วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 18:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 110 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 12:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
การ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ ได้ยินพระเทศน์ ได้ยินคนพูดกันมานานแระนะ ทีนี้อยากจะถามพระถามคน ถามโฮฮับด้วย (นำมาพูดเหมือนกัน) ที่พูดๆกันนั่นน่ะ เคยเห็น การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปของสังขารเหล่านั้นมั้ย เคยเห็นมั้ย เห็นลักษณะทั้งสามนั่นหรือยัง นีก็พูดให้พิจารณาเช่นกัน ที่พูดน่ะจำมาจากไหน นี่ข้อที่พึงจารณา จำมาจากไหนที่พูดนั่นน่ะ :b10: :b1: :


ถ้าไม่เคยเห็นแล้ว พี่โฮจะกล้าแสดงความเห็นแย้งคำสอนของพระเปรียญหรือ

ถ้าไม่เคยเห็นพี่โฮจะกล้าแย้งความเห็นของสมาชิกในนี้แทบจะทุกกระทู้หรือ

ถ้าไม่เคยเห็นพี่โฮจะรู้หรือว่า สุตตมยปัญญา ไม่ใช่การฟังให้เกิดปัญญา
แต่มันเป็นการเอาปัญญาการเป็นหลักในการฟัง
จะบอกให้ว่าถึงพี่โฮจำพระไตรปิฎกได้ไม่หมด แต่พี่โฮอ่านพระไตรปิฎกได้และเข้าใจดี


กรัชกาย เขียน:
รู้ไหม สังขาร หมายถึงอะไร มีกี่อย่าง อะไรบ้าง ?

ถ้าโฮฮัยตอบคำถามเหล่านี้ได้ กรัชกายจะไม่รบกวนอีก :b13:

พี่โฮตอบได้ แต่จะทำให้กรัชกายเข้าใจนั้น เป็นหน้าที่ๆกรัชกายจะต้องทำความเข้าใจเอง
ดังนั้นตอบไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะได้ตอบไปเป็นร้อยๆครั้งแล้ว ที่พูดไม่ใช่ไม่พอใจน่ะ
พี่โฮเข้าใจดีถึงเหตุผลที่ทำไม พูดสารพัดที่จะอธิบายธรรมไป มันก็ยังไม่มีคนเข้าใจ
มิหน่ำซ้ำยังเสียดสีประชดประชันพี่โฮกลับมาอีก

ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเพราะ ยังไม่เห็นสภาวะธรรมที่เป็นสภาวะธรรมจริงๆ
การได้เห็นสภาวะธรรมจริงๆ มันถึงจะเข้าใจและอธิบายเหตุของสภาพธรรมได้
และก็อีกนั้นแหล่ะ บอกวิธีการเข้าถึงสภาวะไปแล้ว มันก็ยังเถียงยังรั้น


แนะนำอีกที่ อย่าโลภอย่าเรียนลัด
การเข้าถึงธรรมที่เป็นจริง ต้องเจริญสติ ตามรู้อารมณ์
เพียงแค่โกรธก็รู้ว่าโกรธ หลงก็รู้ว่าหลง เกิดราคะก็รู้ว่าเกิดราคะ
รู้เฉยๆแค่นี่ แล้วสิ่งที่พี่โฮพูดมันก็จะเกิดให้เห็น


ปล.การเจริญสติ ไม่ใช่การใช้สติน่ะ แต่เป็นการทำให้เกิดสติ ที่เป็นสภาวะธรรมแท้ๆ
ส่วนการปฏิบัติคือการตามรู้อารมณ์เฉยๆ



คำพูดทำนองที่พี่โฮยกมาเนี่ยะ กรัชกายเห็นที่เขาถาม-ตอบ กันและกันแล้ว มองเห็นทะลุทั้งกระดาน (ไม่ใช่ตำหนินะ ใครชอบใจอะไรก็ว่ากันไปตามจริตดีกว่าอยู่เปล่าๆ) คือเขาถามว่า ขณะนั้นง่วงแล้วแก้ยังไง? ตอบว่า ....ให้ไปนอนสะให้หายง่วงก่อนแล้วค่อยมาดูจิตใหม่ :b1:

ไม่ได้โม้นะ สำหรับกรัชกายมองออกทั้งกระดาน คือเขามองธรรมชาติคือกายใจนี่้แบบโลกสวย ขยันพูดกันจัง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่หารู้ความยังงั้นคือของกายใจหรือนามรูป หรือของชีวิตหรือของธรรมชาตินี้ไม่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เอาอีก เขาเป็นอะไรพี่โฮ :b1:







ขณะที่มีสภาวะเหล่านี้เกิดขึ้น

บางครั้ง มีบางคนเรียกว่า เป็นอาการอุปทานหมู่
เพราะพอคนหนึ่งเป็น คนอื่นๆจะมีอาการเป็นตาม
เพียงแต่ว่า จะเป็นแบบไหน เท่านั้นเอง



ซึ่งคนที่กำลังมีสภาวะเหล่านี้ เขาจะได้ยินเสียงภายนอก
แต่ไม่สามารถหยุดอาการ ที่ตัวเอง กำลังเป็นอยู่ได้



คนที่คุมอยู่ หรือ กำลังดูแลอยู่
ควรจะบอกกับคนที่กำลังมีอาการพวกนี้อยู่

ควรจะบอกกับคนนั้นว่า ให้หายใจยาวๆ
กำหนดว่า รู้หนอๆๆๆๆๆ หายใจยาวๆๆๆๆ

เมื่อมีสติ กลับมารู้อยู่กับปัจจุบัน
แล้วอาการเหล่านั้น จะหายไป

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 12:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่โฮ เขาเป็นอะไร :b14: :b1:


อ้างคำพูด:
คือผมเพิ่งเริ่มนั่งสมาธิได้ประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วมีอยู่วันหนึ่งนั่งสมาธิรู้สึกตัวเบาวิวเหมือนไม่มีแขนไม่มีขา แล้วเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกเหมือนกำลังจะตาย แต่ยังสามารถท่อง พุธ โท ได้ แต่สักระยะผมทนไม่ไหวมันหายใจไม่ออก เหมือนจะตาย เลยลืมตาขึ้นมา ปรากฎว่าหายใจออกเลย ไม่ทราบว่าอาการนี้เกิดจากอะไรครับ เกร็งเกินไปหรือป่าว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 12:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ว่าแล้วไง แสดงความเห็นกันอยู่ดีๆ
ไง๋!แปลสภาพ เป็นอาการไม่พอใจไปได้
ผมถามเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น
ถ้าไม่พอใจก็ไม่เป็นไรครับ เอาเป็นว่าไม่ต้องตอบก็ได้ครับ :b13:




อ่อ .... ขออภัยด้วยนะ กับตัวหนังสือที่เขียนลงไป

ที่ทำให้คุณเข้าใจว่า วลัยพรจะต้องมีความรู้สึกดังที่คุณกล่าวมา :b32:

ตัวหนังสือมันแทนใจ ปกปิดไม่อยู่หรอกความในใจตนนะ อย่าโกหกตัวเองเลยวลัยพร นิสัยแบบคุณรู้จักดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่โฮเขาเ็ป็นอะไำร ? :b1: เฉพาะที่เน้นสีแดง


อ้างคำพูด:
ก่อนหน้านี้ฝึกวิปัสสนามา 2 ปีแล้ว ทำวันละ 1- 3 ชั่วโมง เดินจงกรม เท่ากับนั่งสมาธิ
ไม่เกิดอาการปีติแม้แต่น้อยพิจารณาไปเรื่อยๆๆ
พอเปลี่ยนเป็นสมถกรรมฐานวันแรกเท่านั้นตัวโยก ตัวสั่นโครมๆๆ ถึงวันนี้ 3 เดือนแล้ว
ยังไม่สามารถก้าวข้ามปีติตัวนี้ไปได้เลย นั่งวันละ 2-4 ชั่วโมง มีตัดเข้าสู่ความสงบและ
ลมหายใจเบาบางได้บางเวลา ก็โครมๆๆใหม่ เหมือนเจ้าเข้าทรง ท่านผู้รู้มีวิธีเอาชนะปีติไหมครับ
แนะนำผมหน่อย บางครั้งก็ใช้การอธิฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าให้ช่วยเอาชนะปีติ
ก็สงบขึ้นมาหน่อย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
การ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ ได้ยินพระเทศน์ ได้ยินคนพูดกันมานานแระนะ ทีนี้อยากจะถามพระถามคน ถามโฮฮับด้วย (นำมาพูดเหมือนกัน) ที่พูดๆกันนั่นน่ะ เคยเห็น การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปของสังขารเหล่านั้นมั้ย เคยเห็นมั้ย เห็นลักษณะทั้งสามนั่นหรือยัง นีก็พูดให้พิจารณาเช่นกัน ที่พูดน่ะจำมาจากไหน นี่ข้อที่พึงจารณา จำมาจากไหนที่พูดนั่นน่ะ :b10: :b1: :


ถ้าไม่เคยเห็นแล้ว พี่โฮจะกล้าแสดงความเห็นแย้งคำสอนของพระเปรียญหรือ

ถ้าไม่เคยเห็นพี่โฮจะกล้าแย้งความเห็นของสมาชิกในนี้แทบจะทุกกระทู้หรือ

ถ้าไม่เคยเห็นพี่โฮจะรู้หรือว่า สุตตมยปัญญา ไม่ใช่การฟังให้เกิดปัญญา
แต่มันเป็นการเอาปัญญาการเป็นหลักในการฟัง
จะบอกให้ว่าถึงพี่โฮจำพระไตรปิฎกได้ไม่หมด แต่พี่โฮอ่านพระไตรปิฎกได้และเข้าใจดี


กรัชกาย เขียน:
รู้ไหม สังขาร หมายถึงอะไร มีกี่อย่าง อะไรบ้าง ?

ถ้าโฮฮัยตอบคำถามเหล่านี้ได้ กรัชกายจะไม่รบกวนอีก :b13:

พี่โฮตอบได้ แต่จะทำให้กรัชกายเข้าใจนั้น เป็นหน้าที่ๆกรัชกายจะต้องทำความเข้าใจเอง
ดังนั้นตอบไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะได้ตอบไปเป็นร้อยๆครั้งแล้ว ที่พูดไม่ใช่ไม่พอใจน่ะ
พี่โฮเข้าใจดีถึงเหตุผลที่ทำไม พูดสารพัดที่จะอธิบายธรรมไป มันก็ยังไม่มีคนเข้าใจ
มิหน่ำซ้ำยังเสียดสีประชดประชันพี่โฮกลับมาอีก

ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเพราะ ยังไม่เห็นสภาวะธรรมที่เป็นสภาวะธรรมจริงๆ
การได้เห็นสภาวะธรรมจริงๆ มันถึงจะเข้าใจและอธิบายเหตุของสภาพธรรมได้
และก็อีกนั้นแหล่ะ บอกวิธีการเข้าถึงสภาวะไปแล้ว มันก็ยังเถียงยังรั้น


แนะนำอีกที่ อย่าโลภอย่าเรียนลัด
การเข้าถึงธรรมที่เป็นจริง ต้องเจริญสติ ตามรู้อารมณ์
เพียงแค่โกรธก็รู้ว่าโกรธ หลงก็รู้ว่าหลง เกิดราคะก็รู้ว่าเกิดราคะ
รู้เฉยๆแค่นี่ แล้วสิ่งที่พี่โฮพูดมันก็จะเกิดให้เห็น

ปล.การเจริญสติ ไม่ใช่การใช้สติน่ะ แต่เป็นการทำให้เกิดสติ ที่เป็นสภาวะธรรมแท้ๆ
ส่วนการปฏิบัติคือการตามรู้อารมณ์เฉยๆ



บอกวิธีทำหน่อยดิ ทำยังไง จึงเห็น :b10:


อ้อนี่หรอ

อ้างคำพูด:
แนะนำอีกที่ อย่าโลภอย่าเรียนลัด
การเข้าถึงธรรมที่เป็นจริง ต้องเจริญสติ ตามรู้อารมณ์
เพียงแค่โกรธก็รู้ว่าโกรธ หลงก็รู้ว่าหลง เกิดราคะก็รู้ว่าเกิดราคะ
รู้เฉยๆแค่นี่ แล้วสิ่งที่พี่โฮพูดมันก็จะเกิดให้เห็น


คิกๆ ไปจำใครเขามาพูด

เป็นไงล่ะ! แหล่ะแล้วมันก็เป็นแบบเดิม นิสัยไม่เปลี่ยน สำเหนียกไม่โผล่ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:

กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
การ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ ได้ยินพระเทศน์ ได้ยินคนพูดกันมานานแระนะ ทีนี้อยากจะถามพระถามคน ถามโฮฮับด้วย (นำมาพูดเหมือนกัน) ที่พูดๆกันนั่นน่ะ เคยเห็น การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปของสังขารเหล่านั้นมั้ย เคยเห็นมั้ย เห็นลักษณะทั้งสามนั่นหรือยัง นีก็พูดให้พิจารณาเช่นกัน ที่พูดน่ะจำมาจากไหน นี่ข้อที่พึงจารณา จำมาจากไหนที่พูดนั่นน่ะ :b10: :b1: :


ถ้าไม่เคยเห็นแล้ว พี่โฮจะกล้าแสดงความเห็นแย้งคำสอนของพระเปรียญหรือ

ถ้าไม่เคยเห็นพี่โฮจะกล้าแย้งความเห็นของสมาชิกในนี้แทบจะทุกกระทู้หรือ

ถ้าไม่เคยเห็นพี่โฮจะรู้หรือว่า สุตตมยปัญญา ไม่ใช่การฟังให้เกิดปัญญา
แต่มันเป็นการเอาปัญญาการเป็นหลักในการฟัง
จะบอกให้ว่าถึงพี่โฮจำพระไตรปิฎกได้ไม่หมด แต่พี่โฮอ่านพระไตรปิฎกได้และเข้าใจดี


กรัชกาย เขียน:
รู้ไหม สังขาร หมายถึงอะไร มีกี่อย่าง อะไรบ้าง ?

ถ้าโฮฮัยตอบคำถามเหล่านี้ได้ กรัชกายจะไม่รบกวนอีก :b13:

พี่โฮตอบได้ แต่จะทำให้กรัชกายเข้าใจนั้น เป็นหน้าที่ๆกรัชกายจะต้องทำความเข้าใจเอง
ดังนั้นตอบไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะได้ตอบไปเป็นร้อยๆครั้งแล้ว ที่พูดไม่ใช่ไม่พอใจน่ะ
พี่โฮเข้าใจดีถึงเหตุผลที่ทำไม พูดสารพัดที่จะอธิบายธรรมไป มันก็ยังไม่มีคนเข้าใจ
มิหน่ำซ้ำยังเสียดสีประชดประชันพี่โฮกลับมาอีก

ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเพราะ ยังไม่เห็นสภาวะธรรมที่เป็นสภาวะธรรมจริงๆ
การได้เห็นสภาวะธรรมจริงๆ มันถึงจะเข้าใจและอธิบายเหตุของสภาพธรรมได้
และก็อีกนั้นแหล่ะ บอกวิธีการเข้าถึงสภาวะไปแล้ว มันก็ยังเถียงยังรั้น


แนะนำอีกที่ อย่าโลภอย่าเรียนลัด
การเข้าถึงธรรมที่เป็นจริง ต้องเจริญสติ ตามรู้อารมณ์
เพียงแค่โกรธก็รู้ว่าโกรธ หลงก็รู้ว่าหลง เกิดราคะก็รู้ว่าเกิดราคะ
รู้เฉยๆแค่นี่ แล้วสิ่งที่พี่โฮพูดมันก็จะเกิดให้เห็น

ปล.การเจริญสติ ไม่ใช่การใช้สติน่ะ แต่เป็นการทำให้เกิดสติ ที่เป็นสภาวะธรรมแท้ๆ
ส่วนการปฏิบัติคือการตามรู้อารมณ์เฉยๆ



บอกวิธีทำหน่อยดิ ทำยังไง จึงเห็น :b10:


อ้อนี่หรอ

อ้างคำพูด:
แนะนำอีกที่ อย่าโลภอย่าเรียนลัด
การเข้าถึงธรรมที่เป็นจริง ต้องเจริญสติ ตามรู้อารมณ์
เพียงแค่โกรธก็รู้ว่าโกรธ หลงก็รู้ว่าหลง เกิดราคะก็รู้ว่าเกิดราคะ
รู้เฉยๆแค่นี่ แล้วสิ่งที่พี่โฮพูดมันก็จะเกิดให้เห็น


คิกๆ ไปจำใครเขามาพูด

เป็นไงล่ะ! แหล่ะแล้วมันก็เป็นแบบเดิม นิสัยไม่เปลี่ยน สำเหนียกไม่โผล่ :b32:


ไม่เปลี่ยนไงอ่ะ มีทั้งตัวอย่างเยอะแยะ มองออกไหม ? :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พี่โฮเขาเ็ป็นอะไำร ? :b1: เฉพาะที่เน้นสีแดง


อ้างคำพูด:
ก่อนหน้านี้ฝึกวิปัสสนามา 2 ปีแล้ว ทำวันละ 1- 3 ชั่วโมง เดินจงกรม เท่ากับนั่งสมาธิ
ไม่เกิดอาการปีติแม้แต่น้อยพิจารณาไปเรื่อยๆๆ
พอเปลี่ยนเป็นสมถกรรมฐานวันแรกเท่านั้นตัวโยก ตัวสั่นโครมๆๆ ถึงวันนี้ 3 เดือนแล้ว
ยังไม่สามารถก้าวข้ามปีติตัวนี้ไปได้เลย นั่งวันละ 2-4 ชั่วโมง มีตัดเข้าสู่ความสงบและ
ลมหายใจเบาบางได้บางเวลา ก็โครมๆๆใหม่ เหมือนเจ้าเข้าทรง ท่านผู้รู้มีวิธีเอาชนะปีติไหมครับ
แนะนำผมหน่อย บางครั้งก็ใช้การอธิฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าให้ช่วยเอาชนะปีติ
ก็สงบขึ้นมาหน่อย

อยากมีปัญญาถามหาวิธีปฎิบัต พึ่งสอนไปแหม่บว่า ให้ตามรู้อารมณ์ตัวเอง
นี่มันแจ่นไปยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกแล้ว แบบนี้อีกร้อยชาติถึงจะเจอไอ้ปัญญาที่ว่า :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พี่โฮเขาเ็ป็นอะไำร ? :b1: เฉพาะที่เน้นสีแดง


อ้างคำพูด:
ก่อนหน้านี้ฝึกวิปัสสนามา 2 ปีแล้ว ทำวันละ 1- 3 ชั่วโมง เดินจงกรม เท่ากับนั่งสมาธิ
ไม่เกิดอาการปีติแม้แต่น้อยพิจารณาไปเรื่อยๆๆ
พอเปลี่ยนเป็นสมถกรรมฐานวันแรกเท่านั้นตัวโยก ตัวสั่นโครมๆๆ ถึงวันนี้ 3 เดือนแล้ว
ยังไม่สามารถก้าวข้ามปีติตัวนี้ไปได้เลย นั่งวันละ 2-4 ชั่วโมง มีตัดเข้าสู่ความสงบและ
ลมหายใจเบาบางได้บางเวลา ก็โครมๆๆใหม่ เหมือนเจ้าเข้าทรง ท่านผู้รู้มีวิธีเอาชนะปีติไหมครับ
แนะนำผมหน่อย บางครั้งก็ใช้การอธิฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าให้ช่วยเอาชนะปีติ
ก็สงบขึ้นมาหน่อย

อยากมีปัญญาถามหาวิธีปฎิบัต พึ่งสอนไปแหม่บว่า ให้ตามรู้อารมณ์ตัวเอง
นี่มันแจ่นไปยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกแล้ว แบบนี้อีกร้อยชาติถึงจะเจอไอ้ปัญญาที่ว่า :b32:



ไม่ใช่ของชาวบ้านนะขอรับ เรื่องของธรรมะชั้นปรมัตถ์เลยแหละ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พี่โฮเขาเ็ป็นอะไำร ? :b1: เฉพาะที่เน้นสีแดง


อ้างคำพูด:
ก่อนหน้านี้ฝึกวิปัสสนามา 2 ปีแล้ว ทำวันละ 1- 3 ชั่วโมง เดินจงกรม เท่ากับนั่งสมาธิ
ไม่เกิดอาการปีติแม้แต่น้อยพิจารณาไปเรื่อยๆๆ
พอเปลี่ยนเป็นสมถกรรมฐานวันแรกเท่านั้นตัวโยก ตัวสั่นโครมๆๆ ถึงวันนี้ 3 เดือนแล้ว
ยังไม่สามารถก้าวข้ามปีติตัวนี้ไปได้เลย นั่งวันละ 2-4 ชั่วโมง มีตัดเข้าสู่ความสงบและ
ลมหายใจเบาบางได้บางเวลา ก็โครมๆๆใหม่ เหมือนเจ้าเข้าทรง ท่านผู้รู้มีวิธีเอาชนะปีติไหมครับ
แนะนำผมหน่อย บางครั้งก็ใช้การอธิฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าให้ช่วยเอาชนะปีติ
ก็สงบขึ้นมาหน่อย

อยากมีปัญญาถามหาวิธีปฎิบัต พึ่งสอนไปแหม่บว่า ให้ตามรู้อารมณ์ตัวเอง
นี่มันแจ่นไปยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกแล้ว แบบนี้อีกร้อยชาติถึงจะเจอไอ้ปัญญาที่ว่า :b32:


ดูจิตเก่ง่แล้ว ช่วยดูหน่อยดิ จิตเขาเป็นอะไร :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คำพูดทำนองที่พี่โฮยกมาเนี่ยะ กรัชกายเห็นที่เขาถาม-ตอบ กันและกันแล้ว มองเห็นทะลุทั้งกระดาน (ไม่ใช่ตำหนินะ ใครชอบใจอะไรก็ว่ากันไปตามจริตดีกว่าอยู่เปล่าๆ) คือเขาถามว่า ขณะนั้นง่วงแล้วแก้ยังไง? ตอบว่า ....ให้ไปนอนสะให้หายง่วงก่อนแล้วค่อยมาดูจิตใหม่ :b1:

ไม่ได้โม้นะ สำหรับกรัชกายมองออกทั้งกระดาน คือเขามองธรรมชาติคือกายใจนี่้แบบโลกสวย ขยันพูดกันจัง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่หารู้ความยังงั้นคือของกายใจหรือนามรูป หรือของชีวิตหรือของธรรมชาตินี้ไม่

ไอ้นี่ไม่เข้าใจแล้วก็จ้อไปเลยเรื่อย ก็มันเป็นบัญญัติ จะให้เขาพูดอย่างไร
คนที่เขารู้แล้วเห็นแล้ว ก็เอามาพูด ถ้าใครอยากรู้ก็ต้องเขาไปเห็นเอง
ทำให้ได้ ไปให้เห็น แล้วค่อยออกมาโต้แย้งว่าใช่ไม่ใช่อย่างไร

ไม่ใช่ใครเข้าบอกก็ตะบี้ตะบันแกล้งอินโนเซ้นถามดะ
ถ้ากรัชกายใช้สมองคิดตามหลักวิทยาสตร์ก็ได้
ถ้ามีใครเขามาเล่าเรื่องอะไรที่ไปเจอมา แล้วก็มีอีกหลายคนก็เล่าแบบเดียวกัน
กรัชกายไม่คิดที่จะไปดูให้รู้จริงก่อนหรือ มันจะจริงอย่างที่เขาพูดหรือเปล่าเราต้องไปดูเอง
เหตุผลตื้น ตรรกะง่ายๆแค่นี้ยังดันทุรังเถียง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว






พี่โฮ นี่เป็นเรื่องของบ้านหรือเรื่องของเณร หรือเรื่องของธรรม โงกเงกๆอยู่นั่นนะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พี่โฮเขาเ็ป็นอะไำร ? :b1: เฉพาะที่เน้นสีแดง


อ้างคำพูด:
ก่อนหน้านี้ฝึกวิปัสสนามา 2 ปีแล้ว ทำวันละ 1- 3 ชั่วโมง เดินจงกรม เท่ากับนั่งสมาธิ
ไม่เกิดอาการปีติแม้แต่น้อยพิจารณาไปเรื่อยๆๆ
พอเปลี่ยนเป็นสมถกรรมฐานวันแรกเท่านั้นตัวโยก ตัวสั่นโครมๆๆ ถึงวันนี้ 3 เดือนแล้ว
ยังไม่สามารถก้าวข้ามปีติตัวนี้ไปได้เลย นั่งวันละ 2-4 ชั่วโมง มีตัดเข้าสู่ความสงบและ
ลมหายใจเบาบางได้บางเวลา ก็โครมๆๆใหม่ เหมือนเจ้าเข้าทรง ท่านผู้รู้มีวิธีเอาชนะปีติไหมครับ
แนะนำผมหน่อย บางครั้งก็ใช้การอธิฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าให้ช่วยเอาชนะปีติ
ก็สงบขึ้นมาหน่อย

อยากมีปัญญาถามหาวิธีปฎิบัต พึ่งสอนไปแหม่บว่า ให้ตามรู้อารมณ์ตัวเอง
นี่มันแจ่นไปยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกแล้ว แบบนี้อีกร้อยชาติถึงจะเจอไอ้ปัญญาที่ว่า :b32:


ดูจิตเก่ง่แล้ว ช่วยดูหน่อยดิ จิตเขาเป็นอะไร :b32:

เขาให้ดูจิตตัวเอง ไม่ได้ให้สอดส่ายไปดูจิตชาวบ้าน

กรัชกายมามุกเดิมอีกแล้ว ไอ้นี่ชอบล้มกระดานหมากรุก :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คำพูดทำนองที่พี่โฮยกมาเนี่ยะ กรัชกายเห็นที่เขาถาม-ตอบ กันและกันแล้ว มองเห็นทะลุทั้งกระดาน (ไม่ใช่ตำหนินะ ใครชอบใจอะไรก็ว่ากันไปตามจริตดีกว่าอยู่เปล่าๆ) คือเขาถามว่า ขณะนั้นง่วงแล้วแก้ยังไง? ตอบว่า ....ให้ไปนอนสะให้หายง่วงก่อนแล้วค่อยมาดูจิตใหม่ :b1:

ไม่ได้โม้นะ สำหรับกรัชกายมองออกทั้งกระดาน คือเขามองธรรมชาติคือกายใจนี่้แบบโลกสวย ขยันพูดกันจัง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่หารู้ความยังงั้นคือของกายใจหรือนามรูป หรือของชีวิตหรือของธรรมชาตินี้ไม่

ไอ้นี่ไม่เข้าใจแล้วก็จ้อไปเลยเรื่อย ก็มันเป็นบัญญัติ จะให้เขาพูดอย่างไร
คนที่เขารู้แล้วเห็นแล้ว ก็เอามาพูด ถ้าใครอยากรู้ก็ต้องเขาไปเห็นเอง
ทำให้ได้ ไปให้เห็น แล้วค่อยออกมาโต้แย้งว่าใช่ไม่ใช่อย่างไร

ไม่ใช่ใครเข้าบอกก็ตะบี้ตะบันแกล้งอินโนเซ้นถามดะ
ถ้ากรัชกายใช้สมองคิดตามหลักวิทยาสตร์ก็ได้
ถ้ามีใครเขามาเล่าเรื่องอะไรที่ไปเจอมา แล้วก็มีอีกหลายคนก็เล่าแบบเดียวกัน
กรัชกายไม่คิดที่จะไปดูให้รู้จริงก่อนหรือ มันจะจริงอย่างที่เขาพูดหรือเปล่าเราต้องไปดูเอง
เหตุผลตื้น ตรรกะง่ายๆแค่นี้ยังดันทุรังเถียง



เข้าใจมานานแล้วว่าพี่โฮ จุดประสงค์เพื่อจะสื่อว่า ตนเองบรรลุธรรมแบบที่อุปติสสะบรรลุ เพราะฟังหัวข้อบาลีจากพระอัสสชิดังว่า

"เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุ (มีนิคหิตบน ต. เต่าด้วยพิมพ์ไ่ม่ติด) ตถาคโต เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ" คิกๆ คิดๆจะเอาแบบนี้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 02 ต.ค. 2013, 13:49, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พี่โฮเขาเ็ป็นอะไำร ? :b1: เฉพาะที่เน้นสีแดง


อ้างคำพูด:
ก่อนหน้านี้ฝึกวิปัสสนามา 2 ปีแล้ว ทำวันละ 1- 3 ชั่วโมง เดินจงกรม เท่ากับนั่งสมาธิ
ไม่เกิดอาการปีติแม้แต่น้อยพิจารณาไปเรื่อยๆๆ
พอเปลี่ยนเป็นสมถกรรมฐานวันแรกเท่านั้นตัวโยก ตัวสั่นโครมๆๆ ถึงวันนี้ 3 เดือนแล้ว
ยังไม่สามารถก้าวข้ามปีติตัวนี้ไปได้เลย นั่งวันละ 2-4 ชั่วโมง มีตัดเข้าสู่ความสงบและ
ลมหายใจเบาบางได้บางเวลา ก็โครมๆๆใหม่ เหมือนเจ้าเข้าทรง ท่านผู้รู้มีวิธีเอาชนะปีติไหมครับ
แนะนำผมหน่อย บางครั้งก็ใช้การอธิฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าให้ช่วยเอาชนะปีติ
ก็สงบขึ้นมาหน่อย

อยากมีปัญญาถามหาวิธีปฎิบัต พึ่งสอนไปแหม่บว่า ให้ตามรู้อารมณ์ตัวเอง
นี่มันแจ่นไปยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกแล้ว แบบนี้อีกร้อยชาติถึงจะเจอไอ้ปัญญาที่ว่า :b32:


ดูจิตเก่ง่แล้ว ช่วยดูหน่อยดิ จิตเขาเป็นอะไร :b32:

เขาให้ดูจิตตัวเอง ไม่ได้ให้สอดส่ายไปดูจิตชาวบ้าน

กรัชกายมามุกเดิมอีกแล้ว ไอ้นี่ชอบล้มกระดานหมากรุก :b32:



แสดงว่ายังไม่รู้ธรรมะ ถูกตัองพระพุทธเจ้าทรงรู้จิตของพระองค์เองก่อนแล้ว จึงรู้เข้าใจจิตของมนุษย์ทั้งโลก พอเข้าใจที่พูดไหม

อย่างโฮฮับยังไม่รู้จิต เพียงแต่ขั้นกำลังศึกษาเรื่องจิต แล้วก็กำลังคลำหาจิต คลำหาเจตสิก คลำหารูปอยู่ :b1: แต่ที่สำคัญหลับตาคลำ :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 110 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร