วันเวลาปัจจุบัน 24 ก.ค. 2025, 08:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 20:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


"ธรรมะคือ อะไร ตอนที่ ๑๕"
ในตอนที่ ๑๕ (สิบห้า) นี้ข้าพเจ้าจะกล่าวถึง "ทุกข์มรรค อริยสัจ" ที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า "ทุกข์มรรค อริยสัจ"นั้น ก็เพราะเป็น "หนทางที่ทำให้ถึงความดับทุกข์" ถึงแม้ว่าตามพระไตรปิฎกจะกล่าวว่าเพียงว่า "มรรค อันมีองค์๘" แต่"ทุกข์มรรค อริยสัจ"ที่ข้าพเจ้าจะอรรถาธิบายต่อไปนี้ย่อมครอบคลุมบุคคลทุกบุคคล ครอบคลุมการครองเรือนในทุกการครองเรือนของมนุษย์ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมไหน สังคมแบบใด และจะกล่าวให้เป็นไปตามหลักที่มีปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎก พร้อมอธิบายตามหลักตรรกวิทยาเพื่อให้ท่านทั้งหลาย ทุกสาขาอาชีพ ได้ศึกษา ได้เรียนรู้ ได้คิดพิจารณา ไตร่ตรอง ตามเหตุตามผล เพื่อความเจริญในพุทธศาสนาสืบต่อไป
มรรค อันมีองค์ ๘ ตามหลักพระไตรปิฎกนั้น เป็นหลักปฏิบัติ สำหรับ บุคคลทั่วไป สำหรับการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นการปฏิบัติทั้งทางกาย วาจา และใจ ก็ตามที แต่เป็นหลักการปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความสามัคคี มีความรักใคร่ปรองดอง ในการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน เพื่อจักทำให้จิตใจความคิดของผู้ปฏิบัติ บริสุทธิ์ ไม่คิดไปในทางชั่วร้าย ไม่คิดไปในทางที่ก่อให้เกิดความโลภ ความโกรธ ความหลง สามารถทำให้สามารถแขจัดอาสวะและป้องกันอาสวะมิให้เกิดขึ้นในจิตใจได้ในระดับหนึ่ง เป็นการขจัดอาสวะและป้องกันมิให้อาสวะเกิดขึ้นในชั้นพื้นฐาน คือเป็นการขจัดอาสวะและป้องกันอาสวะมิให้เกิดขึ้นเป็นระดับเริ่มแรก ซึ่ง "มรรค อันมี องค์ ๘" ตามหลักพระไตรปิฎกนั้น ประกอบไปด้วย
๑.สัมมาทิฏฐิ คือ ความมีปัญญาเห็นชอบ ตามหลักความเป็นจริง เช่น ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ฯลฯ
๒.สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ คือ ๑.เนกขัมมสังกัปปะ ดำริจะออกจากกามหรือปลอดจากโลภะ ๒.อัพยาปาทสังกัปปะ ดำริในอันไม่พยาบาท ๓.อวิหิงสาสังกัปปะ ดำริในอันไม่เบียดเบียน
๓.สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ คือเว้นจาก วจีทุจริต ๔ อันได้แก่ ๑.มุสาวาท พูดเท็จ ๒.ปิสุณาวาจา พูดส่อเสียด ๓.ผรุสวาจา พูดคำหยาบ ๔.สัมผัปปลาป พูดเพ้อเจ้อ ดู ทุจริต
๔.สัมมากัมมันตะ คือ ทำการชอบ หรือการงานชอบ ได้แก่ การกระทำที่เว้นจากความประพฤติชั่วทางกาย ๓ อย่าง คือฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม คือ เว้นจาก กายทุจริต ๓
๕.สัมมาอาชีวะ คือ เลี้ยงชีวิตชอบ คือเว้นจากเลี้ยงชีวิตโดยทางที่ผิด เช่น โกงเขาหลอกลวง สอพลอ บีบบังคับขู่เข็ญ ค้าคน ค้ายาเสพติด ค้ายาพิษ เป็นต้น
๖.สัมมาวายามะ คือ ความเพียรชอบ คือเพียรในที่ ๔ สถาน ได้แก่
ก..สังวรปธาน คือ เพียรระวังบาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด มิให้เกิดขึ้น
ข..ปหานปธาน คือ เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
ค..ภาวนาปธาน คือ เพียรทำกุศลธรรมที่ยังไม่มียังไม่เกิด ให้เกิด
ง.อนุรักขนาปธาน คือ เพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม และบำเพ็ญให้เจริญยิ่งขึ้นไปจนไพบูลย์
๗.สัมมาสติ คือ ระลึกชอบ คือระลึกใน สติปัฏฐาน ๔
๘.สัมมาสมาธิ คือ ตั้งจิตมั่นชอบ, จิตมั่นชอบ คือสมาธิที่เจริญตามแนวของ ฌาน ๔ (จากพระไตรปิฎก และ พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับ พระธรรมปิฎก ป.อ.ปยุตฺโต)
เมื่อท่านทั้งหลายได้อ่าน หรือเคยอ่าน หรือรู้อยู่แล้วว่า มรรคอันมีองค์ ๘ ตามนัยที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ก็ให้ท่านทั้งหลายได้คิดพิจารณาให้ดีว่า การปฏิบัติตามนัยที่ได้กล่าวไป ย่อมต้องประกอบไปด้วย สติสัมปชัญญะ อันเกิดจาก ความมี สมาธิ และมี สติ อยู่เสมอ อีกทั้งยังต้องสนใจตัวเอง สร้างความคิดเพื่อให้เกิดความเพียรทั้ง ๔ อย่าง มีสติสัมปชัญญะ ในอันที่จะ ประพฤติชอบ ปฏิบัติชอบ ในการเลี้ยงชีพ ในการประพฤติตน พระพฤติตัว ในการการคิด ในการหวลนึกถึง ในการเจรจาติดต่อสื่อสาร มีความคล้อยตามหรือเชื่อตามหลักความเป็นจริง คือความมีปัญญา(ความรู้สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติได้จริงตามความรู้นั้น)
"มรรคอันมีองค์ ๘" เป็นการประพฤติปฏิบัติ เพื่อสังคมที่สงบสุข ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน เชื่อในสิ่งที่ดีสิ่งที่เป็นหลักความจริง,คิดไปในทางที่จะละซึ่ง ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความไม่ผูกพยาบาทซึ่งกันและกัน,พูดไปในทางที่ไม่ โกหก หลอกลวง เพ้อเจ้อ หยาบคาย ส่อเสียด ซึ่งย่อมเป็นเหตุที่นำมาซึ่งความทุกข์, ประพฤติปฏิบัติในทางที่ไม่ก่อให้เกิดความเบียดเบียนทางกาย เรียกว่า การงานชอบ,ประกอบอาชีพสุจริต ,มีความเพียรที่จะละสิ่งที่ไม่ดี เพียรระวังมิให้ประพฤติไม่ดี เพียรสร้างแต่ความดี และรักษาความดีนั้นเอาไว้,หวลนึกถึง กาย,เวทนา(ความรู้สึก),จิต,การรับรู้เมื่อได้รับการสัมผัส,ธรรม คือ ความรู้ทั้งหลาย อยู่เสมอ
จบตอนที่ ๑๕
จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ ทูลพันธ์
๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร