วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 09:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2009, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

เป็นที่ทราบกันแล้วว่า หลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระองค์มิได้ทรงมอบหมายพระพุทธศาสนาไว้กับผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ แต่ตรัสว่า พระธรรมวินัยอันพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงแล้ว จะเป็นศาสดาของพวกเราทั้งหลายในกาลภายหน้า หรือให้พุทธบริษัททั้ง ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกอุบาสิกา จักช่วยกันศึกษาเล่าเรียนประพฤติปฏิบัติ และประกาศพระศาสนาต่อไป และว่าไม่มีใครจะทำลายพระศาสนานอกจากความประพฤติเหลวไหลของพุทธบริษัทเอง เป็นต้น

มาบัดนี้ ได้ยินพูดกันมากว่า ศาสนา หรือ ธรรมะ เป็นของพระไม่ใช่เรื่องของคฤหัสถ์ พระต้องประพฤติตัวให้ดี สำรวมเรียบร้อย ให้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคฤหัสถ์ คฤหัสถ์จะได้ทำบุญ บำรุงเลี้ยงดูพระเณรต่อไป อย่างนี้เป็นต้น

เห็นว่า นี่มันก็ถูกอยู่ส่วนหนึ่ง แต่มันมิได้มีเพียงเท่านี้ เรื่องนี้น่าจะได้นำมาพิจารณากันให้เป็นที่เข้าใจกว้างขวาง เพื่อความดำรงอยู่แห่งพระศาสนาของเราต่อไป

ขอยกตัวอย่างว่า ไฮโดรเจน กับ อ๊อกซิเจน ผสมกันแล้วทำปฏิกิริยาเป็นน้ำ อาศัยกันเกิดขึ้น ไม่มีสิ่งไหนเกิดก่อน มีความสำคัญเท่ากัน ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ เราพูดว่าอ๊อกซิเจนเป็นครึ่งหนึ่งของน้ำไม่ได้ ต้องพูดว่า อ๊อกซิเจนเป็นทั้งหมดของน้ำ เพราะถ้าขาดอ๊อกซิเจนจะเป็นน้ำไม่ได้ ไฮโดรเจนก็เป็นทั้งหมดของน้ำเช่นกัน

ในครอบครัวหนึ่ง อาศัยกันระหว่างสามีภรรยา ขาดคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ทั้งสองมีความสำคัญเท่ากัน แต่หน้าที่ไม่เหมือนกัน พูดว่าสามีดีเสียอย่างแล้วครอบครัวจะดี นี้ก็ไม่ได้ ต้องพูดว่าสามีภรรยาดีแล้วครอบครัวก็ดีเอง เราจะพูดว่าสามีเป็นครึ่งหนึ่งของครอบครัวไม่ได้ ต้องพูดว่าเป็นทั้งหมดของครอบครัว ภรรยาก็เป็นทั้งหมดของครอบครัวเช่นกัน

อิทธิบาท ๔ คือทางให้ถึงความสำเร็จ เป็นการอาศัยกันระหว่าง ฉันทะ (ความรัก, พอใจ) วิริยะ (ความเพียรพยายาม)จิตตะ (การเอาใจใส่, จดจ่อ) วิมังสา (การพิจารณา, ใคร่ครวญ)ขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้ มีความสำคัญเท่ากันแต่หน้าที่ต่างกัน จะพูดว่า ฉันทะเป็น ๑ ใน ๔ ของอิทธิบาทก็ไม่ได้ ต้องพูดว่า ฉันทะเป็นทั้งหมดของอิทธิบาท วิริยะก็เป็นทั้งหมดของอิทธิบาท จิตตะก็เป็นทั้งหมดของอิทธิบาท วิมังสาก็เป็นทั้งหมดของอิทธิบาท นี่คือหลักเกณฑ์ของสามัคคีธรรม คือสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น เพราะอาศัยสิ่งทั้งหลายร่วมกัน

ยาไทยหม้อหนึ่ง อาศัย พิกุล บุนนาค สารภี เกสรบัวหลวง ทุกๆ ชื่อ มีความสำคัญเท่ากัน แต่หน้าที่ไม่เหมือนกันโบราณท่านเรียกว่า พิกุล ๑ บุนนาค ๑ สารภี ๑ เกสรบัวหลวง ๑ คือ แต่ละอย่างล้วนมีความเป็นหนึ่ง จะพูดว่าพิกุลเป็น ๑ ใน ๔ ของยาขนานนี้ไม่ได้ ต้องพูดว่าเป็นทั้งหมดเพราะว่าถ้าขาดพิกุลไปเสียมันก็ไม่เป็นยาขนานนั้น แล้วจะแก้โรคไม่ได้ บุนนาค สารภี เกสรบัวหลวง ก็เช่นเดียวกัน

ศีล สมาธิ ปัญญา อาศัยกันเป็นไตรสิกขา เพื่อการดับทุกข์แท้จริง สิกขาหนึ่งเดียว แต่อาศัยปัจจัย ๓ คือ ศีล สมาธิปัญญา เรียกว่า อธิศีลสิกขา อธิจิตสิกขา อธิปัญญาสิกขา ทั้ง ๓ต่างสำคัญเท่ากัน แต่หน้าที่ต่างกัน เราพูดว่าศีลสิกขาเป็นทั้งหมดของการดับทกข์ จิตสิกขาเป็นทั้งหมดของการดับทุกข์ ปัญญาสิกขาเป็นทั้งหมดของการดับทูกข์ หรือของการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์

ทีนี้ ก็มาถึงเรื่องสำคัญ คือ พุทธบริษัท ๔ ได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา นี้หมายความว่า พุทธบริษัทหนึ่งเดียวแต่อาศัยปัจจัยทั้ง ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ทั้ง ๔มีความสำคัญเท่ากัน แต่หน้าที่ไม่เหมือนถัน ขาดอันหนึ่งอันใดไปก็ได้เป็นพุทธบริษัท ๔

เราพูดว่า ภิกษุ เป็น ๑ ใน ๔ ของพุทธบริษัทไม่ได้ ต้องพูดว่าภิกษุเป็นทั้งหมดภิกษุณีก็เป็นทั้งหมด อุบาสกก็เป็นทั้งหมดอุบาสิกาก็เป็นทั้งหมดของพุทธบริษัทเช่นกัน ข้อนี้หมายความว่าถัาขาดภิกษุไปก็ไม่เป็นพุทธบริษัท คือพุทธบริษัทจะตั้งอยู่ไม่ได้หรือขาดภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อันหนึ่งอันใดไป พุทธบริษัท๔ ก็อยู่ไม่ได้

พูดให้ชัดลงไปอีก ภิกษุรูปหนึ่งๆ ต้องรู้สึกว่า“ ถ้าขาดฉันเสียคนเดียว พุทธศาสนาต้องลมจม ตั้งอยู่ไม่ได้ อุบาสกคนหนึ่งๆ จะต้องรู้สึกว่า“ ถ้าขาดฉันเสียคนเดียว พุทธศาสนาต้องล่มจม ตั้งอยู่ไม่ได้ หรืออุบาสิกาคนหนึ่งๆ ต้องมีความรู้สึกว่า“ ถ้าขาดฉันเสียคนเดียว พุทธศาสนาต้องล่มจม ตั้งอยู่ไม่ได้

มีบางคนพูดว่า“ เดี๋ยวนี้พระประพฤติตัวเหลวไหล ไม่สำรวม ประพฤติผิดธรรมวินัยต่างๆ บวชเป็นพระแล้วก็ยังเอาดีไม่ได้ นับประสาอะไรกับพวกเราเป็นชาวบ้าน กินเหล้า ทำอบายมุขต่อไปเถิด...” คำพูดนี้แสดงว่า ผู้พูดไม่รับผิดชอบฐานะแห่งความเป็นพุทธบริษัทของตน เขาอ้างพระภิกษุที่ทำผิดพระวินัยขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางให้ตนเองทำชั่ว ถ้าคนๆ หนึ่งหรือหลายคนคิดเช่นนี้แล้ว ศาสนาพุทธก็จะตั้งอยู่ไม่ได้

ดังนั้น เขาควรจะเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า“แม้บวชเป็นภิกษุแล้วก็ยังเหลวใหล ประพฤติผิดธรรมวินัย ขืนเป็นอยู่อย่างนี้ศาสนาพุทธต้องล่มจมแน่ อย่ากระนั้นเลย ฉันต้องลงมือเองแล้ว...” พุทธบริษัททุกคนต้องรู้สึกอย่างนี้ ต้องรับผิดชอบในฐานะของตน ในการศึกษาเล่าเรียน ประพฤติปฏิบัติและเผยแผ่พุทธศาสนา หรือพระธรรมวินัยต่อไป ไม่มัวไปนั่งเพ่งโทษคนนั้นคนนี้

แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่า มิให้แก้ไขพระที่ทำผิดวินัย เรื่องนั้นเราก็จะช่วยกันแก้ไขต่อไป แต่ทุกคนจะต้องมีความรู้สึกรับผิดชอบต่อฐานะของตนจนถึงที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เห็นว่า พุทธบริษัท ๔ ทุกคนต้องหันหน้าเข้ามาปรึกษากัน ในการศึกษาปฏิบัติ เผยแผ่พระศาสนา เราทุกคนมีความสำคัญเท่ากันในความเป็นพุทธบริษัท


ใคร่ขออุปมาให้เห็นว่า สมมุติว่าครอบครัวหนึ่งมีลูก ๔ คนพ่อแม่ตายไปแล้ว อยู่มาลูกคนโตเกเรเหลวไหล แล้วลูกที่เหลือ๓ คน มาคิดว่า“ เมื่อพี่คนโตเหลวไหล อย่ากระนั้นเลย เราทั้ง ๓ก็เกเรเหลวไหลด้วยเถิด...” ถ้าคิดอย่างนี้ครอบครัวนั้นต้องพินาศล่มจม ตั้งอยู่ไม่ได้ ที่ถูกแล้วทุกคนต้องประพฤติปฏิบัติ ช่วยกันดำรงฐานะครอบครัวหรือสกุลไว้ ทุกคนมีความสำคัญเท่ากัน เป็นทั้งหมดของครอบครัวหรือของสกุลนั้น ส่วนคนที่เหลวไหลก็ค่อยแก้กันต่อไป ถ้าได้อย่างนี้แล้ว ครอบครัวหรือสกุลนั้นก็จะตั้งอยู่ได้ด้วยดีตลอดไป

เดี๋ยวนี้คนเป็นอันมากยกพุทธศาสนาให้เป็นเรื่องของพระโดยพูดว่า“พระมีหน้าที่รักษาศาสนา พวกเราเป็นคฤหัสถ์ไม่มีหน้าที่ เพียงแต่ทำบุญนิดหน่อยก็พอแล้ว ปีหนึ่งได้บริจาคเงิน๑๐ บาท รวมทอดกฐินทอดผ้าป่าก็พอแล้ว ไม่มีหน้าที่ในการศึกษาปฏิบัติ เผยแผ่ศาสนา

ใครคิดอย่างนี้เท่ากับปฏิเสธฐานะของตนเอง บางคนยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ชอบการกระทำของภิกษุบางรูป แล้วพาลให้เกลียดศาสนา ตั้งตัวเป็นศัตรูกับศาสนาไปด้วยนี้ ก็อย่างที่กล่าวแล้ว เมื่อภิกษุบางรูปเหลวไหลก็เป็นเรื่องของภิกษุรูปนั้นที่จะต้องจัดการแก้ไขกันไป ไม่กระทบกระเทือนต่อการเป็นทั้งหมดแห่งพุทธบริษัทหรือพุทธศาสนาของเรา

อนึ่ง ควรจะเรียกตัวเราว่า เป็นอุบาสกคนหนึ่ง อุบาสิกาคนหนึ่ง ไม่ใช่คฤหัสถ์ ซึ่งไม่แสดงฐานะแห่งความรับผิดชอบต่อความเป็นพุทธบริษัท
อีกอย่างหนึ่ง ยังมีความเข้าใจผิดในหมู่พวกเราว่า อุบาสกหมายถึง ผู้ชายที่ถือพุทธศาสนา แล้วไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดอุบาสิกาก็เช่นเดียวกัน หมายถึงผู้หญิงที่ถือพุทธศาสนา ไปรักษาศีลกินเพลอยู่ที่วัด แท้จริงแล้ว ผู้ชายหรือผู้หญิงทุกคนที่ถือพุทธศาสนาแล้วเป็น อุบาลก อุบาสิกา หมด ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนประกอบอาชีพอย่างไร มีฐานะอย่างไร จะเป็นกรรมกร ชาวนาชาวสวน พ่อค้า ข้าราชการ เจ้าพระยา มหากษัตริย์ เขามีความสำคัญเท่ากัน แต่ละคนเป็นทั้งหมดของพุทธศาสนา แม้ว่าจะมีหน้าที่ต่างกันอย่างไร เราจึงไม่ควรดูหมิ่นเหยียดหยามกัน แต่จะรักใคร่เหมือนคนๆ เดียวกัน

ทุกคนต้องระลึกอยู่เสมอว่า“ เราเป็นทั้งหมดของศาสนาถ้าศาสนาพุทธขาดฉันเสียคนเดียว ต้องพินาศล่มจม ตั้งอยู่ไม่ได้ อย่ากระนั้นเลย เราต้องรับผิดชอบต่อการศึกษา ปฏิบัติเผยแผ่ จนถึงที่สุด ไม่เกี่ยงให้พระภิกษุ หรือ บุคคลอื่นรับผิดชอบอย่างที่แล้วมา...” อย่างนี้ คือความเป็นพุทธบริษัทอย่างแท้จริง

ให้กว้างออกไปอีกก็ได้ เราเป็นทั้งหมดของประเทศ ของโลก ของสากลจักรวาล... “ประเทศ โลก หรือสากลจักรวาล ขาดฉันเสียคนเดียว ก็จะตั้งอยู่อย่างปกติไม่ใด้ ฉันจะต้องประพฤติกระทำตนเองให้ดีที่สุด ระมัดระวัง สำรวม กาย วาจา ใจ และหน้าที่ทุกชนิด อย่างดีที่สุด ประเทศ โลก หรือสากลจักรวาลก็จะรอดได้...”

นี้คือ หลักของสามัคคีธรรม ซึ่งมีอยู่ในทุกระดับ เราแต่ละคนเป็นทั้งหมดของสังคม ของสถาบันต่าง ๆ ที่เราอาศัยเป็นสมาชิกอยู่ในทุกๆ ระดับ ตั้งแต่ตัวเรา ครอบครัว หมู่บ้าน ตำบลประเทศชาติ และทั้งโลก ทุกสังคม สถาบันจึงรอดอยู่ได้เพราะสามัคคี

พุทธบริษัท แปลว่า บริษัทที่มีความรู้ ตื่น เบิกบานด้วยธรรม เรามีความเข้าใจแจ่มแจ้งในภาระหน้าที่ แล้วหันหน้ามาประชุมปรึกษาหารือกันในการศึกษา ปฏิบัติ เผยแผ่พระพุทธศาสนา เรามีความสำคัญเท่ากันทุกคน มีความเป็นทั้งหมดของพุทธศาสนาหรือของโลกเท่าเทียมกันทุกคน แต่หน้าที่การงานอาจจะแตกต่างกันออกไป ตามความเหมาะสม ตามความสามารถ แต่เราต้องอุทิศ กำลังกาย กำลังจิต กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์ทุกอย่าง เพื่อความอยู่รอดแห่งพระศาสนา ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วชื่อว่า พุทธบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ได้ประพฤติดีประพฤติชอบ ได้บูชาพระพุทธองค์ด้วยปฏิบัติบูชาสมตามพระพุทธประสงค์แล้ว

นำธรรมมาแนะนำกัน ไม่ใช่อวดรู้นะครับ

:b8: :b8: :b8:



.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 05:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คนที่ไม่รู้อะไรเลย
ณ.ที่ลานนี้ อย่างน้อยๆ ก็ทักทายคนหนึ่งค่ะ
อนุโมทนาสาธุ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
ไม่ใช่อวดรู้นะครับ


มีดีจะอวด อวดไปเลยจ๊ะ :b32:
ขนาดฝนตกแท้ๆนะ
ชาวนาแซ่ซร้องสรรเสิญ แต่คนในเมืองทั้งก่นทั้งด่าจนเทวดาหน้าจืดไปเลย

ฝนก็ทำหน้าที่
จิตใจผู้คนก้ทำหน้าที่
ตามปกติธรรมดานะจ๊ะ

ผมว่าคุณวรานนท์น่ารักจะตายไป
ว่าแต่เขียนเองรึเปล่าครับ
จะได้อนุโมทนาถูกตัว :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 10:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

เป็นบทความที่เก็บไว้สมัยเรียน (พ.ธ.บ.ครับ)

เป็นรายงานส่งอาจารย์ ค้นคว้ามาประกอบและเรียบเรียงเพิ่มเติมครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณทักทายครับ เราต่างก็มีความไม่รู้อยู่เหมือนกัน เพียงแค่ไม่รู้ในเรื่องที่ต่างกัน

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร