วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 02:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ประเภทนิพพานธาตุ

ขุ.อิติ.๒๕/๒๒๒/๒๕๘:

การแบ่งประเภทนิพพานที่รู้จักกันทั่วไป คือที่แบ่งเป็นนิพพานธาตุ๒ ตามคัมภีร์อิติวุตตกะ

ได้แก่

๑. สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ นิพพานธาตุที่มีอุปาทิเหลือ หรือนิพพานที่ยังมีเชื้อเหลือ

๒.อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ นิพพานธาตุที่ไม่มีอุปาทิเหลือ หรือนิพพานที่ยังไม่มีเชื้อเหลือ


สิ่งที่เป็นกฎเกณฑ์แบ่งประเภทในที่นี้คือ "อุปาทิ" ซึ่งอรรถกถาอธิบายว่า ได้แก่สภาพ

ที่ถูกกรรมถือครอง หรือสภาพที่ถูกอุปาทานยึดไว้มั่น หมายถึงเบญจขันธ์(ขันธ์๕) เมื่อถือ

ความตามคำอธิบายนี้ จึงได้ความหมายว่า

๑.สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ ได้แก่นิพพานที่ยังมีเบญจขันธ์เหลือ หรือนิพพานที่ยังเกี่ยว

ข้องกับเบณจขันธ์

๒.อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ได้แก่นิพพานที่ไม่มีเบญจขันธ์เหลือ หรือนิพพานที่ไม่

เกี่ยวข้องกับเบณจขันธ์

นิพพานอย่างแรกแปลความหมายต่อไปอีกว่า หมายถึงดับกิเลส แต่ยังมีเบญจขันธ์

เหลือ ได้แก่นิพพานของพระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยุ่ ตรงกับคำที่คิดขึ้นใช้ในอรรถกถาว่า กิ

เลสปรินิพพาน(ดับกิเลสสิ้นเชิง) ส่วนนิพพานอย่างที่สอง ก็แปลกันต่อไปว่า ดับกิเลสไม่มี

เบญจขันธ์เหลือ ได้แก่ นิพพานของพระอรหันต์เมื่อสิ้นชีวิต ตรงกับคำที่คิดขึ้นใช้ใน

อรรถกถาว่า ขันธ์ปรินิพพาน (ดับขันธ์๕สิ้นเชิง)

เพื่อความแจ่มชัด และให้ผู้ศึกษาพิจารณาด้วยตัวเอง จะคัดข้อความตามบาลีเกี่ยวกับ

เรื่องนี้มาลงไว้ดังนี้

"แท้จริง พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคองค์อรหันต์ได้ตรัสไว้ ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้

ภิกษุทั้งหลายนิพพานธาตุ๒อย่างเหล่านี้ กล่าวคือ สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ และอนุปาทิเส

สนิพพานธาตุ"

ภิกษุทั้งหลาย สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ เป็นไฉน? ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใน

ธรรมวินัยนี้เป็นพระอรหันต์สิ้นอาสวะแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ทำกิจที่ควรทำจบแล้ว

ปลงภาระลงได้แล้ว บรรลุประโยชน์ตนแล้ว มีสังโยชน์เครื่องผูกมัดไว้กับภพหมดสิ้นไป

แล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้ชอบ, อินทรีย์๕ ของเธอยังดำรงอยู่เทียวเพราะอินทรียทั้งหลาย

ยังไม่เสียหาย เธอย่อมได้เสวยอารมณ?ทั้งที่พึงใจและไม่พึงใจ ย่อมเสวยทั้งสุขและทุกข์ :

อันใดเป็นสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ ของเธอ, อันนี้เรียกว่าสอุปาทิเส

สนิพพานธาตุ"



" ภิกษุทั้งหลาย อนุปาทิเสสธาตุเป็นไฉน? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันต์สิ้น

อาสวะแล้ว..........หลุดพ้นแล้วเพราะรู้ชอบ, อารมณ์ที่ได้เสวย(เวทยิต) ทั้งปวงในอัตตภาพนี้

แหละของเธอซึงเธอไม่ติดใจเพลินแล้ว(อนภินันทิต)จักเป็นของเย็น, ข้อนี้เรียกว่า อนุปาทิเส

สนิพพานธาตุ"



"นิพพานธาตุ๒อย่างเหล่านี้ พระผู้ทรงจักษุ ผู้คงที่ ไม่ขึ้นต่สิ่งใด ได้ทรงประกาศไว้

แล้ว(คือ)นิพพานธาตุอย่างหนึ่ง เป็นทิฏฐิธัมมิกะ(มีปัจจุบัน หรือทันตาเห็น) ชื่อว่าสอุปาทิเส

ส เพราะสิ้นตัญหาเครื่องนำไปสู่ภพ: ส่วนนิพพานธาตุอีกอย่างหนึ่ง เป็นสัมปรายิกะ (มีใน

เบื้องหน้า หรือเป็นของล้ำ) เป็นที่ภพทั้งหลายดับไปหมดสิ้น ชื่อว่าอนุปาทิเสส..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 19:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 20:44
โพสต์: 341

ที่อยู่: ภาคตระวันออก

 ข้อมูลส่วนตัว


(ห้ามชวนภิกษุไปบิณฑบาทด้วยแล้วไล่กลับ)

พระอุปนนทะ ศากยบุตร ชวนภิกษุรูปหนึ่งไปเที่ยวบิณฑบาตด้วยกัน แล้วไล่เธอกลับ พระผู้มีพระภาคจึงทรงบัญญัติสิกขาบท ห้ามทำเช่นนั้น ทรงปรับอาบัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้ล่วงละเมิด

ขอเพื่อนกัญญามิตรพึงเจริญธรรม

เทพบุตร :b8: :b8:

.....................................................
การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ท้งปวง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร