เจิมรถแล้วรถควำแต่ไม่เป็นอันตราย.........โดยหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
ถ้าหากท่านผู้ใดมีกรรมฐานประจำจิต ชีวิตประจำใจ สามีภรรยาอยู่เย็นเป็นสุข จะไม่มีเรื่องเดือดร้อนใจแต่ประการใด ก่อนจะนอนก็อุทิศส่วนกุศลเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ในบ้านนั้นก็จะอนุโมทนา จะปกปักรักษาอย่างดียิ่ง หากท่านทั้งหลายจะเดินทางวันพรุ่งนี้จะไปแห่งหนตำบลใดก็นั่งเจริญพระกรรมฐานแผ่เมตตาเคลียร์พื้นที่ รับรองท่านจะปลอดภัย เดินทางไปด้วยความถูกต้อง เมื่อวานซืนมีญาติโยมมาขอบคุณที่เจิมรถให้เขา รถเขาควำเสียหายแต่ลูกเล็กเด็กแดงไม่เป็นอันตราย ข้อเท็จจริงที่อาตมาเจิมรถนั้น ไม่ได้ขลังตรงไหนหรอก อาตมาเจิมรถแล้วเรียกเขามาบอกว่า ถ้ารถเกิดอุบัตืเหตุอย่างไรก็ให้เขาตั้งสติไว้ อย่าขับรถด้วยความประมาท ขับรถอย่าไปตรงทางคด ถ้าตรงทางคดลดลงถนนเลยนะ ถึงทางคดก็ต้องเลี้ยวไปตามทางคด ต้องมีสติทุกขั้นตอน เวลาง่วงนอนก็ให้พักผ่อน อย่าประมาท ก็ให้ศีลให้พรเขาอย่างนั้น ที่เขารถควำเสียหลักไปนั้น เขาก็เกาะรถแน่นทุกคน ตั้งสติไว้เขาก็ไม่เป็นอันตราย จำไว้เป็นหลัก ถ้ามีสติไม่ค่อยเป็นอันตราย คนไม่มีสติจะเป็นอันตรายตลอดรายการ

ขอให้กำหนดจิตโดยมีสติทุกอิริยาบท ถ้าอารมณ์ไม่ดีเราก็กำหนดให้มันดี จะทำงานอะไรงานก็จะไม่เสียหาย

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา แม้ขณะที่กำลังมีสติ

ความเจ็บและความตาย ก็ย่างกรายมาถึงได้ทุกเวลา แม้ขณะที่มีสติ

แค่สติไม่ได้ช่วยไปทุกเรื่อง แต่ก็ควรให้มีสติในทุกๆเรื่องเอาไว้ก่อน

บางคนไม่ถึงคราว ตกเครื่องบิน แถมสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็ยังไม่ตาย

เหตุแห่งความรอดพ้นจากเรื่องร้าย ๆ บางกรณีย์ไม่ใช่เพราะเรามีสติคอยระวัง
แต่เพราะ เหตุปัจจัย ในการส่งผลร้ายมันยังแรงไม่พอ จึงยังรอดอยู่ได้

มีสติแต่ก็ควรคำนึงถึงกฏธรรมชาติ ที่พร้อมจะส่งผลกระทบมาถึงได้ทุกเวลา
เพราะไตรลักษณ์ ซึมซ่านอยู่ในทุกอณูของพื้นที่ ทั้งภายนอกทั้งภายใน
ทั้งอดีต อนาคต ปัจจุบัน โดยไม่อาจหลีกหนีพ้น เมื่อถึงคราวจะมาถึง

และมันก็เป็นธรรมดาของมันอย่างนั้น