วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 22:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2009, 19:01
โพสต์: 60

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
คนทุกคนและสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตหนีความตายไปไม่พ้น
ได้แต่ปลงอนิจจัง แม้จะรู้แต่รู้สึกใจหายอย่างแรง

คือว่า สุนัขที่บ้านได้จากโลกอันเน่าใบนี้ไปสู่สุขติภูมิ อย่างสงบ
หลังจากทรมานมานาน หลังจากที่ได้รับรู้ว่าสุนัขที่บ้านป่วยหนัก
ก็ ได้ไปดูแลและพูดคุย เพื่อล้างบาปที่ตัวเองทำไป แต่ที่จริง ล้างไม่ได้หรอก
คงได้รับกรรมสักวัน ที่จริง คิดว่าได้รับแล้วหล่ะ
หนีไม่พ้น ตั้งแต่เด็กๆ ตัวเองตามใจตัวเอง คงเป็นกรรมด้วย มักจะเข้าไปแกล้งมัน
และบางทีไปลงกับมันเวลาที่โมโห ตอนที่ตัวเองยังไม่ดีขึ้น หลังจากได้ปฎิบัติธรรมก็
ชีวิตตัวเองดีขึ้นเท่าที่ตัวเองรู้และพ่อแม่และน้องชายรู้ ยังไม่ดีขึ้น 100%

แต่ตอนนี้โจโจ้ไปสงบแล้ว สิ่งที่ตัวเองได้ทำให้น้องหมา ณ วันสุดท้ายคือ
พูดนำทางให้สุนัขไปสู่สุขคติ ตามที่แม่ได้บอกกล่าว คอยสลับกันพูด พุทโธ
ตลอดคืน และเขาก็จากไปอย่างสวบตอนตีสอง

ถ้าวิญญาณโจโจ้รับรู้ได้ ขอบอกว่า ไปดีแล้ว หายทุขแล้ว อโหสิกรรมให้ด้วยนะ
ต่อไปนี้สิ่งที่ผมคนนี้ทำได้คงมีแต่ทำบุญและอุทิศให้เขา

แม้ว่าจะรู้มาตลอดว่า ทุกคนและทุกชีวิต ต้องตายเป็นธรรมดา แต่รู้สึกใจหายและรู้สึกละอายใจมาก
รู้สึกว่าตัวเองเป็นทุข เพราะเสียของรักไป แม้จะไม่ใช่ของผม แต่เป็นของน้องชายแต่ก็เล่นกับมันมา

สิ่งที่ตัวผมทำได้มีแค่ปฎิบัติธรรมเข้มข้น ถือศีล ทำความดี พูดดี คิดดี
และแผ่และอุทิศบุญให้แก่เขาแค่นั้นใช่ไหมครับ แล้วไม่แน่ใจว่าเขาจะอาฆาตผมเปล่า
แต่ตอนนี้ได้แต่ปลงอนิจจังอย่างเดียว

ชีวิตเรามีแค่นี้เอง รวยมากไป ก็ไม่มีประโยชน์จริงๆ
คงได้แต่ปฏิบัติให้เข้มขึ้น ครับ


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 20 พ.ย. 2009, 13:23, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนรู้ธรรมมักเอาชนะผู้อื่น
คนปฏิบัติธรรมมักเอาชนะตนเอง
อนุโมทนาครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 15:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คือว่า สุนัขที่บ้านได้จากโลกอันเน่าใบนี้ไปสู่สุขติภูมิ อย่างสงบ หลังจากทรมานมานาน หลังจากที่ได้รับรู้ว่าสุนัขที่บ้านป่วยหนักก็ได้ไปดูแลและพูดคุย เพื่อล้างบาปที่ตัวเองทำไป แต่ที่จริง ล้างไม่ได้หรอก
คงได้รับกรรมสักวัน ที่จริง คิดว่าได้รับแล้วหล่ะหนีไม่พ้น ตั้งแต่เด็กๆ ตัวเองตามใจตัวเอง คงเป็นกรรมด้วย มักจะเข้าไปแกล้งมันและบางทีไปลงกับมันเวลาที่โมโห ตอนที่ตัวเองยังไม่ดีขึ้น หลังจากได้ปฎิบัติธรรมก็ชีวิตตัวเองดีขึ้นเท่าที่ตัวเองรู้และพ่อแม่และน้องชายรู้ ยังไม่ดีขึ้น 100%


มันเป็นที่กรรมค่ะ วิบากรรมใดๆ ล้างไม่ได้ค่ะ แต่เจือจางได้ ด้วยบุญ ใช้แน่ เมื่อไหร่เท่านั้น ใช้ในปริมาณที่เท่ากัน แต่ความเข้มข้นน้อยกว่า ถ้าสร้างบุญ

การปฏิบัติธรรม ไม่ได้ทำให้ชีวิตของคนปฏิบัติดีขึ้น ตัวคนปฏิบัติเองต่างหากที่จะทำให้ชีวิตตนดีขึ้นได้หรือไม่ การจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ต้องรู้จักและเข้าใจธรรม และเมื่อเข้าใจธรรม ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ก็จะรู้จักการใช้ชีวิตให้มีความสุข รู้วิธีทำให้ตัวเองพ้นทุกข์ค่ะ


อ้างคำพูด:
แต่ตอนนี้โจโจ้ไปสงบแล้ว สิ่งที่ตัวเองได้ทำให้น้องหมา ณ วันสุดท้ายคือพูดนำทางให้สุนัขไปสู่สุขคติ ตามที่แม่ได้บอกกล่าว คอยสลับกันพูด พุทโธตลอดคืน และเขาก็จากไปอย่างสวบตอนตีสอง


แผ่เมตตาให้เขาค่ะ ปฏิบัติโดยการ ถือศีล ทำสมาธิ ขอให้ส่วนบุญส่วนกุศลใดที่เกิดจากการเจริญภาวนานี้ ได้ตกไปสู่โจโ้จ้ ขอให้ชาติหน้าของเขา เขาได้เกิดเป็นคนค่ะ

อ้างคำพูด:
ถ้าวิญญาณโจโจ้รับรู้ได้ ขอบอกว่า ไปดีแล้ว หายทุขแล้ว อโหสิกรรมให้ด้วยนะ ต่อไปนี้สิ่งที่ผมคนนี้ทำได้คงมีแต่ทำบุญและอุทิศให้เขา


ขออโหสิกรรมนั้นดียิ่งค่ะ คุณเองก็อโหสิกรรมให้เขาด้วย วิบากกรรมต่อกันจะได้ลดน้อยหรือหมดไป

อ้างคำพูด:
แม้ว่าจะรู้มาตลอดว่า ทุกคนและทุกชีวิต ต้องตายเป็นธรรมดา แต่รู้สึกใจหายและรู้สึกละอายใจมากรู้สึกว่าตัวเองเป็นทุข เพราะเสียของรักไป แม้จะไม่ใช่ของผม แต่เป็นของน้องชายแต่ก็เล่นกับมันมา สิ่งที่ตัวผมทำได้มีแค่ปฎิบัติธรรมเข้มข้น ถือศีล ทำความดี พูดดี คิดดี และแผ่และอุทิศบุญให้แก่เขาแค่นั้นใช่ไหมครับ แล้วไม่แน่ใจว่าเขาจะอาฆาตผมเปล่าแต่ตอนนี้ได้แต่ปลงอนิจจังอย่างเดียว


อย่าใจหายเลยค่ะ ในเมื่อมองว่ามันเป็นธรรมดา เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด ตายแล้วไปเกิด แบบนี้ ก็ไม่ต้องใจหายแล้วค่ะ สำคัญที่ ขอให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า น่าจะดี ของใดๆ มันมีเกิด มันก็มีเสีย มันก็มีดับ แล้วมันก้มาใหม่ในเวลาต่อไป ไตรลักษณ์น่ะค่ะ อย่าไปยึดติดกับของนั้นๆเลย

การปฏิบัติอย่างเข้มข้น ไม่ได้ช่วยให้บุญมากขึ้นนะคะ กลับจะได้ไม่เท่าการปฏิบัติแบบพอดีๆ ทางสายกลาง ยึดไว้ในทุกขณะ ไม่ใช่เรียบเสมอกัน แต่ตึงบ้างหย่อนบ้าง รวมกันแล้วให้พอดีค่ะ

การปฏิบัติ คือ ถือศีล ข้อนี้ทำด้วยใจบริสุทธิ์ แล้วก็ทำสมาธิ มีใจที่แน่วแน่กับสิ่งใดๆ ณ ขณะนั้น ใจจะนิ่ง ถ้าเป็นสมาธิ อย่าคิดอะไร ทำแค่ หายใจเข้า-ออก ภาวนา พุธ-โธ ก็ได้ ยุบหนอ-พองหนอ ก็ได้ อย่าคิดอะไรในขณะทำสมาธินะคะ เรื่องดูจิต เลิกคิดไปเลย เพราะผิดหลักการปฏิบัติที่พระพุทธองค์นำมาเผยแพร่

ทำสมาธิไปเรื่อยๆ ทำสม่ำเสมอ เพียรพยายามเข้าไว้ อย่าหยุด อย่าโหม อย่าหย่อน ทำพอดีๆ ทำเมื่อใจสบาย กายสบาย เมื่อนั้นจิตจะเปิดรับธรรมได้มากขึ้นค่ะ


อ้างคำพูด:
ชีวิตเรามีแค่นี้เอง รวยมากไป ก็ไม่มีประโยชน์จริงๆ คงได้แต่ปฏิบัติให้เข้มขึ้น ครับ


จริงค่ะ ชีวิตก็มีแค่นี้เอง อย่าไปยึดติดกับกับสิ่งสมมติพวกนั้น แต่ อย่าปฏิบัติเข้มข้น ปฏิบัติแบบพอดีๆ ดีที่สุดค่ะ

โชคดีนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 15:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2009, 19:01
โพสต์: 60

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


chulapinan เขียน:
อ้างคำพูด:
คือว่า สุนัขที่บ้านได้จากโลกอันเน่าใบนี้ไปสู่สุขติภูมิ อย่างสงบ หลังจากทรมานมานาน หลังจากที่ได้รับรู้ว่าสุนัขที่บ้านป่วยหนักก็ได้ไปดูแลและพูดคุย เพื่อล้างบาปที่ตัวเองทำไป แต่ที่จริง ล้างไม่ได้หรอก
คงได้รับกรรมสักวัน ที่จริง คิดว่าได้รับแล้วหล่ะหนีไม่พ้น ตั้งแต่เด็กๆ ตัวเองตามใจตัวเอง คงเป็นกรรมด้วย มักจะเข้าไปแกล้งมันและบางทีไปลงกับมันเวลาที่โมโห ตอนที่ตัวเองยังไม่ดีขึ้น หลังจากได้ปฎิบัติธรรมก็ชีวิตตัวเองดีขึ้นเท่าที่ตัวเองรู้และพ่อแม่และน้องชายรู้ ยังไม่ดีขึ้น 100%


มันเป็นที่กรรมค่ะ วิบากรรมใดๆ ล้างไม่ได้ค่ะ แต่เจือจางได้ ด้วยบุญ ใช้แน่ เมื่อไหร่เท่านั้น ใช้ในปริมาณที่เท่ากัน แต่ความเข้มข้นน้อยกว่า ถ้าสร้างบุญ

การปฏิบัติธรรม ไม่ได้ทำให้ชีวิตของคนปฏิบัติดีขึ้น ตัวคนปฏิบัติเองต่างหากที่จะทำให้ชีวิตตนดีขึ้นได้หรือไม่ การจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ต้องรู้จักและเข้าใจธรรม และเมื่อเข้าใจธรรม ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ก็จะรู้จักการใช้ชีวิตให้มีความสุข รู้วิธีทำให้ตัวเองพ้นทุกข์ค่ะ


อ้างคำพูด:
แต่ตอนนี้โจโจ้ไปสงบแล้ว สิ่งที่ตัวเองได้ทำให้น้องหมา ณ วันสุดท้ายคือพูดนำทางให้สุนัขไปสู่สุขคติ ตามที่แม่ได้บอกกล่าว คอยสลับกันพูด พุทโธตลอดคืน และเขาก็จากไปอย่างสวบตอนตีสอง


แผ่เมตตาให้เขาค่ะ ปฏิบัติโดยการ ถือศีล ทำสมาธิ ขอให้ส่วนบุญส่วนกุศลใดที่เกิดจากการเจริญภาวนานี้ ได้ตกไปสู่โจโ้จ้ ขอให้ชาติหน้าของเขา เขาได้เกิดเป็นคนค่ะ

อ้างคำพูด:
ถ้าวิญญาณโจโจ้รับรู้ได้ ขอบอกว่า ไปดีแล้ว หายทุขแล้ว อโหสิกรรมให้ด้วยนะ ต่อไปนี้สิ่งที่ผมคนนี้ทำได้คงมีแต่ทำบุญและอุทิศให้เขา


ขออโหสิกรรมนั้นดียิ่งค่ะ คุณเองก็อโหสิกรรมให้เขาด้วย วิบากกรรมต่อกันจะได้ลดน้อยหรือหมดไป

อ้างคำพูด:
แม้ว่าจะรู้มาตลอดว่า ทุกคนและทุกชีวิต ต้องตายเป็นธรรมดา แต่รู้สึกใจหายและรู้สึกละอายใจมากรู้สึกว่าตัวเองเป็นทุข เพราะเสียของรักไป แม้จะไม่ใช่ของผม แต่เป็นของน้องชายแต่ก็เล่นกับมันมา สิ่งที่ตัวผมทำได้มีแค่ปฎิบัติธรรมเข้มข้น ถือศีล ทำความดี พูดดี คิดดี และแผ่และอุทิศบุญให้แก่เขาแค่นั้นใช่ไหมครับ แล้วไม่แน่ใจว่าเขาจะอาฆาตผมเปล่าแต่ตอนนี้ได้แต่ปลงอนิจจังอย่างเดียว


อย่าใจหายเลยค่ะ ในเมื่อมองว่ามันเป็นธรรมดา เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด ตายแล้วไปเกิด แบบนี้ ก็ไม่ต้องใจหายแล้วค่ะ สำคัญที่ ขอให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า น่าจะดี ของใดๆ มันมีเกิด มันก็มีเสีย มันก็มีดับ แล้วมันก้มาใหม่ในเวลาต่อไป ไตรลักษณ์น่ะค่ะ อย่าไปยึดติดกับของนั้นๆเลย

การปฏิบัติอย่างเข้มข้น ไม่ได้ช่วยให้บุญมากขึ้นนะคะ กลับจะได้ไม่เท่าการปฏิบัติแบบพอดีๆ ทางสายกลาง ยึดไว้ในทุกขณะ ไม่ใช่เรียบเสมอกัน แต่ตึงบ้างหย่อนบ้าง รวมกันแล้วให้พอดีค่ะ

การปฏิบัติ คือ ถือศีล ข้อนี้ทำด้วยใจบริสุทธิ์ แล้วก็ทำสมาธิ มีใจที่แน่วแน่กับสิ่งใดๆ ณ ขณะนั้น ใจจะนิ่ง ถ้าเป็นสมาธิ อย่าคิดอะไร ทำแค่ หายใจเข้า-ออก ภาวนา พุธ-โธ ก็ได้ ยุบหนอ-พองหนอ ก็ได้ อย่าคิดอะไรในขณะทำสมาธินะคะ เรื่องดูจิต เลิกคิดไปเลย เพราะผิดหลักการปฏิบัติที่พระพุทธองค์นำมาเผยแพร่

ทำสมาธิไปเรื่อยๆ ทำสม่ำเสมอ เพียรพยายามเข้าไว้ อย่าหยุด อย่าโหม อย่าหย่อน ทำพอดีๆ ทำเมื่อใจสบาย กายสบาย เมื่อนั้นจิตจะเปิดรับธรรมได้มากขึ้นค่ะ


อ้างคำพูด:
ชีวิตเรามีแค่นี้เอง รวยมากไป ก็ไม่มีประโยชน์จริงๆ คงได้แต่ปฏิบัติให้เข้มขึ้น ครับ


จริงค่ะ ชีวิตก็มีแค่นี้เอง อย่าไปยึดติดกับกับสิ่งสมมติพวกนั้น แต่ อย่าปฏิบัติเข้มข้น ปฏิบัติแบบพอดีๆ ดีที่สุดค่ะ

โชคดีนะคะ



อนุโมทนาสาธุนะครับ ขอบคุณมากที่ชี้ทางให้ ผมจะน้อมไปปฏิบัติครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แผ่และอุทิศบุญให้แก่เขาแค่นั้นใช่ไหมครับ แล้วไม่แน่ใจว่าเขาจะอาฆาตผมเปล่า
ขอตอบในข้อนี้ให้หายสงสัยนะครับ
การแผ่และการอุทิศบุญคุณงามความดีนี้ให้ดวงจิตที่ความอาฆาต หากเปรียบได้ในปัจจุบันนี้กับคนที่เกียจเราไม่ชอบเรา ในการทำครั้งแรกเรานำของฝากชั้นเลิศอย่างดีไปให้เขาที่บ้านอาจจะไม่เปิดประตูต้อนรับ และไล่ด้วยซ้ำ เรานำของมาก็วางไว้หน้าบ้านนั้นโดยใจที่ให้แล้วให้เลยไม่เอากลับ และเราก็แบบนี้หลายครั้งเข้าทุกวัน เขาอาจจะออกมารับแค่ของฝากนั้นเวลาลับหลังเรา และเรายังทำอยู่เรื่อย เขาอาจมารับแต่ของฝากเฉพาะที่หน้าบ้าน และเราคงยังทำไปเรื่อย จากที่ไม่เคยพูดด้วยเชิญเข้าบ้าน จะขอบคุณให้พรด้วยซ้ำที่นำของฝากมาให้ทุกๆครั้ง
จึงใช่ว่าจะสำเร็จซะทีเดียว อาศัยการทำใหอุทิศที่สม่ำเสมอ ทำไปเรื่อยๆ และที่สำคัญให้ด้วยเต็มใจจะใจ ให้แบบไม่หวัง ความไม่แน่ใจนี้ตัดทิ้งไปเลย ทุกอย่างมีผลอยู่แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2009, 19:01
โพสต์: 60

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


yodchaw เขียน:
แผ่และอุทิศบุญให้แก่เขาแค่นั้นใช่ไหมครับ แล้วไม่แน่ใจว่าเขาจะอาฆาตผมเปล่า
ขอตอบในข้อนี้ให้หายสงสัยนะครับ
การแผ่และการอุทิศบุญคุณงามความดีนี้ให้ดวงจิตที่ความอาฆาต หากเปรียบได้ในปัจจุบันนี้กับคนที่เกียจเราไม่ชอบเรา ในการทำครั้งแรกเรานำของฝากชั้นเลิศอย่างดีไปให้เขาที่บ้านอาจจะไม่เปิดประตูต้อนรับ และไล่ด้วยซ้ำ เรานำของมาก็วางไว้หน้าบ้านนั้นโดยใจที่ให้แล้วให้เลยไม่เอากลับ และเราก็แบบนี้หลายครั้งเข้าทุกวัน เขาอาจจะออกมารับแค่ของฝากนั้นเวลาลับหลังเรา และเรายังทำอยู่เรื่อย เขาอาจมารับแต่ของฝากเฉพาะที่หน้าบ้าน และเราคงยังทำไปเรื่อย จากที่ไม่เคยพูดด้วยเชิญเข้าบ้าน จะขอบคุณให้พรด้วยซ้ำที่นำของฝากมาให้ทุกๆครั้ง
จึงใช่ว่าจะสำเร็จซะทีเดียว อาศัยการทำใหอุทิศที่สม่ำเสมอ ทำไปเรื่อยๆ และที่สำคัญให้ด้วยเต็มใจจะใจ ให้แบบไม่หวัง ความไม่แน่ใจนี้ตัดทิ้งไปเลย ทุกอย่างมีผลอยู่แล้ว




ผมได้อุทิศให้เขาทุกวันแล้วครับ หลังจากเขาตายไปได้สามวัน แล้วครับ อุทิศให้เขา ไปสบาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 02:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอตอบเพิ่มเติมนะคะ เพิ่งรู้น่ะค่ะ พิจารณาขณะมีสมาธิน่ะค่ะ

วิบากกรรม มีทั้งลบได้และลบไม่ได้ อันนี้แล้วแต่ เจตนาเป็นที่ตั้ง ที่ลบได้ ต้องเป็นเจตนาที่ยิ่งใหญ่กว่าที่วิบากกรรมทำน่ะค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร