วันเวลาปัจจุบัน 24 ก.ค. 2025, 08:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กรัชกาย เขียน:

มีคำถาม
ถามว่า "แยกกายแยกจิต" หมายถึงอะไร เขาแยกกายแยกจิตกันยังไง เห็นที่บอร์ดหนึ่ง พูดถึงบ่อยๆ
คุณช่วยอธิบายให้แจ่มแจ้งทีเถอะ



(คุณพลศักดิ์แสดงความเห็นการการแยกกายแยกจิต ไว้ดังนี้)


ผมยังไม่ค่อยแน่ใจคำถามของคุณ ผมขออธิบายอย่างนี้นะครับ

เราทุกคนมี กายทิพย์ (อทิสมานกาย) หรือกายภายใน กายภายในตัวนี้ ก็คือกายฝันนั่นเอง นัก
อภิธรรมเรียกมันว่า นามธรรม แต่จริงๆ นามตัวนี้มีรูปด้วย จึงเป็นนามกาย จะเรียกว่า นามที่มีรูป รูปในนามก็
ได้ เราเรียกว่า กายทิพย์ (อทิสมานกาย) กายทิพย์ (อทิสมานกาย) จะออกจากร่างเมื่อเราตาย
หรือนอนหลับแต่ไม่หลับสนิท อยู่ในภวังค์

เวลาเรานั่งสมาธิจนสงบนิ่งเข้าสู่ฌาน 4 แต่ยังมีสติอยู่ เราสามารถถอดกายทิพย์ หรือ กายฝัน ของเราได้

จิตวิญาณ หรือวิญญาณธาตุ หรือเจตภูต ผมคิดว่าก็คือ อทิสมานกาย นั่นเอง

วิธีแยกจิตวิญาณ หรือ เจตภูต หรือ อทิสมานกาย ออกจากขันธ์ 5 (รูปขันธ์ เวทนา สังขารขันธ์ สัญญาขันธ์
และวิญญาณขันธ์) ตอนที่คุณกึ่งหลับกึ่งตื่นในภวังค์หรือ
ในฌาน คุณยังมีสติอยู่ เช่น มีวิญญาณในนรกเต็มไปหมด ทำมือและแขนเล็กๆ ยื่นมือพุ่งทะลุมิติมา
ที่ท้องของขันธ์ 5 ของผม ผมแค่คิดว่า ผมต้องออกไปนับมันดูว่า ผีนรกที่มาขอบคุณผมมันมีก็ดวงกัน
แน่

เท่านั้นเอง ก็เกิดผมอีกคนหนึ่ง เป็นตัวเล็กๆ เดินอยู่บนท้องของผม ไปนับมือต่างๆเหล่านั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



ต้องการฟังความคิดเห็นประเด็นนี้จากท่านอื่นๆบ้าง ใครเห็นประเด็นแยกกายแยกจิต ยังไง

แสดงความเห็นกันได้นะครับ จะได้มีแง่คิดหลายๆมุม

แล้วเดิมทีเดียวคำพูดนี้ใครน่าจะพูดก่อน ไม่แน่ใจ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ เขียน:

ผมยังไม่ค่อยแน่ใจคำถามของคุณ ผมขออธิบายอย่างนี้นะครับ

เราทุกคนมี กายทิพย์ (อทิสมานกาย) หรือกายภายใน กายภายในตัวนี้ ก็คือกายฝันนั่นเอง นัก
อภิธรรมเรียกมันว่า นามธรรม แต่จริงๆ นามตัวนี้มีรูปด้วย จึงเป็นนามกาย จะเรียกว่า นามที่มีรูป รูปในนามก็
ได้ เราเรียกว่า กายทิพย์ (อทิสมานกาย) กายทิพย์ (อทิสมานกาย) จะออกจากร่างเมื่อเราตาย
หรือนอนหลับแต่ไม่หลับสนิท อยู่ในภวังค์

เวลาเรานั่งสมาธิจนสงบนิ่งเข้าสู่ฌาน 4 แต่ยังมีสติอยู่ เราสามารถถอดกายทิพย์ หรือ กายฝัน ของเราได้

จิตวิญาณ หรือวิญญาณธาตุ หรือเจตภูต
ผมคิดว่าก็คือ อทิสมานกาย นั่นเอง

วิธีแยกจิตวิญาณ หรือ เจตภูต หรือ อทิสมานกาย ออกจากขันธ์ 5 (รูปขันธ์ เวทนา สังขารขันธ์ สัญญาขันธ์
และวิญญาณขันธ์) ตอนที่คุณกึ่งหลับกึ่งตื่นในภวังค์หรือ
ในฌาน คุณยังมีสติอยู่ เช่น มีวิญญาณในนรกเต็มไปหมด ทำมือและแขนเล็กๆ ยื่นมือพุ่งทะลุมิติมา
ที่ท้องของขันธ์ 5 ของผม ผมแค่คิดว่า ผมต้องออกไปนับมันดูว่า ผีนรกที่มาขอบคุณผมมันมีก็ดวงกัน
แน่

เท่านั้นเอง ก็เกิดผมอีกคนหนึ่ง เป็นตัวเล็กๆ เดินอยู่บนท้องของผม ไปนับมือต่างๆเหล่านั้น


"เรื่องกายทิพย์"......"ผมคิดว่า"
....จบข่าว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านกรัชกายสร้างบรรยากาศของห้องได้น่ากลัวมากครับ... :b5: :b5: :b14: :b14:
ห้องนี้กระผมขอเป็นผู้ชมดีกว่า... :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 22:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ปล่อยคุณพลศักดิ์..ไปเถอะครับ.. :b29: :b29:
ไม่รู้ว่า..ถ้าเข้าใจกายอะไรอย่างว่านั้นแล้ว..มันจะพ้นทุกข์..ได้งัย :b43:

จริงปล่าว..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 23:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกท่านครับ


เมื่อไม่มีใครแสดงความเห็น ผมจึงขอแสดงความเห็นต่อ สิ่งที่ผมบอกออกไปล้วนเป็นความสัจจริงทุกประการ ผมก็รู้ว่ามารใหญ่และพวกมารเขาไม่ต้องการให้ผมพูดเรื่องนี้ แต่บังเอิญผมไม่สนเสียด้วย ใครจะเชื่อหรือไม่ผมก็ไม่สนเช่นกัน ผมมีหน้าที่บอกความจริงกับโลกอย่างเดียว

วิธีแยกจิตวิญาณ หรือ เจตภูต หรือ อทิสมานกาย ออกจากขันธ์ 5 (ต่อ)

ตัวอย่าง 2

คนที่ผมรู้จัก 3 คน มาขอให้ผมช่วย
- คนหนึ่งเป็นชาย เขาชอบเจ็บตามท้องโดยไม่รู้สาเหตุ และจุดที่เจ็บก็เปลี่ยนไปเรื่อยตามบริเวรท้อง
- อีก 2 คนเป็นหญิงอายุประมาณ 50 กว่า คนที่ 3 อาการหนัก มีเลือดออกมาจากช่องคลอดและอุจจะระ แต่ไม่ใช่ริดสีดวง

ผมก็เข้ากรรมฐานแผ่เมตตา และอุทิศกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของพวกเขาทั้ง 3 คน 3 ครั้งใน 2 วัน ปรากฏว่า เจ้ากรรมนายเวรของพวกเขาทั้ง 3 คน มาหาผมตอนที่ผมหลับแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น เจ้ากรรมนายเวรรายแรกเป็นลิงหรือชะนี มาเขย่าแขนของวิญญาณ ไม่ใช่แขนกายเนื้อของผม ทำให้ผมตื่นขึ้น ผมรู้ทางจิตโดยอัตโนมัติว่า เพื่อนที่เป็นผู้ชายไปเอาหนังสติ๊กยิงลิงหรือชะนีหลายครั้งในวัยเด็ก ตอนนี้กรรมเขาตามทันแล้ว เลยเจ็บตามท้องโดยไม่รู้สาเหตุ และจุดที่เจ็บก็เปลี่ยนไปเรื่อยตามบริเวรท้อง

พอหลับลงอีกครั้ง เจ้ากรรมนายเวรอีกรายก็มาหาผม เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 13 ปี ผมถอดแขนกายทิพย์ออกไป และเอามือลูบศรีษะเด็กนั้นด้วยความสงสาร ผมรู้ทางจิตโดยอัตโนมัติอีกเช่นเคยว่า เพื่อนหญิงคนที่ 2 ของผมไปทำแท้งมา วิญญาณเด็กที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรจึงตามรังควาญ

พอเด็กนั้นไป ก็มีเด็กเล็กอีกคนหนึ่งมาหาผม คราวนี้จิตผมนึกว่าอยากออกไปหาเด็กคนนั้น ทันใดนั้นกายทิพย์หรืออทิสมันกายของผมก็ออกมานั่ง แล้วเด็กคนนั้นก็เข้ามานั่งตักผม ผมก็รู้เหมือนเดิมว่าเพื่อนหญิงคนนี้ของผมก็ไปทำแท้งมาเหมือนกัน ผมก็เลยถามเด็กคนนั้นว่า ตอนนี้หนูอายุเท่าไร เด็กบอกว่า 8 ขวบ แล้วก็ลุกขึ้น ดึงมือผมลุกขึ้น ชวนผมไปเที่ยวบ้านใหม่ของเขาที่เกิดขึ้นจากการแผ่เมตตาและอุทิศกุศลให้เขา...เรื่องยังไม่จบ แต่ผมขอเล่าแค่นี้นะครับ

จุดสำคัญที่ผมจะชี้แนะคือ

1. เมื่อเราอยู่ในภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ถ้ามีวิญญาณดวงอื่นมาสัมผัสเรา (ผีอำ) วิญญาณดวงนั้นจะช่วยให้เราแยกจิตวิญญาณของเราออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น เพียงแต่เราแค่นึกว่าจะออกไปจากร่างกาย ก็ไปได้แล้ว จุดสำคัญคือเราต้องไม่ยึดมั่นถือมั่นว่า กายที่กำลังหลับอยู่ของเราเป็นกายจริง

2. กายจริงของเราคือกายทิพย์(อทิสมานกาย) กายทิพย์(อทิสมานกาย)เป็นนามกายที่ออกจากจิตของเรา

3. ด้วยเหตุนี้ จิตซึ่งเป็นนาม จึงมีกายด้วยถ้าเราต้องการ ก็อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสกับหลวงปู่มั่นว่า

"ตถาคตมาเป็นรูปธรรม ไม่ได้มาเป็นนามธรรม"

มาเป็นรูปธรรม คือ มาในลักษณะกายทิพย์(อทิสมานกาย) ที่เรียกว่า "ธรรมกาย"

มาเป็นนามธรรม คือ มาในจิตของเราแบบไม่มีลักษณะ เรียกว่า พรหมภูต ธรรมภูต เราจะรู้เองว่าเป็นพระพุทธเจ้า

4. กายทิพย์ (อทิสมานกาย) หรือธรรมกายของพระอรหันต์ กายทิพย์ (อทิสมานกาย)ของปถุชนจะมองไม่เห็น แม้แต่พกาพรหม และยมบาลก็มองไม่เห็น หาไม่เจอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 00:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสเรื่องกายทิพย์ของมุนษย์ ไว้เป็นหลักฐานใน สามัญญผลสูตร พระองค์ทรงตรัสว่า

"ผู้ที่สามารถถอดกายทิพย์ออกจากายหยาบของตนได้นั้น เสมือนหนึ่งการถอดไส้ของหญ้าปล้อง"

อนึ่ง กายทิพย์หรืออทิสมานกายนี้ น่าจะเป็นตัวเดียวกับปฏิสนธิวิญญาณ หรือ เจตภูต เพียงแต่เรียกชื่อต่างกันไปเท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 05:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณใบไม้นอกกำมืองับ

นี่อะไร จะต้องทำงัย เมื่อมีผู้สอนให้เขาเป็นยังงี้

ดูก่อนค่อยตอบ=>

http://www.youtube.com/watch?v=yMvbgckInow

มีเจ้ากรรมนายหัวมาทับร่างทับทรงหรือยังงัยงับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ก็อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสกับหลวงปู่มั่นว่า

"ตถาคตมาเป็นรูปธรรม ไม่ได้มาเป็นนามธรรม"

มาเป็นรูปธรรม คือ มาในลักษณะกายทิพย์ (อทิสมานกาย) ที่เรียกว่า "ธรรมกาย"

มาเป็นนามธรรม คือ มาในจิตของเราแบบไม่มีลักษณะ เรียกว่า พรหมภูต ธรรมภูต เราจะรู้เองว่าเป็นพระพุทธเจ้า




คุณใบไม้นอกกำมือ อ้างหลวงปู่มั่น ฯลฯ ชัด
ถามก่อนว่า คุณได้ยินคำพูดนี้มาจากใคร หรือ คุณอ่านหนังสิอประวัติท่านมา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 08:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกายครับ


1. ผู้ที่เขียนประวัติของหลวงปู่มั่น ก็บันทึกเรื่องราวของหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นและผู้บันทึกท่านไม่กล้าโกหกหรอก โดยเฉพาะไปโกหกเรื่องพระพุทธเจ้า คุณกรัชกายกล้าทำไหม

2. ผมได้ตอบไปแล้วว่า ก่อนหรือหลังการให้ผู้ปฏิบัติทำกรรมฐานเพื่อตรวจกรรม พระครูผู้ทำต้องมีความรู้ด้วยว่า จะสยบวิญญาณที่ออกมานั้นอย่างไร วิธีง่ายๆคือ แผ่เมตตาและอุทิศกุศลให้เขา ก็ทำแบบที่ผมทำนั่นแหละ เวลาเราให้อาหาร ให้เงิน ให้รถ ให้บ้านกับเจ้ากรรมนายเวร ความแข็งกร้าวของเจ้ากรรมนายเวรจะอ่อนลงจากผลบุญและการแผ่เมตตาของเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


suwichai เขียน:
คุณกรัชกายครับ


1. ผู้ที่เขียนประวัติของหลวงปู่มั่น ก็บันทึกเรื่องราวของหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นและผู้บันทึกท่านไม่กล้าโกหกหรอก โดยเฉพาะไปโกหกเรื่องพระพุทธเจ้า คุณกรัชกายกล้าทำไหม

2. ผมได้ตอบไปแล้วว่า ก่อนหรือหลังการให้ผู้ปฏิบัติทำกรรมฐานเพื่อตรวจกรรม พระครูผู้ทำต้องมีความรู้ด้วยว่า จะสยบวิญญาณที่ออกมานั้นอย่างไร วิธีง่ายๆคือ แผ่เมตตาและอุทิศกุศลให้เขา ก็ทำแบบที่ผมทำนั่นแหละ เวลาเราให้อาหาร ให้เงิน ให้รถ ให้บ้านกับเจ้ากรรมนายเวร ความแข็งกร้าวของเจ้ากรรมนายเวรจะอ่อนลงจากผลบุญและการแผ่เมตตาของเรา




ผู้ที่เขียนประวัติของหลวงปู่มั่น ก็บันทึกเรื่องราวของหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นและผู้บันทึกท่านไม่กล้าโกหกหรอก โดยเฉพาะไป โกหกเรื่องพระพุทธเจ้า คุณกรัชกายกล้าทำไหม


สรุปว่า คุณอ่านหนังสือบันทึกประวัติของท่าน ที่ถามเพราะต้องการแหล่งที่มา เพราะลูกศิษย์หรือผู้ที่สืบทอดวิธีการจากนั้นก็มีไม่น้อยในปัจจุบัน ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ หากเป็นไปตามนั้น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 12:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีแยกกายกับจิต หรือ แยกรูปนาม เบื้องต้นที่ใช้กันอยู่ในคัมภีร์ศาสนา ได้แก่ โยนิโสมนสิการแบบที่ ๒

๒. วิธีคิดแบบแยกแยะส่วนประกอบ

viewtopic.php?f=2&t=19048&p=86282#p86282

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 21:25
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ

:b9: :b39: :b39:

.....................................................
ศัตรูของคนเราที่แท้จริงแล้ว คือ โลภ โกรธ หลง
ต้องแก้ด้วยมี ศีล สมาธิ ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 10:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2643605056711sb9.gif
2643605056711sb9.gif [ 3.96 KiB | เปิดดู 7733 ครั้ง ]
ผู้ต้องการความตื่นเต้นเร้าใจยิ่งๆขึ้นไป :b32:

อ่านวิธีถอดจิตลิงค์ข้างใต้ เขาตั้งชื่อว่า "การถอดจิตในมหาสติปัฎฐาน ๔"

-ถอด ๔ ครั้ง ครั้งที่สี่ เป็นพระอรหันต์เลย

ครั้งที่หนึ่ง "ถอดจิตจากอารมณ์พระโสดาบัน พิจารณากายในกาย"

ครั้งที่สอง "ถอดจิตจากอารมณ์พระโสดาบัน พิจารณาเวทนาในเวทนา"

ครั้งที่สาม "ถอดจิตจากอารมณ์พระอานาคามีขั้นต่ำ พิจารณาจิตในจิต"

ครั้งที่สี่ "ถอดจิตจากอารมณ์พระอรหันต์ พิจารณาธรรมในธรรม"



คำเตือน...คนขวัญอ่อน และ ผู้ใหม่ต่อศาสนา พึงอ่านด้วยความระมัดระวัง ตั้งสติดีดีก่อนอ่าน

พร้อมแล้วไป

http://board.palungjit.com/f4/การถอดจิตในมหาสติปัฎฐาน-๔-194887.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 21:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
:b8: งง นะคะ :b23:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร