ถึงได้ปล่อยให้คุณพลศักดิ์ทำอย่างที่ทำๆ อยู่

ผมเข้าใจว่านี่คือเว็บเผยแผ่พระธรรม
ที่หมายถึงโดยเฉพาะเจาะจง กับ... "ธรรมะของพระพุทธเจ้า"
เป็นเว็บเผยแผ่ธรรมะใดๆ ที่ไม่ขัดแย้งสวนกระแสกับพระไตรปิฏก

ผมคิดว่าไม่ต้องใช้สติปัญญาอะไรมากมายก็คงพอจะจำแนกแยกแยะออกได้ว่า
ที่คุณพลศักดิ์พยามพูดอยู่นี้คือศาสนาพุทธหรือไม่
มันขัดแย้งสวนกระแสพระพุทธศาสนาอย่างไร
เป็นการเผยแผ่หรือแปรรูป

ผมอยากทราบว่าเว็บนี้มีจุดยืนยังไงกันแน่ครับ
ผมจะได้วางตัวถูก

เพิ่งเป็นสมาชิกชนิดบัวไม่ติดดาวอยู่ ... ก็รอดูอยู่ว่าเขาจะพาไปไหน...

จุดยืนหลักตั้งแต่ริเริ่มสร้างเว็บ จนถึงปัจจุบันคือ "การเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา"


...
ส่วนความคิดเห็นของคุณพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ที่นำความรู้ทางด้านศาสนาต่างๆ มาผสมปนกันตามความเข้าใจของตัวเอง หรือจะเรียกให้ถูกต้องคือ "สัทธรรมปฏิรูป" (ซึ่งความคิดเห็นทำนองจะมีมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เป็นแบบแผน) จนมองว่าความคิดเห็นอาจจะขัดเยี่ยงกับความรู้ความเข้าใจทางด้านศาสนาพุทธที่มีดังเดิมของเรา จนมองว่าเป็นอันตรายต่อผู้ที่ไม่เข้าใจหรือไม่มีความรู้ทางด้านหลักทางด้านศาสนาพุทธ พอที่จะตัดสินใจว่าอะไรถูกต้อง หรือผิดเพี้ยนไปจากของเดิม

ที่จริงแล้วทางทีมงานก็ไม่ได้นิ่งเฉย แต่ด้วยว่าไม่มีเวลามานั่งตรวจสอบหรืออ่านได้ทุกข้อความ จึงต้องอาศัยว่ามีสมาชิกแจ้งเข้ามาจึงเข้าไปตรวจสอบ

จึงขอเรียนให้ท่านสมาชิก และคุณคามินธรรม ทราบว่าทางเรายังยึดจุดยืนว่าด้วยการส่งเสริมและเผยแผ่หลักคำสอนทางศาสนาพุทธ หรือแม้ว่าจะเป็นคำสอนปฏิรูป แต่ขอให้เป็นสัมมาทิฏฐิ ตรงตามแนวทางคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ผิดเพี้ยนไม่หลงทาง

ส่วนสำหรับท่านที่กรุณาได้นำความคิดเห็นต่างๆ มาเผยแผ่ในเว็บบอร์ดธรรมจักร แห่งนี้ ถ้าทางทีมงานหรือสมาชิกพิจารณาเห็นว่าขัดต่อคำสอนทางศาสนาพุทธ อันจะนำให้บุคคลอื่นเข้าใจคำสอนที่ผิดเพี้ยนไป แม้ว่าท่านจะมีเจตนาบริสุทธิ์หวังดีเพียงไร ทางทีมงานต้องขอพิจารณาลบข้อความนั้นๆ จนถึงพิจารณาการแบนชื่อสมาชิกท่านนั้นๆ ตามแต่สมควรในโอกาสต่อไป

จึงขอเรียนให้สมาชิกทุกท่านทราบโดยทั่วถึงกัน
admin/ทีมงาน

.....................................
ปล. พึงจะเปลี่ยนแปลง style หรือรูปแบบหน้าตาบอร์ดใหม่
เนื่องจากระบบ style ที่ใช้ก่อนหน้านี้นั้นค่อนข้างจะโหลดช้า อืด
รูปทรงอาจจะแตกต่างไปบ้าง แต่คงยังรักษาเอกลักษณ์เดิมอยู่
จึงแจ้งมาให้ทราบ เดี๋ยวจะโดนข้อหาว่าไม่มีจุดยืนอีก
แต่ถ้าเน็ตโหลดเร็ว และยังชื่นชอบแบบเดิมอยู่ ก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่เมนู "ตั้งค่าส่วนตัว"
viewtopic.php?f=1&t=18294&p=85889#p85889

ใจเย็นๆ ค่ะ คุณน้องคามินธรรม

ถ้าคุณพลศักด์โดนแบน ก็จะถูกคุณพลศักดิ์พูดว่า มารสิงใจ

เว็บมาสเตอร์เพื่อไม่ให้เขา เผยแพร่คำสอนที่แท้จริง

ของพระพุทธเจ้า อีกหรอก อีกอย่างถึงแบนก็ไม่ประโยชน์

เพราะเดี๋ยวเขาก็กลับมา ไม่เป็นไรครับแต่ละคนที่อยู่ในเว็บนี้ก็ยังไม่บรรลุธรรม

อ่านแล้วค่อยใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลเอาละกัน

แต่อาจมีคำเตือนในการอ่านเนื้อหาหน่อย

ผมอ่านแล้วเข้าใจท่าน คามินธรรม และท่าน admin ครับ

สำหรับผมเห็นด้วยกับความคิดของท่าน admin ที่ว่าสนับสนุนส่งเสริมให้เผยแพร่คำสอนของศาสนาพุทธเถรวาท แต่ก็มีส่วนที่เห็นผิดแผกไปจากท่าน admin อยู่อีกประการหนึ่ง คือ ผมคิดเห็นว่าในแง่ของการลบความเห็นของผู้ที่นำคำสอนแบบสัจธรรมปฏิรูปเข้ามาเผยแผ่อันนี้ไม่เห็นด้วยเท่าไรครับ เพราะเนื่องจากว่า...

หากเราให้ผู้ที่มีคำสอนแบบสัจธรรมปฏิรูปเข้ามาเผยแผ่บ้างย่อมจะทำให้เราได้รู้ว่าตอนนี้คำสอนของพระพุทธเจ้าได้ถูกตีความออกนอกของเดิมไปมากน้อยเพียงไรแล้ว จะได้ช่วยกันแก้ไขหรือปรับสัจธรรมให้มาในทางที่ถูกที่ควรได้ต่อไป หากเราไปลบข้อความเขาออกจะมองว่าเป็นการหลบหนี หรือปิดกั้นไปเลย บัณฑิตไม่ควรทำอย่างนั้นครับ...

เพราะคนที่เผยแผ่เองย่อมจะคิดไปได้ว่าเป็นการรินรอนสิทธิเสรีภาพ และยังคิดไปได้ว่าไม่มีใครรู้จริงเท่าเขา เขารู้จริง แล้วก็ยังหลงต่อไปอีก เป็นการตอกย้ำให้เขาเป็นมิจฉาทิฐิต่อไป เป็นการกระทำที่ไม่เมตตากรุณาเท่าที่ควร เหมือนปล่อยผู้เห็นผิดลอยแพไป ตัดหางปล่อยวัดไปเลย

แต่หากเราใช้การให้เขามาเผยแผ่นั่นแหละ แต่ก็ให้สมาชิกหรือผู้ดูแลลงเครื่องหมายไปว่า "ตกใจ" หรือ "ถูกผิด" หรือ "สัจธรรมปฏิรูป" ย่อมจะเข้าใจได้ง่ายกว่า จะได้ให้บัณฑิตหรือผู้รู้เข้ามาช่วยกันว่าท่านผิดหรือถูกอย่างไร เพื่อเขาจะได้ไม่หลงผิดต่อไปในปัจจุบัน หรือเผื่อที่วันใดวันหนึ่งเขาจะได้กลับมาเป็นสัจธรรมที่ถูกที่ควรต่อไปในอนาคตได้ เพราะพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเอาไว้ว่าสัจธรรมของพระองค์ย่อมคงทนต่อการพิสูจน์ เราเองควรจะมีเมตตาช่วยกันแก้ไขปรับมิจฉาทิฐิให้ผู้ที่เห็นผิดให้มาเห็นถูก ดั่งในสมัยพุทธกาลที่ช่วยกันปรับความคิดเห็นของผู้นับถือศาสนาอื่น หรือที่ปราชญ์ศาสนาอื่นเข้ามาลองภูมิ หรือที่พระสารีบุตรปรับความเห็นของภิกษุบางรูปที่หลงคิดว่าตนรู้ทั่วในธรรมของพระพุทธเจ้า หรือหลงคิดไปว่าพระอรหันต์ตายแล้วสูญ...

ถึงแม้วิธีนี้จะเป็นอะไรที่ยากสักหน่อย แต่จะคุ้มค่า และเหมาะควรกับบัญฑิตมากกว่าการไปลบ การกระทำมากกว่าการปิดกั้นครับ และผมคิดว่าคนอ่านเองย่อมจะมีวิจารญาณได้ หรือแม้ตอนแรกอาจจะหลงเชื่อไป แต่พอได้อ่านความรู้อันแท้จริงจากผู้รู้จริงมาช่วยแก้ เขาก็จะรู้ว่าแท้จริงไม่ใช่นะเพราะอะไร เวลาเขาไปเจอความคิดแบบเดียวกันนี้ที่ไหนเขาก็แก้ได้ จึงทำให้สัจธรรมปฏิรูปแพ้ไปในทุกที่ครับ

ผู้เผยแผ่สัจธรรมปฏิรูป เขาย่อมแพ้ภัยตนเอง หรือย่อมต้องจนต่อผู้ที่รู้จริงๆ เข้าถึงจริงๆ เป็นบัณฑิตอยู่วันยังค่ำครับ แต่หากเรายังชี้แจ้งให้เขาเห็นว่าผิดอย่างไรไม่ได้ หรือปรับความเห็นของเขาไม่ได้ว่าเขาสัจธรรมปฏิรูปอย่างไร เห็นผิดอย่างไร ถูกอย่างไร ก็มิควรไปกล่าวว่าเขาเป็นสัจธรรมปฏิรูป หรือไปลบความคิดเห็นของเขาเพียงแค่เขาเห็นต่างจากเราครับ

ขอให้นำไปพิจารณาดูนะครับ

ขอแสดงความคิดเห็นค่ะ

เท่าที่ดูตามบอร์ด จะมีทั้งคนที่ถามคำถามทางโลกและคนที่ถามคำถามทางธรรม ตัวเองก็เคยบวชในวัดปฏิบัติสมาธิมาก่อน ดังนั้นจึงคิดว่าบางกระทู้เช่น ทำนองรักใคร่ ถ้าตอบแบบหลักพุทธศาสนาเพียวๆ คงไม่ตรงกับสภาวะอารมณ์และวัตถุประสงค์ของผู้ถามแน่ เพราะอ่านกระทู้ก็พอเดาได้ว่าเขาต้องการแบบไหน ลึกซึ้งแค่ไหน เพราะปถุชนยังไม่สามารถละสิ่งที่ตนยึดได้ง่าย คิดว่าสัจธรรมปฏิรูปจะเข้าถึงสภาวะทางอารมณ์ของปถุชนได้ง่ายกว่า เพราะเป็นสิ่งใกล้ตัว เห็นผลได้เร็วกว่า จะให้แสดงความคิดเห็นทางธรรมะล้วนๆ ซึ่งอันนี้เหมาะกับผู้ตั้งกระทู้ที่ปฏิบัติธรรมะลึกซึ้งในระดับหนึ่ง คนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าธรรมะจะเป็นที่พึ่งในการแก้ไขข้อข้องใจในเบื้องต้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องละทิ้งสิ่งที่เขายึดเพื่อไปบวช หรือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ เท่าที่อ่านมาส่วนใหญ่จะนั่งสมาธิ แผ่เมตตา อ่านธรรมะก็เพื่อคลายทุกข์ในปัจจุบันมากกว่าที่มุ่งจะหลุดพ้น

ส่วนตัวเองไม่เคยทราบมาก่อนว่า วัตถุประสงค์ของเว็ปนี้มุ่งไปในทิศทางที่จะธรรมเพียวๆ หรือสัจธรรมปฏิรูป หรือจะไปพร้อมๆ กันมากน้อยแค่ไหน คิดว่าถ้าเว็ปนี้ต้องการส่วนร่วมของฆราวาสก็ควรจะไปในอย่างหลังมากกว่า บังเอิญเจอกระทู้นี้เลยทำให้ฉุกใจขึ้นมาว่า เรากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่หรือเปล่า?

เอ๊ะ....ผมว่าเกือบทุกเรื่องที่ผมนำมาลงเป็นข้อความในพระไตรปิฎก
ของเถรวาท และปิฎกของมหายานนะครับ

อย่ากล่าวหาผมลอยๆอย่างนั้นซิครับ ไม่ดีเลย ผมยกพุทธพจน์และพระไตรปิฎกมาอ้างอิงทุกครั้ง
ส่วนคนโต้ผมไม่เคยยกข้อความหรืออ้างอิงพระไตรปิฎกเลย

ได้โปรดเมตตากรุณานำกระทู้ที่คุณคามินธรรมเห็นว่า ผมเผย
แผ่ธรรมะที่ขัดแย้งกับพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก
หรือปิฎกมหายานมาลงสักเรื่องหนึ่งเถอะครับ

ได้โปรดเถอะ....การที่ท่านพูดว่า ผมเผยแผ่ธรรมะใดๆ ที่ไม่ขัดแย้งสวนกระแสกับพระไตรปิฏก มันสวน
กับข้อเท็จจริงนะครับ

แปลกนะ.....คนที่ทำ"สัทธรรมปฏิรูป" มีมิจฉาทิฏฐิ กล่าวหาคนที่มีสัมมาทิฏฐิ นำพระ"สัทธรรม"
ของแท้ของพระพุทธเจ้ามาลง เป็น "สัทธรรมปฏิรูป" ไป

เช่นเดียวกับคนที่บอกว่าโลกแบน เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ กลับไปกล่าวหาคนที่มีสัมมาทิฏฐิ กล้าบอกว่า
โลกกลม เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิไป ทั้งๆที่พวกเขามีหลักฐาน แต่พวกที่บอกว่าโลกแบน ล้วนไม่มีหลักฐาน
แล้วสุดท้ายก็ใช้กฎหมู่ ประหารชีวิตคนที่บอกว่าโลกกลม

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เทศน์ว่า :


" สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงว่า ธรรมของพระตถาคต เมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของ
ปถุชนแล้ว ย่อมเป็นของปลอมทั้งสิ้น(สัทธรรมปฏิรูป) แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของ พระ
อริยะเจ้าแล้วไซร์ ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริง และเป็นของไม่ลบเลือนด้วย "


ย้ำ! ธรรมของพระตถาคต เมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของปถุชนแล้ว ย่อม
เป็นของปลอมทั้งสิ้น(สัทธรรมปฏิรูป)


แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของ พระอริยะเจ้าแล้วไซร์ ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริง และเป็น
ของไม่ลบเลือนด้วย "

สำเร็จแล้วไม่แสดง อยู่ตามป่าดงพงไพร ก็คือ ไม่สำเร็จ สำเร็จแล้วต้องกล้าเผชิญต่อสภาวะ
ของโลก

ขอแจมด้วยครับ
ที่กล่าวว่า พระพุทธเจ้าท่านก็ยังปฏิบัติผิดมาแล้ว นั้น เป็นการกล่าวตู่พระพุทธเจ้านะครับพี่น้อง

เพราะตอนที่ท่านทำทุกขกิริยานั้นท่านยังเป็น สมณะยังไม่ได้เป็น ผู้ตรัสรู้หรือพระพุทธเจ้า การกล่าวหาเช่นนั้นจริงไม่สมควรอย่างยิ่งครับ คิดให้ดี แยกให้ออกครับพี่น้อง

ต้องยอมรับครับ ว่าน้อยครั้งที่ผมจะเห็นควรกับการนำเสนอของคุณ
แต่การนำวาทะนี้มากล่าว...
ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ครับ...
แล้วผมจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับ ว่าตอนนี้ที่อยู่ในใจท่าน
เป็นเช่นไร...

ท่านที่สำเร็จแล้ว ท่านจะรู้เองว่า หน้าที่ต่อจากนี้ของท่านคืออะไร

บางท่านเคยบำเพ็ญบารมีมาแบบพุทธภูมิ เมื่อละพุทธภูมิแล้วท่านยังต้องรับผิดชอบสอนบริษัท บริวานของท่านเข้าสู่นิพพาน ดังจะเห็นว่าบางองค์มีคนไปทำบุญกับท่านมาก

บางท่านเคยบำเพ็ญบารมีแบบพระปัจเจก เมื่อละความปราถณาพระปัจเจกแล้ว จึงได้เข้ามาสู่ความเป็นสาวกะ ก่อนจะเป็นพระอรหันต์แบบสาวกภูมิ เมื่อท่านสำเร็จแล้ว ท่านก็อยู่ของท่าน สอนคนบางคนที่มีความเกี่ยวพันกันเท่านั้น

บางท่านบำเพ็ญบารมีแบบสาวกภูมิ เมื่อสำเร็จแล้ว ท่านก็ทำตามหน้าที่ของท่านไป บางท่านเป็นถึงปฏิสัมภิทา แต่ต้องอยู่ในป่า เพราะอยู่เมืองแล้วอาจทำให้สัตว์โลกลงนรกมากกว่า บางท่านเป็นเตวิโซ วิชชา3แต่ต้องสังสอนผู้คนจำนวนมาก มันเป็นหน้าที่ กรรมเก่ากำหนดหน้าที่ ท่านไม่ได้เลือกอยากจะเป็นหรือไม่อยากเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามความปราถณาหรือไม่ปราถณา

ท่านว่าอย่างผมไหม?

ขอบคุณครับ
ที่หากระทู้เก่ามาให้อ่าน
ผมเป็นน้องใหม่ครับ
ยังมีเรื่องที่ไม่รู้อีกเยอะ