วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 02:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2010, 14:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมได้แสดงหลักฐานไปส่วนหนึ่งแล้วในกระทู้วิญญาณขันธ์เป็นคนละตัวกับจิต(วิญญาณธาตุ,อทิสมานกาย)http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=29670

คราวนี้มาดูหลักฐานเพิ่มว่า วิญญาณขันธ์ เป็นคนละตัวกับ วิญญาณธาตุ(กายทิพย์,อทิสมานกาย)

จิต(อทิสมานกาย) คือ วิญญาณ(ธาตุ) ในปฏิจจสมุปบาท วิญญาน(ธาตุ)เป็นตัวสร้างนามรูป หรือ ขันธ์ 5 (รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ )

วิญญาณในขันธ์ 5 คือ วิญญาณขันธ์

ส่วนวิญญาณที่เป็นผู้ให้กำเนิดวิญญาณขันธ์ = วิญญาณธาตุ มันเป็นคนละตัวกัน และต่างคนต่างสร้างอีกตัวหนึ่ง

วิญญาณธาตุ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสร้าง วิญญาณขันธ์ก่อน แล้วในที่สุด วิญญาณขันธ์ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการข่วยสร้าง วิญญาณธาตุอีกที วนเวียนไปมาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอยู่ในมหานิทานสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ ว่า:

"ดูกรอานนท์เพราะนามรูปเป็นปัจจัยดังนี้แล จึงเกิดวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป..."

หลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง!!!

สูตรที่ ๕ มหาวรรค อภิสมยสํยุตต์ นิทาน. สํ. ๑๖/๑๒๖/๒๕๐.

ตรัสแก่ภิกษุ ท. ที่เชตวัน. ทรงค้นลูกโซ่แห่งทุกข์ ก่อนตรัสรู้

...เพราะ วิญญาณ นั่นแล มีอยู่ นามรูป จึงได้มี : เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป" ดังนี้.

ภิกษุ ท.! ความฉงนนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "เมื่ออะไรมีอยู่หนอ วิญญาณ จึงได้มี : เพราะมีอะไรเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ" ดังนี้.

ภิกษุ ท.! ความรู้สึกอย่างยิ่งด้วยปัญญา เพราะการทำในใจโดยแยบคายได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "เพราะ นามรูป นั่นแล มีอยู่ วิญญาณ จึงได้มี : เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ" ดังนี้.

ภิกษุ ท.! ความรู้แจ้งนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "วิญญาณนี้ ย่อมเวียนกลับจากนามรูป : ย่อมไม่เลยไปอื่น; ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ สัตว์โลกนี้ พึงเกิดบ้าง พึงแก่บ้าง พึงตายบ้าง พึงจุติบ้าง พึงอุบัติบ้าง : ข้อนี้ได้แก่การที่ เพราะมีนามรูป เป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ; เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป

ด้วยเหตุนี้ วิญญาณ(ธาตุ)ตัวเก่า เป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป(ขันธ์ 5)ตัวใหม่ แล้วในที่สุด นามรูป(ขันธ์ 5)ก็เป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ(ธาตุ)ตัวเก่าที่แปลงโฉมใหม่อีกทีหนึ่ง วนเวียนกันไปอย่างนี้จนกว่าจะเข้านิพพาน

สรุป

หลักฐานชัดว่า

1. วิญญาณในนามรูป (วิญญาณขันธ์) เป็นคนละตัวกับ วิญญาณ(ธาตุ)ที่เกิดจากสังขารในปฏิจจสมุปบาท
2. วิญญาณ(ธาตุ)เป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป(ซึ่งมีวิญญาณขันธ์รวมอยู่ด้วย) แล้วในที่สุด นามรูป(ซึ่งมีวิญญาณขันธ์รวมอยู่ด้วย)ที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย เมื่อมันตาย ก็เป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ(ธาตุ) เวียนไปเวียนมาอย่างนี้ไม่จบสิ้น


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 22 ก.พ. 2010, 15:26, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2010, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ต.ค. 2009, 08:51
โพสต์: 4

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนา
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: คู่มือมนุษย์
ชื่อเล่น: หลวงรูณ
อายุ: 38
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนา กับท่านคนดีที่โลกลืม ขอถาม 3 ข้อ
A เรื่องรูป และนาม ยังสงสัยไม่หายเพราะเหตุอันใดจงแถลงให้แจ่มแจ้ง :b41:
B คำพูดที่ว่า วิญญาน(ธาตุ)เป็นตัวสร้างนามรูป แสดงว่าวิญญาน มีตัวมีตนอยู่จริงกระนั้นหรือ :b41:
C เหตุที่ทำให้พวกเราไม่วนเวียนเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีจริงหรือ :b41:

.....................................................
พุทธะนับหมื่นอยู่ที่ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.พ. 2010, 13:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จารุวัณโณภิกขุ เขียน:
สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนา กับท่านคนดีที่โลกลืม ขอถาม 3 ข้อ
A เรื่องรูป และนาม ยังสงสัยไม่หายเพราะเหตุอันใดจงแถลงให้แจ่มแจ้ง :b41:
B คำพูดที่ว่า :b41:
C เหตุที่ทำให้พวกเราไม่วนเวียนเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีจริงหรือ :b41:


คำถามของท่าน ผมขอตอบดังนี้

A เรื่องรูปนาม มันต้องรื้อคำสอนของสมมุติสงฆ์ทิ้งหมดเลย มันใช้ไม่ได้ ความจริงผมได้แถลงไปบ้างแล้วในห้องอภิธรรมของเว็บนี้ แต่ทางเว็บนี้เขาสนับสนุนมารมั๊ง เลยลบกระทู้นั้นไป เพื่อไม่ให้คนอื่นที่แสวงหาธรรม มีโอกาสได้รับรู้ธรรมะของจริงของพระพุทธเจ้า อย่างไรก็ตาม ผมเล่นอยู่ในหลายเว็บ จึงเก็บข้อมูลไว้เยอะ จากคำถามของท่าน ข้อA ตอบได้ดังนี้:

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย

เพราะถือมั่นธาตุ ๖ สัตว์จึงลงสู่ครรภ์ เมื่อมีการลงสู่ครรภ์ จึงมีนามรูป เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ อันนี้เรียกว่า นาม มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ อันนี้เรียกว่า รูป นามและรูปดังพรรณนามาฉะนี้ เรียกว่า นามรูป เหตุเกิดแห่งนามรูป ย่อมมีเพราะวิญญาณเป็นเหตุให้เกิด ความดับนามรูป ย่อมมีเพราะวิญญาณดับ"

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 571&Z=4686

..........................................

จากพุทธพจน์นี้ ผมขอชี้แนะดังนี้:

1) เรื่องรูปนั้น พระพุทธองค์ได้บอกว่า รูป มีทั้งที่เป็นมหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ เกิดขึ้น สิ่งนั้นคือ (รูปที่เป็น นามกาย หรืออทิสมานกาย หรือกายทิพย์ หรือโอปาติกะ) = พวกที่อยู่ในโลกทิพย์ หรือปรโลก 30 กว่าภพภูมิ

2) ส่วนนาม = เวทนา สัญญา เจตนา(สังขาร) ผัสสะ มนสิการ(การกําหนดไว้ในใจ)

3) ผัสสะ มนสิการ นั้นคือวิญญาณขันธ์ จึงจะนับได้ว่าขันธ์ 5 ได้แก่ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์

4) คำนิยามว่า : วิญญาณขันธ์ (กองวิญญาณ, ส่วนที่เป็นความรู้แจ้งอารมณ์, ความรู้อารมณ์ทางอายตนะทั้ง 6 มีการเห็น การได้ยิน เป็นต้น ได้แก่ วิญญาณ 6 — consciousness)มาจากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

***จริงๆแล้ว วิญญาณขันธ์นี่หมายถึงระบบประสาทและ/หรือกลไกทางสมองนั่นเอง***

5) ส่วนวิญญาณในพุทธพจน์ในมหานิทานสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ "ดูกรอานนท์เพราะนามรูปเป็นปัจจัยดังนี้แล จึงเกิดวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป..." หรือพุทธพจน์ = วิญญาณธาตุ

6) วิญญาณมันจึงมี 2 ตัว คือ วิญญาณธาตุ และ วิญญาณขันธ์ วิญญาณขันธ์เกิดขึ้นเมื่อวิญญาณธาตุ(หนึ่งในธาตุ 6) ลงสู่ครรภ์ เพราะถือมั่นธาตุ ๖ สัตว์จึงลงสู่ครรภ์ เมื่อมีการลงสู่ครรภ์ จึงมีนามรูป

7) ธาตุ 6 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ อากาศธาตุ และวิญญาณธาตุ


B วิญญาน(ธาตุ)เป็นตัวสร้างนามรูป แสดงว่าวิญญาน มีตัวมีตนอยู่จริงกระนั้นหรือ

วิญญาณธาตุ เป็นหนึ่งในธาตุ 6 ทุกศาสนาก็บอกว่ามันมีอยู่จริง เมื่อคนหรือสัตว์ตายไป = ขันธ์ 5 ซึ่งรวมวิญญาณขันธ์นั้นตาย ปลดปล่อยตัววิญญาณธาตุออกมา วิญญาณธาตุมีที่ไป 3 ทาง คือ 1.เวียนว่ายตายเกิด 2. หรือไม่ก็นิพพานไป 3. เข้าไปอยู่ในภพภูมิที่เรียกว่ากึ่งกลางของสังสารวัฏฏ์ เช่น แดนสุขาวดีของพระอมิตาภพุทธเจ้า และสรวงสวรรค์ของพระเยซูคริสต์

C เหตุที่ทำให้พวกเราไม่วนเวียนเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีจริงหรือ

เราอยู่ในพุทธศาสนาเถรวาท ก็ต้องเชื่อในพระพุทธเจ้า คนที่อยู่ในศาสนาอื่น เช่น คริสต์ เขาก็ต้องเชื่อในพระเยซู ถ้าอยู่ในศาสนาพุทธมหายาน เขาก็ต้องเชื่อในพระพุทธเจ้าที่สอนว่าแดนสุขาวดีมีจริง

ผมเป็นคนที่ถอดจิตได้ ผมได้ไปสัมผัสมาแล้ว ทั้ง 3 ทาง ที่วิญญาณธาตุไป คือ 1.เวียนว่ายตายเกิด 2. หรือไม่ก็นิพพานไป 3. ภพภูมิที่เรียกว่ากึ่งกลางของสังสารวัฏฏ์ คือ แดนสุขาวดีของพระอมิตาภพุทธเจ้า และสรวงสวรรค์ของพระเยซูคริสต์


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 25 ก.พ. 2010, 13:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร