วันเวลาปัจจุบัน 23 มิ.ย. 2025, 11:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 57, 58, 59, 60, 61  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2016, 06:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
แค่คำพูดของกบตามที่แถบสีแดงมาให้ดู ก็เห็นได้ชัดว่ากบรู้ไม่จริง จึงหลงพูดหลงแสดงความคิดเห็นแบบ

"โง่ๆ แต่อิงหรือโหนพระพุทธเจ้ามาพูดหลอกผู้คนให้เชื่อ"
:b7:
เฉยไร้เหตุจะเกิดขึ้นได้เมื่อเหตุนั้นถอยไปชั่วคราว จนกว่าจะถึงวันที่เหตุนั้นตาย
จึงจะถึงความเฉยไร้เหตุ โดยสมบูรณ์


กบไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงคำพูดอย่างนี้แน่ เพราะกบยังตอบเรื่องตัว เหตุ ที่ทำให้ไม่เฉยไม่ได้ ด้วยตัวเองจากผลปฏิบัติของตัวเองอย่างแท้จริง
จึงเลยพาลทำให้อ่านภาพแผนภูมิที่กลั่นกรองเขียนมาอย่างดีมากไม่เข้าใจ ตีความสรุปความพูดออกไปมั่วซั่ว
สร้างมิจฉาวาจาให้กับตัวเอง


:b29:
ยกมมาให้ดูอีกทีนะกบเฉยไร้เหตุของพระพุทธเจ้าที่เป็นทางสายกลางที่กบว่า มาเทียบกันดูสิว่าจะต่างกับเฉยไร้เหตุของอโศกะตรงไหน
s004


ี่ผมว่า..คือ..ว่า..อโสกะก็ไม่เข้าใจแผนผังที่ตัวเองยกมา..ต่างหาก..คับ

กบนอกกกะลา เขียน:
ไร้เหตุ..ของอโสกะ...มันกดข่มเหต...นะ...จึงดูเหมือนไม่มีเหตุ...

พอยกอาการ..ไร้เหตุ..จริง ๆ ของพระพุทธเจ้า...อโสกะก็ว่า...มันสายกลางตรงไหน

จำได้มั้ยคับ...อโสกะ


และ..อาการเฉยแบบไร้เหตุของพระพุทธเจ้า..ยังไม่ได้ข้ามโคตรภู..นะ...ขั้นกำลังเรียนรู้อยู่

แล้วคนที่ตรงนี้ยังหลงเนี้ย...เป็นอะไรดีเอ้ย..


จำได้มั้ยเอ่ย....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2016, 15:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ทางออกสู่นิพพาน2_resize.jpg
ทางออกสู่นิพพาน2_resize.jpg [ 41.02 KiB | เปิดดู 1890 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
s004
แค่คำพูดของกบตามที่แถบสีแดงมาให้ดู ก็เห็นได้ชัดว่ากบรู้ไม่จริง จึงหลงพูดหลงแสดงความคิดเห็นแบบ

"โง่ๆ แต่อิงหรือโหนพระพุทธเจ้ามาพูดหลอกผู้คนให้เชื่อ"
:b7:
เฉยไร้เหตุจะเกิดขึ้นได้เมื่อเหตุนั้นถอยไปชั่วคราว จนกว่าจะถึงวันที่เหตุนั้นตาย
จึงจะถึงความเฉยไร้เหตุ โดยสมบูรณ์


กบไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงคำพูดอย่างนี้แน่ เพราะกบยังตอบเรื่องตัว เหตุ ที่ทำให้ไม่เฉยไม่ได้ ด้วยตัวเองจากผลปฏิบัติของตัวเองอย่างแท้จริง
จึงเลยพาลทำให้อ่านภาพแผนภูมิที่กลั่นกรองเขียนมาอย่างดีมากไม่เข้าใจ ตีความสรุปความพูดออกไปมั่วซั่ว
สร้างมิจฉาวาจาให้กับตัวเอง


:b29:
ยกมมาให้ดูอีกทีนะกบเฉยไร้เหตุของพระพุทธเจ้าที่เป็นทางสายกลางที่กบว่า มาเทียบกันดูสิว่าจะต่างกับเฉยไร้เหตุของอโศกะตรงไหน
s004


ี่ผมว่า..คือ..ว่า..อโสกะก็ไม่เข้าใจแผนผังที่ตัวเองยกมา..ต่างหาก..คับ

กบนอกกกะลา เขียน:
ไร้เหตุ..ของอโสกะ...มันกดข่มเหต...นะ...จึงดูเหมือนไม่มีเหตุ...

พอยกอาการ..ไร้เหตุ..จริง ๆ ของพระพุทธเจ้า...อโสกะก็ว่า...มันสายกลางตรงไหน

จำได้มั้ยคับ...อโสกะ


และ..อาการเฉยแบบไร้เหตุของพระพุทธเจ้า..ยังไม่ได้ข้ามโคตรภู..นะ...ขั้นกำลังเรียนรู้อยู่

แล้วคนที่ตรงนี้ยังหลงเนี้ย...เป็นอะไรดีเอ้ย..


จำได้มั้ยเอ่ย....

s004
เป็นคำอธิบายที่ไม่รู้เรื่องของกบ

เก่งนักคิดว่าผู้เขียนไม่เข้าใจภาพที่ตนเขียน ลองสาธยายความหมายของภาพสรุปธรรมที่ยกมาให้ดู ว่ากบเข้าใจอย่างไร?

ภาพที่ 1
:b17:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2016, 07:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




กระบวนการทำงานของมรรค 8_100.1 Kb_resize.jpg
กระบวนการทำงานของมรรค 8_100.1 Kb_resize.jpg [ 45.99 KiB | เปิดดู 1879 ครั้ง ]
onion
ภาพที่ 2
ลองอธิบายความหมายของภาพครับ
:b37:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2016, 06:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พูดไป..ก็ว่าเอาแต่ตำรา

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2016, 06:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
s004
แค่คำพูดของกบตามที่แถบสีแดงมาให้ดู ก็เห็นได้ชัดว่ากบรู้ไม่จริง จึงหลงพูดหลงแสดงความคิดเห็นแบบ

"โง่ๆ แต่อิงหรือโหนพระพุทธเจ้ามาพูดหลอกผู้คนให้เชื่อ"
:b7:
เฉยไร้เหตุจะเกิดขึ้นได้เมื่อเหตุนั้นถอยไปชั่วคราว จนกว่าจะถึงวันที่เหตุนั้นตาย
จึงจะถึงความเฉยไร้เหตุ โดยสมบูรณ์


กบไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงคำพูดอย่างนี้แน่ เพราะกบยังตอบเรื่องตัว เหตุ ที่ทำให้ไม่เฉยไม่ได้ ด้วยตัวเองจากผลปฏิบัติของตัวเองอย่างแท้จริง
จึงเลยพาลทำให้อ่านภาพแผนภูมิที่กลั่นกรองเขียนมาอย่างดีมากไม่เข้าใจ ตีความสรุปความพูดออกไปมั่วซั่ว
สร้างมิจฉาวาจาให้กับตัวเอง


:b29:
ยกมมาให้ดูอีกทีนะกบเฉยไร้เหตุของพระพุทธเจ้าที่เป็นทางสายกลางที่กบว่า มาเทียบกันดูสิว่าจะต่างกับเฉยไร้เหตุของอโศกะตรงไหน
s004


ี่ผมว่า..คือ..ว่า..อโสกะก็ไม่เข้าใจแผนผังที่ตัวเองยกมา..ต่างหาก..คับ

.


ไม่มีของอโสกะ..หรอกคับ...มีแต่ของที่ไปลอกดัดแปลงจากพระพุทธเจ้า...

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2016, 06:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
s004
แค่คำพูดของกบตามที่แถบสีแดงมาให้ดู ก็เห็นได้ชัดว่ากบรู้ไม่จริง จึงหลงพูดหลงแสดงความคิดเห็นแบบ

"โง่ๆ แต่อิงหรือโหนพระพุทธเจ้ามาพูดหลอกผู้คนให้เชื่อ"
:b7:
เฉยไร้เหตุจะเกิดขึ้นได้เมื่อเหตุนั้นถอยไปชั่วคราว จนกว่าจะถึงวันที่เหตุนั้นตาย
จึงจะถึงความเฉยไร้เหตุ โดยสมบูรณ์


กบไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงคำพูดอย่างนี้แน่ เพราะกบยังตอบเรื่องตัว เหตุ ที่ทำให้ไม่เฉยไม่ได้ ด้วยตัวเองจากผลปฏิบัติของตัวเองอย่างแท้จริง
จึงเลยพาลทำให้อ่านภาพแผนภูมิที่กลั่นกรองเขียนมาอย่างดีมากไม่เข้าใจ ตีความสรุปความพูดออกไปมั่วซั่ว
สร้างมิจฉาวาจาให้กับตัวเอง


:b29:
ยกมมาให้ดูอีกทีนะกบเฉยไร้เหตุของพระพุทธเจ้าที่เป็นทางสายกลางที่กบว่า มาเทียบกันดูสิว่าจะต่างกับเฉยไร้เหตุของอโศกะตรงไหน
s004


ี่ผมว่า..คือ..ว่า..อโสกะก็ไม่เข้าใจแผนผังที่ตัวเองยกมา..ต่างหาก..คับ

.


ไม่มีของอโสกะ..หรอกคับ...มีแต่ของที่ไปลอกดัดแปลงจากพระพุทธเจ้า...

:b32: :b32:

s006
กบเคยเห็นบาลีที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้วแปลว่า "เฉยไร้เหตุ" อยู่ตรงไหน ยกมาให้ดูหน่อยนะครับ?
:b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2016, 07:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตลกมาก..เลยคับอโสกะ
อ้างคำพูด:
กบเคยเห็นบาลีที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้วแปลว่า "เฉยไร้เหตุ" อยู่ตรงไหน ยกมาให้ดูหน่อยนะครับ?


เฉยไร้เหตุ..มันคำพูดของเราเรา..คับ...ที่ใช้สื่อความหมายของธรรม..สังขารุเปกขาญาณ

รึว่า..อโสกะไม่ได้หมายถึงธรรม..สังขารุเปกขาญาณ...?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2016, 07:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตลกมาก..เลยคับอโสกะ
อ้างคำพูด:
กบเคยเห็นบาลีที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้วแปลว่า "เฉยไร้เหตุ" อยู่ตรงไหน ยกมาให้ดูหน่อยนะครับ?


เฉยไร้เหตุ..มันคำพูดของเราเรา..คับ...ที่ใช้สื่อความหมายของธรรม..สังขารุเปกขาญาณ

รึว่า..อโสกะไม่ได้หมายถึงธรรม..สังขารุเปกขาญาณ...?

:b34:
สังเกตคำอธิบายเรื่องสังขารุเปกขาญาณให้ดี ใช่สำนวนเดียวกับที่พระบรมครูตรัสหรือไม่ กบ ดูดีๆ
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2016, 07:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตลกมาก..เลยคับอโสกะ
อ้างคำพูด:
กบเคยเห็นบาลีที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้วแปลว่า "เฉยไร้เหตุ" อยู่ตรงไหน ยกมาให้ดูหน่อยนะครับ?


เฉยไร้เหตุ..มันคำพูดของเราเรา..คับ...ที่ใช้สื่อความหมายของธรรม..สังขารุเปกขาญาณ

รึว่า..อโสกะไม่ได้หมายถึงธรรม..สังขารุเปกขาญาณ...?


asoka เขียน:
:b34:
สังเกตคำอธิบายเรื่องสังขารุเปกขาญาณให้ดี ใช่สำนวนเดียวกับที่พระบรมครูตรัสหรือไม่ กบ ดูดีๆ
:b12:


ตกลง....อโสกะหมายถึงธรรม..สังขารุเปกขาญาณ..ใช่ไม

ถ้าใช่....คำอธิบายความหมายสังขารุเปกขาญาณของอโสกะ..(หยุดความปรุงแต่งชั่วคราว หยุดความคิด นึก).ไม่เอาอ่าวเลยคับ...ไม่ได้สื่อถึงความจริงของธรรมที่ชื่อสังขารุเปกขาญาณ...

แต่ก็เป็นธรรมดา...เมื่อเดินยังไม่ถึงคับ....ไม่โทษอโสกะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2016, 17:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
...คู่นี้ที่คุยกันมาตั้งยืดตั้งยาวมีปัญหาในการตึความใช่ป่าวล่ะ...
...ขออนุญาตตีความให้เข้าใจง่ายๆตัดคำอื่นๆออกไปให้หมด...
...ให้เหลือแต่คำว่า...เฉยไร้เหตุ...ตามหลักคำสอนแล้วนะคะ...
...คือปัญญาค่ะ...ไม่ใช่ปัญหาให้ถกเถียงกันด้วยความไม่รู้ค่ะ...
...การจะวางเฉยในการปรุงแต่งต่างๆได้นั้นเพราะเข้าใจจริงๆ...
...ว่าทุกข์เพราะหลงยึดถือความมีเป็นเห็นได้โดยการคิดเอง...
...นี้ทุกข์คือเดี๋ยวนี้ที่กำลังทุกข์เพราะไม่รู้ว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ...
...ธรรมดาที่เห็นแต่ไม่รู้ความจริงของเห็นว่าเห็นมีเกิดแล้วดับ...
...กระพริบตา1ครั้งเป็นเห็นขณะใหม่ที่เห็นอันเก่าไม่กลับมา...
...และเห็นอันเก่าที่หมดไปนั่นแหละที่ยึดถือว่าเป็นเราเห็น...
...เฉยไร้เหตุคือความดับไม่เหลือตัวตนไม่มีเหตุคือดับโมหะ...
...ไม่หลงในกาย ไม่หลงในเวทนา ไม่หลงในจิต ไม่หลงในธรรม...
...ทุกอย่างแยกส่วนไม่ปนกัน...เพราะปัญญาไม่สำคัญตนจึงชื่อเฉยไร้เหตุ
:b1: :b12:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2016, 19:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b17: :b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2016, 05:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตลกมาก..เลยคับอโสกะ
อ้างคำพูด:
กบเคยเห็นบาลีที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้วแปลว่า "เฉยไร้เหตุ" อยู่ตรงไหน ยกมาให้ดูหน่อยนะครับ?


เฉยไร้เหตุ..มันคำพูดของเราเรา..คับ...ที่ใช้สื่อความหมายของธรรม..สังขารุเปกขาญาณ

รึว่า..อโสกะไม่ได้หมายถึงธรรม..สังขารุเปกขาญาณ...?


asoka เขียน:
:b34:
สังเกตคำอธิบายเรื่องสังขารุเปกขาญาณให้ดี ใช่สำนวนเดียวกับที่พระบรมครูตรัสหรือไม่ กบ ดูดีๆ
:b12:


ตกลง....อโสกะหมายถึงธรรม..สังขารุเปกขาญาณ..ใช่ไม

ถ้าใช่....คำอธิบายความหมายสังขารุเปกขาญาณของอโสกะ..(หยุดความปรุงแต่งชั่วคราว หยุดความคิด นึก).ไม่เอาอ่าวเลยคับ...ไม่ได้สื่อถึงความจริงของธรรมที่ชื่อสังขารุเปกขาญาณ...

แต่ก็เป็นธรรมดา...เมื่อเดินยังไม่ถึงคับ....ไม่โทษอโสกะ

:b7:
กบไม่เคยได้สัมผัส สังขารุเปกขาญาณจริงๆ จึงไม่เข้าใจคำพูดง่ายๆเพื่อให้รู้จักสังขารุเปกขาญาณ เลยทำประมาทะไปเรื่อยตามวิสัยของกบ

หยุดความปรุงแต่งไปชั่วคราวสภาวะมันเป็นอย่างไร?กบรู้ไหม

ความหมายของสังขารุเปกขาญาณอย่างที่กบว่า "เอาอ่าว"นั้นนะมันเป็นอย่างไรไหนลองบอกมาซิ อย่าลอกตำรามาพูดนะ!

s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2016, 07:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พูดไปตั้งเยอะ... huh huh

แต่...หยุดความปรุงแต่งชั่วคราว..หยุดความคิดนึก...นี้ไม่ได้สะท้อนให้เห็นภาพของปัญญา...ที่องคสมเด็จแสดงมาเลย..

ไล่เรียงมาเป็นลำดับ..ตั้งแต่..

เห็นทุกข์โทษภัยของการเกิดแก่เจ็บตายของวัฎฎะสงสาร..เห็นภัยการดับ..จนรู้สึกเบื่อหน่าย(ในสังขารรวมถึงวัฎฎะสงสารไปด้วย)..คลายความกำหนัด(ในสังขารรวมถึงวัฎฎะสงสารไปด้วย)...ใจก็วางสังขารทั้งหลายไปเอง...(วางเรียกแทนอาการของการไม่เข้าไปยึด)...ไม่เข้าไปยึดเพราะเห็นธรรมตามความเป็นจริง(ไล่เรียงมาเป็นลำดับ)

คนที่วางจนชินเป็นญาน..ไม่ได้ต้องมาไล่เรียงจากญานต้นมาทีละอันละอันอะไร..เพราะเขาได้ทำใว้จนเป็นพื้นใจอยู่แล้ว..ที่เรียกว่า..กระทำใว้ในใจอย่างแยบคาย..

วางแล้ว..ก็ยังรู้สึกนึกคิดได้อยู่อีกมั้ย?..
ก็ต้องบอกว่า..คิดได้ซิ..ไม่ใช่คนตายนี้ท่าน...

คิด..ก็เท่ากับปรุงแต่งซิ?

ก็ต้องตอบว่า..ใช่....เมื่อยังรู้สึกนึกคิดได้อยู่...ยังคิดได้อยู่ก็เท่ากับว่า..ยังมีปรุงแต่งอยู่....เพียงแต่ไม่ได้ปรุ่งแต่งตามอำนาจกิเลส(ในผัสสะนั้นๆ)...เท่านั้น

ปล. วางในแต่ละผัสสะนะ..ไม่ใช่ขั้นวางกิเลสเป็นอรหันต์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2016, 06:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อโสกะ..เข้ามา..แล้วก็จากไป...

อัพกระทู้...ให้เด้งขึ้นมาด้านบน..ซะหน่อย...เผื่อบางคนจะมองเห็น

:b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2016, 06:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ..เข้ามา..แล้วก็จากไป...

อัพกระทู้...ให้เด้งขึ้นมาด้านบน..ซะหน่อย...เผื่อบางคนจะมองเห็น

:b13: :b13:

smiley
ขอบคุณคุณกบที่ช่วยยกกระทู้ขึ้นมานะครับ


:b8:
พอดีมีภาระกิจต่อเนื่องที่จำเป็นต่อเนื่อง (เพื่อผู้อื่น) เลยหายไปวันสองวันครับ

ทุกขัง ทนตั้งอยู่ไม่ได้

อนิจจัง จึงต้องเปลี่ยนแปลง

อนัตตา ทั้งอนิจจังและทุกขังนั้นบังคับบัญชาไม่ได้ เขาหากเป็นไปและเป็นมาเองเอง(ตถตา) นะครับ

หมดเวลาต้องไปภาระกิจอีกแล้ว แล้วค่อยมาสนทนากันต่อนะครับ

:b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 57, 58, 59, 60, 61  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร