วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 15:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


โยนิโสมนสิการ วิธีการแห่งปัญญา

จากหนังสือพุทธธรมบทที่๑๘


โยนิโสมนสิการ

วิธีการแห่งปัญญา





โยนิโสมนสิการ เป็นการใช้วิธีคิดอย่างถูกวิธี ตามความหมายที่กล่าวมาแล้ว เมื่อเทียบ

ในกระบวนการพัฒนาปัญญา โยนิโสมนสิการ อยู่ในระดับที่เหนือศรัทธา เพราะเป็นขั้นที่

เริ่มใช้ความคิดของตนเป็นอิสระ ส่วนในระบบการศึกษาอบรม โยนิโสมนสิการเป็นการฝึก

การใช้ความคิด ให้รู้จักคิดอย่างถูกวิธี คืดอย่างมีระเบียบ รู้จักคิดวิเคราะห์ ไม่มองเห็นสิ่ง

ต่างๆอย่างตื้นๆผิวเผิน เป็นขั้นสำคัญในการสร้างปัญญาที่บริสุทธิ์เป็นอิสระ ทำให้ทุกคนช่วน

ตัวเองได้ และนำไปสู่จุดหมายพุทธธรรมอย่างแท้จริง


ความหมายของโยนิโสมนสิการ

ว่าโดยรูปศัพท์ โยนิโสมนสิการ ประกอบด้วย โยนิโส กับ มนสิการ มาจากโย

นิ แปลว่า เหตุ ต้นเค้า แหล่งเกิด ปัญญา อุบาย วิธี ทาง ส่วยมนสิการ

แปลว่า การทำในใจ การคิด คำนึง นึกถึง ใสใจ พิจารณา เมื่อรวมเข้าเป็น

โยนิโสมนสิการ อออท่านแปลสืบๆกันมาว่า การทำใจโดยแยบคาย การทำในใจนี้มีความ

หมายแค่ไหนเพียงใด คัมภีร์ชั้นอรรถกถาและฎีกาได้ไขความไว้ โดยวิธีแสดงไวพจน์ให้

เห็นความหมายแยกเป็นแง่ๆ ได้ดังนี้



๑.อุบายมนสิการ แปลว่า คิดหรือพิจารณาโดยอุบาย คือคิดอย่างมีวิ หมายถึงคิดถูก

วิธีที่จะให้เข้าถึงความจริง สอดคล้องกับแนวสัจจะ ทำให้หยั่งรู้สภาวะลักษณะและสามัญ

ลักษณะของสิ่งทั้งหลาย



๒.ปถมนสิการ แปลว่า คิดเป็นทาง หรือคิดถูกทาง คือคิดให้ได้ต่อเนื่องเป็น

ลำดับ จัดลำดับได้หรือมีลำดับ มีขั้นตอน แล่นไปเป็นแถวเป็นแนว หมายถึง ความคิด

เป็น ระเบียบตามแนวเหตุผลเป็นต้น ไม่ยุ่งเหยิงสับสน ไม่ใช่ประเดี๋ยววกวนติดพันเรื่อง

นี้ ที่นี่ เดี๋ยวเตลิดออกไปเรื่องโน้นที่โน้น หรือกระโดดไปกระโดดมา ต่อเป็นชิ้นเป็นอัน

ไม่ได้ ทั้งนี้รวมทั้งความสามารถที่จะชักความนึกคิดเข้าสู่แนวทางที่ถูกต้อง



๓.การมนสิการ แปลว่า ติดตามเหตุ คิดค้นเหตุ คิดตามเหตุผล หรือคิดอย่างมี

เหตุผล หมายถึงการคิดสืบค้นตามแนวความสัมพันธ์สืบทอดกันแห่งเหตุปัจจัย พิจารณาสืบ

สาวหาสาเหตุ ใหเข้าใจถึงต้นเค้า หรือเหล่งทีมาส่งผลต่อเนืองมาตามลำดับ



๔.อุปปาทกมนสิการ แปลว่า คิดให้เกิดผล คือใช้ความคิดให้เกิดผลที่พึ่งประสงค์

เล็งถึงการคิดอย่างมีเป้าหมาย ท่านหมายถึง การคิดพิจารณาที่ทำให้เกิดกุศลธรรม เช่น

ปลุกเร้าให้เกิดความเพียร การรู้จักคิดในทางที่ทำให้หายหวาดกลัว ให้หายโกรธ การ

พิจารณาให้มีสติ หรือทำจิตใจให้เข้มแข็งมั่นคงเป็นต้น



ไขความทั้ง๔ข้อนี้ เป็นการแสดงลักษณะด้านต่างๆ ของความคิดที่เรียกว่าโยนิโส

มนสิการ โยนิโสมนสิการที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งๆ อาจมีลักษณะทีเดียวครบทั้ง๔ข้อ หรือเกือบ

ครบทั้งหมดนั้น หากจะเขียนลักษณะทั้ง๔ข้อนั้นสั้นๆ คงได้ความว่า คิดถูกวิ คิดมี

ระเบียบ คิดมีเหตุผล คิดเร้ากุศล แต่ถ้าจะสรุปเป็นคำจำกัดความ ก็เห็นได้ว่าทำยากสัก

หน่อย มักจับเอาไปได้แต่บางแง่บางด้านไม่ครอยคลุมทั้งหมด หรือไม่ก็ต้องเขียนบรรยายยืด

ยาวเหมือนอย่างที่เขียนไว้ในตอยเริ่มต้นของบทนี้ อย่างไรก็ตามมีลักษณะเด่นบางอย่างของ

ความคิดแบบนี้ ที่อาจถือเป็นตัวแทนของลักษณะอื่นๆได้ ดังที่ได้เคยแปลโดยนัยว่า ความ

คิดถูกวิธี ความรู้จักคิด การคิดเป็น การคิดตรงตามสภาวะและเหตุปัจจัย การคิดสืบค้น

ถึงต้นเค้า เป็นต้น หรือถ้าเข้าใจความหมายดีแล้ว จะถือคำแปลสืบๆกันมาว่า การทำใน

ใจโดยแยบคายก็ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 19:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 21:25
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุและอนุโมทนานะคร้า

.....................................................
ศัตรูของคนเราที่แท้จริงแล้ว คือ โลภ โกรธ หลง
ต้องแก้ด้วยมี ศีล สมาธิ ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร