ตามที่ผมได้เคยอ่านผลงานเดอะท้อปซีเคร็ท หนังสือขายดีระดับประเทศ มีข้อความหนึ่งกล่าวว่า ความคิดเป็นเรื่องของสมอง ส่วนความรู้สึกเป้นเรื่องของใจ โดยยกตัวอย่างคนไข้ทีผ่าตัดสมอง แล้วความจำส่วนหนึ่งหายไป แต่ว่ายังมีความรู้สึก รัก โกรธ ดีใจ เสียใจ อยู่
อีกเรื่องหนึ่งจากรายการโทรทัศน์ เรื่องแผนที่สมอง โดยมีนักวิทยาศาสตร์มีความคิดว่า จะทำการศึกษาแผนที่สมองของนักการเมือง โดยมีความคิดจะเปลี่ยนพฤติกรรมของนักการเมืองให้มีจริยธรรมมากขึ้น
ท่านมีความเห็น ต่อ 2 เรื่องนี้อย่างไรบ้าง ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็น

คนเราใช้ขันธ์ 5 คิดครับ

หนังสือเล่มนี้ทิฐิวิปลาส
นักวิทยาศาสตร์ก็ส่ายหัว นักพุทธศาสนาอ่านก็ส่ายหัว
จับแพะผสมแกะ รูปแบบการคิดแบบที่เรียกว่า conspiracy theory

ส่ายหัวแบบไทยนะ
ไม่ใช่ส่ายหัวแบบแขก

คิดต้องใช้สมองค่ะ รู้สึกใช้ใจรู้สึก อารมณ์ก็ใช้ใจบวกสมองเป็นตัววัด

เปลี่ยนแผนที่สอง ต้องเปลี่ยนที่ใจก่อนค่ะ ใจที่ติดกิเลสชั่ว อันนี้เปลี่ยนแผนที่สมองยาก

ใจสั่งสมองค่ะ ใจในทางธรรมก็คือจิตใต้สำนึกค่ะ พลังของจิตเลยเยอะ จิตติดกิเลสเลยทำให้คนไม่มีสติยับยั้งชั่งใจน่ะค่ะ

ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว
สมองเป็นส่วนหนึ่งของกาย มีหน้าที่คอยควบคุมให้อวัยวะส่วนอื่นทำงาน
ส่วนใจที่ว่าเป็นนาย หมายถึงสามารถควบคุมสมองให้ทำงานอีกต่อหนึ่ง

....ฉะนั้นพอจะกล่าวได้ว่าจิตหรือใจเป็นผู้คิด แล้วส่งต่อไปยังสมอง
ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่างๆขึ้นในร่างกาย

รวมความแล้ว อวัยวะต่างๆขึ้นกับสมอง สมองขึ้นอยู่กับจิตหรือใจ

เดอะท็อปซีเคร็ท ก่อนนะ
เรื่องนี้อ่านมาเหมือนกัน
แต่เดิมเป็นของพวกตะวันตก อ่ะ คิดกัน
แต่ที่มาในไทย อ่ะ คนเขียนเขาจะพยายามชี้ให้เห็นว่า ความคิดแบบนั้นน่ะ ศาสนาพุทธรุ้นานแล้ว
มุมมองก็อยากให้เราคิดบวก +++ เป็นการให้เราอัดความคิดบวกเข้าไปในจิตใต้สำนึกเรื่อยๆ
ถึงความจำจะเสื่อม แต่ใจไม่เสื่อมหนิ (ไม่เสื่อมจากกิเลส)
ส่วนอีกเรื่องนี่ทำไม่ได้แน่นอน โอกาสน้อย ที่จะเปลี่ยนความคิดนักการเมือง55+

ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆของร่างกายเรา ในทางพุทธศาสนา เรียกว่า ภวัง
การทำงานของใจและสมองและอวัยวะอื่นๆ รวมไปถึงอวัยวะอายตนะต่างๆของร่างกาย ย่อมสัมพันธ์เกี่ยวข้อง ซึ่งกันและกัน
ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น มีหลักการที่ว่า สมองเป็นส่วนคิด ใจเป็นส่วนสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกาย ถ้าสมองตาย หัวใจตายด้วย ถ้าหัวใจตาย สมองตายด้วย สัมพันธ์
แต่ในทางที่เป็นจริงนั้น สมอง เป็นเพียงอวัยวะเก็บคลื่นข้อมูลความจำต่างๆ รวมไปถึงเกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆของร่างกาย สมองส่วนใดส่วนหนึ่งชำรุดเสียหาย ก็ย่อมทำให้คลื่นข้อมูลต่างๆหายตามไปด้วย เช่นถ้าถ้าสมองซีกซ้ายชำรุด คลื่นข้อมูลความจำของระบบการทำงานของร่างกายซึกขวาก็จะไม่มี ไม่สามารถทำงานได้ อย่างนี้เป็นต้น
ตามที่ได้อธิบายไปเกี่ยวกับสมอง ก็เพื่อให้ได้ทำความเข้าใจว่า สมองมีหน้าที่เก็บรวบรวมคลื่นข้อมูลต่างๆ ตั้งแต่ระบบการทำงาน ไปจนถึง ความรู้ ประสบการณ์ ต่างๆ
หัวใจจะเป็นตัวสั่งการให้คิดหรือไม่คิด เพราะที่หัวใจมีเซลล์หรือต่อมชนิดหนึ่ง ไม่รู้จักชื่อ มีหลายต่อม บ้างก็อยุ่ในรูปของเซลล์ ตั้งอยู่ภายในทั้ง ๔ (สี่) ห้องหัวใจ และอยู่ที่บริเวณขั้วหัวใจอีกหนึ่งที่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า มีจำนวนเท่าใด เซลล์ที่ได้กล่าวไปแล้วนี้ จะทำหน้าที่ส่งคลื่นที่ได้รับจากสัมผัส หรือได้รับคลื่นจากสมอง กลับไปยังสมอง และส่งกลับมาที่หัวใจอีก กลับไปกลับมาอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การคิด จึงต้องใช้อวัยวะอย่างน้อย ๒ อย่าง คือ หัวใจ และสมอง หมายความว่า บุคคลจะเกิดความคิด มีความคิด มีการคิด ก็เพราะ การทำงานร่วมกันของสมอง และหัวใจ ถ้าอวัยวะหลักทั้งสมอง มีอาการเจ็บป่วยหรือชำรุด ก็จะเกิดปัญหาในการคิด มีปัญหาในความคิด ซึ่งก็ย่อมเกี่ยวโยงไปถึงอวัยวะอื่นๆด้วย
สรุปแล้ว
การคิด หรือ การที่มนุษย์เกิดความคิด มีการคิด ได้ ก็เกิดจาก หัวใจ และสมอง ทำงานร่วมกัน ฯ

จิตคือศูนย์กลาง นั่นรวมถึง ความคิดและความรู้สึก สมองส่วนหน้าคือแหล่งข้อมูลในโลกวัตถุ

จิตต้องทำงานร่วมกับสมอง เพราะในโลกวัตถุนี้ สมองทำงานเป็นใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารู้เกี่ยวกับโลก ล้วนบรรจุอยู่ในสมอง แต่ถ้าถามว่า คนเราใช้สมองคิด หรือใช้ใจ (จิต) คิด คำตอบคือ จิต แต่การคิดในโลกวัตถุ ต้องใช้สมองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้