วันเวลาปัจจุบัน 20 มิ.ย. 2025, 06:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 15:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


จงหลีกเลี่ยงชายหญิงที่มีลักษณะดังนี้

เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์มีอาการครบ 32 ประการแล้ว
จงหลีกเลี่ยงหญิงชายที่มีลักษณะต้องห้าม 9 ประการดังนี้


1. หญิงชาย มีปกติโหดร้าย ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เบียดเบียนผู้อื่นให้ได้รับความเดือดร้อน มีนิสัยชอบมุ่งร้ายทำลายผู้อื่นหญิงชายประเภทนี้มีจิตใจเร่าร้อน กระวนกระวายคล้ายไฟสุ่มขอน เพราะจิตใจขาดความเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์และขาดน้ำจิตน้ำใจต่อบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

2. หญิงชายใด มีปกติลบหลู่ดูหมิ่นญาติสนิทมิตรสหายและเพื่อนร่วมงาน มีนิสัยชอบยกตนข่มท่านเหนือกว่าผู้อื่นอยู่เสมอ และชอบดูถูกดูแคลนให้ผู้อื่นเจ็บช้ำน้ำใจอยู่เป็นประจำ หญิงชายประเภทนี้มีจิตใจเย่อหยิ่งจองหองพองขน เพราะจิตใจขาดความอ่อนน้อมถ่อมตนและความกตัญญูกตเวทีต่อบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

3. หญิงชายใด มีปกติอิจฉาริษยา เห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตนทนอยู่ไม่ได้ มีนิสัยอิจฉาตาร้อนมักนอนไม่หลับ จงเกลียดจงชังหมั่นไส้คนอื่นที่ดีกว่าตนเอง หญิงชายประเภทนี้มีจิตใจบกพร่องไม่อยากให้ใครได้ดีเกินหน้า แรงริษยานี้เป็นเหตุทำให้โลกฉิบหาย เพราะจิตใจขาดความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี เรียกว่าขาดมุทิตาพรหมวิหารต่อบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

4. หญิงชายใด มีปกติตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เคยแม้จะบริจาคทรัพย์สินเงินทองช่วยเหลือผู้อื่น ทำตัวเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์หญิงชายประเภทนี้จิตใจคับแคบ ชอบเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว นิดหน่อยก็ไม่ยอมเสีย เข้าตำราขี้ไม่ให้หมากิน เพราะจิตใจขาดการทำบุญสุนทรทานและขาดสงเคราะห์อนุเคราะห์ต่อบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

5. หญิงชายใด มีปกติเจ้าเล่ห์มายา ต่อหน้าเป็นมะพลับ ลับหลังเป็นตะโกน หน้าไหว้หลังหลอก หญิงชายประเภทนี้จิตใจที่มีเล่ห์เพทุบายแพรวพราว เพื่อล่อลวงให้ผู้อื่นเห็นผิดจากสภาพที่เป็นจริงก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมเพราะจิตใจขาดสัจจะความจริงใจต่อตนเองและต่อบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

6. หญิงชายใด มีปกติมักอวด ชอบคุยโม้ คุยโตว่าตัวเองเป็นผู้ที่วิเศษกว่าผู้อื่น และชอบโอ้อวดว่าเส้นใหญ่สามารถจะทำกิจการใดๆ ให้สำเร็จทุกอย่าง จะทำได้หรือไม่ได้ก็ขอคุยโม้โอ้อวดไว้ก่อน หญิงชายประเภทนี้ มีจิตใจจองหองพองขนเหมือนกิ้งก่าได้ทอง เพราะจิตใจขาดความพอดีและจริงใจต่อตนเองและบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

7. หญิงชายใด มีปกติโกหกหลอกลวง ยุยงส่งเสริมให้เกิดความบาดหมางกันและกัน หรือชอบพูดเยาะเย้ย เสียดสีเหลวไหลไร้สาระไม่รู้จักกาลเทศะ หญิงชายประเภทนี้ มีจิตใจชอบเห็นผู้อื่นทะเลาะกัน ทำนองปากปราศัย น้ำใจเชือดคอพูดจาในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์มีแต่โทษ เพราะจิตใจขาดสัจจะวาจาและความจริงใจต่อตนเองและบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

8. หญิงชายใด มีปกติปรารถนาลามก จิตใจหมกหมุ่นงุ่นง่านอยู่แต่ในเรื่องความรักความใคร่ หลงใหลอยู่ในกามารมณ์ มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่ยั่วยวนจิตใจ หญิงชายประเภทนี้ มีจิตใจเร่าร้อน กระวนกระวาย เพราะจิตใจขาดความสำรวมระวังและเข้าใจผิดเกี่ยวกับสรีระร่างกายของตนเองและบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

9. หญิงชายใด มีปกติเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม เห็นว่าทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป พ่อแม่ไม่มีบุญคุณจึงไม่ต้องตอบแทนพระคุณ หญิงชายประเภทนี้ มีจิตใจที่บอดสนิท เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นชั่วเป็นดี เพราะจิตใจขาดความเห็นที่ถูกต้องตามหลักธรรม ต้องอาศัยปัญญาเป็นแสงสว่างนำทางชีวิต เพื่อพิชิตความเห็นผิด ทำผิดให้หมดไปจากตนเองและบุคคลอื่นที่คบหาสมาคม

ลักษณะหญิงชายที่พึ่งหลีกเลี่ยงทั้ง 9 ประการนี้ ตามหลักพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นมลทินหรือสนิมของใจ เป็นสัญชาตญาณฝ่ายต่ำทำให้จิตใจมัวหมองไม่ผ่องใส กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นไฟ หาความสงบสุขในชีวิตจิตใจไม่ได้เหมือนตกนรกทั้งเป็น จึงควรที่จะขจัดปัดเป่ามลทินหรือสนิมของใจให้ลดน้อยถอยลง และพยายามป้องกันมิให้เกิดขึ้นในกมลสันดานชีวิตจะมีความสุข สังคมจะร่มเย็น บ้านเมืองจะเป็นเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

พระคาถายูงทอง (ป้องกันอันตราย) ของหลวงปู่มั่น
โมระปะริตตัง (คาถายูงทอง)


อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง
เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนา ฯ
อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง
เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ฯ

นะมัตถุ พุทธานัง : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
นะมัตถุ โพธิยา : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่พระโพธิญาณ
นะโม วิมุตตานัง : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
นะโม วิมุตติยา : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่วิมุตติธรรม
๑. พระอาทิตย์ เป็นดวงตาของโลก ป็นเอกราชา มีสีดั่งสีทอง
ยังพื้นปฐพีให้สว่างอุทัยขึ้นมา เพราะเหตุนั้น
ข้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์นั้นซึ่งมีสีดั่งสีทอง ยังพื้นปฐพีให้สว่าง
ข้าพเจ้าทั้งหลายอันท่านปกครองแล้วในวันนี้
พึงอยู่เป็นสุขตลอดวัน

๒. พราหมณ์ทั้งหลายเหล่าใด ผู้ถึงเวทในธรรมทั้งปวง
พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรับความนอบน้อมของข้าฯ
อนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรักษาข้าพเจ้า
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีแด่พระโพธิญาณ
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรม
นกยูงนั้นได้กระทำพระปริตรบทนี้แล้ว จึงเที่ยวไปเพื่อแสวงหาอาหาร

๓ . พระอาทิตย์ เป็นดวงตาของโลก ป็นเอกราชา มีสีดั่งสีทอง
ยังพื้นปฐพีให้สว่าง ย่อมอัสดงคตไป เพราะเหตุนั้น
ข้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์นั้นซึ่งมีสีดั่งสีทอง ยังพื้นปฐพีให้สว่าง
ข้าพเจ้าทั้งหลายอันท่านปกครองแล้วในวันนี้
พึงอยู่เป็นสุขตลอดคืน

๔ . พราหมณ์ทั้งหลายเหล่าใด ผู้ถึงเวทในธรรมทั้งปวง
พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรับความนอบน้อมของข้าพเจ้า
อนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรักษาข้าพเจ้า
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีแด่พระโพธิญาณ
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรม
นกยูงนั้นได้กระทำพระปริตรบทนี้แล้ว จึงสำเร็จความอยู่แลฯ

ตำนาโมระปริตร : มนต์คาถาของนกยูงทอง

พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นนกยูง มีขนสีเหลืองเหมือนทอง จึงมีชื่อว่านกยูงทอง อาศัยอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ตามปรกตินกยูงทอง พอถึงเวลาเช้าก็จะไปจับบนยอดภูเขา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันออก แลดูดงอาทิตย์ที่แรกขึ้น แล้วเจริญมนต์ว่า อุเทตะยัญจักขุมา เอกราชา เป็นต้น ซึ่งมีความหมายว่า พระอาทิตย์เป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเหมือนทอง ส่องพื้นภิภพให้สว่าง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการพระอาทิตย์ ขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าให้เป็นสุขตลอดวัน ข้าพเจ้าขอมนัสการผู้รู้ธรรม ขอให้รักษาข้าพเจ้า ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีแด่พระโพธิญาณ จงมีแด่ท่านผู้พ้นทุกข์ ดังนี้ พอเจริญมนต์เสณ้จแล้วก็ไปหาอาหาร การเจริญมนต์ของนกยูงทองตอนนี้ เพื่อคุ้มครองป้องกันในเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นกลับมาจากหาอาหารแล้วก็ขึ้นไปจับบนยอดเขา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันตก แลดูดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตก เจริญมนต์ว่า อะเปตะยัญจักขุมา เอกราชา เป็นต้น ซึ่งมีใจความว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์อันเป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเหมือนทอง กำลังจะตกไปแล้ว ขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าให้เป็นสุขตลอดคืน เป็นต้น การเจริญมนต์ของนกยูงตอนนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันตนในเวลากลางคืน จริยาวัตรดังกล่าวนี่ นกยูงได้ทำเป็นเนืองนิตย์ทุกวันทุกคืน จึงอยุ่เป็นสุขปราศจากอันตรายตลอดมา

อยู่มาวันหนึ่ง พระนางเขมาอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ทรงสุบินเห็นนกยูงทองแสดงธรรมให้ฟังอย่างไพเราะจับใจ ครั้นตื่นขึ้นก็กราบทูลพระราชาสวามี และทูลประสงค์จะฟังธรรม ของนกยูงทองที่ทรงสุบินนั้น พระราชสามีเที่ยวสืบถามเหล่าพรานไพรก็ทรงทราบจากลูกชายของพรานคนหนึ่งซึ่งพ่อของเขาได้บอกว่าก่อนตายว่า มีนกยูงสีทองตัวหนึ่งอาศัยที่ภูเขาโน้น จึงสั่งให้จับมาถวาย แต่อย่าทำให้ถึงตาย พรานไพรก็เอาบ่วงไปดักในที่ที่นกยูงทองเที่ยวหากิน เมื่อยกยูงทองเหยียบที่บ่วง บ่วงไม่สามารถทำอะไรนกยูงทองได้ ด้วยอำนาจมนต์ที่นกยูงทองเจริญอยู่เป็นนิตย์ นายพรานพยายามดักอยู่ถึงเจ็ดปีก็จับไม่ได้จนตัวตาย พระนางเขมาราชเทวเมื่อไม่ได้สมความปรารถนาก็เศร้าโศกซูบผอมตรอมพระทัยจนสิ้นพระชนม์ พระราชาพิโรธเป็นกำลังที่มเหสีต้องสิ้นพระชนม์ลงเพราะนกยูงทอง จึงทรงจองเวร ให้อาลักษณ์จารึกหนังสือไว้บนแผ่นทองว่า มีนกยูงทองตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนภูเขา ถ้าใครได้กินเนื้อนกยูงทองตัวนี้จะอายุยืนไม่แก่ตาย จารึกแล้วบรรจุแผ่นทองลงในหีบเพื่อคนภายหลังจะได้อ่าน ต่อมาพระราชาก็สวรรคต

พระราชาองค์ต่อมาผู้สืบสันตติวงศ์ทรงอ่านแผ่นทองนั้น สำคัญว่าเป็นจริงจึงสั่งให้พรานไปดักจับก็ไม่สมพระราชประสงค์ จนคราวหนึ่งพรานคนหนึ่งสังเกตุว่า ทำไมหนอบ่วงจึงไม่รูดรัดเท้านกยูงทองตัวนี้ เมื่อสะกดรอยดูก็เห็นนกยูงทอเจริญมนต์ทุกเชาทุกเย็น จึแน่ใจว่าเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้นกยูงทองไม่ติดบ่วง นายพรานคิดอุบายขึ้นมาได้จึงไปจับนางนกยูงตัวหนึ่งมาฝึกให้รู้อาณัติสัญญาณ เช่นดีดนิ้วมือนกยูงก็ร้อง ถ้าปรบมือนางนกยูงก็ฟ้อนรำ เมื่อฝึกสอนจนชำนาญแล้ว จึงอุ้มนางนกยูงไปแต่มืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แล้วดักบ่วงไว้ก่อนที่นกยูงทองจะเจริญมนต์ พอเสร็จดีดนิ้วมือขึ้น นางนกยูงจึงส่งเสียงด้วยสำเนียงไพเราะจำใจพอนกยูงทองได้ยิเสียงร้องของนางนกยูง ก็รุ่มร้อนด้วยอำนาจกิเลสลืมเจริญมนต์รีบโผบินไปยังที่นางนกยูงอยู่ พอโผบินลงจากอากาศเท้าก็สอดเข้าในบ่วง นายพรานจึงนำนกยูงทองไปถวายพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินทรงพอพระราชหฤทัยมากที่จะได้เสวยเนื้อนกยูงทอง จะได้ไม่แก่ตายตามคำจารึกนั้น แต่ก่อนจะเสวยจึงใครจะสนทนากับนกยูงทองเสียก่อน จึงจัดที่ให้นกยูงทองจับ เมื่อนกยูงทองจับที่นั้นแล้ว จึงทรงทูลถามที่เหตุที่ทรงดักจับได้ พระเจ้าแผ่นดินก็ตรัสเล่าให้ตามที่ปรากฎในจารึกนั้น นกยูงทองจึงทูลว่า ทำไมพระองค์จึงเชื่อดังนั้น ถ้าเนื้อของข้าพเจ้าวิเศษจริงถึงกับทำให้คกินไม่แก่ไม่ตายจริง แต่นี่ไม่เป็นเช่นนั้น แม้ข้าพเจ้ายังต้องตาย ไฉนผู้กินเนื้อข้าพเจ้าจะไม่ตายเล่า ขอพระองค์ได้เชื่อตามนั้นเลย กรรมหนักจะตกแก่พระองค์ แล้วนกยูงทองก็แสดงอานิสงส์ของการไม่เบียดเบียนสัตว์ จนพระเจ้าแผ่นดินทรงเลื่อมใส รับใส่ให้ปล่อยนกยูงทองไป แล้วออกหมายประกาศไม่ให้ผู้ใดทำร้ายสัตว์ทุกชนิดในพระราชอาณาเขตของพระองค์ มนต์บทนี้ถือกันว่า ทำให้แคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งปวงฯ

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ย. 2005, 15:24
โพสต์: 179


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุ...อนุโมทนา ครับ คุณบุญชัย

.....................................................
คำพูดเพียงน้อยนิดอาจเปลี่ยนชีวิตของคนได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2008, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


ครับท่านริ้ว :b12: :b31:

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2008, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ย. 2008, 11:39
โพสต์: 316

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b17: อนุโมทนาสาธุคับ :b4:

.....................................................
คิดดี พูดดี ทำดี มองเเต่ดีเถิด...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2008, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b20: 555555

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 18:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2008, 19:46
โพสต์: 34

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b4: :b41: :b47:

.....................................................
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 21:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ต.ค. 2008, 14:05
โพสต์: 54


 ข้อมูลส่วนตัว


สุดยอดครับคุณบุญชัย จะจำไว้ :b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2008, 00:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 เม.ย. 2008, 07:43
โพสต์: 567

ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: :b8:

.....................................................
!!@ ธรรมะไม่กลับมา โลกาจะวินาศ มวลมนุยษ์จะลำบาก คนบาปจะครองเมื่อง @!! คำของท่านพุทธทาส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2008, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ธ.ค. 2008, 13:10
โพสต์: 43


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ได้อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2009, 00:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
สวัสดีค่ะท่านบุญชัย อนุโมทนากับเนื้อหาที่นำมาให้อ่านด้วยค่ะ

.... บทสวดมนต์ที่ผู้เกิดวันอาทิตย์ มักจะได้รับแนะนำให้สวดเสมอๆ...

สาธุค่ะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2009, 01:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ม.ค. 2009, 19:04
โพสต์: 21


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาด้วยค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2009, 09:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


เรียน ทีมงาน และท่านทั้งหลาย
กระทู้ที่ผู้ใช้ชื่อว่า "บุญชัย" เขียนมานั้น ท่านทั้งหลายไม่มีความรู้สึกว่า มันเป็นกระทู้ของคนปัญญาต่ำ จิตใจทราม คิดยุยงให้ประชาชนแตกแยกสามัคคี กันบ้างหรือ ในสังคมของโลก ล้วนมีพฤติกรรม และการกระทำ ตามความจำเป็นในการดำรงชีพ ไม่ใช่เรื่องที่จะมายุยงให้เกิดความเกลียดชัง หรือรังเกียจ
แม้แต่บิดามารดาของผู้ที่เขียนกระทู้ ก็ยังมีพฤติกรรมดังที่เขาได้กล่าวไป ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาผู้ได้เขียนกระทู้เลวๆ ขึ้นมา ย่อมแสดงให้เห็นถึงความอกตัญญู ไม่รู้จักคุณบิดามารดาของมันเลย เพราะบิดามารดาของมัน ก็ย่อมมีพฤติกรรมดังทึ่มันได้เขียนกล่าวไป ไม่มากก็น้อย เพราะมันเป็นการดำรงชีวิตในสังคม โดยส่วนใหญ่บุคคลจะมีพฤติกรรม โดยมิได้ตั้งใจ หรือมิได้มีจิตใจบาปหยาบช้า ดังที่เขาผู้ใช้ชื่อว่า "บุญชัย" กล่าวมา
โปรดได้พิจารณา และอย่าได้คิดว่า ข้าพเจ้ามีจิตส่อไปในทางคนพาล ข้าพเจ้าอ่านดูแล้ว คิดอีก 8 ตลบ มันก็เป็นการยุยง ให้ประชาชน คนทั้งหลาย แตกแยกความสามัคคี ของคนในชาติ
เลวทรามมาก......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2009, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ บุดด้าก็พูดเกินไป แรงด้วย

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2009, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมคุณบุดดาแกถึงเดือดอะไรขนาดนั้นนะคัีบ
ผมว่ากระทู้เขาก็พูดไปอย่างปกติธรรมดาของโลก

แถมไปด่าพอ่แม่เขาอีก อูย
แร๊งงงงง!!
:b5:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2009, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นั่นดิ... เป็นงง
:b6: :b6: :b6:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron