วันเวลาปัจจุบัน 22 มิ.ย. 2025, 15:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 925 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 58, 59, 60, 61, 62  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 07:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สำนักของอโศกอยู่ อ.ฝาง อยู่ตำบลอะไรขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 19:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




IMG_20130524_100314.jpg
IMG_20130524_100314.jpg [ 47.24 KiB | เปิดดู 3409 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
สำนักของอโศกอยู่ อ.ฝาง อยู่ตำบลอะไรขอรับ :b1:

smiley
tongue
ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานพระธาตุห้วยบอนเก่า ม.13 บ.ห้วยบอน ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

เปิดดูในกูเกิลเอร์ท แล้วลงไปเดินดูจะเห็นป้ายวัดชัดเจน เห็นบริเวณวัดด้วยครับ

โทร 08-9838-6213

ยินดีต้อนรับสุภาพชนและกัลยาณชนทุกท่าน

:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 19:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




พระธาตุห้วยบอน 2.jpg
พระธาตุห้วยบอน 2.jpg [ 110.83 KiB | เปิดดู 3409 ครั้ง ]
tongue tongue tongue
Welcome
onion onion
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2014, 05:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สำนักของอโศกอยู่ อ.ฝาง อยู่ตำบลอะไรขอรับ :b1:


ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานพระธาตุห้วยบอนเก่า ม.13 บ.ห้วยบอน ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่


ขอบคุณครับ :b1:

รูปถ่ายนั่นเก่าแล้ว ช่วงนี้เหลือคนอยู่กี่คนครับ อายุก็มากๆกันแล้ว แบบว่าจะลุกก็โอยจะนั่งก็โอย แล้วจะเดินจงกรมกันไหวหรือครับน่า :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2014, 21:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
การปฏิบัติธรรมเป็นอกาลิโก อันมีความหมายลึกกว่าที่เราคิด
ซึ่งก็รวมถึงการไม่จำก้ัดอายุ ความแก่ความหนุ่มด้วยครับ
onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2014, 07:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
การปฏิบัติธรรมเป็นอกาลิโก อันมีความหมายลึกกว่าที่เราคิด
ซึ่งก็รวมถึงการไม่จำก้ัดอายุ ความแก่ความหนุ่มด้วยครับ


อกาลิโก หมายถึงอะไรขอรับอาจารย์ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2014, 07:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แปะๆไปงั้นแหละ ไม่ได้คาดหวังอะไรว่าจะต้องเข้าใจ ตัดมา



ตัวสัมมาวายามะเองแท้ๆ ที่เป็นองค์มรรคนั้น เป็นคุณธรรมอยู่ภายในจิตใจของบุคคลก็จริง

แต่กระนั้นก็ตาม สัมมาวายามะจะทำหน้าที่ของมันได้ และจะเจริญงอกงามขึ้นได้ ย่อมต้องอาศัยความสัมพันธ์กับโลกภายนอก กล่าวคือ การวางท่าที ตอบสนอง และจัดการกับอารมณ์ ต่างๆ ที่รับรู้เข้ามา ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย บ้าง การแผ่ขยายความเพียรนั้นจากภายในจิตใจออกไปเป็นการกระทำ ความประพฤติ การดำเนินชีวิต และการประกอบกิจการต่างๆ บ้าง สภาพแวดล้อมภายนอกที่เอื้อ หรือไม่เอื้อ มีอิทธิพลต่อการประกอบความเพียร และความเจริญงอกงามของคุณธรรมภายใน ทั้งในทางเกื้อกูล และในทางขัดขวางบั่นรอน บ้าง



เฉพาะอย่างยิ่ง ความเพียรพยายามในการประพฤติปฏิบัติธรรม ชนิดที่ขยายออกเป็นการกระทำภายนอก และซึ่งกระทำกันอย่างเป็นงานเป็นการ ที่เรียกว่า “ปธาน” นั้น ต้องเกี่ยวข้องและอิงอาศัยปัจจัยแวดล้อมภายนอกเป็นอันมาก ทั้งปัจจัยแวดล้อมทางร่างกาย ทางธรรมชาติ และทางสังคม


ณ จุดหรือขั้นตอนนี้แหละ ที่พุทธธรรม กล่าวถึงบทบาท และความสำคัญของปัจจัยแวดล้อมภายนอกเหล่านั้น ต่อการสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีงาม และการเข้าถึงจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา


เพื่อให้เห็นตัวอย่างที่แสดงความคิดดังกล่าวแล้วนั้น ขอนำเอาพุทธพจน์ที่ตรัสเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้มาประกอบการพิจารณาสักเล็กน้อย


“ภิกษุทั้งหลาย คุณสมบัติของผู้บำเพ็ญเพียร (องค์ของผู้มีประธาน) มี ๕ อย่างเหล่านี้ ๕ อย่างคือ อะไร ? กล่าวคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้


๑. เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อตถาคตโพธิ ว่าแม้เพราะเหตุผลดังนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นอรหันต์ เป็นสัมมาสัมพุทธะ ฯลฯ เป็นผู้จำแนกแจกธรรม


๒. เป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคน้อย ประกอบด้วยไฟเผาผลาญ ที่สำหรับย่อยอาหารอันสม่ำเสมอ ไม่เย็นนัก ไม่ร้อนนัก พอปานกลาง เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียร


๓. เป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมายา เป็นผู้เปิดเผยตัวตามเป็นจริง ทั้งในพระศาสดา ทั้งในเพื่อนพรหมจารี ผู้เป็นวิญญู


๔. เป็นผู้ระดมความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรมให้ถึงพร้อม มีความเข้มแข็ง บากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย


๕.เป็นผู้มีปัญญา ประกอบด้วยปัญญาอย่างอริยะ ที่หยั่งถึงความเกิดขึ้นและความดับสลาย ชำแรกกิเลสได้ อันให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ”



“ภิกษุทั้งหลาย สมัยที่ไม่เหมาะสำหรับบำเพ็ญเพียร มี ๕ อย่างเหล่านี้ ๕ อย่างคือ อะไร ? กล่าวคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้


๑. เป็นผู้แก่เฒ่า ถูกชราครอบงำ

๒. เป็นผู้เจ็บไข้

๓. สมัยที่มีอาหารขาดแคลน ข้าวไม่ดี หาอาหารยาก ไม่สะดวกที่จะยังชีพด้วยการหาบิณฑบาต

๔. สมัยที่มีภัย มีความกำเริบวุ่นวายในป่าดง ชาวชนบทต่างพากันขึ้นยานพาหนะผันผายไป


๕.สมัยที่สงฆ์แตกแยกกัน เมื่อสงฆ์แตกแยกแล้ว ย่อมมีการด่าว่ากัน บริภาษกัน มีการใส่ร้าย และละทิ้งกันและกัน คนที่ยังไม่เลื่อมใส ก็ไม่เลื่อมใส คนบางคนที่เลื่อมใสแล้ว ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นอย่างอื่น



“ภิกษุทั้งหลาย สมัยที่ควรบำเพ็ญเพียร มีห้าอย่างเหล่านี้ ห้าอย่างคือ อะไร ? กล่าวคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้


๑. ภิกษุยังหนุ่ม ยังเยาว์ มีผมดำสนิท ประกอบด้วยวัยหนุ่มอันเจริญ เป็นปฐมวัย


๒. ภิกษุเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคน้อย ฯลฯ


๓. สมัยที่อาหารพร้อมดี ข้าวดี หาอาหารได้ง่าย สะดวกที่จะยังชีพด้วยการหาบิณฑบาต


๔. สมัยที่มนุษย์ (ประชาชน) ทั้งหลายพร้อมเพรียงกัน ชื่นชมต่อกัน ไม่วิวาทกัน เป็นเหมือนน้ำนมกับน้ำ มองดูกันด้วยสายตาประกอบด้วยความรัก


๕. สมัยที่สงฆ์พร้อมเพรียงกัน ชื่นชมกัน ไม่วิวาทกัน มีอุเทศร่วมเป็นอันเดียวกัน เป็นอยู่ผาสุก เมื่อสงฆ์พร้อมเพรียงกัน ก็ไม่มีการด่าว่ากัน ไม่บริภาษกัน ไม่ใส่ร้ายกัน ไม่ทอดทิ้งกัน คนที่ยังไม่เลื่อมใส ย่อมเลื่อมใส และคนที่เลื่อมใสแล้ว ย่อมเลื่อมใสยิ่งขึ้นไป”


http://group.wunjun.com/#!/whatisnippan ... 6378-22843

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2014, 12:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
การปฏิบัติธรรมเป็นอกาลิโก อันมีความหมายลึกกว่าที่เราคิด
ซึ่งก็รวมถึงการไม่จำก้ัดอายุ ความแก่ความหนุ่มด้วยครับ


อกาลิโก หมายถึงอะไรขอรับอาจารย์ :b10:

wink
อกาลิโก....ความหมายธรรมดา...ไม่เกี่ยวกับกาล เวลา

ความหมายโดยพิสดาร....ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ รู้ได้ เข้าถึงได้ โดยไม่เกี่ยวกับกาล เวลา สถานที่ บุคคล เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ วรระ ศาสนา ระดับการศึกษา เพศ วัย การแต่งกาย
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2014, 12:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
อ้างคำพูด:
แปะๆไปงั้นแหละ ไม่ได้คาดหวังอะไรว่าจะต้องเข้าใจ ตัดมา

:b12: :b12: :b12:
ก็อ่านๆไปยังงั้นแหละ ไม่คาดหวังอะไรกับนักวิชาการ ที่น้ำชาล้นถ้วยหกใส่ขาตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว
:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2014, 13:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

อ้างคำพูด:
แปะๆไปงั้นแหละ ไม่ได้คาดหวังอะไรว่าจะต้องเข้าใจ ตัดมา


ก็อ่านๆไปยังงั้นแหละ ไม่คาดหวังอะไรกับนักวิชาการ ที่น้ำชาล้นถ้วยหกใส่ขาตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว


อ่านแล้วเป็นไงมั่ง คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2014, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
การปฏิบัติธรรมเป็นอกาลิโก อันมีความหมายลึกกว่าที่เราคิด
ซึ่งก็รวมถึงการไม่จำก้ัดอายุ ความแก่ความหนุ่มด้วยครับ


อกาลิโก หมายถึงอะไรขอรับอาจารย์ :b10:

wink
อกาลิโก....ความหมายธรรมดา...ไม่เกี่ยวกับกาล เวลา

ความหมายโดยพิสดาร....ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ รู้ได้ เข้าถึงได้ โดยไม่เกี่ยวกับกาล เวลา สถานที่ บุคคล เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ วรระ ศาสนา ระดับการศึกษา เพศ วัย การแต่งกาย[/size]



ถามอาจารย์จริงๆนะ จากหัวใจเลยเอ้า ธรรมะที่อาจารย์คิดนึก มันอะไรกันแน่น่ะ เอาชัดๆ เห็นแต่ธรรมะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ธรรมะๆ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2014, 06:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
การปฏิบัติธรรมเป็นอกาลิโก อันมีความหมายลึกกว่าที่เราคิด
ซึ่งก็รวมถึงการไม่จำก้ัดอายุ ความแก่ความหนุ่มด้วยครับ


อกาลิโก หมายถึงอะไรขอรับอาจารย์ :b10:

wink
อกาลิโก....ความหมายธรรมดา...ไม่เกี่ยวกับกาล เวลา

ความหมายโดยพิสดาร....ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ รู้ได้ เข้าถึงได้ โดยไม่เกี่ยวกับกาล เวลา สถานที่ บุคคล เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ วรระ ศาสนา ระดับการศึกษา เพศ วัย การแต่งกาย[/size]



ถามอาจารย์จริงๆนะ จากหัวใจเลยเอ้า ธรรมะที่อาจารย์คิดนึก มันอะไรกันแน่น่ะ เอาชัดๆ เห็นแต่ธรรมะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ธรรมะๆ :b32:

:b53:
บทสวดธรรมคุณ 6 ประการนั่นไง ถ้าแปลถูกต้องในเชิงปฏิบัติ เขาเป็นทั้งคำถาม คำตอบเรื่องของธรรม โดยสมบูรณ์ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเบ็ดเสร็จครบถ้วนในบทเดียวนี้ทั้งหมด กรัชกายจับประเด็นและเข้าถึงความหมาายอันลึกซึ้งและยอดเยี่ยมของธรรมคุณ 6 ประการหรือยัง

ถ้าไม่ดื้อ อวดรู้อวดเก่งจนเกินไป ก็จะช่วยแจงให้เข้าใจอย่างซาบซึ้ง แต่น่าจะตั้งเป็นกระทู้ต่างหากโดยเฉพาะจึงจะชัดเจนและมีประโยชน์มาก

ที่สำคัญต้องตั้งใจฟัง ตั้งใจศึกษาด้วยความเคารพ จึงจะได้ของดี สิ่งดีๆ ที่ยอดเยี่ยมในธรรมคุณ 6 ประการไป

onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2014, 07:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
การปฏิบัติธรรมเป็นอกาลิโก อันมีความหมายลึกกว่าที่เราคิด
ซึ่งก็รวมถึงการไม่จำก้ัดอายุ ความแก่ความหนุ่มด้วยครับ


อกาลิโก หมายถึงอะไรขอรับอาจารย์ :b10:

wink
อกาลิโก....ความหมายธรรมดา...ไม่เกี่ยวกับกาล เวลา

ความหมายโดยพิสดาร....ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ รู้ได้ เข้าถึงได้ โดยไม่เกี่ยวกับกาล เวลา สถานที่ บุคคล เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ วรระ ศาสนา ระดับการศึกษา เพศ วัย การแต่งกาย[/size]



ถามอาจารย์จริงๆนะ จากหัวใจเลยเอ้า ธรรมะที่อาจารย์คิดนึก มันอะไรกันแน่น่ะ เอาชัดๆ เห็นแต่ธรรมะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ธรรมะๆ :b32:

:b53:
บทสวดธรรมคุณ 6 ประการนั่นไง ถ้าแปลถูกต้องในเชิงปฏิบัติ เขาเป็นทั้งคำถาม คำตอบเรื่องของธรรม โดยสมบูรณ์ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเบ็ดเสร็จครบถ้วนในบทเดียวนี้ทั้งหมด กรัชกายจับประเด็นและเข้าถึงความหมาายอันลึกซึ้งและยอดเยี่ยมของธรรมคุณ 6 ประการหรือยัง

ถ้าไม่ดื้อ อวดรู้อวดเก่งจนเกินไป ก็จะช่วยแจงให้เข้าใจอย่างซาบซึ้ง แต่น่าจะตั้งเป็นกระทู้ต่างหากโดยเฉพาะจึงจะชัดเจนและมีประโยชน์มาก

ที่สำคัญต้องตั้งใจฟัง ตั้งใจศึกษาด้วยความเคารพ จึงจะได้ของดี สิ่งดีๆ ที่ยอดเยี่ยมในธรรมคุณ 6 ประการไป



อ๋อๆๆ อยู่ที่บทสวดนี่เอง สุดยอดเลยอาจารย์ ถ้ายังงั้นก็พากันสวดมนต์ทำวัตร สวดอิติปิโสกันบ่อยๆหรือทุกๆวันเลยนะอาจารย์ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2014, 07:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
การปฏิบัติธรรมเป็นอกาลิโก อันมีความหมายลึกกว่าที่เราคิด
ซึ่งก็รวมถึงการไม่จำก้ัดอายุ ความแก่ความหนุ่มด้วยครับ


อกาลิโก หมายถึงอะไรขอรับอาจารย์ :b10:

wink
อกาลิโก....ความหมายธรรมดา...ไม่เกี่ยวกับกาล เวลา

ความหมายโดยพิสดาร....ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ รู้ได้ เข้าถึงได้ โดยไม่เกี่ยวกับกาล เวลา สถานที่ บุคคล เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ วรระ ศาสนา ระดับการศึกษา เพศ วัย การแต่งกาย[/size]



ถามอาจารย์จริงๆนะ จากหัวใจเลยเอ้า ธรรมะที่อาจารย์คิดนึก มันอะไรกันแน่น่ะ เอาชัดๆ เห็นแต่ธรรมะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ธรรมะๆ :b32:

:b53:
บทสวดธรรมคุณ 6 ประการนั่นไง ถ้าแปลถูกต้องในเชิงปฏิบัติ เขาเป็นทั้งคำถาม คำตอบเรื่องของธรรม โดยสมบูรณ์ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเบ็ดเสร็จครบถ้วนในบทเดียวนี้ทั้งหมด กรัชกายจับประเด็นและเข้าถึงความหมาายอันลึกซึ้งและยอดเยี่ยมของธรรมคุณ 6 ประการหรือยัง

ถ้าไม่ดื้อ อวดรู้อวดเก่งจนเกินไป ก็จะช่วยแจงให้เข้าใจอย่างซาบซึ้ง แต่น่าจะตั้งเป็นกระทู้ต่างหากโดยเฉพาะจึงจะชัดเจนและมีประโยชน์มาก

ที่สำคัญต้องตั้งใจฟัง ตั้งใจศึกษาด้วยความเคารพ จึงจะได้ของดี สิ่งดีๆ ที่ยอดเยี่ยมในธรรมคุณ 6 ประการไป



อ๋อๆๆ อยู่ที่บทสวดนี่เอง สุดยอดเลยอาจารย์ ถ้ายังงั้นก็พากันสวดมนต์ทำวัตร สวดอิติปิโสกันบ่อยๆหรือทุกๆวันเลยนะอาจารย์ :b1:

:b34:
โง่.......มาแสดงความไม่ฉลาดให้สาธารณะชนเห็นอีกแล้วกรัชกายนี่ สอนไม่รู้จักจำ

ไอ้การสวดมนต์เป็นนกแก้วนกขุนทอง โดยไม่สังเกต พิจารณา ไม่รู้ ไม่เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งในบทสวดมนต์นี่ สวดไปล้านชาติ ก็ไม่อาจเข้าถึงคุณประโยชน์ของบทสวดมนต์นั้นได้

อย่างบทสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณนี่ เป็นเคล็ดลับสำคัญสุดยอดที่พระบรมศาสดาและอรหันตสาวกท่านย่อความออกมาให้

พุทธคุณ เป็นตัวอย่างของผู้ได้รับผลอันเลิศจากการค้นพบธรรม

ธรรมคุณเป็นคำตอบและเคล็ดลับการปฏิบัติธรรมที่เฉียบแหลมและลึกซึ้งมากยิ่งนัก คนอวดรู้และมากมานะทิฏฐิจะไม่มีโอกาสได้รู้และเข้าถึงเคล็ดลับอันนี้เลย

สังฆคุณ เป็นเครื่องมือตรวจสอบพระแท้พระปลอม และประกาศกิตตุคุณของพระสงฆ์ รับรองคุณภาพของศิษย์ที่แท้ของพระพุทธเจ้า

:b8: :b8: :b8:
อย่าทำเป็นเล่นหรือพูดพล่อยๆโดยไม่คิดกับบทสวดคุณของพระรัตนตรัยทั้ง 3 นะ กรัชกาย ตกนรกทั้งเป็นทันทีเลยนะ ระวัง
:b34: :b34: :b34: :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2014, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

โง่.......มาแสดงความไม่ฉลาดให้สาธารณะชนเห็นอีกแล้วกรัชกายนี่ สอนไม่รู้จักจำ

ไอ้การสวดมนต์เป็นนกแก้วนกขุนทอง โดยไม่สังเกต พิจารณา ไม่รู้ ไม่เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งในบทสวดมนต์นี่ สวดไปล้านชาติ ก็ไม่อาจเข้าถึงคุณประโยชน์ของบทสวดมนต์นั้นได้

อย่างบทสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณนี่ เป็นเคล็ดลับสำคัญสุดยอดที่พระบรมศาสดาและอรหันตสาวกท่านย่อความออกมาให้

พุทธคุณ เป็นตัวอย่างของผู้ได้รับผลอันเลิศจากการค้นพบธรรม

ธรรมคุณเป็นคำตอบและเคล็ดลับการปฏิบัติธรรมที่เฉียบแหลมและลึกซึ้งมากยิ่งนัก คนอวดรู้และมากมานะทิฏฐิจะไม่มีโอกาสได้รู้และเข้าถึงเคล็ดลับอันนี้เลย

สังฆคุณ เป็นเครื่องมือตรวจสอบพระแท้พระปลอม และประกาศกิตตุคุณของพระสงฆ์ รับรองคุณภาพของศิษย์ที่แท้ของพระพุทธเจ้า

อย่าทำเป็นเล่นหรือพูดพล่อยๆโดยไม่คิดกับบทสวดคุณของพระรัตนตรัยทั้ง 3 นะ กรัชกาย ตกนรกทั้งเป็นทันทีเลยนะ ระวัง



อ้างคำพูด:
ไอ้การสวดมนต์เป็นนกแก้วนกขุนทอง โดยไม่สังเกต พิจารณา ไม่รู้ ไม่เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งในบทสวดมนต์นี่ สวดไปล้านชาติ ก็ไม่อาจเข้าถึงคุณประโยชน์ของบทสวดมนต์นั้นได้


อาจารย์ลองบอกสิ สวดยังไง จึงได้ผลในชาตินี้ชาติเดียวน่ะ :b1: เอาเลยเอ้า

1.

2.

3.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 925 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 58, 59, 60, 61, 62  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร