วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 06:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 10:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


การปล่อยวางชั่วขณะ หรือ ชั่วคราว แต่สุดท้ายก็หยิบขึ้นมาใช้อีก
การปล่อยวางต้องวาง แล้วไม่ควรหยิบขึ้นมาใช้อีก มันเป็นการยากที่จะไม่หยิบขึ้นมาใช้ใหม่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 10:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
การปล่อยวางชั่วขณะ หรือ ชั่วคราว แต่สุดท้ายก็หยิบขึ้นมาใช้อีก
การปล่อยวางต้องวาง แล้วไม่ควรหยิบขึ้นมาใช้อีก มันเป็นการยากที่จะไม่หยิบขึ้นมาใช้ใหม่


การปล่อยวางเป็นเรื่องของจิต หาใช่กาย
การหยิบจับ เป็นกิริยาของกายหาใช่จิต
ไม่มีทั้งผู้หยิบ และของถูกหยิบ
เช่นไร เรียกว่าหยิบ
:b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 10:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
การปล่อยวางชั่วขณะ หรือ ชั่วคราว แต่สุดท้ายก็หยิบขึ้นมาใช้อีก
การปล่อยวางต้องวาง แล้วไม่ควรหยิบขึ้นมาใช้อีก มันเป็นการยากที่จะไม่หยิบขึ้นมาใช้ใหม่


การปล่อยวางเป็นเรื่องของจิต หาใช่กาย
การหยิบจับ เป็นกิริยาของกายหาใช่จิต
ไม่มีทั้งผู้หยิบ และของถูกหยิบ
เช่นไร เรียกว่าหยิบ
:b8:


เป็นการอุปมา การหยิบ คือ หยิบ ความพอใจ ไม่พอใจ / โลภ โกรธ หลง
การปล่อยวางยากมากที่จะทำให้ความ พอใจ ไม่พอใจ ไม่กลับมาในจิตของเราอีก
ต้องฝึกวิปัสสนาเติมความจริงตามกฎไตรลักษณ์ในจิตใจให้มากที่สุด เพื่อเข้าไปแทนที่ความพอใจ ไม่พอใจที่อยู่ในจิตใจ ยิ่งปฏิบัิติมากเท่าไหร่ความพอใจ ไม่พอใจ จะค่อยๆ หายไปทีละนิด เหมือนเติมน้ำใสลงไปในน้ำสี เมื่อมีสิ่งมากระทบขณะปัจจุบัน ความจริงก็จะมารับการกระทบแทนความพอใจ ไม่พอใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 11:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ขณะจิต เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
การปล่อยวางชั่วขณะ หรือ ชั่วคราว แต่สุดท้ายก็หยิบขึ้นมาใช้อีก
การปล่อยวางต้องวาง แล้วไม่ควรหยิบขึ้นมาใช้อีก มันเป็นการยากที่จะไม่หยิบขึ้นมาใช้ใหม่


การปล่อยวางเป็นเรื่องของจิต หาใช่กาย
การหยิบจับ เป็นกิริยาของกายหาใช่จิต
ไม่มีทั้งผู้หยิบ และของถูกหยิบ
เช่นไร เรียกว่าหยิบ
:b8:


เป็นการอุปมา การหยิบ คือ หยิบ ความพอใจ ไม่พอใจ / โลภ โกรธ หลง
การปล่อยวางยากมากที่จะทำให้ความ พอใจ ไม่พอใจ ไม่กลับมาในจิตของเราอีก
ต้องฝึกวิปัสสนาเติมความจริงตามกฎไตรลักษณ์ในจิตใจให้มากที่สุด เพื่อเข้าไปแทนที่ความพอใจ ไม่พอใจที่อยู่ในจิตใจ ยิ่งปฏิบัิติมากเท่าไหร่ความพอใจ ไม่พอใจ จะค่อยๆ หายไปทีละนิด เหมือนเติมน้ำใสลงไปในน้ำสี เมื่อมีสิ่งมากระทบขณะปัจจุบัน ความจริงก็จะมารับการกระทบแทนความพอใจ ไม่พอใจ


ความพอใจ ไม่พอใจ เกิดขึ้นในจิต เมื่อรู้เท่าทันความคิด ก็ไม่ติด ไม่ทุกข์

เห็นควรแล้ว สาธุ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 12:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อวางหรือปล่อยได้แล้ว การจะหยิบหรอืไม่หยิบมาใช้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

สำคัญคือหยิบมาใช้ เมื่อใช้เสจ รู้จักปล่อยหรือวางได้รึป่าว

ึึคนที่ร้จักปล่อยวางได้ ย่อมรู้ว่าอะไรควรใช้ อะไรควรหยิบ ใช้ไปแล้ว จะวางตอนไหนก้เท่านั้นเอง :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 13:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓ ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค

ปหานะ ๕ คือ วิกขัมภนปหานะ ๑ ตทังคปหานะ ๑ สมุจเฉทปหานะ ๑
ปฏิปัสสัทธิปหานะ ๑ นิสสรณปหานะ ๑ การละนิวรณ์ด้วยการข่มไว้ ย่อมมีแก่
บุคคลผู้เจริญปฐมฌาน การละทิฐิด้วยองค์นั้นๆ ย่อมมีแก่บุคคลผู้เจริญสมาธิอัน
เป็นไปในส่วนแห่งการชำแรกกิเลส สมุจเฉทปหานะ อันเป็นโลกุตรมรรค และ
ปฏิปัสสัทธิปหานะอันเป็นโลกุตรผล ในขณะแห่งผล ย่อมมีแก่บุคคลผู้เจริญ
มรรคเครื่องให้ถึงความสิ้นไป และนิสสรณปหานะเป็นนิโรธ คือ นิพพาน ฯ
http://84000.org/tipitaka/read/?31/65/39

นิโรธ 5 (ความดับกิเลส, ภาวะไร้กิเลสและไม่มีทุกข์เกิดขึ้น — extinction; cessation of defilements)
1. วิกขัมภนนิโรธ (ดับด้วยข่มไว้ คือ การดับกิเลสของท่านผู้บำเพ็ญฌาน ถึงปฐมฌาน ย่อมข่มนิวรณ์ไว้ได้ ตลอดเวลาที่อยู่ในฌานนั้น — extinction by suppression)
2. ตทังคนิโรธ (ดับด้วยองค์นั้นๆ คือ ดับกิเลสด้วยธรรมที่เป็นคู่ปรับหรือธรรมที่ตรงข้าม เช่น ดับสักกายทิฏฐิด้วยความรู้ที่กำหนดแยกนามรูปออกได้ เป็นการดับชั่วคราวในกรณีนั้นๆ — extinction by substitution of opposites)
3. สมุจเฉทนิโรธ (ดับด้วยตัดขาด คือ ดับกิเลสเสร็จสิ้นเด็ดขาด ด้วยโลกุตตรมรรค ในขณะแห่งมรรคนั้น ชื่อสมุจเฉทนิโรธ — extinction by cutting off or destruction)
4. ปฏิปัสสัทธินิโรธ (ดับด้วยสงบระงับ คือ อาศัยโลกุตตรมรรคดับกิเลสเด็ดขาดไปแล้ว บรรลุโลกุตตรผล กิเลสเป็นอันสงบระงับไปหมดแล้ว ไม่ต้องขวนขวายเพื่อดับอีก ในขณะแห่งผลนั้นชื่อ ปฏิปัสสัทธินิโรธ — extinction by tranquillization)
5. นิสสรณนิโรธ (ดับด้วยสลัดออกได้ หรือดับด้วยปลอดโปร่งไป คือ ดับกิเลสเสร็จสิ้นแล้ว ดำรงอยู่ในภาวะที่กิเลสดับแล้วนั้นยั่งยืนตลอดไป ภาวะนั้นชื่อนิสสรณนิโรธ ได้แก่อมตธาตุ คือ นิพพาน — extinction by escape; extinction by getting freed)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร