วันเวลาปัจจุบัน 24 ก.ค. 2025, 04:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2013, 06:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


นำมาจากวัดท่ามะโอ จ. ลำปาง
โดยพระอาจารย์ สมรักษ์ (พระพม่า)
เห็นว่าดีจึงนำมาฝากอ่านกัน

สมาธิช่วยแก้ปัญหาได้

เวลาที่เราพบกับปัญหาว้าวุ่นใจ หรือความเครียดเรื่องงาน การเรียน หนี้สิน ฯลฯ
สมองของเราจะเหมือนห้องสกปรกที่เต็มไปด้วยขยะ ไม่มีพื้นที่จะนอนหรือนั่งให้สบาย
หรือเก็บสิ่งของอย่างอื่น

ดังนั้น เวลาที่รู้สึกเช่นนั้น เราควรจะทำใจให้สงบด้วยการแผ่เมตตาหรือสวดมนต์
หรือเจริญวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อใจของเราสงบแล้ว สมองของเราก็จะเหมือนห้องโล่งสะอาด
ที่สามารถเก็บสิ่งของต่างๆ หรือนั่งเล่นนอนเล่นได้ ส่งผลให้เห็นปัญหาและแก้ไขได้ตรงจุด
...
ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า
นตฺถิ สมาธิปโร อตฺถิ อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ (ธรรมที่ยิ่งกว่าสมาธิไม่มีในโลกนี้และโลกหน้า)

อาจมีคำถามว่า ศาสนาพุทธเน้นปัญญามิใช่หรือ เหตุใดพระพุทธดำรัสนี้จึงเน้นสมาธิ
และพระพุทธดำรัสนี้ไม่ขัดแย้งกับพระพุทธดำรัสว่า นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ (สุขที่ยิ่งกว่าความสงบไม่มี)
หรือไร เพราะข้อความนี้ระบุถึงพระนิพพานอันเป็นสุขที่เลิศสูงสุด

ขอตอบว่า ข้อความที่ตรัสถึงสมาธิดังกล่าว
เป็นข้อความจากคัมภีร์ชาดกที่พระโพธิสัตว์ตรัสไว้เพื่อแสดงประโยชน์ของสมาธิ
ซึ่งสามารถใช้ในชีวิตประจำวัน และการปฏิบัติธรรมได้
เพราะสมาธิจะทำให้สมองของเราโล่งสบาย มองเห็นปัญหาและทางออก
อีกทั้งสมาธิยังเป็นบาทให้เกิดปัญญาได้ต่อไป ดังนั้น พระพุทธดำรัสทั้งสองอย่างจึงไม่ขัดแย้งกัน

พม่ามีคำพังเพยว่า อ่านตำราง่าย เทียบตำรายาก หมายความว่า การอ่านให้เข้าใจ
เนื้อหาในแต่ละเรื่อง ไม่ยาก แต่การตีความให้สอดคล้องกันถือว่ายาก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2013, 13:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นสิ่งที่เอกอนเฝ้าสังเกต
สมัยเด็ก ๆ เอกอน ก็วนเวียนอยู่กับ กิเลส มากมาย
ก็สังเกต ความทุกข์ก้อนโต ๆ มันก็เริ่มมาจาก กิเลสตัวเล็ก ๆ
กิเลสตัวเล็ก ๆ
แค่ประกายของมันเพียงเล็กน้อย ที่แสดงออกมาเราก็จะวนเวียนย้ำคิดไปกับสิ่งนั้น ๆ เรื่อย ๆ
เรื่องอื่น ๆ ที่ตามมาก็เกี่ยวเนื่องกัน
อย่างเดินไปในห้างสรรพสินค้า เห็นตุ๊กตาน่ารัก เพียงแค่สิ่งนี้ปรากฎ
ความคิดต่อ ๆ ไป ก็จะวนเวียนกับตุ๊กตาตัวนั้น
ซึ่งมันก็จะไปคิดเรื่อง เงิน ถ้าตอนนั้นตัวเองมีเงิน ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าตัวเองไม่มีเงิน ก็คิดไปในเรื่องการหาเงินมาเพื่อให้ได้ตุ๊กตา
...........
คือ ถ้าสังเกต การดำเนินไปของความคิดเราเป็นอย่างนั้น
ซึ่งการดำเนินไปของความคิดบางอย่าง มันก็ไม่บานปลาย
แต่บางอย่าง มันก็บานปลายจนเป็น ทุกข์กองโต

ทุกข์กองโต มันแก้ยาก และบางทีมันก็ทำความยุ่งยากใจมากมาย
ส่วนทุกข์กองเล็ก มันแก้ไม่ยากนัก และการแก้ก็ไม่ได้ยุ่งยากใจมากมาย

ถ้าจิตเราไม่ได้ถูกความทุกข์ครอบงำอยู่
เราลองมานั่งมองลำดับการเจริญเติบโตของกองทุกข์กันสักวันละนิด

กระบวนการที่กิเลสตัวเล็ก ๆ ค่อย ๆ ส่งต่อจิตจนเป็น ทุกข์กองโต
ซึ่งเอกอนก็เห็นการ ย้ำวิถีจิตเดิม ๆ อย่างเช่น
จิต 1 อยากได้ตุ๊กตา
จิต 2 อยากได้ตุ๊กตา
จิต 3 ยิ่งอยากได้
จิต 4 อยากได้ยิ่งขึ้น
จิต 5 หาทางเอามาให้ได้
จิต 6 .....
จิต 7 ..... ไปเรื่อย ๆ

แต่ถ้าหากว่า เรามีการ สอดแทรก จิตที่นอกไปจากนั้นเข้าไป เช่น

จิต 1 อยากได้ตุ๊กตา
จิต 2 อยากได้ตุ๊กตา
จิต 3 ยิ่งอยากได้
จิต 4 ไปคิดเรื่องกินข้าว
จิต 5 อยากได้ตุ๊กตา
จิต 6 .....
จิต 7 ..... ไปเรื่อย ๆ

ถ้ามีจิตที่ 4 ที่เป็นเรื่องอื่น
เมื่อจิตเรื่อง ตุ๊กตา จะกลับมา มันจะต้องทำวิถีใหม่... :b1:
จะสังเกตได้ว่า จิตมันแสดงอาการ ถูกขัดจังหวะ ถูกขัดคอ
ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อกระแสกิเลสที่ดำเนินอยู่ ไม่มากก็น้อย

ดังนั้น ในช่วงต้นที่ชีวิตเอกอนเจอกับ ทุกข์กองโตที่ต้องจัดการ
เอกอน ใช้เทคนิคที่สังเกตได้นี่ล่ะ จัดการบริหารจิต
ซึ่ง จิต 4 ที่เอามาตัดตอน อยู่ที่เราจะเลือกใช้อะไร
ถ้าเราใช้เป็น จิตนั้นก็เจริญเติบโตได้ ด้วยวงจรวิถีที่ย้ำรอบนั่นล่ะ

คือ วิถีจิต และ วงวัฏจักร เราไม่ใช่ผู้วางแบบแปลนนั้นเอาไว้
มันเป็น วิถีธรรมชาติ
แต่ถ้าเรารู้จักวิถีธรรมชาติ เราก็เข้าไปดำเนินการกับเขาได้ โดยการสร้าง ประกายไฟเข้าไป
คือ การปฏิบัติธรรม ต้องเข้าใจว่า เราไม่ได้เป็นผู้สร้างธรรมชาติ
แต่เราเป็นผู้บริหารธรรมชาติที่มีอยู่นั้นได้ :b1:
เราคือผู้บริหารงาน ภายใต้ธรรมชาติที่มีอยู่ ....

การสอดแทรกวิถีจิตที่เป็นสมาธิเข้าไป ก็เช่นกัน

smiley smiley smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2013, 13:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


คือ อย่าไปคิดว่า เรื่องจิตเป็นเรื่องที่พิเศษ
เขามีความเป็น ธรรมดา

คือ จิต เขามีหน้าที่รู้ มีวิถี เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติของเขา
เขาเป็นเช่นนั้น เพื่อทำหน้าที่รองรับสิ่งที่จรเข้า จรออก ... :b1:
สิ่งใดที่จรเข้ามา สิ่งนั้นก็ต้องจรออกไป ไม่มีอะไรครอบครองจิตไว้ได้ตลอด.... :b1:

ส่วนสิ่งที่ พิเศษ วิจิตร เกินกว่านั้น คือ สังขาร(กิเลสนำไป)

....................

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2013, 13:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


คือบางครั้ง ผู้ปฏิบัติหมายไปว่า
ปฏิบัติแล้ว ต้องไปเจออะไร อะไร ต่อมิอะไร ที่เหนือชั้น

คือ ถ้าเราไม่คาดหวัง อะไร
เราจะเจอ สิ่งที่ควรเจอ

คือ เอกอนปฏิบัติธรรม เอกอนไม่เคยเห็นเทวดา นรก สวรรค์ เทพ พรหม
มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก
แต่สิ่งที่เอกอนสังเกตเห็น เป็นสิ่งที่เห็นได้ไม่ยาก เห็นด้วยทักษะของมนุษย์ธรรมดา

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2013, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


วัดท่ามะโอ ( wattamaoh )
ศักยภาพของจิตที่อบรมดีแล้ว

พระศาสนาเปรียบได้กับโรงงาน มีวัตถุดิบคือจิตของเรา ถ้าเราใส่จิตเข้าไว้ในโรงงานคือพระศาสนา ก็จะได้รับผลผลิตอันได้แก่จิตที่สงบร่มเย็นเป็นสุข ผลผลิตที่เกิดจากจิตที่อบรมดีแล้วจึงจะเป็นที่พึ่งของเราอย่างแท้จริง

คนทั่วไปมักรอคอยที่พึ่งภายนอกตัวเอง โดยคิดว่าเป็นแก่นสาร แต่ความจริงความสุขที่เกิดจากสิ่งภายนอกไม่ใช่ความสุขที่ยั่งยืน

ดังนั้น เราจึงควรพัฒนาศักยภาพของจิตในโรงงานคือพระศาสนาจะทำให้เราได้รับความสุขใจ ความสงบใจ สามารถกำจัดความทุกข์ใจที่เป็นความผิดหวัง เร่าร้อน โดยใช้ธรรมโอสถรักษาความทุกข์ใจของเราได้

:b8: :b8: :b8: อยากจะอนุโมทนาข้างบนแต่ไม่มีปุ่มให้กด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร