วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 18:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2010, 17:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 17:45
โพสต์: 11

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


__________ที่เข้าใจกันว่าวิญญาณในขณะที่มียังชีวิตอยู่กับวิญญาณของคนที่ตายแล้วไปเกิดใหม่เป็นวิญญาณอันเดียวกันนั้นเป็นความเข้าใจผิด เพราะความเป็นจริงวิญญาณที่ดับกับวิญญาณที่เกิดใหม่ไม่ใช่วิญญาณอันเดียวกัน “ ข้อความดังกล่าวกระผมคัดมาจากหนังสือ “ตายแล้วเกิด “ เมื่อเป็นอย่างนี้มันไม่ขัดกันหรือกับกรณีของคนที่ระลึกชาติได้ จากการอ่านทราบว่าคนที่ระลึกชาติได้นั้นเขาสามารถบอกได้ว่าชาติที่แล้วเขาเกิดเป็นใคร อะไร และอย่างไร ซึ่งเขาย้อนอดีดชาติของเขาได้ถูกต้อง ก็แสดงว่าวิญญาณของเขาทั้งในชาติที่แล้วกับวิญญาณของเขาที่เขามาเกิดในชาตินี้และสามารถระลึกชาติได้นี้ต้องเป็นวิญญาณอันเดียวกัน ถ้าอย่างนี้มันไม่ขัดแย้งกันกับข้อความที่กระผมคัดมาจากหนังสือดังกล่าวข้างบนนี้หรือ ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายให้ด้วยครับ ขอขอบพระคุณมากๆครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 00:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ใช่วิญญาณเดียวกันค่ะ ที่ถูกคือต้องบอกว่าไม่ใช่จิตดวงเดียวกันค่ะ
ที่จริงแล้วตอนเราตายนี่ไม่ได้หมายถึงมีวิญญาณออกจากร่างนะคะ

จริงๆวิญญาณก็คือจิตนั่นเอง
(จิต คือ ธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งรู้อารมณ์ จิตเป็นตัวรู้ สิ่งที่จิตรู้ เรียกว่าอารมณ์
จิต คือ ธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ รับ จำ คิด รู้ ซึ่งอารมณ์
จิต ต้องรับอารมณ์จึงจะรู้ และจำ แล้วก็คิดต่อไป
จิต มีชื่อเรียกหลายคำ เช่น มนายตนะ มนินทรีย์ วิญญาณ วิญญาณขันธ์ มโนวิญญาณธาตุ ฯลฯ)

วิญญาณ 6 (ความรู้แจ้งอารมณ์)
1. จักขุวิญญาณ (ความรู้อารมณ์ทางตา รู้รูปด้วยตา, เห็น )
2. โสตวิญญาณ (ความรู้อารมณ์ทางหู คือ รู้เสียงด้วยหู, ได้ยิน )
3. ฆานวิญญาณ (ความรู้อารมณ์ทางจมูก คือ รู้กลิ่นด้วยจมูก, ได้กลิ่น )
4. ชิวหาวิญญาณ (ความรู้อารมณ์ทางลิ้น คือ รู้รสด้วยลิ้น, รู้รส)
5. กายวิญญาณ (ความรู้อารมณ์ทางกาย คือ รู้โผฏฐัพพะด้วยกาย, รู้สึกสัมผัส )
6. มโนวิญญาณ (ความรู้อารมณ์ทางใจ คือ รู้ธรรมารมณ์ด้วยใจ, รู้ความนึกคิด )

เมื่อรูปใกล้จะแตกสลาย ส่วนของนามซึ่งเป็นข้อมูลของกรรมจะถูกเก็บไว้ที่ภวังคจิต
และภวังคจิตจะถ่ายทอดส่วนของนามทั้งหมดไปสู่จุติจิต ซึ่งเป็นจิตดวงสุดท้าย
และจุติจิตจะสลายตัวส่งพลังงานแห่งกรรมไปสร้างจิตดวงใหม่ที่เรียกว่า ปฏิสนธิจิต
เข้ารวมกับรูปใหม่ ภพใหม่

คนที่ระลึกชาติได้จะสามารถรู้เหตุกรรมในอดีตได้ผ่านทางข้อมูลของจิตไร้สำนึก(ภวังคจิต)
ซึ่งจะบันทึกเรื่องราวจากชาติภพต่างๆที่ผ่านมาไว้ในรูปของพลังกรรม
พลังนี้จะเป็นตัวนำให้เกิดการก่อตัวเป็นเจตสิกรวมกันเป็นดวงจิต
สะท้อนออกมาเป็นเวทนาและความรู้สึก
ทั้งนี้ ไม่ใช่ความทรงจำโดยตรง เป็นเพียงความเข้าใจผ่านข้อมูลที่มีอยู่

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


แก้ไขล่าสุดโดย จันทร์ ณ ฟ้า เมื่อ 25 มิ.ย. 2010, 00:36, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 06:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


วิญญาณ มโน และจิต ใน ๒ ปิฎก : สมเด็จพระสังฆราชฯ

viewtopic.php?f=66&t=29292



จิต ... คืออะไร...?

viewtopic.php?f=66&t=29224


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 09:39
โพสต์: 219

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาติครับ

จะกล่าวว่าดวงเดียวกันก้อไม่ใช่ จะกล่าวว่าคนละดวงก้อไม่เชิง
ดังนี้เปรียบดั่ง
เปลวแสงเทียนที่ถูกจุดขึ้นในเวลาหนึ่ง แล้วก้อดับลง
แล้วถูกจุดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ณ อีกเวลานึง
จะกล่าวว่า เป็นดวงเดียวกันก้อหาไม่

แล้วด้วยเปลวเทียนที่ถูกจุดขึ้นในแต่ละขณะ
ด้วยเชื้อแห่งการติดของเปลวเทียนยังคงเป็นเชื้ออันเดิม
จะกล่าวว่า เป็นคนละดวงก้อหาไม่

ด้วยเชื้อยังมีอยู่ จึงคงไว้ด้วยความเกิดอันเป็นเหตุปัจจัย
เป็นความหมุนรอบ เป็นความสืบเนื่องตลอดไป

.....................................................
.................................................ธ ทรงครองแผ่นดินโดยทศพิธราชธรรม
........................................................พระปฐมบรมราชโองการว่า
.......................“ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม “

........................ขอพ่อเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ มีพระชนย์มายุ ยิ่งยืนนาน พระพุทธเจ้าข้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 12:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผงธุลีดิน เขียน:
ขออนุญาติครับ

จะกล่าวว่าดวงเดียวกันก้อไม่ใช่ จะกล่าวว่าคนละดวงก้อไม่เชิง
ดังนี้เปรียบดั่ง
เปลวแสงเทียนที่ถูกจุดขึ้นในเวลาหนึ่ง แล้วก้อดับลง
แล้วถูกจุดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ณ อีกเวลานึง
จะกล่าวว่า เป็นดวงเดียวกันก้อหาไม่

แล้วด้วยเปลวเทียนที่ถูกจุดขึ้นในแต่ละขณะ
ด้วยเชื้อแห่งการติดของเปลวเทียนยังคงเป็นเชื้ออันเดิม
จะกล่าวว่า เป็นคนละดวงก้อหาไม่

ด้วยเชื้อยังมีอยู่ จึงคงไว้ด้วยความเกิดอันเป็นเหตุปัจจัย
เป็นความหมุนรอบ เป็นความสืบเนื่องตลอดไป

ขอสนับสนุนคำตอบของท่าน "ผงธุลีดิน" ครับ
ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เหตุ แล้วแต่ปัจจัย ตามกฏ อิทัปปัจจยตา หรือ กฏ ปฏิจจสมุปบาท
.....ขอเจริญในธรรม :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร