วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 18:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2008, 23:49 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 17:29
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นจิตด้วยจิต ฝึกจิตด้วยจิต จับจิตด้วยจิต นี้ยากกว่าจับปลา จับปลานั้น คนจับปลา แต่นี่จิตจับตัวเอง คือ เกิดความรู้ขึ้นในจิตจนจิตรู้จักตัวเอง จัดการกับตัวเอง มันจึงยาก จิตเกิดความรู้ขึ้นในจิต แต่เรียกเห็นจิตด้วยจิต

จิตพบจิต มันก็หยุดดิ้น เพราะมีความรู้จักตัวเอง ว่าเป็นอย่างไร หรือควรจะเป็นอย่างไร ตามปรกติ ไม่รู้จักจิต จึงมีแต่เพ้อฝัน หรือถึงกับละเมอทำอะไรต่างๆ ดังที่ทำอยู่ทั่วไป

ท่านพุทธทาสภิกขุ

เชิญทุกท่านร่วมโพสต์ข้อความเกี่ยวกับจิตในความคิดของท่านหรือตามที่ท่านได้ศึกษามาจากครูบาอาจารย์ว่าครูบาอาจารย์แต่ละท่านที่ท่านได้ศึกษาได้ให้ความหมายของจิตว่าอย่างไรบ้าง
เพื่อให้ความรู้กับผู้สนใจในการศึกษาธรรมเกี่ยวกับจิต


แก้ไขล่าสุดโดย ทางเดินที่พ้นทุกข์ เมื่อ 28 ต.ค. 2008, 16:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2008, 08:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


ธรรมทุกอย่างล้วนเกิดจากจิต




สำเร็จได้ด้วยจิต


มีจิตมาก่อน


มีจิตเป็นตัวนำ


:b4:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2008, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านกรัชกายเขียนว่า

จิตในพระอภิธรรม คือ วิญญาณในพระสูตร

จิตหรือวิญาณคือหนึ่งในขันธ์ห้า

การดับขันธ์ปรินิพพานหมายถึงดับหมดทั้งขันธ์5 ใช่หรือไม่ครับ

เมือคนเราจุติแตกดับจะดับแค่รูป แต่ขันธ์4ยังคงอยู่เพราะมีวิญญาณไปปฏิสนธิใช่หรือไม่ครับ

และอย่างนี้เรียกว่า สัสสตทิฏฐิหรือไม่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2008, 16:22 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 17:29
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลักของการปฏิบัติมีอยู่เพียงแค่ว่า
จิตใจมีความรู้สึกอย่างไร
ก็ตามรู้ไปตามนั้นเท่านั้น
โดยไม่ต้องทำอะไรก่อนจะรู้
ระหว่างรู้ และรู้แล้ว
ก็ไม่ทำอะไรต่อไปอีก
หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2008, 10:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


จิตมี 2 จิต
1. จิตเก๊ หรือ จิตในพระอภิธรรม จิตในปฏิจจสมุปบาท จิตตัวนี้เป็นจิตติดอวิชชา
2. จิตแท้ หรือ จิตประภัสสร หรือจิตพุทธะ หรือจิตนิพพาน จิตตัวนี้เป็นจิตไม่มีอวิชชา

จิตเก๊ หรือ จิตในพระอภิธรรม จิตในปฏิจจสมุปบาท บางที่เรียกกันว่า วิญญาณ(ไม่บริสุทธิ์)
จิตแท้ หรือ จิตประภัสสร หรือจิตพุทธะ บางที่เรียกกันว่า วิญญาณ(บริสุทธิ์)

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี

"นิพพาน คือว่างจากกิเลส จิตวิญญาณของพระอรหันต์ไม่สูญ ที่
วิญญาณสูญนั่นคือ วิญญาณในขันธ์ ๕ เท่านั้น
"

วิญญาณหรือจิตจึงมี 2 ตัว คือ 1. จิตวิญญาณ(ไม่บริสุทธิ์) ตัวนี้สูญไปได้
2. จิตวิญญาณ(บริสุทธิ์) คือ จิตวิญญาณพระอรหันต์ ตัวนี้ไม่มีวันสูญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2008, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

"จิตวิญญาณมันไม่ใช่ของแตกของทำลาย แลไม่ใช่ของสูญหาย
พระพุทธเจ้าสอนให้จิตมันเที่ยง เหมือนพระนิพพานเป็นของเที่ยง ไม่แปรผัน ยักย้าย สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นทุกข์ "

นี่คือ จิตวิญญาณของพระอรหันต์ในนิพพาน เที่ยง จึงไม่ทุกข์
จิตวิญญาณของปุชน ไม่เที่ยง ผันแปรไม่เรื่อย จึงเป็นทุกข์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2008, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 14:42
โพสต์: 121


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ยึดเอาปัจจุบันเป็นที่ตั้ง ไม่ว่า กิน เดิน นั่ง ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่ลมหายใจตรงปลายจมูกทั้งสิ้น :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2008, 16:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ"mes" ครับ


ขออนุญาตตอบนะครับ

จิตในพระอภิธรรม คือ วิญญาณในพระสูตร .... ถูก จิตวิญญาณในพระสูตรเป็นวิญญาณที่มีอวิชชา ไม่บริสุทธิ์

จิตหรือวิญาณคือหนึ่งในขันธ์ห้า...พูดเช่นนี้ไม่ได้ เพราะวิญญาณในขันธ์ 5 คือ วิญญาณขันธ์ แต่มีวิญญาณอีก
ตัวหนึ่งคือ วิญญาณธาตุ เจตภูต วิญญาณที่ตายคือวิญญาณขันธ์ วิญญาณธาตุนั้นไม่เคยตาย มีแต่เวียนว่ายตาย
เกิด และนิพพานไป


การดับขันธ์ปรินิพพานหมายถึงดับหมดทั้งขันธ์5 ใช่หรือไม่ครับ...ถูก แต่คุณต้องเข้าใจว่า วิญญาณธาตุเป็นสิ่ง
ที่ไม่ได้ดับไปด้วย เพียงแต่ตอนนี้มันบริสุทธิ์ ไม่มีกิเลส ตัณหา อวิชชา


เมือคนเราจุติแตกดับจะดับแค่รูป แต่ขันธ์4ยังคงอยู่เพราะมีวิญญาณไปปฏิสนธิใช่หรือไม่ครับ...ไม่เข้าใจคำ
ถาม รู้แต่ว่า เมื่อคนเราจุติ(เกิด) ก็คือวิญญาณธาตุดวงเดิมของเรา ไปสิงสู่กับรูปใหม่ และมันได้copyรูปใหม่นั้น
เป็นร่างของตนเอง สิ่งที่วิญญาณธาตุสร้างขึ้น ก็คือแผ่นcopyนั่นคือวิญญาณขันธ์ พอคนเราตาย รูปและนาม
(วิญญาณขันธ์)ก็ตายไป แต่ไอ้ตัววิญญาณธาตุมันไม่ได้ตายไปด้วย ยังคงวนเวียนอยู่ในสวรรค์นรกฯลฯต่ต่อไป


และอย่างนี้เรียกว่า สัสสตทิฏฐิหรือไม่...สัสสตทิฏฐิ = ความเห็นผิดว่า ความเห็นว่า โลกเที่ยง สิ่งทั้งปวงมีอยู่
เที่ยง เป็น อัตตา ทั้งๆที่ไม่มีอะไรใน 3 ภพที่เที่ยง พวกมันเป็นอนัตตา มีสิ่งเดียวที่เที่ยง และเป็นอัตตา คือ
นิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 19:36 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 17:29
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อจิตเห็นอนัตตา มันก็
สะอาดเอง
สว่างเอง
สงบเอง
หลุดพ้นเอง โดยไม่ต้องไปล้างมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 19:41 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 17:29
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตหลุดพ้นจากการครอบงำของอวิชชา ,
ไม่ใช่อัตตา,กล่าวอีกอย่างหนึ่ง มันหลุดพ้นจากอัตตาหรืออุปาทานนั่นเอง
จิตจึงสะอาด สว่าง สงบ เสรี จิตติด อัตตา ด้วยอวิชชา
แล้วหลุดด้วยวิชชา

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตเกิดดับเร็วมาก แต่เราคิดว่ามีดวงเดียว เพราะความต่อเนื่องของมัน

เหมือนหลอดไฟมันกระพริบต่อเนื่องไม่ขาดสาย เราจึงเห็นเหมือนกับว่าไม่เคยดับ

จริงๆแล้วตัวเราไม่มี เหมือนกับถามว่า ตัวเราสมัยเด็ก กับปัจจุบันนี้เป็นคนเดียวกันหรือไม่

คนเราหากพัฒนาจิตอย่างดีก็ประเสริฐได้ดังพระพุทธเจ้า เทวดา หรือพรหม

ยังต้องเคารพบูชา แต่หากปล่อยให้รกรุงรังด้วยกิเลส ก็จะสามารถเลวทรามได้ยังกับสัตว์นรก

ธรรมชาติของจิตสามารถทำให้เจริญหรือเลวทรามได้ การฝึกจิตเป็นการดี จิตที่ฝึกดีแล้วนำสุขมาให้

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2008, 11:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องจิตนี้ ผมคิดแล้วก็ปวดหัว
ยิ่งพยามหาคำตอบให้ละเอียดเด็ดขาดยิ่งปวดหัว

แนวทางแรก ... จิตแท้ไม่ได้เกิดดับ มีแต่เจตสิกที่เกิดดับ
แนวทางที่สอง ... จิตเกิดดับพร้อมเจตสิก

ตัวเราก้ได้แต่ฟัง เพราะไม่เห็นจริง ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดตรงไหนอย่างไร
ตรวจคำตอบเองไม่ได้


ผมจึงคิดว่า รู้แค่หน้าที่ต่อจิต เป้นอันใช้ได้แล้ว
กล่าวคือ รู้ให้ทัน จับให้ได้ มีสติให้ทันว่า
มีสิ่งหนึ่งมันเกิด-มันกำลังตั้งอยู่-มันดับ ก็พอแล้วล่ะคับ

อาจารย์ต่างๆที่ผมนับถือสอนว่า ให้เราดูไปอย่างนี้ มีสติทันไปอย่างนี้
ซึ่งเป็นการที่ทำให้จิตได้ระลึกรู้ทันไตรลักษณ์ของจิต
พูดให้ง่ายขึ้นคือพยามสังเกตุรู้ทันพฤติกรรมของจิต
ว่าจิตทำอย่างไรแล้วเกิดทุกข์ ทำอย่างไรเกิดสุข ทำอย่างไรแล้วเฉยๆ
เราก้ต้องการแค่นี้ มีหน้าที่แค่นี้

ดูพฤติกรรมที่เป้นเหตุแห่งทุกข์พวกนี้ไปเรื่อยๆ เป็นร้อยเป็นล้านครั้ง
และหลังจากที่มันเห็นความจริงเหล่านี้ซ้ำๆ จนชินชาเบื่อหน่าย
แล้วจิตมันยอมรับความจริงของมันเอง
เพราะมันได้พบอริยะสัจคือรู้เหตุแห่งทุกข์ ว่าบทบาทไหนของจิตคือสมุทัย
แล้วจิตจะ... ปฏิรูป/ปฏิวัติ/ ตัวมันเอง (สำเร็จโสดาปัตติผล)

มีชื่อหนังสือเล่มหนึ่ง ผมชอบมาก คือชื่อ "รู้แค่นี้พอ"
วลีนี้มันกินใจความลึกซึ้งดีมากๆเลยครับ
เรารู้แค่เท่าที่ต้องใช้พอแล้ว
ถ้าข้ามฝั่งได้ปลอดภัยแล้วอยากจะรู้มากขึ้นค่อยว่ากันยังไม่สาย

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2008, 20:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คามินธรรม เขียน:
เรื่องจิตนี้ ผมคิดแล้วก็ปวดหัว
ยิ่งพยามหาคำตอบให้ละเอียดเด็ดขาดยิ่งปวดหัว

แนวทางแรก ... จิตแท้ไม่ได้เกิดดับ มีแต่เจตสิกที่เกิดดับ
แนวทางที่สอง ... จิตเกิดดับพร้อมเจตสิก

ตัวเราก้ได้แต่ฟัง เพราะไม่เห็นจริง ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดตรงไหนอย่างไร
ตรวจคำตอบเองไม่ได้




ไม่เห็นต้องงงเลย ก็มันมี 2 จิตยังไงล่ะ
1. จิตแท้ที่ไม่เกิดไม่ดับ ตัวนี้เป็นอสังขตธาตุ ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร
2. จิตเก๊ที่เกิดดับ ตัวนี้เป็นสังขตธาตุ เกิดดับพร้อมกับเจตสิก

จิตแท้มันซ่อนอยู่ในจิตเก๊
นิพพานจิตมันซ่อนอยู่จิตเก๊(จิตในปฏิจจสมุปบาท) พระพุทธเจ้าจึงแยกจิตแท้เป็นนิพพาน จิตเก๊เป้นจิต+เจตสิก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2008, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ย. 2005, 15:24
โพสต์: 179


 ข้อมูลส่วนตัว


จิต คือธรรมชาติที่รู้อารมณ์ อารมฺณํจินฺเตตีติจิดฺตํ มีการรับอารมณ์อยู่เสมอ ชื่อว่าจิต

.....................................................
คำพูดเพียงน้อยนิดอาจเปลี่ยนชีวิตของคนได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2008, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


จิต คือนักเดินทาง.....มีนิพพานเป็นจุดหมายเหมือนกันหมด :b12: :b12:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร