วันเวลาปัจจุบัน 01 ส.ค. 2025, 17:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2011, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะคือ อะไร ตอนที่ ๑๓
ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้อรรถาธิบายเกี่ยวกับเรื่อง"ทุกข์นิโรธ อริยสัจ" หรือ"ความดับทุกข์ ไปในตอนที่ ๑๒ พอสังเขปแต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องอธิบาย เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้เกิดความรู้ ได้เกิดความเข้าใจ ไม่หลงผิด ไม่เข้าใจผิด หรือมีความเข้าใจที่เป็นไปตามหลักความจริงตามธรรมชาติ และยังมีอีกประโยคหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าไม่ได้อธิบายไว้นั้นก็คือ ความไม่ติดอยู่
ความไม่ติดอยู่ หมายถึง การไม่ติดอยู่ใน "รูป,สัญญา,เวทนา,สังขาร,จิตวิญญาณ" เพราะขันธ์ ๕ ล้วนเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิด
"รูป,รส,กลิ่น,เสียง,แสงสี,โผฏฐัพพะ,ธรรมารมณ์" เหตุที่ติดอยู่ ก็เพราะบุคคล ไม่สามารถ "ความสำรอกและความดับโดยไม่เหลือ ความปล่อยวาง ความส่งคืนความพ้น " ถ้าบุคคลรู้จัก""ความสำรอกและความดับโดยไม่เหลือ ความปล่อยวาง ความส่งคืนความพ้น"สิ่งอันเป็นทุกข์,ทุกข์สมุทัย อริยสัจ"(เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์) ย่อมมีความไม่ติดอยู่
ความสำรอก ข้าพเจ้าได้กล่าวขยายความไว้ว่า ในที่นี้ หมายถึง การขจัดออก จากร่างกาย มิใช่มีความหมายว่า อาเจียร หรือ ขย้อน เอาสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการออกมา ซึ่ง การขจัดออกจากร่างกาย ย่อมหมายถึงขจัดเอา ทุกข์ และ สมุทัย ออกจากร่างกาย และสามารถขจัดออกจากร่างกายได้โดยไม่เหลือ คือความดับโดยไม่เหลือ
ซึ่งการสำรอกของมนุษย์ทั่วไปนั้น ย่อมกระทำได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่อาจจะสำรอกออกจากร่างกายอย่างช้าๆ หรืออาจจะสำรอกออกไม่หมด ขึ้นอยู่กับความรู้ ความจำ ขึ้นอยู่สภาพสภาวะจิตใจ สติ สัมปชัญญะ ของแต่ละบุคคล หนทางหรือมรรค ที่มนุษย์จะสำรอก ทุกข์และสมุทัย ออกจากร่างกายได้นั้น เป็นไปได้หลายทางของร่างกาย เช่น ความคิด,ตา,จมูก,ปาก,หรือร่างกาย แต่จะสำรอกได้เร็วหรือช้าก็เป้นอีกเรื่องหนึ่ง ที่เป็นเช่นนั้นได้ก็เพราะ ทุกข์,สมุทัย ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์นั้น ล้วนเป็นเพียงคลื่นไฟฟ้าชนิดหนึ่ง อันเกิดจากสมอง,หัวใจ,และส่วนอื่นๆของร่างกาย ดังนั้นเมื่อเกิด ทุกข์,สมุทัย ในร่างกาย ก็สามารถใช้ ความคิดขจัดออก,ใช้ตามองขจัดออก,ใช้จมูกขจัดออก(กำหนดลมหายใจหรือสูดดมสิ่งที่ดี),ใช้ปากขจัดออก,หรือใช้พฤติกรรมทางร่างกายขจัดออก อย่างนี้เป็นต้น แต่การใช้อวัยวะต่างๆเหล่านั้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่น แต่เป็นไปเพื่อสำรอก หรือ ขจัดเอา ทุกข์,สมุทย ให้พ้นจากสมองและใจเท่านั้น ที่สำคัญบุคคลนั้นๆ ย่อมต้อง มีความพอใจ มีความใคร่ที่จะทำ มีความความใคร่ในธรรม และโดยธรรมชาติของมนุษย์ ล้วนมีสภาพสภาวะจิตใจชนิดหนึ่งอยู่ในตัวนั่นก็คือ เมตตา(ความรักใคร่,กิริยารักใคร่),กรุณา(ความสงสาร กิริยาสงสาร),มุทิตา(ความพลอยมีความยินดี),อุเบกขา(ความวางเฉย ความเป็นกลาง ไม่เอนเอียงไปในทางดีหรือไม่ดี) และจากเหตุที่เป็นธรรมชาติแห่งสภาพสภาวะจิตใจที่มีอยู่ในตัวมนุษย์นั่นเอง ย่อมสามารถทำให้เกิด ความไม่ติดอยู่ ใน "รูป,สัญญา,เวทนา,สังขาร.จิตวิญญาณ"
จบตอนที่ ๑๓
จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ ทูลพันธ์
๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๔


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร