังกรอย่างไร ก็ไปจับประเด็นความเห็นคุณที่ละประโยค
แล้วก็จะเห็นว่ามันขัดแย้งกันเอง)

เป็นชาวพุทธต้องรู้จักหาเหตุผลครับ ไม่ใช่เอะอะก็ตีโพยตีพาย กล่าวหาคนอื่น
เป็นตัวการในการสร้างปัญหา โดยลืมดูว่า ตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปัญหานั้น
ถามหน่อยครับ คุณว่า มนุษย์ทำลายธรรมชาติ คุณเข้าใจคำๆนี้เพียงพอแค่ไหนครับ
อยู่ดีๆมีคนไปเผาป่าโค่นต้นไม้เล่นหรือครับ หรือว่าอยู่ดีๆน้ำในแม่น้ำมันใสสะอาดไม่ชอบ
ชอบให้น้ำมันเน่า การกระทำทุกอย่างเขาก็มีเหตุผลของแต่ละคนครับ
ซึ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ ความต้องการใช้ประโยชน์จากมันครับ
ส่วนเรื่องการใช้มากไปน้อยไป มันแล้วแต่มุมมอง
ปัญหาของคุณมันเกิดก็เนื่องจากมุมมองเหมือนกัน แต่เป็นมุมที่ใช้ไม่ได้
เพราะมันเป็นมุมมองของคนริษยา

ความเห็นของคุณ ชาวโลกเขารู้ครับ เขาสอนกันมาตั้งแต่ชั้นประถม
แต่ที่มันยังแก้ไม่ได้ แสดงว่ามันไม่ใช่ต้นเหตุที่แท้จริง
การไม่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง แล้วเที่ยวออกมาพูดกล่าวหาคนอื่น มันก็เป็นการสร้าง
ปัญหาให้ทวีคูณ แค่ปัญหาของธรรมชาติไม่พอยังมาสร้างปัญหาในเรื่องลมปากอีก
ดูแล้วมันก็น่าขำครับ ปัญหาที่กำลังกล่าวตัวเองก็มีส่วนในการกระทำ แต่เที่ยวไปว่า
คนอื่นแบบนี้ผมว่า ปัญหามันใหญ่กว่าในสิ่งที่คิดว่ามันเป็นปัญหาอีกนะครับ


ขอขอบคุณสำหรับมุมมองของคุณโฮฮับที่กรุณาแนะนำนะครับ ขออนุโมทนาครับ
ขอท่านจงมีอายุ วัณณะ สุขขะ พละ เปี่ยมไปด้วยความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ
พุทธคุณคุ้มครองครับ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2011, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


โฮฮับ เขียน:
din เขียน:
วัดป่าก็เป็นการอนุรักษ์ป่าโดยวิธีหนึ่ง :b32:


อนุลักษณ์อย่างไรหรือครับ พระป่าอยู่ป่าแบบทาร์ซานหรือครับ
พระไม่ได้สร้างกุฏิหรือครับ พระอาศัยจำวัดบนยอดไม้หรือครับ :b13:


55555+++ ผมชอบคุณจังเลยครับคุณ โฮฮับ ดูๆไปคุณโฮฮับก็มีความน่ารักอยู่ในตัวนะครับ
ขอพุทธคุณคุ้มครอง และเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2011, 00:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านบางคนที่นี่ก็พยายามหาข้อแก้ต่าง หาความชอบธรรมจากการทำชั่วๆได้เก่งกันจริงๆนะครับ
ก็คงไม่แปลกสังคมถึงได้เป็นอย่างนี้ คนมีธรรมะธรรมโมก็ยังมีความคิดกันได้อย่างนี้
ผมก็ไม่ใช่ผู้คุ้มกฏหรือผู้รักษากฏนรก สวรรค์อะไร ก็แค่เตือน หวังว่าท่านแก้ตัวได้นะเมื่อไปอยู่ต่อหน้ายมพะบาล
คุณโฮฮับก็อ้างได้นะว่า "ในคำสอนของพระพุทธเจ้ามีมั้ยครับ ที่ห้ามทำลายทรัพยากร"
แล้วสมัยนั้นมันมีเหตุการณืแบบนี้หรือเปล่าหล่ะ ทำลายธรรมชาติซะจนผู้คนเดือดร้อนล้มตาย ถ้ามีแล้วพุทธบอกไม่บาป ไม่ตกนรก นั่นแหละถึงค่อยเอามาอ้าง หาข้ออ้างที่มันดีๆหน่อยดิ

อ้างประมาณว่าคนคนหนึ่งที่อยู่อย่างพอเพียงที่เขาอาจจะไปตัดไม้หรือซื้อไม้เพื่อสร้างบ้านหลังเล็กๆ 1หลัง เลวชั่วพอกับนายทุนนักธุรกิจอุตสาหกรรมที่ ทำลายธรรมชาติอย่างมากมาย เกณผู้เงิน จ้างผู้คน มาเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น ขยายสาขา มาระดมทำลายธรรมชาติกันทั่วโลก เพื่อความมั่งคั่งของตัวเอง รวมทั้งกระตุ้นโดยผ่านสื่อๆต่าง เพื่อให้คนเราไม่รู้จักพอ จะได้ซื้อของจากเขา เขาจะได้มั่งคั่งขึ้นไปอีก
ก็หวังว่ายมพะบาลเขาจะบ้าจี้ไปกับคุณด้วยนะว่าทั้งสองคนนี้เลวชั่วทั้งคู่

ตื่นได้แล้ว เลิกทำชั่ว หรือสนับสนุนคนทำชั่วได้แล้ว
มีความกตัญญูกตเวทีต่อพื้นแผ่นดีนี้ ต่อพระแม่ธรณี ต่อเทพผู้คุ้มครองปกปักษ์รักษาโลกกันเยอะๆหน่อยครับ

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2011, 00:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


จุลศีล
ดูกรมหาบพิตร อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล.
๑. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางทัณฑะ วางศาตรามีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ ข้อนี้เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๒. เธอละการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ รับแต่ของที่เขาให้ ต้องการแต่ของที่เขาให้ ไม่ประพฤติตนเป็นขโมย เป็นผู้สะอาดอยู่ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๓. เธอละกรรมเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติห่างไกลเว้นขาดจากเมถุนอันเป็นกิจของชาวบ้าน แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๔. เธอละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดแต่คำจริง ดำรงคำสัตย์ มีถ้อยคำเป็นหลักฐาน ควรเชื่อได้ ไม่พูดลวงโลก แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอ ประการหนึ่ง.
๕. เธอละคำส่อเสียด เว้นขาดจากคำส่อเสียด ฟังจากข้างนี้แล้วไม่ไปบอกข้างโน้นเพื่อให้คนหมู่นี้แตกร้าวกัน หรือฟังจากข้างโน้นแล้วไม่มาบอกข้างนี้ เพื่อให้คนหมู่โน้นแตกร้าวกัน สมานคนที่แตกร้าวกันแล้วบ้าง ส่งเสริมคนที่พร้อมเพรียงกันแล้วบ้าง ชอบคนผู้พร้อมเพรียงกัน เพลิดเพลินในคนผู้พร้อมเพรียงกัน กล่าวแต่คำที่ทำให้คนพร้อมเพรียงกัน แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๖. เธอละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ กล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษ เพราะหู ชวนให้รักจับใจ เป็นของชาวเมือง คนส่วนมากรักใคร่ พอใจ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๗. เธอละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำที่เป็นจริง พูดอิงอรรถ พูดอิงธรรม พูดอิงวินัย พูดแต่คำมีหลักฐาน มีที่อ้าง มีที่กำหนด ประกอบด้วยประโยชน์โดยกาลอันควร แม้ข้อนี้เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๘. เธอเว้นจากการพรากพืชคามและภูตคาม.
๙. เธอฉันหนเดียว เว้นการฉันในราตรี งดจากการฉันในเวลาวิกาล.
๑๐. เธอเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรีและดูการเล่น อันเป็นข้าศึกแก่กุศล
๑๑. เธอเว้นขาดจากการทัดทรงประดับ และตบแต่งร่างกายด้วยดอกไม้ ของหอมและ
เครื่องประเทืองผิว อันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว.
๑๒. เธอเว้นขาดจากการนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่.
๑๓. เธอเว้นขาดจากการรับทองและเงิน.
๑๔. เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหารดิบ.
๑๕. เธอเว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ.
๑๖. เธอเว้นขาดจากการรับสตรีและกุมารี.
๑๗. เธอเว้นขาดจากการรับทาสีและทาส.
๑๘. เธอเว้นขาดจากการรับแพะและแกะ.
๑๙. เธอเว้นขาดจากการรับไก่และสุกร.
๒๐. เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา.
๒๑. เธอเว้นขาดจากการรับไร่นาและที่ดิน.
๒๒. เธอเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรมและการรับใช้.
๒๓. เธอเว้นขาดจากการซื้อการขาย.
๒๔. เธอเว้นขาดจากการโกงด้วยตราชั่ง การโกงด้วยของปลอม และการโกงด้วยเครื่องตวงวัด.
๒๕. เธอเว้นขาดจากการรับสินบน การล่อลวง และการตลบตะแลง.
๒๖. เธอเว้นขาดจากการตัด การฆ่า การจองจำ การตีชิง การปล้น และกรรโชก
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
จบจุลศีล.

"ภิกษุเว้นขาดจากการพรากพืชคามและภูตคาม เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการพรากพืชคามและภูตคาม เห็นปานนี้คือพืชเกิดแต่เง่า พืชเกิดแต่ลำต้น พืชเกิดแต่ผล พืชเกิดแต่ยอด พืชเกิดแต่เมล็ด เป็นที่ครบห้าแม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2011, 01:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2011, 01:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


wakeup เขียน:
ท่านบางคนที่นี่ก็พยายามหาข้อแก้ต่าง หาความชอบธรรมจากการทำชั่วๆได้เก่งกันจริงๆนะครับก็คงไม่แปลกสังคมถึงได้เป็นอย่างนี้ คนมีธรรมะธรรมโมก็ยังมีความคิดกันได้อย่างนี้
....
...ก็แค่เตือน หวังว่าท่านแก้ตัวได้นะเมื่อไปอยู่ต่อหน้ายมพะบาล...

...คุณโฮฮับก็อ้างได้นะว่า ".....


ก็เขียนอย่างนี้แหละ...เขาถึงจะล็อคกระทู้...

มาแลกเปลี่ยน..หรือ..มายัดเยียด..ละพ่อคู้น

อย่าด่วนว่าคนอื่นเขาชั่ว..เมื่อตัวเองยังทำดีได้ไม่จริง
:b32: :b32: :b32:

ไหนบอกมาซิ...วัน ๆ ทำอะไรที่ช่วยโลกบ้าง

อย่าดีแต่พูด...
อ้างคำพูด:
คุณ wakeup ใช้ชีวิตปกติประจำวัน...เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้างละครับ...เผื่อจะนำไปใช้บ้าง


ถามเพื่อประโยชน์..เป็นอุธาหรณ์..ไม่หยักกะตอบ...แต่กระแหน่ะกระแหน่คนอื่น..ดันทำ
Onion_L


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2011, 03:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


wakeup เขียน:
ท่านบางคนที่นี่ก็พยายามหาข้อแก้ต่าง หาความชอบธรรมจากการทำชั่วๆได้เก่งกันจริงๆนะครับ
ก็คงไม่แปลกสังคมถึงได้เป็นอย่างนี้ คนมีธรรมะธรรมโมก็ยังมีความคิดกันได้อย่างนี้
ผมก็ไม่ใช่ผู้คุ้มกฏหรือผู้รักษากฏนรก สวรรค์อะไร ก็แค่เตือน หวังว่าท่านแก้ตัวได้นะเมื่อไปอยู่ต่อหน้ายมพะบาล

ผมไม่ได้มาแก้ต่าง หรือหาความชอบรรมอะไรทั้งนั้น แต่ที่พูดมาเพื่อจะชี้ให้เห็น
ถึงสาเหตุที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องการให้คุณจขกท มองสำรวจตัวเองว่า
ตั้งกระทู้มาประจานตัวเองหรือเปล่า

ถ้าคุณลองสังเกตุให้ดีทั้งคุณและผมมีความเหมือนและความต่างในเรื่องนี้
ที่เหมือนก็คือ คุณและผมต่างก็ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ มันต่างกันตรงที่ผมใช้
ในส่วนที่มีความสามารถหามาได้ แต่คุณใช้ในส่วนของคุณไม่พอคุณเที่ยวไป
มองคนอื่นที่มีมากกว่าใช้มากกว่า สิ่งนี้ต่างหากครับที่ผมอยากชี้ให้คุณดู

ที่คุณบอกว่า ใครทำลายททรัพยากรเป็นบาป อันนี้มันผิดลักษณะครับ
ไม่มีใครเขาทำลาย เขาเอามาใช้ประโยชน์
ถ้าเราดูให้ดีแล้ว ปัญหามันเกิดจากกิเลสของคน กิเลสที่ว่า ไม่ใช่การนำทรัพยากรมาใช้
แต่ที่ผมกล่าวก็คือ ความอิจฉาริษยาครับ

คุณจขกทครับ ผมถามหน่อย อาหารที่คุณกินอยู๋คุณเอามาจากถังขยะที่คนอื่นกินเหลือหรือครับ
พอเวลาคุณไม่สบายคุณปล่อยให้มันหายเองหรือครับ แล้วคุณใช้อะไรมากันความอุดจาดที่จะเกิด
กับคนอื่นในเรื่องการปกปิดร่างกายครับ
ที่สำคัญคุณใช้อะไรหลบแดด หลบฝนหรือว่าคุณ ขุดรูอยู่ครับ

ดูตัวเองเสียหน่อยซิครับว่า ตัวเองกำลังกระทำในสิ่งที่ออกมาว่ากล่าวคนอื่นหรือเปล่า
ไม่ใช่ว่าคนอื่น เขาอุตสาหะหามาจนมีมากกว่าใช้มากกว่า คุณก็มาเบี่ยงประเด็น
หาว่าคนอื่นเลวคนอื่นชั่ว

จะว่าจะกล่าวใคร ต้องทำตัวเองให้ได้ก่อน ไม่ต้องทำที่ผมกล่าวมาทั้งหมดเอาแค่
จะไปธุระนอกบ้าน คุณกล้าแก้ผ้าออกนอกบ้านมั้ย ถ้าทำได้คอยมาคุย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2011, 04:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


wakeup เขียน:
คุณโฮฮับก็อ้างได้นะว่า "ในคำสอนของพระพุทธเจ้ามีมั้ยครับ ที่ห้ามทำลายทรัพยากร"
แล้วสมัยนั้นมันมีเหตุการณืแบบนี้หรือเปล่าหล่ะ ทำลายธรรมชาติซะจนผู้คนเดือดร้อนล้มตาย ถ้ามีแล้วพุทธบอกไม่บาป ไม่ตกนรก นั่นแหละถึงค่อยเอามาอ้าง หาข้ออ้างที่มันดีๆหน่อยดิ

สมัยพระพุทธเจ้าก็มีการนำทรัพยากรมาใช้ครับ สมัยพระพุทธเจ้าเขาไม่ได้อยู่ถ้ำอยู่ป่าแล้ว
บ้านเรือนประสาทราชวังทำมาจากอะไรครับ แล้ววัดที่พระเจ้าพิมพิสารสร้างถวายพระพุทธเจ้า
สร้างมาจากอะไรและสร้างที่ไหนครับ

กรุณาคิดให้ถ้วนถี่ก่อนแล้วค่อยแย้ง สมัยพระพุทธเจ้าก็เหมือนสมัยนี้
แต่มันต่างกันตรงจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นมากมาย มันจึงเป็นสาเหตุให้ต้องใช่ทรัพยากร
จำนวนมาก


wakeup เขียน:
อ้างประมาณว่าคนคนหนึ่งที่อยู่อย่างพอเพียงที่เขาอาจจะไปตัดไม้หรือซื้อไม้เพื่อสร้างบ้านหลังเล็กๆ 1หลัง เลวชั่วพอกับนายทุนนักธุรกิจอุตสาหกรรมที่ ทำลายธรรมชาติอย่างมากมาย เกณผู้เงิน จ้างผู้คน มาเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น ขยายสาขา มาระดมทำลายธรรมชาติกันทั่วโลก เพื่อความมั่งคั่งของตัวเอง รวมทั้งกระตุ้นโดยผ่านสื่อๆต่าง เพื่อให้คนเราไม่รู้จักพอ จะได้ซื้อของจากเขา เขาจะได้มั่งคั่งขึ้นไปอีก
ก็หวังว่ายมพะบาลเขาจะบ้าจี้ไปกับคุณด้วยนะว่าทั้งสองคนนี้เลวชั่วทั้งคู่

อันนี้มันคนละเรื่องครับ ต้องแยกกันละหว่างการเอาเปรียบ กับการใช้ทรัพยากรครับ
พ่อค้าจะลงทุนทำอะไรเขาต้องคำนวนอุปสงค์และอุปทานครับ เขาจะขายของเขาต้อง
ดูความต้องการของคนนะครับ พ่อค้าเขาไม่ทำอะไรเกินพอดีหรอกครับ
พ่อค้านายทุนดูไม่ดีในแง่การเอากำไรจากความจำเป็นของคนครับ
ถ้าเป็นเรื่องทรัพยากร พ่อค้าไม่ใช้ต้นเหตุหลัก พ่อค้าไม่ทำชาวบ้านก็ต้องทำเอง
เพราะ ชาวบ้านมีความจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรนั้นๆครับ และถ้าปล่อยให้ชาวบ้าน
ทำเองมันจะไปเร็วกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ต้องอื่นไกลเมื่อชาวเขาทำไร่เลี่อนลอย
ป่าหายไปเป็นแถบๆ
wakeup เขียน:
ก็หวังว่ายมพะบาลเขาจะบ้าจี้ไปกับคุณด้วยนะว่าทั้งสองคนนี้เลวชั่วทั้งคู่
ตื่นได้แล้ว เลิกทำชั่ว หรือสนับสนุนคนทำชั่วได้แล้ว
มีความกตัญญูกตเวทีต่อพื้นแผ่นดีนี้ ต่อพระแม่ธรณี ต่อเทพผู้คุ้มครองปกปักษ์รักษาโลกกันเยอะๆหน่อยครับ

ผมว่าคนที่ต้องตื่นมันต้องเป็นคุณครับ ตื่นขึ้นมามองตัวเองมีสติอยู่กับตัวเอง
การเพ่งโทษคนอื่น ส่งใจไปหาเรื่อชาวบ้านทั้งๆที่ตัวก็มีความอยากเหมือนเขา
ต่างกันที่ความสามารถน้อยกว่า ทำให้หลงละเมอว่าตัวเองดีเลิศคนอื่นเลวหมด
แบบนี้มันหลับไม่ตื่น หลงเสียจนไม่รู้ว่าอันไหนเหตุอันไหนผล

คุณจขกทครับ ตื่นจากความริษยาเสียเถอะ ถ้าทำได้มันจะทำให้คุณ
มองโลกในแง่ดีขึ้นมาบ้าง คุณไม่ใช่เจ้าของโลกใบนี้ สิ่งที่คุณเป็นเจ้าของ
ก็แค่ร่างกายและจิตใจคุณ อย่าพยายามบังคับคนอื่นให้ทำในสิ่งที่คุณต้องการ

สิ่งที่คุณสมควรทำก็คือบังคับกายใจตัวเองไม่ให้ทำในสิ่งที่คุณว่าคนอื่นว่าเลวว่าชั่ว
เหนืออื่นใดอย่าบังคับให้คนอื่นทำในสิ่งที่คุณต้องการ เพราะคนอื่นก็มองคุณเลวชั่วพอกันครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2011, 22:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโฮฮับ ก็ลองพิจารณาด้วยตัวคุณเอง อ่านที่คุณแย้งมาอีก (จะกี่รอบก็แล้วแต่)
ว่ามันจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอไหม เมื่อเวลาอยู่ต่อหน้ายมพะบาล แล้วจะไม่โดนจับลงนรก ด้วยเหตุผลที่คุณยกมาแย้งผมแบบนั้น
:b55: :b54: :b48: :b43: :b39: :b40:

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2011, 22:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ไหนบอกมาซิ...วัน ๆ ทำอะไรที่ช่วยโลกบ้าง


s004 s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2011, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2011, 09:16
โพสต์: 158

แนวปฏิบัติ: พุธโท
งานอดิเรก: นั่งสมาธิ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปรัชญา
ชื่อเล่น: T^^T
อายุ: 23
ที่อยู่: ลำปาง

 ข้อมูลส่วนตัว


มาฟังด้วยคนอยากรู้...... onion onion

.....................................................
ดูก่อu!!!ภิกษุทั้งหลาย!!!คนพาลเขากลัวยากจนจึงไม่รู้จักขวนขวายในการให้ทาน!!!ส่วนบัณฑิตชนเขากลัวยากจนจึงรู้ขวนขวายในการให้ทาน!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2011, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้นี้มันเกี่ยวกับพวกทำลายทรัพยากรธรรมชาติจนเป็นต้นเหตุให้ผู้คนเดือดร้อนล้มตายมากมายเหลือเกิน แต่ก็ยังเพลิดเพลิน ไม่กลัวนรกกันบ้างเหรอ? ผมก็มาช่วยเตือนพวกคุณให้นะเนี๊ย ก็ไม่มีอะไร คุณคิดว่าคุณจะรอดจากนรก ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้ หงัวว่าพวกคุณจะคิดถูกแล้วกัน คำแก้ตัวต่างๆอะไรของคุณมันจะฟังขึ้น

สำหรับ ผมก็พยายามทำดีเช่นมาช่วยเตือนๆคนอย่างพวกคุณ พยายามละชั่วเช่นไม่ไปเป็นสาเหตุให้คนอื่นเดือดร้อนล้มตายมากมายก่ายกองและก็พยายามทำจิตให้โปร่งใสไงหล่ะครับ :b12:

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2011, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2011, 09:16
โพสต์: 158

แนวปฏิบัติ: พุธโท
งานอดิเรก: นั่งสมาธิ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปรัชญา
ชื่อเล่น: T^^T
อายุ: 23
ที่อยู่: ลำปาง

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณลืมอะไรไปหรือป่าว!!!ลืมเตือนตัวเองไง...คนอื่นดีชั่วอย่างไรรู้หมด ตัวเองดีชั่วอย่างไรไม่รู้ เพราะไม่เคยมองตัวเอง...มองแต่ความชั่วของคนอื่น..แล้วก็สรุปว่าคนอื่นชั่วอย่างนั้น ชั่วอย่างนี้ ตัวเองดีเลิศกว่าคนอื่น...ว่างๆก็หัดมองตัวเองบ้างนะ..กว่าที่จะมองคนอื่น Onion_R Onion_R ผมว่าคนที่จะตกนรกก่อนใครคือคุณนั่นแหละตัวเองไม่มีความดีอะไรยังไปทั่วว่าคนนั้น คนนี้ Onion_R Onion_R

.....................................................
ดูก่อu!!!ภิกษุทั้งหลาย!!!คนพาลเขากลัวยากจนจึงไม่รู้จักขวนขวายในการให้ทาน!!!ส่วนบัณฑิตชนเขากลัวยากจนจึงรู้ขวนขวายในการให้ทาน!!!


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 98 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร