วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 18:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 18:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 20:27
โพสต์: 40

แนวปฏิบัติ: ดูจิตในชีวิตประจำวัน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ท่องเที่ยว,ขี่จักรยาน,เลี้ยงสุนัข
อายุ: 43
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
คือว่ากำลังจะทำโครงการเผยแผ่ธรรมะในที่ทำงาน ก็เลยมีการก็อบปี้ บทความ เสียงธรรม และอื่นๆ จากเว็บไซด์หลายๆ ที่ บางที่ก็เข้าไปพิมพ์ข้อความขออนุญาต บางที่ก็ไม่ได้ทำ เลยไม่แน่ใจว่าอย่างนี้เข้าข่ายผิดศีลข้ออทินนา หรือเปล่า ถ้าผิดควรทำอย่างไรดีคะ เพราะบางอันก็จำไม่ได้แล้วว่าก็อบมาจากไหนบ้าง :b10:

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ อย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่เลวร้ายไปกว่านี้
(ฟังจากธรรมะบรรยายของ พระไพศาล วิสาโล)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2010, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ศีลอทินนนานี้มีเงื่อนไขอยู่ว่า
ถ้าเจ้าของเขาหวง ถ้าไปเอาแล้วมันผิดศีล

ถ้าเจ้าของบทความ เขามีเจตนาจะให้โดยเสรีแต่แรกอยู่แล้ว
อันนี้ก็เอาไปได้เลยจ๊ะ

ธรรมะของศาสนาพุทธนี้ ล้วนแตกออกมาจากพระพุทธเจ้า
เป็นผู้ค้นพบและประจักษ์ พระพุทธเจ้าเราค้นพบธรรมะ
เรียกว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ และท่านก็มีเจตนาจะให้ฟรีแต่แรกอยู่แล้ว
ไม่ได้มีเงื่อนไขในการให้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ยังบอกทำนองว่าธรรมะนี้มีอยู่แล้ว เป็นของกลาง
พระองค์ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้กำหนดกฎเกณฑ์

ต่อมายุคเรา ก็มีหลายท่านที่ศึกษาแล้ว ก็นำมาเรียบเรียงในสไตล์ของตน
ถ้าท่านเหล่านนั้นต้องการจำหน่าย หรือมีเงื่อนไขในการให้
เราก็ควรจะยอมรับในจุดนั้น เพราะ "เป็นสิ่งที่เจ้าของเขาหวง"

ก็ไม่ต้องไปยุ่งตรงนั้น

แต่อันไหนเขาไม่หวง ก็มีเยอะไปนะ
หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ดีๆ ที่ไม่หวง แล้วแจกฟรีมีเยอะไป

อันไหนสงสัยก็ไม่ต้องเอาก็ได้จ๊ะ
ทำบุญนั้น ถ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ บริบุรณ์ดีแล้ว ต้องให้ผลเป็นความสบายใจ
ถ้าทำแล้วยังไขว้เขวๆ อยู่ก็อย่าไปทำเลยครับ

แต่ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไม่คิดมากกับเรื่องพวกนี้
แต่ผมจะไปคิดถึงเรื่องว่าของที่จะเอาไปบอกเขาต่อนี้ มันดีจริงไหม
อ่านแล้วเข้าใจไหม บทความนี้มันอ่านแล้วยิ่งละยิ่งวาง หรือยิ่งอ่านยึ่งยึด
ไม่ใช่ว่าแจกสุ่มสี่สุ่มห้านะ

สัพพทานัง ธัมทานัง ชินาติ - การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะทานทั้งปวง
(เป็นทานที่เลิศที่สุดในบรรดาทานทั้งหมด)

บางคนอ่านแล้วรีบปั๊มแผ่น พิมพ์หนังสือใหญ่เลย ใส่ชื่อตัวเองหราเลย
เพราะคิดว่าเป็นการลงทุุนที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด ในบรรดาการทำบุญทั้งหมด

ความจริงไม่ได้ผิดชั่วอะไรหรอก แต่มัน "ยังห่างจากคำว่าธรรมทาน" มากเลย
ที่จริงการทำอย่างนี้ ต้องเรียกว่าเป็น "วัตถุทาน หรือ วิทยาทาน" มากกว่า

ลองดูพระพุทธเจ้าเราสิ ท่าน "ให้ธรรมะเป็นทาน" น่ะ
ท่านให้แบบไหน ให้เอาอย่างท่าน

พระองค์ปฏิบัติเอง ได้ผลเอง แจ่มแจ้งในความรู้ก่อนจะให้ออกไปเป็นทาน
ท่านบอกให้คนถือศีล ท่านก็ถือได้ก่อนอยู่แล้ว
ท่านบอกว่าห้ามทำความชั่ว ตัวท่านเองก็ไม่ทำความชั่ว
ท่านบอกให้คนทำอะไร ท่านย่อมแจ้งแทงตลอดในสิ่งที่ท่านจะให้แล้วทั้งสิ้น
แจ้งแทงตลอดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นมาอย่างไร มีผลดีชั่วประการใด มีโทษมีคุณอย่างไร
ท่านต้องแจ้งแทงตลอดหมด แล้วจึงให้ออกไป
เรียกว่าทานที่จะให้นั้นก็บริสุทธิ์ มีแต่คุณ ไม่มีพิษโทษอันใดต่อผู้รับ

แม้กระทั่งจะให้ใคร ท่านยังต้องพิจารณาผู้รับอีกด้วย
ท่านย่อมใช้ปัญญาในการพิจารณา ว่าผู้รับสมควรแก่ธรรมอันใด
ท่านก็ให้ธรรมทานที่สมควรแก่ผู้รับ
นี่เรียกว่านอกของที่จะให้ต้องบริสุทธิ์แล้ว
การให้ยังให้ด้วยความปราณีต พิถีพิถันอีกด้วย
นี่คือมาตรฐานบางส่วนของคำว่า "ธรรมทาน" ของบรมครูของเรา


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 17 มิ.ย. 2010, 09:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2010, 10:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
บางคนอ่านแล้วรีบปั๊มแผ่น พิมพ์หนังสือใหญ่เลย ใส่ชื่อตัวเองหราเลย
เพราะคิดว่าเป็นการลงทุุนที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด ในบรรดาการทำบุญทั้งหมด
ความจริงไม่ได้ผิดชั่วอะไรหรอก แต่มัน "ยังห่างจากคำว่าธรรมทาน" มากเลย
ที่จริงการทำอย่างนี้ ต้องเรียกว่าเป็น "วัตถุทาน หรือ วิทยาทาน" มากกว่า

ขออนุโมทนา สาธุ กับคำตอบของท่าน "ชาติสยาม" ด้วยครับ :b8:
เมื่อก่อนกระผมก็เคยคิดจะก็อบปี้ ซีดี ธรรมบรรยาย ดีๆ ...แต่พอมานึกถึงข้อกฏหมาย หรือ ลิขสิทธิ์..ก็เลยถอย..เพราะกลัว..หรือกระทำลงไปแล้วยังหวั่นเกรง..คือไม่สบายใจ...ทั้งๆ ที่ท่านพระอาจารย์ทั้งหลาย ก็เผยแผ่และสามารถโหลดได้ฟรีอยู่แล้ว...ในเว็บ...แต่กับการที่เราจะก็อบปี้แล้วนำไปแจก..เวลาทำกฐินฯ-ผ้าป่าฯ แถวๆ ชนบทบ้านนอกน่ะ...ก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการขออนุญาต..แต่ก็มีบางครั้งที่ได้แอบกระทำลงไปเพราะมีใจบริสุทธิ์ที่จะเผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์..ไม่พิมพ์ปก..ไม่มีชื่อตัวเอง..เพียงแต่พิมพ์ชื่อท่านพระอาจารย์นั้นๆ ที่บรรยาย..เราก็ลงทุนไปครั้งละปนชระมาณ ๑๐๐ แผ่น
เพียงเท่านี้ไม่รู้จะเป็นบุญหรือบาปกันแน่ครับ??
เจริญในธรรม :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย ศรีสมบัติ เมื่อ 17 มิ.ย. 2010, 10:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2010, 11:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
ขออนุโมทนา สาธุ กับคำตอบของท่าน "ชาติสยาม" ด้วยครับ :b8:
เมื่อก่อนกระผมก็เคยคิดจะก็อบ* ซีดี ธรรมบรรยาย ดีๆ ...แต่พอมานึกถึงข้อกฏหมาย หรือ ลิขสิทธิ์..ก็เลยถอย..เพราะกลัว..หรือกระทำลงไปแล้วยังหวั่นเกรง..คือไม่สบายใจ...ทั้งๆ ที่ท่านพระอาจารย์ทั้งหลาย ก็เผยแผ่และสามารถโหลดได้ฟรีอยู่แล้ว...ในเว็บ...แต่กับการที่เราจะก็อบ*แล้วนำไปแจก..เวลาทำกฐินฯ-ผ้าป่าฯ แถวๆ ชนบทบ้านนอกน่ะ...ก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการขออนุญาต..แต่ก็มีบางครั้งที่ได้แอบกระทำลงไปเพราะมีใจบริสุทธิ์ที่จะเผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์..ไม่พิมพ์ปก..ไม่มีชื่อตัวเอง..เพียงแต่พิมพ์ชื่อท่านพระอาจารย์นั้นๆ ที่บรรยาย..เราก็ลงทุนไปครั้งละปนชระมาณ ๑๐๐ แผ่น
เพียงเท่านี้ไม่รู้จะเป็นบุญหรือบาปกันแน่ครับ??
เจริญในธรรม :b8:


ผมขอแสดงความชัดเจนในคำพูดของผมเองนิดนึงนะครับ

การให้ธรรมเป็นวิทยาทาน โดยการไม่พิมพ์ชื่อ
ก็ไม่ได้เป็นเครื่องแสดงว่าดีกว่าการไม่พิมพ์ตรงไหนเลยนะครับ

ที่จริง ถ้าจะให้ดี ควรพิมพ์ชื่อน่ะถูกแล้ว มันควรจะมีแหล่งที่พิมพ์ผู้จัดพิมพ์
เพราะมันช่วยให้เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม ในการมีที่มาที่ไป
ผิดถูกจะได้หาผู้รับผิดชอบได้ อ้างอิงได้ว่าฉบับไหน เวอร์ชั่นไหน
ซึ่งจะมีผลดีมากกว่าการไม่พิมพ์ชื่อ

แต่เจตนาที่ตั้งเอาไว้ว่าจะใส่ชื่อนั่นแหละ ผมว่าสำคัญตรงนั้น

ถ้าคิดว่าใส่ชื่อไว้ แล้วบุญจะได้เข้าถูกตัว
คนจดบันทึกเรื่องบุญจะได้บัญทึกถูกตัว
หรือผลของบุญจะได้มาถูกตัว คล้ายๆจ่าหน้าไปรษณีย์
อันนี้แหละ ผมว่าเป็นเจตนาที่ตั้งไว้ผิด

เท่าที่ผมรู้จักคำว่าบุญ มันไม่ใช่อย่างนี้
การมา การอยู่ การไป ของบุญ มันไม่ต้องมีชื่อ ไม่ต้องมีแส้ ถึงจะมีบุญได้
บุญปรากฏขึ้นที่ใจ เก็บบันทึกก็ที่ใจ ให้ผลก็ที่ใจ ของตน ของตน

แต่คนมักเข้าใจว่า บุญ เหมือนระบบการเงิน
ที่ว่าต้องมีการโยกย้ายจากที่หนึ่งไปที่หนึ่งได้ มีผู้เก็บผู้รักษาอยู่ต่างหาก
มีคนคอยให้ดอกให้ผลอยู่ต่างหาก มีผลคอยคำนวนอยู่ต่างหากว่าอย่างนี้ควรให้ดอกมากให้ดอกน้อย
ซึ่งมันคล้ายๆระบบสกุลเงินตรา

บุญมันง่ายๆกว่านั้นมาก
อย่างผมมีความสุข ผมยิ้มแย้มแจ่มใส มีคนมาเห็นเรามีความสุข
เขาก็พลอยสบายหูสบายตาสบายใจไปด้วย
อย่างนี้ ถามว่า การที่เขามีวคามสุข เขาเอาบุญมาจากไหน
ใช่บุญของผมที่มันถ่ายโอนไปหรือเปล่า ถ้ามันถ่ายโอนไป
แสดงว่าปริมาณบุญของผมต้องลดน้อยลง เพราะถ่ายโอนออกไปให้คนอื่นแล้ว
แสดงว่าบุญของผมมันลดน้อยลงไป ซึ่งก็ไม่ใช่

หลวงปู่เทสก์ท่านเปรียบเทียบว่า
บุญคล้ายๆจุดเทียนต่อๆกัน มันหมดไม่เป็น "บุญในศาสนาพุทธจึงหมดไม่เป็น"

ผมอธิบายเพิ่มเติมว่า ถ้าเราเอาไฟไปจุดลงที่เทียน เทียนเล่มใหม่มันก็ติด
เพราะมันมีเชื่อ มีเหตุ มีปัจจัย ให้รับไฟได้

ถ้าเอาไฟไปจุดหิน ดิน กรวด ทราย ไฟมันย่อมไม่ติด
เพราะปลายทางที่จะเอาไปจุด มันไม่มีเหตุพอที่จะรองรับเอาไฟนั้นไว้ได้

อย่างเราไปบอกให้คนคิดเรื่องความตายให้มาก
คนเขาคงไล่ตะเพิดเรา เพราะว่าเราไปพูดอัปมงคล
พระพุทธเจ้าท่านถึงว่า
แม้จะสิ่งที่จะพูด จะเป็นความจริงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ก็ตาม
แต่ว่าถ้าผู้ฟังรับไม่ได้ ฟังแล้วขุ่นเคือง ก็อย่าพูด
คนที่รับความจริงไม่ได้ ก็คล้ายๆวัสดุที่ไม่ติดไฟ
เอาไฟ เอาบุญ ไปจุดยังไง ก็ยังไม่ติด
ถ้าไปบังคับเคี่ยวเข็น ก็จะเสียหายเอาได้


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 17 มิ.ย. 2010, 12:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2010, 15:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบพระคุณ ท่าน "ชาติสยาม"เป็นอย่างสูงครับ :b8:
ได้ความกระจ่าง และ เข้าใจกับคำอธิบายได้ดีเลยครับ
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2010, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำแล้วมันได้รับประโยชน์หรือเปล่าล่ะ
ถ้าผมมีบทความธรรมะนะ ผมจะสั่งให้คนทั่วโลก copy ไปเลย
ถ้าคุณเอามาจากหนังสือที่เขาพิมพ์ขายกัน คุณก็ควรอ้างที่มาของหนังสือและผู้เขียนด้วย
มิฉะนั้นจะไปละเมิดลิขสิทธิ์เขา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2010, 18:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 16:54
โพสต์: 8

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โดยปกติหลักทั่วไปแล้วหากเป็นข้อความในเว็บไซต์ที่เจตนาเผยแผ่อยู่แล้ว และไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์เราก็คัดลอกมาได้เลย และเราก็ควรอ้างอิงแหล่งที่มาด้วยโดยการพิมพ์ url ของเว็บที่เราคัดลอกมาครับ ทั้งนี้เราต้องไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์นะครับ

...ส่วนถ้าหากเป็นเว็บไซต์ที่เขาสงวนลิขสิทธิ์ เราก็ต้องขออนุญาตเจ้าของเว็บก่อน ืถึงแม้เราจะมีเจตนานำไปเผยแพร่ โดยเป็นสาธารณกุศลก็ตาม

...กรณีของการ copy cd ก็เช่นเดียวกันครับ ยกตัวอย่างเช่นผมเขียนบทความธรรมะ พร้อมทำเป็นหนังออกมาแล้ว write cd ขายในเชิงธุรกิจและผมสงวนลิขสิทธิ์ไว้ ทีนี้หากมีใครนำ cd นี้ไปทำสำเนาโดยไม่ขออนุญาต แล้วแจกฟรีเป็นธรรมทานอันนี้ก็ผิดครับ ทั้งกฎหมายและศีลธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2010, 19:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บทความธรรมมะที่ว่านี้ เป็นบทความในลักษณะใดครับ ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่

เป็นบทความที่เจ้าของเวบเขาหวงห้ามหรือเปล่าครับ ถ้าเขาไม่หวงห้ามก็เป็นอย่างที่คุณ ชาติสยาม ได้แสดงความคิดเห็นไว้นั่นแหละครับ

แต่โดยความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมคิดว่า ธรรมมะเป็นสิ่งที่ผู้ให้ให้โดยที่มีจิตอาสา คือว่าให้โดยไม่มีการหวงห้าม เป็นการเต็มใจที่จะเผยแพร่ และเป็นของสาธารณะครับ เพราะฉนั้นก็บได้ครับ ไม่ผิดศีล(เอ๊ะ...หรือว่ามีคนหวงนะ)

แต่ถ้ามองในแง่ธุรกิจ ก็เหมือนกันครับ ธรรมมะเป็นสิ่งที่ให้โดยที่มีจิตอาสา เอื้อเฟื้อ ไม่มีการหวงห้าม เต็มใจที่จะเผยแพร่ และเป็นของสาธารณะ และไม่มีลิขสิทธิ์ครับ เพราะพระพุทธเจ้าคงไม่มาเก็บค่าลิขสิทธิ์กับเรานะ อิอิอิ เพราะฉนั้นก็ ก็อบได้ครับ

พุทธคุณคุ้มครองครับ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 18:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 20:27
โพสต์: 40

แนวปฏิบัติ: ดูจิตในชีวิตประจำวัน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ท่องเที่ยว,ขี่จักรยาน,เลี้ยงสุนัข
อายุ: 43
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เข้ามาตั้งกระทู้ไว้แล้วก็ไม่มีเวลาเข้ามาดูขออภัยจริงๆค่ะ
ได้อ่านคำตอบของทุกท่านแล้วได้ความกระจ่างมากค่ะขอบพระคุณทุกคำตอบค่ะ บทความทีก็อบมาส่วนใหญ่ก็เขียนว่าแจกฟรีนะคะ
ที่คิดทำงานนี้เพราะว่า ตัวเองอ่านแล้ว ฟังแล้วได้ประโยชน์ ก็เลยอยากแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง เท่านั้นเองค่ะ :b8: ขอบคุณค่ะ

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ อย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่เลวร้ายไปกว่านี้
(ฟังจากธรรมะบรรยายของ พระไพศาล วิสาโล)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2010, 16:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 19:25
โพสต์: 11

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

แต่ถ้ามองในแง่ธุรกิจ ก็เหมือนกันครับ ธรรมมะเป็นสิ่งที่ให้โดยที่มีจิตอาสา เอื้อเฟื้อ ไม่มีการหวงห้าม เต็มใจที่จะเผยแพร่ และเป็นของสาธารณะ และไม่มีลิขสิทธิ์ครับ เพราะพระพุทธเจ้าคงไม่มาเก็บค่าลิขสิทธิ์กับเรานะ อิอิอิ เพราะฉนั้นก็ ก็อบได้ครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร