วันเวลาปัจจุบัน 29 ก.ค. 2025, 20:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2011, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนึ่งผมเป็นคนชอบโกรธและอาฆาต แต่ไม่อยากโกรธและอาฆาต
ส่วนมากถ้าบันดาลโทสะผมจะดับไม่ทัน หากแต่เป็นความโกรธธรรมดาจะดับทัน

ผมชอบอาฆาตคน แต่ถ้าเขาทำดีด้วยความอาฆาตก็ดับลงได้ง่ายๆเช่นกัน ชอบจำคนที่มีบุญคุณ เช่นเดียวกับความแค้น

ส่วนมากถ้าคิดแค้นขึ้นมา แล้วกำลังสติผมมี ผมก็คิดว่าเรื่องเกิดแค่ครั้งเดียว แต่ความแค้นเผาเราตั้งหลายพันครั้ง หากมันยังไม่ดับ ผมก็จะคิดเรื่อยๆ แต่ความแค้นมันก็เข้าเรื่อยๆ จนเมื่อมันเจ็บได้ระดับหนึ่งแล้วมันก็ดับไปเองเพราะมันเห็นว่าเจ็บและไร้ประโยชน์ที่จะแค้น บางครั้งกำลังใจมากหน่อยก็ไม่กี่ครั้ง

เรื่องอาฆาต เคยมีครั้งหนึ่งที่ผมไม่เชื่อบวกกับความอิจฉาหลวงพี่รูปหนึ่ง ความคิดฆ่าปรากฏขึ้นแรงมากจนผมอ่อนแรง และคิดว่าความคิดนี้มันเกิดมาได้อย่างไร ทั้งๆที่ผมก็เคารพรักท่าน ได้แต่ตำหนิตนเอง แต่หลังจากนั้นมันก็ไม่ปรากฏขึ้นอีกเพราะผมสยองกับความอาฆาตนั้น

ความอาฆาตแต่ปางก่อน เช่นเห็นเพื่อนคนหนึ่งแล้วไม่ชอบอย่างแรง แผ่เมตตาให้ปล่อยๆ เราก็รักและสนิทกับเขาเอง ล้างความไม่ชอบไปได้ คนนี้ง่ายหน่อย

ส่วนคนที่ยากคือเพื่อนอีกคนของผม ตอนเรียนด้วยกันไม่มีอะไร พอบวชด้วยกันเท่านั้นแหละ ความอิจฉาความถือตนไม่รู้มาจากไหนนักหนา ใช้สูตรเดิมแผ่เมตตาให้ก็ยังไม่หาย จำได้จนติดตลกเลย :b32: ตอนนั้ปล่อยครั้งอุทิศบุญและเมตตาขอให้เลิกอิจฉาเปรียบเทียบและพยาบาทกับเพื่อน แผ่เมตตาให้บ่อยจนอ่อนแรงที่ความอิจฉาพยาบาทมันไม่ลดเลย แต่สุดท้ายก่อนสึกมันก็เบาลงมาก แต่ก็ไม่ถึงกับหมดไป สึกมาแล้วเบาลงมากเก็บเศษเล็กเศษน้อยง่ายขึ้น อาจเพราะไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่พอเจออีกทีก็ไม่มีอะไร บางครั้งมันก็ผุดขึ้นบางต้องตามดับกันไป (ความพยาบาทที่สะสมคงมาจากการแข่งปฏิบัติธรรมในชาติปางก่อนนั่นแหละ)

สยองกรณีพระเทวทัตกับพระโพธิสัตว์จนถึงพระพุทธเจ้าเลย ผมคิดว่าชาตินี้ผมมีบุญที่ได้เกิดมาเจอพระศาสนาทำให้ตามล้างความอาฆาตพยาบาทไปได้บ้างแม้นไม่มาก แต่ก็พยามให้สมควรแก่กำลัง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2011, 16:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
...เมื่อไม่เข้าใจว่าเป็นธรรมะ...ก็เป็นเรามีตัวตนไปทะเลาะกับคนอื่น...
...ขณะนี้มีธรรมะทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจที่จับต้องได้เห็นเป็นรูปธรรม...
...ที่จับต้องไม่ได้เป็นอารมณ์ ความรู้สึก คิดนึกของจิตเป็นนามธรรมค่ะ...
...ไม่มีคน สัตว์ สิ่งของมารองรับอารมณ์โลภ โกรธ หลงมีแต่สภาพธรรม...
...โลกที่กำลังเป็นไป...มีแต่จิตแต่ละดวงทำหน้าที่แล้วก็สะสมความติดข้อง...
...โดยไม่รู้ว่าเป็นธรรมถ้าไม่เริ่มทำความเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนให้รู้อะไร...
...คิดหรือเดาเองไม่ได้เลย...เข้าใจคำสอนก็จะเข้าใจว่าชีวิตทุกขณะเป็นธรรมะ...
...จะโกรธไหม...ถ้ารู้ความจริงว่าไม่มีคน สัตว์ สิ่งของมารองรับสภาพโกรธ...
...เป็นเพียงสภาพที่เห็นและเป็นไปตามเหตุปัจจัยเพื่อให้คิดแล้วก็ทำดีกับไม่ดี...
s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2011, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
...จิตใจเป็นใหญ่เป็นประธานรับรู้อารมณ์ผ่านตาหูจมูกลิ้นกายในการกระทำทั้งหมดของเรา...
...เมื่อไม่เข้าใจว่าที่เห็น ที่ได้ยิน ที่ได้กลิ่น ที่ได้รส ที่สัมผัสแตะต้องทุกอย่างได้เป็นสภาพธรรม...
...ก็เป็นตัวเราทำทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกิจวัตรประจำวันทั้งหมดทุกวันค่ะ...จนกว่าจะเริ่มคิดตามคำสอน...
...เมื่อไหร่ที่เริ่มคิดก็จะเริ่มเข้าใจว่าที่เห็นเป็นคน สัตว์ สิ่งของเป็นสภาพธรรมที่แวดล้อมให้จิตทำกรรม...
...ประโยชน์อย่างยิ่งที่จะศึกษาพระธรรมเพื่อเอามาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสะสมปัญญาเข้าใจถูกค่ะ...
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2011, 17:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
...แค่หงุดหงิดเล็กน้อยก็ค่อยๆสะสมเพิ่มขึ้นกลายเป็นโกรธได้...ล้วนแต่สะสมโทสะด้วยโมหะครอบงำ...
...ลองฟังธรรม http://www.dhammahome.com/front/audio/show.php?id=5122
:b44:
...แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี...เริ่มที่เข้าใจธรรมค่ะ...
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2011, 03:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ผมว่า การโทษคนอื่น ทำให้เกิดความอาฆาตขึ้น
แต่ถ้าเชื่อมั่นในกฏแห่งกรรม
สิ่งที่เราได้รับ เพราะการกระทำในอดีตของเราเองท้้งสิ้น
สิ่งที่ปรากฏทางตาหูจมูกลิ้นกาย............เกิดจากกรรมเก่าของเราเอง

ไม่มีใครทำอะไรเราได้เลย ถ้าเราไม่เคยทำอะไรใครมาก่อน

เมื่อเชื่อมั่นอย่างนี้แล้ว ก็หมดปัญหา เรื่องที่จะไปโทษใคร

ถ้าอาฆาต ก็คงต้องอาฆาตตัวเองแล้วล่ะนะ

ที่เมื่ออดีต หรือชาติที่แล้วๆ มา ไปทำอะไรที่ไม่ดีเอาไว้ จนส่งผลถึงชาตินี้

นามรูปก่อนกระทำกรรม
นามรูปหลัง รับกรรม

กงกรรมกงเกวียนมันเป็นเช่นนั้น

นามรูปหลัง ยังมาบ่นอีกแนะว่า อย่างโน้นอย่างนี้
บางทีไม่ได้ยอมรับว่า นามรูปก่อนเคยกระทำ มาด้วยซ้ำ เพราะสัญญาไม่เที่ยง
ไม่จำข้ามภพ ข้ามชาติได้ หรือแม้แต่ชาติปัจจุบันบางทีก็ลืมไปแล้ว

แต่กฏแห่งกรรมมันไม่เคยลืมเลย ที่จะตอบสนอง ด้วยความยุติธรรมยิ่งกว่าเปาบุ้นจิ้น

เหล่านี้คือความน่ากลัวของสังสารวัฏฏ์

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2011, 04:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณดินครับ ผมยังอยู่ครับไม่ได้โดนอัปเปหิครับ
ที่ส่งpmไปให้ผม ไม่รู้ว่าเป็นห่วงอยากรู้ข่าวคราวหรือสมน้ำหน้า
อย่าไปสนใจมากเลยครับ เอาว่ามองผมเป็นพลังงานหรือแค่ตัวหนังสือ
อย่าไปยึดเอามาเป็นอารมณ์ แล้วคุณก็จะสบายใจครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร