เนื่องจากว่าดิฉันทำงานอยู่กับลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งเค้ามีนิสัยขี้งอนอยู่แล้ว และเมื่อประมาณปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาต้องมีการย้ายตึกทำงานก็ต่างเก็บข้าวของส่วนตัว และเมื่อพี่สาวดิฉันเก็บของแต่ดิฉันไม่ได้ช่วยเขาเก็บเขาเลยงอนและไม่คุยกับดิฉันมาจนทุกวันนี้ จะคุยนิดหน่อยเฉพาะเรื่องงานที่จำเป็นเท่านั้นนอกนั้นก็ไม่คุยเลยและงานที่ทำต้องเกี่ยวข้องกันต้องเจอหน้ากันทุกวันดิฉันต้องทำอย่างไรดีคะ แต่ดิฉันก็ส่ง SMSขอโทษไปแล้ว และก็ได้กลล่าวขอโทษในวันรุ่งขึ้นจากเหตุการณ์ไปแล้วแต่เขาก็ไม่ได้มีทีท่าอะไรตอนนี้เครียดมากค่ะมาทำงานก็เจอหน้ากันทุกวันบางทีเขาก็ทำปึกปังเห็นแล้วก็น้อยใจ เพราะเค้าคุยดีกับทุกคนที่ทำงานยกเว้นดิฉัน ต้องทำอย่างไรดีคะ

ไม่ต้องสนใจเขา (เพราะจะทำให้เขารู้ว่าการงอนของเขามีผลต่อตัวคุณมาก แล้วเขาก็จะงอนต่อไป)

รอให้เขาหายงอนแล้วค่อยไปคุยน่ะ

ทำใจให้สบายๆ

ปล. ถ้ามีเหตุผลที่ดีในการไม่ช่วยเก็บของก็บอกเขาไปอะ อาจจะบอกเขาทำนองว่าครั้งหน้าจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นอีก แต่ถ้าเขาไม่เข้าใจยังงอนอยู่ ก็ต้องปล่อยเขาไปสักพักแหละ จนกว่าเขาจะหายงอนเอง ไปสนใจเขาเขาก็ยิ่งงอนให้เห็นน่ะ อย่าไปสนใจนะ

((เรื่องแค่นี้ทำหยั่งกะงอนแฟน..... แหม....ถ้าเป้นแฟนจะเป็นขนาดไหนกันนะ....))

ปัญหาเรื่องลูกพี่ลูกน้อง หรือพี่สาวของคุณงอนนั้น สามารถแก้ไขได้ครับ...

วิธีการที่คุณส่ง SMS หรือกล่าวขอโทษก็เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่งเหมือนกัน แต่สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว เห็นว่ายังไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ...

คุณจะต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ (เฉพาะฝ่ายของคุณ) ด้วย คือ ต้องย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ว่าเป็นเพราะเหตุใดคุณจึงไม่ไปช่วยเก็บของ และขนย้ายสิ่งของ เช่น เพราะคุณติดนัดกับลูกค้า, เพราะติดธุระสำคัญจริงๆ, เพราะคุณไม่มีน้ำใจ, เพราะคุณขี้เกียจ, เพราะคุณเห็นว่าเป็นสิ่งลำบาก, เพราะคุณเห็นว่าไม่ใช่หน้าที่ ฯลฯ

ซึ่งถ้าหากเหตุผลในการไม่ได้ไปช่วย มาจากสาเหตุอันไม่จำเป็น เป็นเหตุผลทางอกุศล เช่น ไม่มีน้ำใจ, ขี้เกียจ, ไม่ใช่หน้าที่ เป็นต้น ไม่ได้มาจากสาเหตุอันจำเป็นบริสุทธิ์ใจ เป็นเหตุผลทางกุศล เช่น มีติดนัดกับลูกค้า, ติดธุระสำคัญจริงๆ เป็นต้น แล้ว ขอให้คุณทำการแก้ไขสิ่งเหล่านั้น เลิกนิสัย มีสติดักรู้เสียด้วย ระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก หรืออย่าทำซ้ำอีก และเพียรพยายามทำสิ่งที่เป็นกุศล ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามขึ้นมาให้มากๆ แทน เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม นี่ก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุจะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ขึ้นอีกได้ครับ...

นอกไปจากนี้ ขอให้คุณสำรวจตัวคุณเองประการต่างๆ ว่าคุณมีข้อบกพร่องเป็นสาเหตุให้เขางอนอยู่อีกหรือเปล่า เราต้องแก้ไขตัวเองก่อน บุคคลอื่นเราแก้ไขได้ยาก ควบคุมเหตุปัจจัยได้ยากครับ ซึ่งถ้าหากสมมุติว่าคุณมีข้อบกพร่องอยู่ คือ อัธยาศัยไม่ดี, ไม่มีน้ำใจเท่าที่ควร, การแสดงออกซึ่งความมีน้ำใจอย่างจริงใจ น้อยเกินไป ขอให้คุณทำการเพิ่มสิ่งต่างๆ เหล่านี้เข้าไปครับ

ตัวอย่างง่ายๆ เช่น เมื่อใดลูกพี่ลูกน้องของคุณ หรือใครกำลังทำอะไรที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือ แม้เล็กน้อย เช่น ถือของมาดูท่าทางจะหนักควรได้รับความช่วยเหลือ หากคุณสามารถที่จะช่วยได้คุณควรจะช่วย ไม่ใช่ไม่ไปช่วย หรือหากไม่สามารถช่วยได้ อย่างน้อยก็ช่วยทางวาจาแสดงความมีน้ำใจถามไถ่, หากคุณเจอกับใครที่รู้จัก เจอเพื่อนร่วมงาน นิสัยที่ดีมารยาทที่ดีคือควรทำการทักทาย คุณก็ควรทำการทักทาย จะพูด จะไหว้ หรือจะยิ้มให้ก็แล้วแต่เหมาะสม ไม่ใช่ไม่ทักทายไม่ทำอะไรเป็นเมินเฉย อย่างนี้ก็จะไม่ดีไม่ควรทำ..(แม้ว่าคุณจะทักทายไปแล้วเขาเมินเฉยก็ไม่เป็นไร ขอให้คุณทำในสิ่งที่ควรทำไปก็พอ)

การกระทำต่างๆ ข้างต้นที่แนะนำไป ตรงนี้เป็นการแสดงออกถึงความมีเมตตากรุณาระดับต่างๆ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ซึ่งจะเป็นเสน่ห์ของคุณ และทำให้คุณเป็นคนมีอัธยาศัยดี มีน้ำใจอย่างจริงใจได้ครับ

เมื่อคุณทำดีต่อคนอื่น คนอื่นย่อมจะเกิดการรับรู้ความดีที่คุณทำนั้น ไม่เฉพาะกับลูกพี่ลูกน้องของคุณเท่านั้น ทำได้กับคนอื่นด้วย การกระทำอย่างนี้ จะทำให้เกิดความรู้สึกดี ทัศนะคติที่ดีขึ้นแทนความรู้สึกไม่ดี ทัศนะคติที่ไม่ดีในใจของบุคคลนั้น...

เมื่อคุณทำดีกับใคร หรือช่วยเหลือใคร เขาจะได้รับความสบายกาย ความสบายใจเพิ่มมากขึ้น เรียกง่ายๆ ว่าเกิดสุขเวทนาในระดับต่างๆ เมื่อเขาเกิดสุขเวทนามากๆ เข้า ทุกขเวทนาที่มีอยู่จะค่อยๆ ลดน้อยลงไป หรือหายไป ดังนั้น ความโกรธ ความงอน ที่เคยมีอยู่ ก็จะเปลี่ยนเป็นความไม่โกรธ และจะกลายเป็นความเมตตา ความสนิทสนมเหมือนเดิมได้ครับ

ทั้งนี้ คุณจะต้องรู้จักทำดีต่อบุคคลอื่นอย่างเหมาะสม ในโอกาสอันควร ไม่เช่นนั้นแล้วจะเป็นการให้โทษได้ครับ และเมื่อทำไปแล้ว คุณก็อย่าไปหวังว่าเขาจะหายงอนเราหรือยัง เขาจะรักเราหรือไม่ ขอให้ทำดีต่อบุคคลอื่นๆ ไปโดยคิดเสียว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นการฝึกตนเองให้ละเสียจากกิเลส เช่น ความไม่มีน้ำใจ เป็นต้น

สรุป คือ ให้คุณตรวจสอบตัวเองว่ามีอะไรทางกาย ทางวาจา ทางใจอะไรที่ยังไม่ดี หรือยังไม่เหมาะสม ให้คุณทำการแก้ไข ทำการพัฒนาทำการเพิ่มเสีย...

- การกระทำที่ไม่ดี ให้เลิกทำ, การทำดีที่ยังไม่ได้ทำ เมื่อถึงเวลาก็ควรจะทำ,
- การพูดที่ไม่ดี ให้เลิกพูด, การพูดดีที่ยังไม่ได้พูด เมื่อถึงเวลาก็ควรจะพูด
- การคิดที่ไม่ดี ให้เลิกคิด, การคิดดีที่ยังไม่ได้คิด เมื่อถึงเวลาก็ควรจะคิด

ให้หมั่นทำดีดังกล่าวอย่างนี้เนื่องๆ ครับ และความดีที่คุณทำ ทั้งต่อคุณเองและผู้อื่นจะรักษาคุณ และช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น และป้องกันปัญหาต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตได้ครับ

ถ้าคุณคิดว่า คุณทำใจได้ดีในการเิริ่มต้นก่อน ก็น่าจะลองดูนะครับ

จะได้ลดกระแสแห่งความเครียดภายในตัวเองลงได้ไม่มาก็น้อย

และยังลดกระแสจาก อีกฝ่ายนึงลงด้วยครับ จะทำให้บรรยากาศเริ่มกลับมาดีขึ้น

แต่ถ้าขึนยัง กล้าๆ กลัว ๆ หรือ กลัวเสียฟอร์ม ทำนองนี้ ก็ต้องทนแบกความทุกข์นี้ต่อไปครับ

ถามใจตัวเองว่า จะแบก หรือจะทิ้ง