วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 02:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2010, 16:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


- ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณซาหริ่ม จากกระทู้ “ ช่วยไขปัญหาชีวิตด้วยนะคะ“ ที่ผมเอาคำตอบปัญหาของคุณมาตั้งกระทู้ใหม่เพราะคำตอบของผมอาจเกิดข้อโต้แย้ง จนทำให้เจ้าของกระทู้รำคาญได้ หลังจากคุณอ่านแล้ว ขอให้คุณศึกษาเพิ่มเติม เมื่อคุณรู้จักมันมากขึ้นคุณจะหายกลัวไปเอง มันไม่สามารถทำร้ายคุณได้อีก ผมจะพยายามวิเคราะห์จากความทรงจำที่ดูมันจะเหลือน้อยนิดลงทุกวัน
- ปัญหาขอคุณ ผมจะใช้ กาลามสูตร (คิดสักนิดก่อนที่จะเชื่อ) เป็นเครื่องมือตัวหนึ่งในการแก้ปัญหาครั้งนี้ กาลามสูตร เปรียบเสมือนคำเตือนที่พระพุทธเจ้าแนบไว้ท้ายพระธรรม หลังจากที่เหล่าสาวกได้แยกย้ายกันออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา ก็เกิดการตีความคำสอนกันต่างออกไป เวลาผ่านไปเพียงร้อยปีพุทธศาสนาเกิดแตกแยกทางความคิด แยกออก 18 นิกาย(บาลี) หรือ 20 นิกาย (สันสกฤต) (ร้อยปีก็ราวๆนับปัจจุบันย้อนไปประมาณ ร.5) แตกแยกได้มากขนาดนี้ก็น่าจะเริ่มแตกตั้งแต่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ ดีว่า อริยสัจ 4 นั้นไม่มีใครตีความไปเป็นอย่างอื่นได้ จึงยืนยงมา 2500 กว่าปีได้
- ขอตีความว่าคุณกำลังสู้กับพระยานาค (บ้างคนว่าคุณสู้กับตัวเอง) ผมให้พระยานาคมีตัวตนจริงๆ ถ้าจะสู้กันคุณต้องรู้อะไรบ้าง “รู้เขารู้เรา รบ 100 ครั้งชนะ 100 ครั้ง” (ตำราพิชัยสงครามซุนวู ก่อนยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ จะรวมประเทศจีนได้ ปัจจุบันนักการทหารทั่วโลกต้องเรียนตำรานี้ทุกคน)
- มารู้เขากันก่อน โคตรเง่าพระยานาคนั้นเป็นใครมาจากไหน ถ้าเปรียบ มังกรของจีนกับพระยานาคของไทยน่าจะเป็นเคลือญาติกัน มังกรของจีนมีตัวตนจริงๆ เพราะตำรายาจีนบ้างตำรับต้องใช้กระดูกมังกรเป็นส่วนผสม วันนี้เรารู้แล้วว่ากระดูกมังกรคือ กระดูกไดโนเสาร์ ที่สูญพันธ์ไปเมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน (รัฐบาลจีนสั่งห้ามค้าขายอย่างเด็จขาด) หลายประเทศทั่วโลกก็มีมังกร รูปร่างคล้ายๆกันแตกต่างกันบ้างตามจิตนาการจากกองกระดูกนั้น เมื่อก่อนไม่มีนักโบราณคดี ไม่ได้ขุดตามหลักวิชาการ รูปร่างจึงผิดเพี้ยนจากตัวจริงไปบ้าง ทางยุโรปดูจะคล้ายไดโนเสาร์มากที่สุด เมื่อประกอบนิทาน นิยาย ตำนาน ก็จะเกิดความเชื่อขึ้นได้ (ไม่ต้องดูอื่นไกล ปลาบู่ คนไทยไม่นิยมกินเพราะเป็นแม่นางเอกในนิทานเรื่องปลาบู่ทอง ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นเนื้อปลาบู่เป็นปลาที่วิเศษที่สุด)
--ส่วนพระยานาคของไทยนั้นน่าจะมีโคตรเง่าเช่นเดียวกับมังกร แต่โคตรเง้าที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ถ้าไล่ย้อนไปน่าจะรับอิทธิพลความเชื่อจากเขมร ซึ่งมีรูปสลักพระยานาคที่ปราสาทหินต่างๆทั่วไป อย่างนครวัด เป็นรูปพระยานาคร่วมกวนเกษียรสมุทร ที่เขมรรับความเชื่อนี้มาจากอินเดียอีกที่ จากการที่อินเดียเดินเรืออ้อมช่องแคบมะละกา เข้าอ่าวไทยผ่านเขมร (ปากแม่น้ำโขง) เวียตนาม เพื่อค้าขายกลับจีน นอกเหนือจากใช้เส้นทางสายไหมโดยทางบก ซึ่งจะขนสินค้าได้น้อยกว่าทางเรือ
--แล้วมาไทยได้อย่างไร จะเห็นว่าเขมรยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั้น เขมรเจริญสูงสุด ขยายดินแดนออกไปกว้างไกล เฉพาะในไทย ก็เข้ามาลึกถึง ลพบุรี หรือปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรี ยิ่งทางอีสานยิ่งใกล้เขมรมากที่สุด จากพระยานาคศาสนาพราหมณ์ ค่อยๆกลายมาเป็นพระยานาคอย่างอีสานตามลุ่มแม่น้ำโขง เกิดนิยายตามแต่ท้องถิ่นนั้นจะจิตนาการได้ ในอดีตน่าจะเคยมีคนเห็นพระยานาคในแม่น้ำโขง ขึ้นมาเล่นน้ำบนผิวน้ำ จากข้อสันนิษฐานนี้น่าจะเป็น ปลาโลมา หรือ โลมาน้ำจืด ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง (ในแม่น้ำ อเมซอน อเมริกาใต้ก็มี) อยู่รวมเป็นฝูง เวลาว่ายน้ำก็จะเห็นหลังโผล่ขึ้นเหนือน้ำ ว่ายหลายๆตัวเรียงกันไป ก็อาจจิตนาการการเป็น พระยานาคผัวเมียมาว่ายน้ำเล่นก็ได้
--ส่วนบั้งไฟพระยานาค น่าจะเกิดจากซากพืชใต้น้ำเกิดก๊าซผุดขึ้นมา เรืองแสงในเวลากลางคืน จำได้ว่าวันออกพรรษาหลายปีมาแล้ว บั้งไฟผุดขึ้นมาคืนนั้นเป็น 100 ลูก พอปีต่อมา ทาง ไอทีวี (ถูกรัฐบาลยึดเพราะผิดสัญญากลายเป็น ทีวีไทย แล้ว) ได้ไปทำข่าวฝั่งลาว ไปสัมภาษณ์ทหารลาว ได้ความว่าทางฝั่งไทยว่าจ้างให้ยิงพลุสัญญาณที่ใช้ในการทหาร ในคืนวันออกพรรษา ครั้งนั้น ไอทีวี โดนชาวบ้าน ข้าราชการ ของจังหวัดนั้นด่ายับ และให้ทาง ไอทีวี ของโทษชาวบ้าน เพราะทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดเสียหายหลายพันล้าน แต่กลับไม่ให้ใครไปพิสูจน์หาความจริงอีก ตั้งแต่ปีนั้นมา บั้งไฟขึ้นคืนไม่ถึง 10 ลูก
- ผมอยากจะขอให้คุณพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส พยายามศึกษาสัตว์ประหลาดจากความเชื่อของชาวบ้านทั่วโลก ว่าต้นกำเนิดมันมาจากไหน วันข้างหน้าคุณอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ก็ได้ ส่วนของผมถ้าว่าในรายละเอียดคงแต่งหนังสือได้เป็นเล่มโต เอาย่อๆเท่านี้ก่อน
- ส่วนเรื่องรู้เรา คุณคงต้องเข้าใจตัวคุณเอง ผมคงช่วยไม่ได้มาก หวังว่าความทุกข์ของคุณคงเบาบางลงบ้าง การทำจิตใจให้สงบว่างเปล่าอาจช่วยคุณได้เป็นครั้งคราว แต่เมื่อคุณเข้าใจความจริง ความจริงจะช่วยคุณได้ตลอดชีวิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2010, 04:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรรมจำแนกสัตว์ให้แตกต่างกัน ผมพิจารณาแล้วว่า

ทำไมคนเห็นสิ่งแปลกๆไม่เหมือนกัน

ไม่เฉพาะว่ามีสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันแม้ความคิดความอ่านความเชื่อของคนยังไม่เหมือนกัน

ถ้าคนยินยอมเชื่อในสิ่งที่เราพูด เราได้อะไรจากตรงนั้น ได้สมาชิกที่เชื่อสิ่งเดียวกันเพิ่มขึ้นเหรอ เราสบายใจขึ้นเหรอ หรือว่าเราไม่เป็นคนโง่อีกต่อไปเพราะคนอื่นก็เชื่อเหมือนเรา

หรือเรามีเพื่อนที่โง่เพิ่มขึ้นมาอีกเพราะความเชื่อเหมือนกัน

หรือว่าเราฉลาดที่มี่ความเชื่อแบบนี้คนอื่นที่ไม่เชื่อโง่หมด

พิจารณาหาเหตุผลแล้วควรหรือที่เราจะไล่หาสิ่งยืนยันต่างๆมาเพื่อยืนยันความเชื่อของเรา

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2010, 17:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


-ศาสนาพุทธสอนให้ใช้ปัญญา ไม่ว่าคนนั้นจะโง่เขลาเบาปัญญาขนาดไหนอย่างน้อยก็ได้พยายามที่จะใช้ปัญญาคิดเองบ้าง ผมจึงขอใช้สมองคิดเพิ่มอีกนิด
--จากภาพพระยานาคที่เราเคยเห็นกันทั่วไป อาการว่ายน้ำของพระยานาคนั้น หลังของพระยานาคจะโผล่พ้นน้ำเป็นส่วน ๆ แต่พระยานาคเป็นสัตว์ประเภทเดียวกับงู เวลางูว่ายน้ำจะมีอาการเหมือนกับเลื้อยใต้ผิวน้ำจะโผล่เฉพาะหัวเท่านั้น ส่วนตัวจะอยู่ใต้น้ำ ส่วนปลา หางปลาจะตั้งฉากกับผิวน้ำ เวลาขึ้นผิวน้ำก็จะโผล่เฉพาะกระโดงหลังอย่างปลาฉลาม ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พวก โลมา วาฬ หางของสัตว์พวกนี้จะขนานกับผิวน้ำ หายใจด้วยปอด เวลาว่ายน้ำบนผิวน้ำจะมีอาการอย่างนักว่ายน้ำว่ายท่ากบ เพราะต้องว่ายไปหายใจไป ส่วนหลังจะโผล่พ้นน้ำเป็นระยะๆ เมื่อดำน้ำก็ต้องกลั้นหายใจ ถ้าว่ายกันเป็นฝูงก็จะจิตนาการคล้ายงูขนาดใหญ่ว่ายน้ำก็ได้

รูปภาพ

-คลายเครียดกันหน่อยครับ ผมมีปัญหาที่เคยทายเล่นกันตอนเด็กๆ ลองทายดูนะครับ ส่วนคนที่รู้คำตอบก็อย่าเพิ่งตอบนะครับ ใช้คนอื่นลองทายกันก่อน
1.จากภาพ เป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน
2.พระยานาคตัวผู้หรือตัวเมีย
3.น้ำจืดหรือน้ำเค็ม
4.ทำไมพระยานาคถึงตัวงอ
5. ข้อนี้ผมจำไม่ได้มันนานมากแล้วใครรู้คำถามช่วยเสริมให้ด้วยครับ
เวลาตอบอธิบายเหตุผลด้วยนะครับ
คำตอบผมจะเฉลยให้อีก 2-3 วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2010, 23:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เฉลย
1. กลางคืน เพราะมีดาว
2. ตัวผู้ มีเครา
3. น้ำเค็ม พระยานาคจึงพ่นทิ้ง
4. ถ้ายืดตัวตรงคงเลยออกนอกกล่อง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร