จากคำแปลบทสวดมนต์ถวายพรพระ(อิติปิ โสฯ)ที่ว่า "คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเป็นรายบุคคลได้แปดบุรุษ" หมายถึงอะไรครับ ขอขอบคุณครับ

ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/

เป็นเนื้อหาสรรเสริญคุณที่บัณทิตนักปราชญ์ กำหนดเป็นตัวเป็นตนให้เห็นภาวะการบรรลุธรรมในพุทธศาสนานี้ แต่เนื้อหาในการบำเพ็ญการบรรลุ กลับตรงกันข้าม คือท่านทั้งหลายเหล่านั้น ล้วนแต่มีการ ปลง ไม่ยึดติดละอัตตาตัวตน หรือเรียกว่าไร้ตัวไร้ตน ที่เกาะเกี่ยวเหนี่ยวรัง ธาตุหนึ่ง ขันธ์ใด หรือว่า วาง ว่าง นอกเหนือการยึดติด นอกเหนือสมมุติที่จะให้เป็นอะไร แต่ถ้าสื่อไม่ชัด บอกไม่ตรงก็เข้าใจไปจะต้องทำเอา ปฏิบัติบัติ จึงจะได้ขั้นนั้น ขั้นนี้อะไร และมาเที่ยวบอกกันฉันได้แล้วขั้นนั้นนี้อะไร มันเป็นการหลงมีอุปทานไปแล้วในสิ่งนั้น ของจริงท่านไม่กล่าวหรอ ว่าเป็นอะไร ท่านไม่หลงสำคัญต้องเอาขีด เอาขั้นหรอ เนื้อหาการสละ ไม่ใช่เนื้อหาจะเอา จะได้ จะมี จะเป็น แม้แต่น้อยไม่เนืองด้วยการเข้าทำเอา ทำให้มี ให้เป็นให้ได้ ให้ถึง อยู่แล้ว
เข้าใจชัดว่า ปลง ละ คนละเนื้อหาและความหมายกับคำว่าปฏิบัติ
คำว่าปลง ละ คือไม่เอา ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ถือ ไม่ยึด ไม่อะไรกับอะไร แล้วๆไป ช่างมัน สักแต่ว่า อยู่เองแล้ว ไม่แคร์ ไม่อิน ไม่ทรง ไม่ต้อง ไม่ตั้ง ไม่อยู่เองแล้ว
คำว่าปฏิบัติ จะธรรมหรืองาน คือ ต้องทำ ต้องเริ่ม ต้องดำเนินการ ต้องสานต่อ ต้องขับเคี่ยว ล้วนแต่ก่อเกิดตัวตนที่ดำเนินการตลอด ไม่มีเนื้อหาปลง การละ วางอะไรเลยแล้วจะไปตรงเนื้อหาที่แท้จริงของท่านทั้งหลายได้อย่างไร

ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ

คู่แห่งบุรุษทั้ง ๔ นั้น มี
คู่ที่๑ พระโสดาบัน แบ่ง ๒ คือโสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล เป็นคู่ที่ ๑
คู่ที่๒ พระสกทาคามี แบ่ง ๒ คือสกทาคามิมรรค สกทาคามิผล เป็นคู่ที่ ๒
คู่ที่๓ พระอนาคามี แบ่ง ๒ คืออนาคามิมรรค อนาคามิผล เป็นคู่ที่ ๓
คู่ที่๔ พระอรหัตต์ แบ่ง ๒ คืออรหัตตมรรค อรหัตตผล เป็นคู่ที่ ๔

นับเรียงตัวบุรุษดังนี้
๑) โสดาปัตติมรรค ๒) โสดาปัตติผล ๓) สกทาคามิมรรค ๔) สกทาคามิผล
๕) อนาคามิมรรค ๖) อนาคามิผล ๗) อรหัตตมรรค ๘) อรหัตตผล