วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 02:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2010, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?t=537
คันธสาระ จากพระสูตร ท่านเว่ยหลาง



คันธสาระ ข้อต้นนั้นคือ ศีล ซึ่งหมายถึง
การที่จิตของเราปราศจากรอยด่างของทุจริต, ความชั่ว ความริษยา ความตระหนี่ ความโกรธ การใช้กำลังข่มขู่ และการผูกเวร



คันธสาระข้อที่สองนั้นคือ สมาธิ ซึ่งหมายถึง
การที่จิตของเราไม่มีอาการหวั่นไหวในทุกเหตุการณ์ที่เข้ามาแวดล้อมเรา ไม่ว่ามาดีหรือมาร้าย




คันธสาระข้อที่สามนั้นคือ ปัญญา ซึ่งหมายถึง
การที่จิตของเราเป็นอิสระจากเครี่องห่อหุ้มรึงรัด,
หมายถึง การที่เราส่องปัญญา
ของเราอยู่เนืองนิจ ลงที่จิตเดิมแท้ของเรา.
หมายถึงความที่เราเป็นผู้พ้นเด็ดขาดจากการที่จะทำความชั่วทุกประเภท,
หมายถึงความที่เราจะทำความดีทุกสิ่งทุกอย่าง
ถึงกระนั้นเราก็ไม่ปล่อยให้ใจของเราที่เกี่ยวเกาะอยู่ที่ผลของความดีนั้นๆ,
และหมายถึงว่าเรายอมเคารพนับถือผู้อื่นที่อยู่สูงกว่าเรา
อ่อนน้อมต่อผู้ที่ต่ำต้อยกว่าเรา เห็นอกเห็นใจคนที่หมดวาสนาและคนยากจน.





คันธสาระข้อที่สี่นั้นคือ ความหลุดพ้น (วิมุติ) ซึ่งหมายถึงความที่ใจของเราขึ้นถึงขั้นอิสระเด็ดขาดไม่เกี่ยวเกาะอยู่กับสิ่งใด
ไม่ผูกพันตัวเองอยู่กับความดีความชั่ว.




คันธสาระข้อที่ห้านั้นคือ ความรู้ อันเราได้รับในขณะที่ลุถึงความหลุดพ้น.
เมื่อจิตของเราไม่เกี่ยวเกาะกับความดีและความชั่วแล้ว
เรายังจะต้องระวังไม่ปล่อยให้จิตนั้นอิงอยู่กับความว่างเปล่า
หรือตกลงไปสู่ความเฉื่อย. ยิ่งกว่านั้นเรายังจะต้อง
เพิ่มพูนการศึกษา และขยายความรู้ของเราให้กว้างออกไปจนกระทั่ง
สามารถรู้จักจิตของเราเอง, สามารถเข้าใจโดยทั่วถึงในหลักพุทธรรม,
ทำตนเป็นฉันท์ญาติมิตรกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เราเกี่ยวข้องด้วย,
บำบัดความรู้สึกว่า "ตัวตน" และความรู้สึกว่ามีว่าเป็นเสียให้หมดสิ้น,
และเห็นแจ้งชัดว่า จำเดิมแต่ต้นมาจนกระทั่งถึงเวลา
ที่เราได้บรรลุโพธินั้น "ธรรมชาติที่แท้จริง" (หรือจิตเดิมแท้)
ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา.
ดั่งนี้ชื่อว่า คันธสาระแห่ง "ความรู้อันเรา
ได้รับในขณะที่ลุถึงความหลุดพ้น"


คันธสาระอันประกอบไปด้วยองค์ห้าประการนี้ ย่อมอบกลิ่นออกมาจาก
ภายใน และเราไม่ควรแสวงหามันจากภายนอก.




คันธสาระ ในที่นี้หมายถึงสิ่งที่มีกลิ่นหอมทั่วๆไป ใช้จุดเพื่อให้อากาศ
หอม ผู้อ่านที่สังเกตุจะเห็นได้ว่า คันธสาระห้าอย่างนี้โดยชื่อ ก็คือที่
เรียกกันในฝ่ายเถรวาทว่า ธรรมสาระห้านั่นเอง ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ และวิมุติญาณทัศนะ
แต่คำอธิบายเดินคนละชั้นคนละแนว




จาก จากพระสูตรของ ท่านเว่ยหลาง หน้าที่ ๘๘-๘๙
แปลโดย ท่านพุทธทาสภิกขุ
สำนักพิมพ์เครือเถา

ภาพจาก : Google

ที่มา...http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=29560
_________________
มีพบย่อมมีพราก
มีจากย่อมมีเจอ
ที่ไหนกันเล่าเออ
ที่ไม่ต้องเจอและไม่ต้องจาก
...ภุมริน...

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร