วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 19:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 23:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากทราบข้อมูล ลักษณะ อุปจาระ ฌาณหนึ่ง สอง สาม ฌานสี่
ที่เลื่อนฌานช้าๆ แบบหยาบ กลาง ละเอียด ครับ รบกวนด้วยครับ (เป็นความคิดเห็นก็ได้ครับ :b8: )
:b41:
:b45: :b45: :b45: :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2009, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 07:32
โพสต์: 95

แนวปฏิบัติ: หลักวิถีธรรมชาติ - อานาปานสติ,บริกรรมภาวนา
ชื่อเล่น: นุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองอ่านลิงค์นี้ดูครับ http://www.palungjit.com/smati/k40/smabat.htm เมื่ออ่านแล้วแนะนำให้ศึกษาและปฎิบัติดูครับ แล้วท่านจะรู้ได้เอง :b44: :b44: :b44:

.....................................................
จงทำศีลให้เป็น อธิศีล
ทำจิตให้เเป็น อธิจิต
ทำปัญญาให้เป็น อธิปัญญา


พื้นฐานคุณธรรมความเป็นมนุษย์คือ ศีล๕ กุศลกรรมบถ๑๐ หิริโอตัปปะ และความกตัญญู กตเวทิตา

จุดสูงสุดของการรู้ธรรม เห็นธรรม ก็คือ
...สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ...สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2009, 23:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากครับ :b8:

:b41:
:b45: :b45: :b45: :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2009, 00:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 18:14
โพสต์: 435

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฏิบัติแล้วมีข้อสงสัยใด ๆ ลองเข้าไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ มีประโยชน์มาก ๆ

http://board.palungjit.com/f4/รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน-161084.html

.....................................................
สรุปคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นของ ไม่ยาก
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ (ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพาน แล้วตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2009, 00:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rotala เขียน:
อยากทราบข้อมูล ลักษณะ อุปจาระ ฌาณหนึ่ง สอง สาม ฌานสี่



สวัสดียามดึกครับ


ฌานมี 2 อย่างครับ
1.โลกียะฌาน
2.โลกุตตระฌาน

ฌานทั้ง 2 อย่างนี้ ลักษณะอาการต่าง ๆ เหมือนกัน เพราะเป็นขันธ์อย่างเดียวกัน แต่ปัญญาในการทำลายกิเลสต่างกันครับ

ทั้งโลกียะฌาน และโลกุตตระฌานมีลักษณะดังนี้ครับ

ฌานที่ 1 มีความตรึกต่ออารมณ์ ลมหายใจปรากฏชัด มีปีติ และสุข
ฌานที่ 2 ละความตรึกต่ออารมณ์ได้ ลมหายใจปรากฏชัด มีปีติ และสุขมากขึ้น
ฌานที่ 3 ลมหายใจแผ่วเบา มีความสุขมาก ตัวแน่นตัวคับเหมือนใครจับมัด
ฌานที่ 4 ลมหายใจหยุด ตัวแน่นตัวคับเหมือนใครจับมัด
ฌานที่ 5 ลมหายใจหยุด ตัวแน่นตัวคับเหมือนใครจับมัดอารมณ์ละเอียดอ่อนกว่ารูปฌาน
ฌานที่ 6 ลมหายใจหยุด ตัวแน่นตัวคับเหมือนใครจับมัด...
ฌานที่ 7 ลมหายใจหยุด ตัวแน่นตัวคับเหมือนใครจับมัด...
ฌานที่ 8 ลมหายใจหยุด ตัวแน่นตัวคับเหมือนใครจับมัด อารมณ์ละเอียดอ่อนที่สุด



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2009, 00:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


Rotala เขียน:
อยากทราบข้อมูล ลักษณะ อุปจาระ ฌาณหนึ่ง สอง สาม ฌานสี่
ที่เลื่อนฌานช้าๆ แบบหยาบ กลาง ละเอียด ครับ รบกวนด้วยครับ (เป็นความคิดเห็นก็ได้ครับ :b8: )
:b41:
:b45: :b45: :b45: :b45:




อุปจารสมาธิ จะมีนิมิตเกิด ไม่ว่าจะเป็นนิมิตเสียง นิมิตสี นิมิตภาพ

ส่วนฌาน 1 - 4 จะเป็นไปทีละฌานนะ
ไม่ใช่ว่า จากฌาน 1 แล้วอารมณ์ไปฌาน 4 แบบนั้นไม่ใช่
ฌานแต่ละฌาน บ่งบอกถึงสติ สัมปชัญญะของผู้ปฏิบัติ

ฌาน 1 ประกอบด้วย วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
วิตก คือ คำบริกรรมภาวนา
วิจาร คือ การเอาจิตจดจ่อรู้อยู่กับองค์บริกรรมภาวนา
ปีติ
สุข
เอกัคคตา มีอารมณ์เป็นหนึ่ง

แนวทางการปฏิบัติ เมื่อเข้าถึงอกัคคตาหรืออัปนาสมาธิ จะขาดความรู้สึกตัว
หรือที่เรียกว่า มันดิ่งแล้วดับหายไป
สภาวะตรงนี้ ต้องอาศัยการเจริญสติให้มาก เช่น เดินจงกรมให้มากกว่านั่ง
เวลาจิตรวมจะได้มีความรู้สึกตัว สามารถถอยออกมาจากอัปนาสมาธิได้
แต่สมาธิจะไม่ตกไปที่อุปจาร เพราะสมาธิตรงนี้จะตั้งมั่นได้นานกว่าอุปจารและไม่มีนิมิต
ไม่ต้องรอให้สมาธิคลายตัว ให้ทำให้ชำนาญ คือ เข้าออกให้ชำนาญ


ฌาน 2 ประกอบด้วย ปีติ สุข เอกัคคตา
ตรงฌาน 2 จะไม่มีคำบริกรรมภาวนา เช่น เคยใช้พุทโธ หรือ พองหนอ ยุบหนอ
คำบิรกรรมเหล่านี้จะไม่มี แต่จะมารู้ที่ลมหายใจเข้าออก หรือท้องพองยุบแทน
อาจจะหายใจสักสองสามครั้ง จิตสามารถรวมเป็นหนึ่งได้ทันที
แต่ยังคงมี ปีตี สุข เกิดอยู่ ก็ทำให้ชำนาญ เข้าออกให้ชำนาญ

ฌาณ 3 ประกอบด้วย สุข เอกัคคตา
ตรงฌาน 3 จะไม่มีปีติเกิดแล้ว เนื่องจากกำลังของสติมากขึ้นตามลำดับ
แต่ยังคงมีสุขจากความสงบอยู่ ให้เข้าออกให้ชำนาญ

ฌาน 4 ประกอบด้วย อุเบกขา เอกัคคตา

ลักษณะของฌาน 4 ถ้าผู้เข้าออกจนชำนาญแล้ว
จะสามารถกำหนดเข้าออกสมาธิตอนไหนก็ได้
ฌาน 4 จะมี สติดี สมาธิดี

คือ ถ้าเป็นรูปแบบ เรียกว่า หลังจากเดินจงกรมแล้ว พอมานั่ง
อาจจะหายใจแค่ครั้งเดียว จิตสามารถเข้าสู่ สมาธิได้ทันที
ไม่ต้องบริกรรมหรือภาวนาใดๆทั้ง มีสติรู้อยู่กับลมหายใจเข้าออก
ท้องพองยุบ จะมีความรู้สึกตัวตลอดเวลา
แม้จิตรวมตัวก็รู้ จิตคลายตัวออกจากสมาธิก็รู้



ส่วนเรื่องที่ว่า ทำแล้วไปรู้โน่นรู้นี่ นั่นคือ รู้นอกตัว ครูบาฯท่านให้ตัดออกให้หมด
การตัดออกคือ เจริญสติให้มากขึ้น ให้เดินจงกรมให้มากกว่านั่ง
แล้วค่อยๆปรับอินทรีย์ไปเรื่อยๆ

ยกเว้นคนที่ชอบส่งจิตออกนอก คือชอบไปรู้นอกตัว
อันนั้นก็แล้วแต่เหตุที่เคยกระทำกันมา

ถ้าเป็นวิปัสสนา ให้ดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
คือ ให้เอาจิตจดจ่ออยู่กับองค์กรรมฐาน คือ รู้อยู่กับกาย

ส่วนฌาน 5 - 8 เมื่อเข้าออกฌาน 4 ได้ชำนาญแล้ว
ฌาน 5 - 8 จะทำง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งบิรกรรมแต่อย่างใด


ถ้าถามว่า จำเป็นต้องเรียงลำดับของฌานเลยไหม
ตอบ ไม่จำเป็น เพราะกุศลแต่ละคนสร้างสั่งสมมาไม่เท่ากัน
บางคนสามารถเข้าสู่ฌาน 4 ได้ทันที โดยไม่ต้องเริ่มจากฌาน 1- 3

แต่เมื่อไปพบครูบาฯ ท่านจะให้เริ่มจากฌาน 1 ใหม่ คือ ท่านให้ฝึกสติ ฝึกเข้าออกให้ชำนาญ
ให้รู้ไปทีละของอารมณ์ฌานนั้นๆ เข้าออกจนชำนาญ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 27 ธ.ค. 2009, 00:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2009, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/

จะอินเทรนด์ไปถึงไหน อัฟเกรดมันไปถึงไหน ในโลกธรรมนี้มันเป็นคู่ ธรรมคู่หากมีเจริญก็มีเสื่อม มีเจริญในญาณก็มีเสื่อมจากญาณ มันไม่ใช่สิ่งที่ทรงดำรงอยู่ได้ตลอด อนิจจังตลอด


ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2009, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ฌานผมไม่ค่อยเก่งหรอกงับ

ทำเป็นแน่ๆคือฌานโลกุตร

อิอิ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 15:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวมันเองไม่เคยบอกว่าเป็นอะไร ไม่ฌาณ ญาณแบบไหน หากมีหลงว่า คิดว่า คาดว่า เดาเอาว่าเป็นเป็นไหน แล้วยึด เอา ถือเอาความหมาย ความเห็นนั้น หากสิ่งใดเกิด ก็ที่สุดคือสิ้นไป เพราะสิ่งไหนยึดเอาไม่ได้จริง แม้แต่การพยายามจะทรงอยู่ หรือพยายามจะยึดนั้น อนิจจังเหมือนกันหมด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2009, 23:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2009, 00:02
โพสต์: 111

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: การสอนหรือแนะนำใครในเรื่อง..ฌาน นั้นเป็นอะไรที่พูดอยากเพราะบางคนนั่งสมาธิครั้งเดียว
เข้าถึงสภาวะฌานระดับต่างๆได้ ซึ่งเข้าใจว่าบุคคลผู้นั้นเคยบำเพ็ญฌานมาก่อน...ในชาติปางก่อน
แต่บางคนบวชเรียนปฏิบัติมานาน...ก็ยังไม่สามารถเข้าสู่สภาวะที่เป็นฌานได้...บางคนก็หาสิ่งต่างๆมาเพ่งเพื่อให้เกิดฌาน (นานขนาดไหนจึงเข้าฌานระดับต่างๆได้ ผู้ปฏิบัติบางคนอาจทำได้...บางคนทำไม่ได้) สำหรับตัวดิฉันเองเป็นประเภทแรก คือนั่งสมาธิทำอานาปานสติ นานเป็นชั่วโมงครั้งเดียวครั้งแรกก็เข้าถึงสภาวะฌานได้ โดยไม่เคยฝึกเพ่งอะไรมาก่อนเลย มันเป็นเรื่องเฉพาะตนจริงๆ เมื่อก่อนหน้านั้นไม่เคยสนใจเรื่องการนั่งสมาธิแบบเอาจริงจังเลย ทำแค่5-10 นาที นี่นับว่าได้ทำสมาธิแล้ว เรื่องฌานอะไรไม่เคยรู้จัก เคยแต่ได้ยินว่าพระเกจิอาจารย์ดังทั้งหลาย จะมีการเข้าฌานสมาบัติ เมื่อรู้ว่าตนเองทำได้ จึงหันมาสนใจปฏิบัติธรรมอย่างค่อนข้างเอาจริงเอาจังบ้างก็ประมาณ 8-9 เดือนมานี่ ทั้งที่ครั้งแรกที่
เข้าถึงสภาวะฌาน 4 ได้ เมื่อ ปี 2544 ตั้งแต่นั้นมาสภาวะจิตของตนเองเปลี่ยนไปมากมาย ความเชื่อในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมากขึ้น ๆๆ เรื่อยๆๆ
ปัจจุบันทำกรรมฐานทั้งสมถะ วิปัสสนา และดูจิต ....อธิษฐานจิต...ถ้าบุญบารมี..มีขอเข้าสู่กระแสพระนิพพานในเร็ววัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2009, 08:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกศาสตร์ ทุกบารมี ทุกธรรม สมาธิ ญาณ ฌาณ ทั้ง ประมวลที่จบ ที่เป็นสุดยอดในวิชาทั้งหลายทุกศาสตร์ทั้งหลาย หากใครดูหนังจีนกำลังภายใน วิชากระบี่ ดาบอะไร ก็ ทิ้ง วาง ไม่จับ ไม่ถือ กระบี่ ดาบอะไร เรียกว่ากระบี่อยู่ที่ใจ จบ คือ ประมวลสู่ความเป็นสุญญตา ว่าง วาง อยู่แล้ว ไม่เริ่ม ไม่ตั้งไม่ต้องอยู่เองแล้ว ไม่ติด ไม่ยึด ไม่ข้อง ไม่คา ในส่วนหนึ่งส่วนใด ที่ไม่ต้องอยู่เองแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2010, 17:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเชญฟังธรรมหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต ที่เว็บด้านล่างนี้

http://www.rombodhidharma.com/Pg-04-Dharma.htm
เรื่องที่ (40) นอกเหนือสติ สมาธิ ปัญญา ฌาณ ญาณ นิพพานอยู่แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2010, 19:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


นั่งแล้วว่าง นั่งได้นาน เหมือนจะหลับ ก้ไม่ใช่ จะไม่หลับก็ไม่เชิง บางครั้ง ได้ยินเสียง บางครั้ง ไม่ได้ยิน คืออะไรครับ :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2010, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
นั่งแล้วว่าง นั่งได้นาน เหมือนจะหลับ ก้ไม่ใช่ จะไม่หลับก็ไม่เชิง...

สติไม่มั่นคงฮะ ต้องฝึกสติอีกหน่อย เช่น เล่นเกมมากๆ เอ้ย อ่านนิยายเล่มโตๆ อิอิ :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทั้งหมดแค่ทางผ่าน หากว่าจะเอาพระนิพพานเป็นที่สุด สมาธิ ญาณ ญาณ ก็เป็นแค่ทางผ่าน ไม่ใช่สิ่งที่จะไปยึดติด ข้องแวะ แช่ นอนเนืองอยู่ จมอยู่ แต่หลายท่านอาจพอใจในภาวะแบบนี้ หากเปรียบก็อยู่ข้างถนนมีสวนดอกไม้ แล้วท่านแวะชมสวนดอกไม้นั้น จากการพอใจดอกไม้นั้นไม่นานก็กลายเป็นผีเสื้อไปเลย หมายถึงละสังขารไปก็ไปใช้กรรม ผลของพอใจแช่ ในอารมณ์สมาธิ ฌาณ ญาณ ที่สวรรค์ พรหมโลก ต่อไปตามกำลังของแต่ละระดับสมาธิ ฌาณ ญาณนั้นไป หากไม่เตือนตัวเองว่าแค่ทางผ่าน มันก็จะตัน จะเอา จะทรง จะดำรง อยู่เป็นจริงเป็นจังไปเลย มันจะบัง ความไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ที่มีอยู่เองแล้ว


แก้ไขล่าสุดโดย yodchaw เมื่อ 02 ม.ค. 2010, 20:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร