วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 20:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 19:13
โพสต์: 69

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมรู้สึกว่าผมเป็นโรคย้ำคิดในสิ่งผมไม่อยากทำเช่นคิดไม่ดีกับสิ่งนับมาก มีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



เพียงแค่แบ่งปันกันนะคะ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ

แนะนำให้ฝึกเจริญสติปัฏฐานค่ะ :b1:

หรือจะใช้วิธีกำหนด " หนอ " เข้าช่วยก็ได้ เพราะทำแล้วได้ผล

เช่นเวลาคิด ให้หายใจยาวๆ แล้วกำหนดว่า คิดหนอๆๆๆๆ

จนกว่าความคิดนั้นจะหายไป ... ใช้เวลาหน่อยนะคะ แต่ได้ผลแน่นอน



หรือเข้าไปตั้งกระทู้ใหม่ได้เลยค่ะ

viewforum.php?f=2

เดี๋ยวมีคนมาแนะนำเพียบ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 14 ส.ค. 2009, 00:57, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็คิดให้มากที่สุด ให้ถึงที่สุดเลยครับ

แล้วลองถามตัวเองดูว่าคิดทำไม ได้ประโยชน์อะไร

คือคิดมันไปจนกว่าจะเบื่อคิดน่ะครัับ

cool

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 06:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่ครับ

ตรงประเด็นเลยครับ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=24864


อาการที่คุณ ท่าน จขกท เล่า




อาการนี้ ในทางธรรม เรียกว่า กุกกุจจะ

กุกกุจจะ ความรำคาญใจ,
ความเดือดร้อนใจ เช่นว่า
สิ่งดีงามที่ควรทำ ตนมิได้ทำ
สิ่งผิดพลาดเสียหายไม่ดีไม่งาม ที่ไม่ควรทำ ตนได้ทำแล้ว,
ความยุ่งใจ กลุ้มใจ กังวลใจ,
ความรังเกียจหรือกินแหนงในตนเอง,
ความระแวงสงสัย เช่นว่า
ตนได้ทำความผิดอย่างนั้นๆ แล้วหรือมิใช่
สิ่งที่ตนได้ทำไปแล้วอย่างนั้นๆ เป็นความผิดข้อนี้ๆ เสียแล้วกระมัง



ในทางจิตวิทยา

http://www.mahidol.ac.th/mahidol/ra/rapc/ocd.html


"....อาการย้ำคิด (obsession) เป็นความคิด ความรู้สึก หรือจินตนาการ ที่มักผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ผู้ป่วย เองก็ทราบว่าเป็นความคิดที่เหลวไหล ไม่เข้าใจว่าเกิดความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร รู้สึกรำคาญต่อความคิดนี้ เช่น
มีความคิดจะจุดไฟเผาบ้าน
คิดว่ามือสกปรก
คิดด่าทอพระพุทธรูปที่ตนเคารพ ๆลๆ

ผู้ป่วยรู้สึกผิดต่อความคิดที่เกิดขึ้น มีความกังวลใจ พยายามที่จะไม่ใส่ใจ หรือเลิกคิด บางครั้งอาจแก้หรือหักลัางความคิดนี้ด้วยความคิดหรือการกระทำต่างๆ เช่น ถ้าคิดว่าไม่ได้ปิดแก๊ส ก็จะตรวจเช็คเตาแก๊สวันละหลายๆ ครั้ง ไปล้างมือเมื่อคิดว่าสกปรก หรือท่องนะโมในใจทุกครั้งที่คิดในทางไม่ดีต่อพระพุทธรูป.....

ๆลๆ

คนเราปกติก็อาจมีความคิดหรือพฤติกรรรมเช่นนี้ได้ แต่ในผู้ป่วย OCD อาการเหล่านี้ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างมาก ผู้ป่วยพยายามฝืนสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มักผืนไม่ได้ เสียเวลาไปกับความคิดหรือพฤติกรรมค่อนข้างมากในแต่ละวัน (มากเกินกว่าวันละ 1 ชั่วโมง) ..."




อาการนี้ ในทางธรรมเป็นลักษณะฟุ้งซ่าน(อุทธัจจะ-กุกกุจจะ) ทั้งๆที่รู้ว่าการคิดเช่นนี้ไม่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่รู้จะหยุดคิดอย่างไร..... และเป็นทุกข์กับความคิดนั้น




คำสอนหลวงปู่ชา สุภัทโท


โยม : ความฟุ้งซ่าน เวลามันเกิดขึ้นมา เราจะแก้ไขด้วยอุบายอย่างไร

หลวงพ่อ : มันไม่ยากหรอก มันเป็นของไม่แน่หรอก ไม่ต้องไปแก้มัน คราวที่ฟุ้งซ่านมีไหม ที่มันไม่ฟุ้งซ่านมีไหม

โยม : มีครับ

หลวงพ่อ : นั่น ! จะไปทำอะไรมันล่ะ มันก็ไม่แน่อยู่แล้ว

โยม : ทีนี้เวลามันแวบไปแวบมาล่ะครับ

หลวงพ่อ : เอ๊า ! ก็ดูมันแวบไปแวบมาเท่านั้นแหละ จะทำยังไงกับมัน มันดีแล้วนั่นแหละ โยมจะไม่ให้มันเป็นอะไร อย่างไร มันจะเกิดปัญญาหรือนั่น

โยม : มันแวบไป เราก็ตามดูมัน

หลวงพ่อ : มันแวบไปมันก็อยู่นั่นแหละ

เราไม่ตามมันไป เรารู้สึกมันอยู่ มันจะตรงไปไหนล่ะ มันก็อยู่ในกรงอันเดียวกัน ไม่ตรงไปไหนหรอก

นี้แหละ เราไม่อยากจะให้มันเป็นอะไรนี่ พระอาจารย์มั่นเรียกว่า สมาธิหัวตอ ถ้ามันแวบไปแวบมา ก็ว่ามันแวบไปแวบมา ถ้ามันนิ่งเฉย ๆ ก็ว่านิ่งเฉย ๆ จะเอาอะไรล่ะ ให้รู้เท่าทันมันทั้งสองอย่าง

วันนี้มันมีความสงบก็คิดว่า มันมาให้ปัญญาเกิด แต่บางคนเห็นว่าสงบนี่ดีนะ ชอบ ดีใจ วันนี้ฉันทำสมาธิมันสงบดีเหลือเกิน แน่ะ ! อย่างนี้เมื่อวันที่สองมาไม่ได้เรื่องเลย วุ่นวายทั้งนั้นแหละ แน่ะ วันนี้ไม่ดีเหลือเกิน

เรื่องดีไม่ดีมันมีราคาเท่ากัน เรื่องดีมันก็ไม่เที่ยง เรื่องไม่ดีมันก็ไม่เที่ยง จะไปหมายมั่นมันทำไม ? มันฟุ้งซ่านก็ดูมันฟุ้งซ่านไปซิ มันสงบก็ดูมันสงบซิ อย่างนี้ให้ปัญญามันเกิด

มันเป็นเรื่องของมันจะเป็นอย่างนี้ เป็นอาการของจิตมันเป็นอย่างนั้น เราอย่าไปยุ่งกับมันมากซิ ลักษณะอันนั้น อย่างเราเห็นลิงตัวหนึ่งนะ มันไม่นิ่งใช่ไหม โยมก็ไม่สบายใจ เพราะลิงมันไม่นิ่ง

มันจะนิ่งเมื่อไร โยมจะให้มันนิ่ง โยมถึงจะสบายใจ มันจะได้เรื่องของลิงนะ ลิงมันเป็นเช่นนี้ ลิงที่กรุงเทพ ฯ มันก็เหมือนลิงตัวนี้แหละ ลิงที่อุบลราชธานีก็เหมือนลิงที่กรุงเทพ ฯ นั่นแหละ

ลิงมันเป็นอย่างนั้นของมันเอง ก็หมดปัญหาเท่านั้นแหละ เอาอย่างนี้แหละ จะได้หมดปัญหาของมันไป อันนี้ลิงก็ไม่นิ่ง เราก็เป็นทุกข์อยู่เสมอ อย่างนั้นก็ตายเท่านั้นแหละ เราเป็นลิงยิ่งกว่าลิงเสียแล้วกระมัง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาไอ้ความย้ำคิดย้ำทำ ไปย้ำคิดย้ำทำ ในเรื่องของการเพ่งพิจารณาธรรม
ย้ำปฏิบัติ ย้ำพิจารณาให้ซ้ำซาก ย้ำคิดแต่เรื่องไตรลักษณ์ ย้ำทำแต่กุศลทั้งปวง

หากคุณหยิบจับกิริยาย้ำคิดย้ำทำไปใช้ให้ถูกที่ การย้ำคิดย้ำทำของคุณก็เกิดประโยชน์

สิ่งสำคัญของคุณ ไม่ใช่ปัญหาแค่การย้ำคิดย้ำทำ
แต่มันอยู่ตรงที่ ไม่ประณีตพอในการคัดสรรเรื่องราว เอามาย้ำคิดย้ำทำ

หากมีการพิจารณาเลือกเฟ้น ว่าอันไหนควรคิด อันไหนควรวางอันไหนควรทำควรไม่ทำ
ให้ได้มากขึ้น กระบวนการย้ำคิดย้ำทำของคุณก็จะไม่สร้างปัญหามากนัก

หากฝึกสมาธิและสามารถทำสมาธิได้ สมาธิก็จะช่วยลดทอนความคิดให้น้อยลง
และความย้ำคิดย้ำทำของคุณก็จะกลายเป็น วิธีสร้างความรอบคอบอย่างดี

:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 11:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตเป็นตัวสั่งการค่ะ จะแก้อาจอยากหน่อยแต่ทำได้ค่ะ

แก้โดยบอกตัวเองเลย "ย้ำทำอีกแล้วหนอ" บอกไปเรื่อยๆ แล้วก็บอกไปด้วยว่า "ทำแล้วหนอ" แบบนี้เป็นการบอกจิตว่า เราทำแล้วนะ ไม่ต้องไปทำซ้ำๆซากๆ

แล้วจะหายเองแหละค่ะ ตั้งใจแน่วแน่ เจตนาดีกับตัวเอง ไม่อยากให้ตัวเองเป็นทุกข์เพราะการย้ำคิดย้ำทำค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 20:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


tammylala เขียน:
ผมรู้สึกว่าผมเป็นโรคย้ำคิดในสิ่งผมไม่อยากทำเช่นคิดไม่ดีกับสิ่งนับมาก มีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ


สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณอยู่นั้น เกิดจากเหตุทางกรรมพันธุ์ และการได้รับการขัดเกลาทางสังคม ทำให้คุณเป็นคนที่ค่อนข้างมีอารมณ์รุนแรง ประกอบกับคุณได้รับการเรียนรู้ หรือประสบการณ์น้อย จึงไม่สามารถแก้ไขอาการที่เกิดกับตัวคุณได้
ความจริง แล้วเป็นเรื่อง ปกติของปุถุชนคนทั่วไป ล้วนอาจมีอาการเช่นคุณ ถ้าเป็นศัพท์ภาษาทางพุทธศาสนา เรียกว่า "วิตก,วิจารณ์ " เหตุเพราะขาดสมาธิ เท่าทีควรจะมี

คุณอาจจะมีอาการป่วยทางสมอง หรือหัวใจ เช่นเส้นเลือดตีบตันเป็นบางครั้ง หรือ อาจมคอเลสโตรอล ในเส้นเลือดมากสักนิดหนึ่งทำให้เลือดเดินไปสะดวก ก็อาจทำให้เกิดอาการอย่างที่คุณเล่ามาได้

วิธีแก้.....อย่างแรก ฝึกสมาธิ ให้มากขึ้น และฝึกอย่างถูกวิธี ก็จะสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่า คุณเป็นมานานแค่ไหน เพราะถ้าเป็นมานาน สภาพสภาวะร่างกายของคุณถือเป็นการทำงานของมันไปแล้ว ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะควบคุมมันได้

อย่างที่สอง........ไปพบจิตแพทย์ เพื่อจิตแพทย์ได้วินิจฉัย เพราะคุณอาจมีอาการป่่วยทางร่างกาย หรือจิตใจ ความคิด อาจต้องรับการรักษา ขอรับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร