คิดยังไงกันครับกับพระสงฆ์ที่เลี้ยงชีพตนและเฝ้าพระศาสนา โดยการใบ้หวย สะเดาะเคราะห์ ดูดวง ขายพระ ปลุกเสกตระกรุดเครื่องรางขาย ทำเสน่ห์ สักยันต์ แต่ที่เห็นทำโด่งดังสวดกันใหญ่โต คงไม่เกินสักยันต์ สักกันทั้งตัว ตกลงอภิธรรมที่เรียนมาก็เพื่อสักยันต์กันตาย เออ แล้วผมอยากถามจังว่าพวกที่ของขึ้น โดดกันโหยงๆ เนี่ย อะไรมันขึ้นกันแน่

เอะเพื่อนๆ คิดว่าไง ผมก็อยากฟังนะครับ ว่าเหมาะหรือไม่

เราขอใช้กระทู้ของคุณ cmessage ถามด้วยน่ะค่ะ
ตอนนี้เราก็ยังงงๆ กับตัวเองเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ
คือที่ฝอถังที่มาเลย์นี่แหละค่ะ <ฝอถัง = พุทธสถาน>
พอวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์
เค้าจะนิมนต์พระไทยมา แล้วให้เราช่วยเป็นล่ามแปลให้
นิมนต์มาเพื่อ...ให้ดูดวงอาบน้ำมนต์...แล้วก็เวลา
มีคนต้องการปล่อยสัตว์ทำสังฆทาน...หลวงพี่จะสวดให้
สำหรับเรื่องเงินนั้น....หลวงพี่จะบอกว่าแล้วแต่เค้าจะให้ (คือเงินนี่จะใส่ในซองอั่งเปา)
จะมีคนมาเยอะค่ะต้องรอคิวกันเลย

เพราะคนมาเลย์เค้า...จะไม่เคยมีพระมาสวด...ทำพิธีอะไรให้
พอพระไทยมา....เค้าจะชอบกันมากๆ...ปรกติเวลามีอะไร...จะมีแต่ไปหาคนเป็นร่างทรง
ปรกติคนที่นี่...จะไม่ชอบการปล่อยสัตว์....การทำสังฆทานนี่เค้าจะไม่รู้จัก
หลวงพี่ก็เลยซื้อของใส่ถังมา....แล้วให้พวกเค้าดูว่า...ถ้าจะทำสังฆทาน
ต้องซื้ออะไรบ้าง....ถ้าใครต้องการจะทำ...หลวงพี่จะให้ไปซื้อกันมาเองแล้ว
แล้วหลวงพี่ก็จะสวดให้

นก-ปลาพวกเค้าไปปล่อยกันเอง....แต่ของสังฆทานนั้น...อันตี้ที่เป็นคนดูแลฝอถัง
จะนำไปให้บ้านพักคนชราทั้งหมด....ทุกๆครั้งจะเยอะมากๆ ค่ะ
เพราะเราจะบอกว่า...ของสิ่งนี้เค้านำมาทำบุญ....ใครอย่านำของเค้าไปใช้เดี๋ยวจะไม่ดี
พอถึงวันอาทิตย์เรากับอันตี้จะเป็นคนนับเงินทั้งหมด

ขอบอกเลยค่ะ...ทุกๆ ครั้งจะได้เยอะมากๆ ค่ะ....เราเคยบอกว่า
ให้อันตี้นำไปใส่ของฝอถังบ้าง...เผื่อว่าฝอถังจะทำอะไร
แต่อันตี้ก็ไม่เอา....เราก็เลยนำมาใส่ ตามที่เค้าตั้งกล่องรับบริจาค
ของมูลนิธิ ช่วยเหลือเด็กกำพร้า-เด็กที่มีปัญหาทางโรคสมอง
ส่วนที่เหลือ...เราจะนำใส่ซองให้หลวงพี่ไป...ซึ่งหลวงพี่ก็ไม่ทราบหรอกค่ะ
แต่เวลาเรานำเงินไปให้....หลวงพี่จะบอกว่าแบ่งเอาไปบ้างสิ
เราก็บอกว่าของเราไม่ต้อง เพราะฝอถังจะเป็นคนจ่ายให้เราเอง

ส่วนเวลากลางคืนตอน 2 ทุ่ม.....หลวงพี่จะสวดมนต์ แล้วก็จะสอนพวกเค้านั่งสมาธิ
พวกเค้าจะชอบกันมากๆ ค่ะ

เราก็เลยอยากจะรู้ว่า การที่เราไปช่วยเค้าแปลแบบนี้
เราทำผิดหรือปล่าวค่ะ
แล้วหลวงพี่นี่...จะผิดวินัยสงฆ์หรืปล่าวค่ะ
ถ้าผิดเราจะไม่ไปช่วย....เป็นคนแปลให้แล้วค่ะ,,,,เราจะให้เค้าหามากันเอง
บางครั้ง....เราก็ไม่ค่อยสบายใจ...ไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร...เพราะเราก็ไม่รู้ว่า
ทำอย่างนี้ผิดหรือถูก
ขอถามท่านผู้รู้ทุกๆ ท่านด้วยน่ะค่ะ

อืมห์...
คนสักคือเขา...
คนคิดคือเรา...

มันยากนะ เราว่ายากน่าดูชมเลย กับการที่เราจะบรรลุธรรม...ของเขาน่ะ ธรรมประมาณนั้นน่ะ

ต่อให้ไม่คิดค่าสอน แถมข้าวสารอีกร้อยกระสอบ เราก็ยัง

และมันก็ยากเหลือหลายเช่นกันที่เราจะโน้มน้าวเขาให้หันมารับฟังธรรมในแง่มุมของเรา...

เล่นถือเข็ม...เล่มปานนั้น... ถ้าพูดไม่ถูกหู คงได้จักกะจี๊ พิลึก...

แต่จริง ๆ แล้ว...มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทุกคน...
ที่จะเพียรศึกษาธรรมอันควร เพียรเดินตามวิถีธรรมอันควร
เพื่อบรรลุซึ่งธรรมของพระพุทธองค์...

พิจารณาจากที่ท่านเล่ามานะครับ....

เราทำผิดรึป่าวที่ไปช่วยเขาแปล......ถ้าแปลถูกต้องตามเนื้อหาแล้วก็ไม่ผิดครับ
หลวงพี่จะผิดวินัยสงฆ์รึป่าว.....เป็นเรื่องของท่านครับ...ท่านเองรู้ดีครับว่าท่านทำอะไรครับ

กระผมมองว่าสิ่งที่ท่านพระคุณเจ้า(หลวงพี่)ทำไปนั้น...ท่านกำลังทำประโยชน์ตน และประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมโดยไม่ประมาทครับ

ขออ้างอิงคุณ bbby สักนิดนะครับ
ผมยังไม่เห็นมีสิ่งผิดปกติจากที่คุณเล่า พระก็ทำสิ่งที่ถูกไม่ได้ผิดศีลอะไร
เป็นธรรมดาที่คนในโลกนี้ต้องการทำบุญกับพระสงฆ์เพราะท่านเป็นผู้มีศีลและปฏิบัติตนเพื่อเป็นเนื้อนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นใดยิ่งกว่า และในต่างประเทศยิ่งหาพระสงน้อยมากบางที่ไม่มีพระสงฆ์เลย คนที่รู้จักพุทธศาสนาเมื่อเห็นพระก็ดีใจอยากทำบุญเป็นธรรมดา และ เป็นเรื่องดีแล้วที่มีการเผยแพร่ พุทธศาสนาในต่างแดนทำให้คนได้พบพระธรรมกว้างออกไป
ส่วนเรื่องการ อาบน้ำมนต์และการปล่อยสัตย์ก็เป็นพิธีกรรมทางพุทธและก็เป็นเรื่องที่ดีอีกทั้งยังเผยแพร่วัฒนธรรมไทยด้วย คุณเองก็บอกว่าเขาชอบไปหาร่างทรง ถ้างั้นมาหาพระนี่ล่ะดีที่สุดแล้ว
ส่วนเรื่องสังฆทาน ก็เป็นพิธีกรรมและการทำบุญปกติและพระท่านก็ไม่ได้บังคับและเรียกร้องอะไร เพียงแต่ท่านอาจจะไม่เก่งภาษาเพราะคุณยังต้องแปลให้เขาอยู่เลย ท่านก็อธิบายไม่ถูกก็ต้องซื้อของไส่ถังมาให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วก็บอกสิ่งที่จำเป็นของสงฆ์ หากไครจะทำก็ไปหาซื้อกันเองเพราะจะให้พระซื้อมาขายมันก็ไม่ได้ ดีแล้วที่เขารู้จักทำบุญและรู้จักวิธีด้วยวันหน้าเขาก็ไปทำอย่างนี้ได้ทั่วโลกไม่ไช่กับที่นี่ที่เดียว ส่วนของที่ถวายก็มอบให้สงฆ์ที่เหลือก็ทำประโยชน์เหมือนที่คุณบอกว่าเอาไปบ้านคนชรานี่ก็มีประโยชน์แน่นอน
ส่วนเงินก็ทุกคนเต็มใจทำบุญพระท่านไม่ได้เรียกร้องก็ให้ตามกำลัง แต่ถ้ามีก็ให้บ้างเพราะพระเองก็มีเรื่องต้องใช้เงินเหมือนกัน ไม่งั้นจะเอาเงินที่ไหนขึ้นรถไปกลับ ยารักษาโรคเล็กน้อย การเดินทาง เผยแพร่ศาสนาไม่มีเงินจะเอาที่ไหนสร้างวัด ค่าน้ำค่าไฟ หรือเรื่องเล็กน้อยที่เราคาดไม่ถึงว่าพระก็ต้องใช้เงินบ้างในการออกไปต่างเผยแพร่ธรรมมะ แม้แต่ฝอถังที่คุณนั้นก็ต้องมีเงินไม่งั้นก็สร้างไม่ได้หากไม่มีแรงศรัทธาบริจาค คนบริจาคก็ให้ตามกำลังที่ตนมีให้ตามศรัทธาเท่าไรก็ได้ไม่มีเลยก็ไม่เป็นไรพระท่านก็ทำหน้าที่ของท่านเหมือนเดิม แต่ว่าดีแล้วที่คุณกับอันตี้ไม่เก็บเงินเข้าฝอถัง เพราะเป็นบริจาคที่ไม่ได้เจาะจงให้ฝอถัง เอาไปที่อื่นมันจะผิดวัตถุประสงค์ของเขาและจะบาปถึงจะเห็นว่ามันเยอะก็ตาม

ส่วนตอนกลางคืนพระจะสอน สวดมนนั่งสมาธิ มันก็ดีแล้วนี่ครับ แล้วมันจะผิดตรงไหนล่ะ ผมยังไม่เห็นอะไรผิดปกติหรือไม่ดีเลย พระท่านเป็นเนื้อนาบุญของโลกและเผยแพร่พุทธศาสนาอย่างดี รวมทั้งสอน นั่งสมาธิด้วย คุณเป็นผู้แปลก็ดีมากครับเท่ากับช่วยเผยพุทธศาสนาและสิ่งดี ๆ นับว่าเป็นงานธรรมและชำระปณิธานเเหมือนกัน พระอาจารย์ย่อมเมตตาแน่

แต่ถ้าหากคุณข้องใจในเรื่องความโปร่งใส ก็ลองถามที่พำนักของท่านว่าท่านพักที่วัดไหนแล้วก็ลองไปกราบท่านที่วัดดู เพื่อจะได้ทราบว่าท่านมีวัดที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งและเป็นพระจริง ไม่ไช่พระปลอมที่แต่งตัวมารหลอกคนทำบุญ คุณจะได้สบายใจว่าช่วยคนถูกและทำเรื่องที่ถูกต้อง

เซี่ยเซี่ย เหล่าซือฉือเปย

เราอ่านความคิดเห็น ของคุณNatdanaiกับคุณCmessageแล้ว
เราค่อยสบายใจหน่อยค่ะ
เวลาที่หลวงพี่เค้ามา บางครั้งคนที่ฝอถังจะไปรับ บางครั้งจะไปส่ง
หลวงพี่เค้าจะพัก อยู่ที่ฝอถังอีกแห่งหนึ่งน่ะค่ะ
ขับรถประมาณ1ช.ม
ขอบคุณทุกๆท่านด้วยน่ะค่ะ
ที่ทำให้เราหมดข้อสงสัยค่ะ

ชาวบ้านเขาต้องการให้พระสักยันต์ ใบ้หวย ดูดวง พระท่านก็ต้องสงเคราะห์ มันก็เท่านั้นเอง

คุณ suwichai พูดแบบนี้เหมือนว่าชาวบ้านผิด หากพูดในแง่ว่าเป็นความผิดนะ เพราะชาวบ้านเป็นฝ่ายเสนอ พระเป็นฝ่ายสนอง
เหมือนคนผลิดคนขาย-คนเสพยาบ้า มีผู้ผลิตเพราะมีผู้เสพ ฯลฯ เป็นเหตุเป็นผลกันและกัน
(อุปสงค์-อุปทาน)

เอะ ผมสงสัยนิดหนึ่งว่าพระทำไมไม่พักอยุ่วัด ทำไมอยุ่ฝอถัง พระจะไปเผยแพร่ธรรมต่างแดนต้องมีวัดอยู่เป็นที่หลักแหล่งนะครับ ช่วยบอกรายละเอียดหน่อยสิครับว่า เป็นพระไทย หรือพระจากไหน หรือว่าพระจะสายนิกายไหน แล้วมีหลักฐานยืนยันความเป็นพระแน่นอนใหม่ อย่างเช่น ไบสุทธิ หรือ เอกสารอื่นที่ขอมาเผยแพร่ธรรม ถ้าหากไม่ทราบก้ไม่เป้นไรครับ เพราะว่าพระสงฆ์มีระเบียบเคร่งครัดมากไม่เหมือนคนธรรมดาที่อยากไปไหนจะไปได้ทันที ต้องมีการขออนุญาติมีคณะกรรมการ ถ้าผู้ใหญ่ไม่อนุญาติรอเป็นปียังไม่ได้เลยนะ จะไปก็ต้องทีพักที่แน่นอนที่เป็นวัดไม่ไช่ฝอถัง

คนมีปัญญาคิดได้เท่านี้ ก็เก็บปัญญาท่านไว้เถอะถือว่าลดภาวะโลกร้อนนะ

ถ้าพูดถึงเรื่องสักยันต์
ชาวไทยเรามีการสักกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วหละครับ
น่าจะเป็นมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยด้วยซ้ำ
เวลาจะออกรบหรือไปทำศึก ก็ได้รอยสักนี้แหละครับเป็นขวัญและกำลังใจ

ส่วนเรื่องใบ้หวยและดูดวงผมไม่มีความคิดเห็นครับ