วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 05:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2012, 17:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าแต่ละคนเห็นสิ่งต่างๆ ตามความจริงเราก็จะไม่ขัดแย้งกัน ถ้าไม่เอาความจริงตั้ง แต่ละคนก็ใส่ความคิดเห็นกับธรรมะนั้น ว่าของตนถูก เพราะแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ศึกษามาไม่เหมือนกัน ผลที่ได้ออกมาไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่าง น้ำแข็ง บางคนบอกว่าเย็น บางคนบอกว่าแข็ง บางคนบอกว่าน้ำแข็งใส บางคนบอกว่าน้ำแข็งสกปรก
แต่ถ้าเราเอาความจริงมาตั้ง คือ น้ำแข็งเกิดจากน้ำสุดท้ายน้ำแข็งต้องละลาย (นี่เป็นความจริง) ถ้าทุกคนเห็นอย่างนี้ก็จะไม่ขัดแย้งกัน เพราะเห็นตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2012, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นธรรมดาครับเกี่ยวกับเรื่องทะเลาะกันเพราะความเห็นไม่ตรงกัน

ผมจะยกตัวอย่างสูตรหนึ่งเกี่ยวกับทิฐิ ที่พระมหาจุนทะทูลถามพระพุทธเจ้า

จ.ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทิฏฐิเหล่านี้มีประการต่างๆประกอบด้วยการกล่าวปรารภอัตตาบ้าง ประกอบด้วยการกล่าวปรารภโลกบ้าง ย่อมเกิดขึ้นในโลก เมื่อภิกษุมนสิการธรรมเบื้องต้นเท่านั้นหรือ การละทิฏฐิเหล่านั้น การสละคืนทิฏฐิเหล่านั้น ย่อมจะมีได้ด้วยอุบายอย่างนี้หรือ พระเจ้าข้า

พ.ดูกรจุนทะ ทิฏฐิเหล่านี้มีหลายประการ ประกอบด้วยการกล่าวปรารภอัตตาบ้าง ประกอบด้วยการกล่าวปรารภโลกบ้าง ย่อมเกิดขึ้นในโลก ก็ทิฏฐิเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นในอารมณ์ใด นอนเนื่องอยู่ในอารมณ์ใด และท่องเที่ยวอยู่ในอารมณ์ใดเมื่อภิกษุพิจารณาเห็นอารมณ์นั้น ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นมิใช่ของเราเรามิใช่นั่น นั่นมิใช่ตัวตนของเรา ดังนี้ การละทิฏฐิเหล่านั้น การสละคืนทิฏฐิเหล่านั้น ย่อมมีได้ด้วยอุบายอย่างนี้.

แล้วท่านก็กล่าวเรื่องธรรมเครื่องขัดเกลา เหตุแห่งจิตตุปบาท เหตุแห่งการหลีกเลี่ยง เหตุแห่งความเป็นเบื้องบน เหตุแห่งความดับสนิท
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 237&Z=1517


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 05:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




GEDC1748_resize.JPG
GEDC1748_resize.JPG [ 67.95 KiB | เปิดดู 5854 ครั้ง ]
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ถ้าแต่ละคนเห็นสิ่งต่างๆ ตามความจริงเราก็จะไม่ขัดแย้งกัน ถ้าไม่เอาความจริงตั้ง แต่ละคนก็ใส่ความคิดเห็นกับธรรมะนั้น ว่าของตนถูก เพราะแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ศึกษามาไม่เหมือนกัน ผลที่ได้ออกมาไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่าง น้ำแข็ง บางคนบอกว่าเย็น บางคนบอกว่าแข็ง บางคนบอกว่าน้ำแข็งใส บางคนบอกว่าน้ำแข็งสกปรก
แต่ถ้าเราเอาความจริงมาตั้ง คือ น้ำแข็งเกิดจากน้ำสุดท้ายน้ำแข็งต้องละลาย (นี่เป็นความจริง) ถ้าทุกคนเห็นอย่างนี้ก็จะไม่ขัดแย้งกัน เพราะเห็นตามความเป็นจริง

:b12:
"น้ำแข็งเกิดจากน้ำสุดท้ายน้ำแข็งต้องละลาย (นี่เป็นความจริง)"

ถ้อยคำประโยคนี้ยังไม่ถึงจริง เพราะยังมีความยึดถือในความเห็น(เรื่องอนิจจัง)แอบแฝงอยู่
จึงยังไม่ถึงความ"ยุติ....ธรรม" ยังไม่ถึงความสมดุลย์ ยังไม่เป็น "กลาง"

ความจริงของสภาวธาตุน้ำคือ "ซึมซับ เอิบอาบ แตกแยก เกาะกุมกันเข้า"
ธาตุน้ำเป็นสุขุมธาตุ รู้เห็นได้โดยยากกว่าธาตุอื่นๆ


รู้เหมือนกันถึงตรงนี้ก็หมดข้อถกเถียง เพราะน้ำก็คือน้ำ มิเป็นอื่น เป็น สัจจะ อยู่เหนือความเปลี่ยนแปลง

สภาวธรรมที่เหนือกว่า อนิจจัง ทุกขัง นั้นมีอยู่ คือ อนัตตา สมดุลย์ ยุดิธรรม สัจจัง อัมตัง อสังขตัง ปรมัตถัง นิพพานัง พึงรู้ให้ถึงตรงนี้ด้วย จิตจึงจะถึงสมดุลย์
:b16:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 17:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีน้ำ ไม่มีน้ำแข็ง ไม่มีตัวตนของมัน เป็นสมมุติสัจจะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 18:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ความจริงของสภาวธาตุน้ำ.....
ธาตุน้ำเป็นสุขุมธาตุ รู้เห็นได้โดยยากกว่าธาตุอื่นๆ


รู้เหมือนกันถึงตรงนี้ก็หมดข้อถกเถียง เพราะน้ำก็คือน้ำ มิเป็นอื่น เป็น สัจจะ อยู่เหนือความเปลี่ยนแปลง


:b1: ...

:b41: :b41: :b41:

ขอแอบหัวเราะ แต่ไม่ขอบอกว่าหัวเราะอะไร ได้ป๊ะ
ถ้าท่านมั่นใจในสิ่งที่ท่านกล่าว
ท่านย่อมรู้ว่าเราหัวเราะอะไร

:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 19:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ดูเหมือนท่านจะรู้จักธาตุน้ำแล้ว
แต่ท่านกำลังสนทนากับคนที่รู้จัก H2O น่ะ :b6: :b6:

:b12: :b32: :b32: เหนื่อยมั๊ย

ว่าเรื่องธาตุน้ำที่ท่านเข้าใจต่อเถอะ
เอกอนอยากฟังทัศนะท่านในเรื่องนี้มากกว่า
เพราะเรื่องความไม่เที่ยงของ H2O มันพิจารณาจบไปนานแล้ว
:b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 19:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ได้คิด ว่ามันไม่มี
คิดว่าไม่มี ก็คือมีน้ำที่ไม่คิดว่ามี สรุปก็คือมีน้ำ

ไม่ต้องไปคิดถึงมันในทั้งสองแง่ มันก็คือไม่มีอะไร คือ ว่าง
และมันจะมี อะไร

:b6: :b6: :b6:

สมการ ต๊อง ๆ ของคน ต๊อง ๆ

:b6: :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 19:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ดูเหมือนท่านจะรู้จักธาตุน้ำแล้ว แต่ท่านกำลังสนทนากับคนที่รู้จัก H2O น่ะ :b6: :b6: :b12: :b32: :b32: เหนื่อยมั๊ย
ว่าเรื่องธาตุน้ำที่ท่านเข้าใจต่อเถอะ
เอกอนอยากฟังทัศนะท่านในเรื่องนี้มากกว่า เพราะเรื่องความไม่เที่ยงของ H2O มันพิจารณาจบไปนานแล้ว :b6: :b6:

:b12:
น้ำ H2O Water จุ้ย อาโป........ฯลฯ เป็นปรมัตถบัญญัติ คือสมมุติเรียกชื่อของธรรมธาตุแตกต่างกันไปตามบัญัติของแต่ละชาติแต่ละภาษา การบรรยายให้ฝรั่งที่ไม่รู้ภาษาไทยให้รู้จักน้ำด้วยภาษาไทย ฝรั่งคนนั้นย่อมไม่มีทางจะเข้าใจได้ แต่สัจจธรรม ปรมัตถธรรมนั้นมีภาษากลางที่รู้อย่างเดียวกันทั่วโลกคือ
"ภาษาใจ" ไม่ต้องอธิบายอะไรเลย เพียงแต่แสดงของจริงให้เขาดูให้เขาสัมผัสของจริง เขาก็จะถึงบางอ้อด้วยใจเขาเอง ในภาษาของเขาเอง

น้ำ ก็คือน้ำ ดินก็คือดิน ลมก็คือลม ไฟก็คือไฟ รสเค็ม เปรี้ยว หวาน ก็คือรส เค็ม เปรี้ยว หวาน เขาเป็นของเขาอยู่เช่นนั้นเอง ถ้ามีความเห็นผิดมีอัตตา กู เราอยู่ในใจไปอุปาทานมั่นหมายให้ความสำคัญขึ้นมาธรรมธาตุเหล่านั้นก็สำคัญขึ้นมาในใจของผู้ยึดถือ ถ้ามีความเห็นถูกต้องเป็นอนัตตาไม่มีความเป็นกู เป็นเราอยู่ในใจไปมั่นหมายให้ความสำคัญกับธรรมธาตุทั้งหลายเหล่านั้น มันก็จักเป็นสักแต่ว่าธาตุ ธรรมชาติ ที่กำลังปวนแปรไปด้วยกำลังแห่งเหตุและปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา

ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นมันเป็นเพียงความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของความรับรู้ของจิต
เมื่อหมดจิตที่จะไปรับรู้และสำคัญมั่นหมาย ต่อธรรมธาตุทั้งหลาย ธรรมธาตุทั้งหลายเขาก็หากเป็นอยู่เช่นนั้นเองไม่เปลี่ยนแปลงคู่โลก คู่จักรวาลนี้ตลอดไป เป็นนิจจัง เป็นอัมมะตัง เป็นปรมัตถัง สัจจัง ของเขาอยู่เช่นนั้น
ตลอดไป


เรื่องอย่างนี้คงยากที่จะบรรยายให้ทราบได้ต้องสัมผัสที่ใจเจ้าของเองเด้อ!
:b16: :b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 20:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ไม่มีน้ำ ไม่มีน้ำแข็ง ไม่มีตัวตนของมัน เป็นสมมุติสัจจะ

:b12:
คิดเอา นี่ก็ง่ายดีน๊ะ

แต่กว่าจะไปถึงที่ๆใจไม่มีน้ำ ไม่มีน้ำแข็ง ไม่มีตัวตนของมัน คงต้องขยันสลายอุปาทาน สัญญา อัตตา และมานะทิฐิ ให้ยิ่งๆขึ้นไปจนใจเขาหมดความยึดถือ รูปแบบ วิธีการ บัญญัติ ถูก ผิด ทั้งหลาย ถึงภาวะที่ไร้รูปแบบ
และกระบวนท่า มีแต่สัมมาปัญญาและสัมมาสติลอยเด่นอยู่ รู้ธรรมตามที่เขาเป็น จนเหตุปัจจัยสงบเย็น จิตรู้นั้นพลันดับตาม เป็นอ้นสิ้นสุดกันเสียที

:b1: :b12: :b16: :b8: :b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 21:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่คิดเรื่องน้ำก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน เกิดจากเหตุและปัจจัยอะไร เปลี่ยนสถานะเพราะอะไร ไม่คงสภาวะเพราะอะไร ดับสลายเพราะอะไร

ถ้าหากเราคิดว่าน้ำว่างเปล่า ไม่ใช่น้ำ ไม่มีน้ำ งั้นก็ไม่รู้จักสรรพสิ่งรอบตัวเรา งั้นไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องรู้อะไร ปัญญาจะเกิดได้อย่างไร ก็ไม่ให้เราคิดอะไรเลย มันก็ไม่ต่างกับคนความจำเสื่อมคิดอะไรไม่ออก
ไม่เห็นอะไรไม่ต่างกับคนตาบอด ไม่ได้ยินอะไรไม่ต่างกับคนหูหนวก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 21:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ไม่คิดเรื่องน้ำก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน เกิดจากเหตุและปัจจัยอะไร เปลี่ยนสถานะเพราะอะไร ไม่คงสภาวะเพราะอะไร ดับสลายเพราะอะไร

ถ้าหากเราคิดว่าน้ำว่างเปล่า ไม่ใช่น้ำ ไม่มีน้ำ งั้นก็ไม่รู้จักสรรพสิ่งรอบตัวเรา งั้นไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องรู้อะไร ปัญญาจะเกิดได้อย่างไร ก็ไม่ให้เราคิดอะไรเลย มันก็ไม่ต่างกับคนความจำเสื่อมคิดอะไรไม่ออก
ไม่เห็นอะไรไม่ต่างกับคนตาบอด ไม่ได้ยินอะไรไม่ต่างกับคนหูหนวก


มีแต่พวกท่านนั่นล่ะ ที่ความจำเสื่อม
ปฏิบัติตามที่ตัวเองปฏิบัติมาตั้งนาน
แต่ไม่เคยจำได้สักที ว่าคิด มันมาจากไหน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 21:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ไม่มีน้ำ ไม่มีน้ำแข็ง ไม่มีตัวตนของมัน เป็นสมมุติสัจจะ

:b12:
คิดเอา นี่ก็ง่ายดีน๊ะ

แต่กว่าจะไปถึงที่ๆใจไม่มีน้ำ ไม่มีน้ำแข็ง ไม่มีตัวตนของมัน คงต้องขยันสลายอุปาทาน สัญญา อัตตา และมานะทิฐิ ให้ยิ่งๆขึ้นไปจนใจเขาหมดความยึดถือ รูปแบบ วิธีการ บัญญัติ ถูก ผิด ทั้งหลาย ถึงภาวะที่ไร้รูปแบบ
และกระบวนท่า มีแต่สัมมาปัญญาและสัมมาสติลอยเด่นอยู่ รู้ธรรมตามที่เขาเป็น จนเหตุปัจจัยสงบเย็น จิตรู้นั้นพลันดับตาม เป็นอ้นสิ้นสุดกันเสียที

:b1: :b12: :b16: :b8: :b27:


ให้คิดว่าน้ำเกิดจากอะไร อะไรเป็นปัจจัยการเกิด การตั้งอยู่ และการแตกสลาย หรือแปรสภาพ
เช่น น้ำเกิดจากไฮรโดรเจน 2 ตัวรวมกับ ออกซิเจน 1 ตัว ที่รวมตัวกันเพราะอะไร และที่แปรสภาพไปเป็นไอเพราะอะไร เป็นของแข็งเพราะอะไร นี่แหละเรียกว่าการเห็นสภาพตามความเป็นจริง

water > ice น้ำดับกลายเป็นน้ำแข็ง
water > Steam น้ำดับกลายเป็นไอน้ำ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 21:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


นี่แหละความไม่เที่ยงของความคิดทำให้เกิดทุกข์ มันเป็นอย่างนี้เอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 22:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ใครเห็นอย่างไร แค่ไหน ก็ปฎิบัติไปเถอะ แต่อย่าลืมจงทำตัวเหมือนแก้วน้ำที่ว่างเปล่าไว้ด้วยนะครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 22:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ใครเห็นอย่างไร แค่ไหน ก็ปฎิบัติไปเถอะ แต่อย่าลืมจงทำตัวเหมือนน้ำที่ว่างเปล่าไว้ด้วยนะครับ
:b8:

วิปัสสนาภาวนาเท่านั้นที่จะสามารถเห็นอย่างนี้ได้ ทางสายเอกสายเดียว ทางอื่นนอกจากนี้ไม่มี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร