วันเวลาปัจจุบัน 26 มิ.ย. 2025, 16:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2012, 21:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปชั่วตัวคน...แม้ไม่ใช่..สัตว์..ไม่ใช่บุคคล..ตัวตนเราเขา...ก็ยังมีอยู่

แต่ชื่อเสียงเกียรติยศ....เป็นยิ่งกว่าอากาศธาตุเสียอีก....กลับมีอิทธพลได้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

เพียงเพราะแค่...ฉันอายชาวบ้านเขา นี้นะ...

http://www.posttoday.com/รอบโลก/160746/พ่ออินเดียโหดตัดหัวลูกสาวประจาน
........

พ่ออินเดียตัดหัวลูกสาววัย 22 แห่ประจานรอบหมู่บ้าน เหตุอับอายลูกคบชู้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐราชสถานของอินเดียเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ว่า เกิดเหตุโศกนาฏกรรมสุดหดหู่ หลังมีคนงานเหมืองแร่หินชาวอินเดียได้ใช้มีดขนาดใหญ่ตัดศีรษะลูกสาวในไส้ของตัวเองวัย 22 ปี ก่อนนำศีรษะไปแห่ประจานทั่วหมู่บ้าน เนื่องจากไม่พอใจและอับอายที่ลูกสาวมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชายหลายคน ทั้งๆ ที่ได้แต่งงานออกเรือนไปตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า พ่อคนดังกล่าวได้เดินออกจากบ้านตัวเองในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 17 มิ.ย. โดยในมือถือศีรษะของลูกสาว ขณะที่อีกมือหนึ่งถือมีดดาบขนาดใหญ่ที่โชกไปด้วยเลือดสีแดงสด ก่อนที่เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์พยายามพูดโน้มน้าวให้เข้ามอบตัวกับตำรวจหลังจากนั้น

"ผู้ต้องหากล่าวย้ำหลายครั้งว่า ต้องการให้ลูกสาวหยุดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับชายทุกคนและกลับมาอยู่บ้าน" เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวพร้อมระบุว่า พ่อใจโหดผู้นี้ไม่มีอาการโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของลูกสาวของตัวเองเลยแม้แต่น้อย โดยผู้ต้องหา ซึ่งยอมเข้ามอบตัวแต่โดยดี กล่าวรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือไป เพราะโกรธที่ลูกสาวทำให้ต้องตนเองต้องอับอายสังคม

รายงานระบุอีกว่า จำนวนเหตุฆาตกรรมในลักษณะเดียวกันในอินเดียเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับหนุ่มสาว ซึ่งหนีไปอยู่กินหรือแต่งงานกับคู่ครองที่ทางครอบครัวไม่ยอมรับ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถูกมองว่า เป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับชื่อเสียงและเกียรติยศของวงศ์ตระกูล

อย่างไรก็ตาม เหตุฆาตกรรมลักษณะเดียวกันจำนวนมากมักไม่ได้มีการแจ้งความ ซึ่งบางกรณีอาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ เนื่องจากคนในสังคมมองว่า การสังหารบุตรของตนเองที่สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง ถือเป็นกระบวนการยุติธรรมตามธรรมเนียมที่รับได้ในสังคมอินเดีย
............

ไม่มีสิ่งใดไม่เกิดแต่เหตุ...พระพุทธเจ้ามีปกติตรัสถึงเหตุอันนั้น...และความดับไปของเหตุนั้น

:b8: :b8: :b8:

พวกเราโชคดีนะครับ...ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนาและ..เชื่อในพระธรรม
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2012, 21:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธศาสนาเคยรุ่งเรืองที่ดินแดนนั้นมาก่อน แต่ปัจจุบันเหลือแต่ประวัติศาสตร์ อะไรเป็นเหตุปัจจัยให้เป็นเช่นนั้น ?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2012, 21:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


นี้มันยังน้อยกระมั่งท่านกบ ท่านกบคิดว่า การตายด้วยการกระทำของคน กับ การตายอย่างธรรมชาติ อะไรมันมากกว่ากัน ละ ลองดูจากประวัติศาสตร์ ซิครับ cry

เรามาปลงสังขารกันดีกว่า :b12:

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2012, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าอนุญาตให้ตัดหัวโดยไม่ผิดกฎหมายได้ต่อไป เรื่องคบชู้น่าจะลดลง

สตรีคบชู้ก็ ชั่วบาปไปแบบหนึ่ง มนุษย์ฆ่ามนุษย์ที่คิดว่าสุดรัก ก็มีมาแล้วมากมาย

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 03:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


ความคิดน่ากลัวมากจริงๆ

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนถูกกำหนดด้วยความคิด ความคิดเป็นเหตุ ทุกอย่างเริ่มด้วยความคิด เป็นไปได้ด้วยความคิด จบลงด้วยความคิด

จะสุข จะทุกข์ ก็เพราะคิด

คงจะเพราะอย่างนี้ละมั้ง ครูบาอาจารย์ถึงเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาความคิด ระวังรักษาความคิดกันมาก

พระอาจารย์มั่น:
มีคนกรุงกราบถามหลวงปู่มั่นว่า "หลวงปู่รักษาศีลองค์เดียว ไม่ได้รักษาถึง ๒๒๗
องค์ เหมือนพระทั้งหลายที่รักษากันใช่หรือไม่"?
"ใช่ อาตมารักษาเพียงอันเดียว" หลวงปู่มั่นตอบ
คนกรุงกราบถามท่านอีกว่า "ที่หลวงปู่รักษาเพียงอันเดียวนั้นคืออะไร"?
หลวงปู่มั่นตอบสั้นๆ คือ "ใจ"

หลวงปู่ดูลย์:
คิดเท่าไรๆก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดคิดได้จึงรู้ แต่ต้องอาศัยความคิดนั่นแหละจึงรู้

หลวงพ่อชา:
"เธอจงระวังความคิดของเธอ เพราะความคิดของเธอจะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ เพราะความประพฤติของเธอจะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ เพราะความเคยชินของเธอจะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ เพราะอุปนิสัยของเธอจะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต"

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 04:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
พวกเราโชคดีนะครับ...ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนาและ..เชื่อในพระธรรม

"สหายกะลา" ปากไม่มีหูรูด :b32: มันไม่เกี่ยวกับศาสนาเลย ศาสนาทุกศาสนา
สอนให้คนเป็นดี การกระทำเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล
เรื่องดีชั่วบาปบุญศาสนาอื่นเขาก็สอน ดูได้จากพ่อไปมอบตัวกับตำรวจ
เพราะรู้ตัวว่าทำผิด

เรื่องในทำนองนี้ของไทยก็เยอะไป แต่มันตรงข้ามกับของอินเดีย
นั้นก็คือคิดว่าลูกตัวเองดีหมด ที่ลูกตัวเองกระทำไม่ดีก็เพราะคนอื่นมาชวน
ฉะนั้นต้องฆ่าคนอื่น ส่วนลูกถูกต้องเสมอ

กะลาเอากิเลสความเห็นแก่ตัวไปตัดสินพ่อชาวอินเดีย
สมมุติถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้สองเหตุ แต่อีกเหตุแทนที่พ่อจะฆ่าลูก
กับไปฆ่าชู้แทนลูกสาว กะลาอาจคิดว่า พ่อเป็นคนดีมีใจเป็นธรรมก็ได้
ทั้งหมดกะลาเอากิเลสตัวเองไปตัดสินกิเลสคนอื่น
มองธรรมต้องมองสองด้าน
ถ้าลองเอาเหตุการณ์ทั้งสองมาเปรียบ กะลาต้องบอกว่า
การฆ่าลูกตัวเอง สุดจะโหดแน่ๆ อันที่จริงมันโหดทั้งคู่ถ้าเราไม่เอากิเลส
ความเห็นแก่ตัวลงไปตัดสิน และเห็นแก่ตัวตรงไหนคงไม่ต้องบอก



ที่ศาสนาพุทธแตกต่างจากศานาอื่นไม่ใช่อยู่ที่สอนให้ทุกคนเป็นคนดี
เพราะทุกศาสนาย่อมสอนให้ทุกคนเป็นดี แต่พุทธศาสนา...
เน้นไม่ให้เอาทั้งดีและชั่ว(ตีความหมายดีๆน่ะ)

แก่นของพระพุทธศาสนามันลึกและละเอียด จะพูดกับคนดีสุดโต่งก็ไม่รู้เรื่อง
จะพูดกับคนชั่วสุดตัวก็ไม่รู้ฟัง ปัญหาของพระธรรมที่จะซึมซับเข้าไปในใจ
ของคนที่อ้างเป็นพุทธมันอยู่ตรงนี้


เพื่อนในนี้ก็เหมือนกันครับ ปากก็บอกฉันเป็นคนดี ชอบพูดเรื่องศีลห้าศีลแปด
แต่พอได้ยินอะไรที่กระเทือนรูหูตัวเองล่ะก็ ฟาดงวงฟาดงาเลยที่เดียว
อยากให้จำไว้เลยครับว่า ความเห็นคำพูดกันในนี้ ไม่มีถูกมีผิด ไม่มีดีมีเลว
มันมีแต่อกุศลจิตอันเกิดจากความอยากในใจตัวเอง
มองลงไปที่ตัวอักษรแล้วย้อนกลับมาดูที่ใจตัวเอง
ตัวอักษรทุกตัวที่กำลังอ่าน มันเป็นกระบวนขันธ์ของตัวเองทั้งนั้นครับ

ดูแล้วให้มันไปจบลงที่สติซะน่ะ
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 06:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12:
Ego....มานะทิฏฐิ......ความยึดผิด....ความถือตัว ถือดี ถือรู้ กูเก่ง กูมี ศักดิ์ศรี หน้าตา เกียรติยศ (กูตัวน้อง)
ถ้ายังมี กู ตัวพี่ (สักกายทิฏฐิ ...ความเห็นผิด) คอยสนับสนุน ย่อมสามารถทำกรรมบาปหยาบช้า ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องของศีลข้อแรกที่สุด

:b14:
ตัวอย่างที่คุณกบ ยกมาเล่าสู่กันฟังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน น่าสะพรึงกลัวยิ่ง ในมานะทิฏฐิของคน
:b7: :b7: :b7: :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 23:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เดือดร้อนทั้งพ่อทั้งลูก ลูกก็ตาย พ่อก็ติดคุก คิดแล้ว ศีล5 จำเป็นจริงๆสำหรับทุกคน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 00:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
พวกเราโชคดีนะครับ...ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนาและ..เชื่อในพระธรรม


"สหายกะลา" ปากไม่มีหูรูด :b32: มันไม่เกี่ยวกับศาสนาเลย ศาสนาทุกศาสนา
สอนให้คนเป็นดี การกระทำเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล
เรื่องดีชั่วบาปบุญศาสนาอื่นเขาก็สอน ดูได้จากพ่อไปมอบตัวกับตำรวจ
เพราะรู้ตัวว่าทำผิด

เรื่องในทำนองนี้ของไทยก็เยอะไป แต่มันตรงข้ามกับของอินเดีย
นั้นก็คือคิดว่าลูกตัวเองดีหมด ที่ลูกตัวเองกระทำไม่ดีก็เพราะคนอื่นมาชวน
ฉะนั้นต้องฆ่าคนอื่น ส่วนลูกถูกต้องเสมอ

กะลาเอากิเลสความเห็นแก่ตัวไปตัดสินพ่อชาวอินเดีย

[/b] :b13:


ตกเป็นทาสของสังขารการปรุงแต่ง..แล้วละ..โฮเอ๋ยย....

เห็นแค่...
พวกเราโชคดีนะครับ...ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนาและ..เชื่อในพระธรรม

ก็ปรุงไปเอง....ว่าผมกล่าวโทษศาสนาของเขาเป็นต้นเหตุ...

จิตไม่ดี..ก็งี้แหละ... :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 00:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ภูมิใจ...ที่เกิดมาในศาสนาที่สอนให้เห็นความจริง....ที่ไม่มีศาสนาไหนค้นพบ

กิเลส...ตัณหา..ราคะ..อุปาทาน...

รูปนาม..ปฏิจจสมุปบาท

อริยะสัจ 4...มรรคมีองค์ 8

เห็นข่าวแล้วทำให้คิดว่า...

สิ่งที่ไม่มี....มีอิทธิพลขนาดนี้เชียวหรือ?

ไม่มีอยู่จริง...เป็นอนิจจัง..ทุกขัง..อนัตตา...กลับนำพาความทุกข์มาสู่เราได้...

บ้าชัด..ๆ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 05:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตกเป็นทาสของสังขารการปรุงแต่ง..แล้วละ..โฮเอ๋ยย....
เห็นแค่...
พวกเราโชคดีนะครับ...ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนาและ..เชื่อในพระธรรม
ก็ปรุงไปเอง....ว่าผมกล่าวโทษศาสนาของเขาเป็นต้นเหตุ...
จิตไม่ดี..ก็งี้แหละ... :b32: :b32: :b32:

ผู้ร้ายปากแข็ง ตัวเองเอาเรื่องไม่ดี ของชาวอินเดียมาโพส
แล้วก็มาสรุปตอนท้ายว่า "พวกเราโชคดี ที่เกิดในพุทธศาสนา"
แบบนี้และเอาศาสนาเราไปเปรียบเทียบกับศาสนาของเขา

กะลาน้ำในบ่อมันขุ่นทั้งสกปรก ยังดำลงไปหน้าตาเฉย
แบบนี้เป็นผู้พิพากษาไม่ได้ เป็นได้แค่ผู้ร้ายปากแข็ง :b9:
กบนอกกะลา เขียน:
ภูมิใจ...ที่เกิดมาในศาสนาที่สอนให้เห็นความจริง....ที่ไม่มีศาสนาไหนค้นพบ

ทุกศาสนาก็สอนในสิ่งที่เขาเชื่อเขาศรัทธาว่าเป็นเรื่องจริง มันไม่ใช่ว่าโน้นไม่จริง
นี่ของเราจริง ความสำคัญมันอยู่ที่เขาต้องการอะไรต่อสิ่งที่เขาศรัทธา

คนในศาสนาอื่น อาจจะเข้าใจในเรื่องพุทธศาสนาดีกว่าชาวพุทธแท้ๆก็ได้
แต่ที่เขาไม่ต้องการเป็นพุทธเพราะ เขาไม่อยากได้รับผลที่พระพุทธเจ้าบอกไว้
ที่พูดมาก็ดูได้จาก ในศาสนาพุทธเองยังแบ่งเป็นนิกายต่างๆ ไม่ใช่เพราะไม่
ยอมรับหรือไม่เอาผลสุดท้ายที่ว่าหรือ


ที่ชาวอินเดียเขาอย่างนั้น มันไม่ใช่เป็นเพราะศาสนาเขาสอน
มันเป็นเพราะตัวเขาเอง เขาลืมที่จะยับยั้งชั่งใจไม่ให้ทำบาป ก็แค่นั้น

ชาวอินเดียเขาก็ทำไปตามกิเลสของเขา เป็นคนธรรมดาสามัญที่สามารถทำผิดได้

แต่เขายังดีกว่าชาวพุทธบางคน ชาวอินเดียคนนั้นเมื่อรู้ตัวว่าผิด
ก็ยอมรับด้วยการไปมอบตัวกับตำรวจ
ผิดกับชาวพุทธบางคนที่ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด หลักฐานมันฟ้องอยู่ทนโท่
ยังปฏิเสธหน้าตาเฉย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เห็นข่าวแล้วทำให้คิดว่า...
สิ่งที่ไม่มี....มีอิทธิพลขนาดนี้เชียวหรือ?
ไม่มีอยู่จริง...เป็นอนิจจัง..ทุกขัง..อนัตตา...กลับนำพาความทุกข์มาสู่เราได้...
บ้าชัด..ๆ...

ไอ้ที่สบถออกมาว่า"บ้าชัดๆ" ว่าตัวเองหรือว่าใครครับ คนที่ทำตามกิเลส
แบบพ่อชาวอินเดียมีมากมายครับ อย่างของเราก็มีแต่มันต่างกันแค่รูปแบบครับ
อย่างประเทศเรามีข่าวบ่อยๆว่า ออกลูกในส้วมแล้วเอาลูกไปทิ้งถังขยะ หรือไม่ก็
เอาลูกไปเร่ขายประเวณี คุณกะลาว่า ในเรื่องความโหดมันแตกต่างกันมั้ย

ผมว่ามันก็โหดพอๆกัน แตสิ่งที่มันแตกต่างกันก็คือ
พ่อค้าชาวอินเดีย เขามีศีลธรรมครับ เพียงแค่เขาขาดความเข้าใจในการปฏิบัติ
ที่เขาฆ่าลูกของเขาก็เพราะ เห็นว่าลูกทำตัวไม่ดีผิดศีลมีชู้ทำให้อับอาย
เขามีเหตุมาจากกุศล เพียงแต่การกระทำมันเป็นอกุศล

ส่วนไอ้พวกทำแท้ง ออกลูกแล้วทิ้งหรือเอาลูกไปขายประเวณีไม่ต้องพูด
มันเลวแบบไม่รู้จักศีลธรรมครับ


และยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่แกว่าชาวอินเดีย
ไปว่าเขาว่า "เอาสิ่งไม่มี มามีอิทธิพล" และอีกอันก็ว่าผมว่า
"ตกเป็นทาสสังขารการปรุงแต่ง" อันนี้ขอย้อนคำพูดผมหน่อย
ที่ว่า คนในศาสนาอื่นเขาก็รู้วิถีพุทธหรือคำสอนเป็นอย่างไร
เพียงแต่เขาไม่ต้องการแบบนั้น เขาจึงไปเลือกนับถือศาสนาอื่นเป็นเรื่องธรรมดา

แต่ไอ้คนที่เป็นชาวพุทธแท้ๆ ถึงขนาดเอ่ยปากในลักษณะกระทบกระเทียบว่า
ตัวเองโชคดีที่ได้เกิดมาในศาสนาพุทธ ตัวเองเป็นพุทธแท้ๆยังไม่เข้าใจแถมยัง
เอาเนื้อหาพุทธไปดูถูกชาวบ้าน ในลักษณะว่าเขาเอาเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมาปรุงแต่ง
พูดได้คำเดียวว่า อยากหัวเราะให้ฟันหัก


คุณกะลาครับ คุณเที่ยวว่าผมปรุงแต่งสังขาร เที่ยวประนามคนศาสนาอื่นว่า
เอาสิ่งไม่มีมาปรุงแต่ง ถามหน่อยแล้วการที่คุณไปเอาเนื้อหาในหนังสือพิมพ์มาโพส
แบบนี้ไม่ได้เกิดจากการปรุงแต่งใช่ไหม ปู๋โท่!
ถ้าไม่รู้จะพูดให้ฟัง มันก็เกิดจากการปรุงแต่งแบบเดียวกับที่คุณว่าชาวบ้าน
แต่ของคุณมันเต็มรูปแบบแถมเป็นอกุศลด้วยครับ

จิตสังขาร(อกุศล) พอเจอเนื้อหานสพเกิดความอยาก(โลภะ) อยากที่จะประจาน
พ่อชาวอินเดีย
วจีสังขาร(อกุศล) ไอ้คำพูดที่เปรียบเทียบตัวเองกับชาวบ้านหรือแม้กระทั้งคำสบถ

กายสังขาร(อกุศล) ลงทุนลงแรงไปก็อปปี้เนื้อหาในนสพ รู้ๆอยู่ว่าอ่านแล้วมันสะเทือนใจ
ก็ยังเอามาลงในเว็บธรรมะ อีกทั้งคนที่กล่าวถึงเป็นคนละเชื้อชาติหรือแม้กระทั้งศาสนา
กฎของบอร์ดเขาไม่ให้พูดในทำนองส่อเสียดศาสนาอื่น เข้าใจมั้ย :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 07:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


บ้าชัด..ๆ...

ก็ไม่รู่จะว่าใครดีเหมือนกัน...เพราะส่วนบ้านี้...มันก็มีอยู่ด้วยกันทุกคน...

:b7: :b7: :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 09:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
บ้าชัด..ๆ...

ก็ไม่รู่จะว่าใครดีเหมือนกัน...เพราะส่วนบ้านี้...มันก็มีอยู่ด้วยกันทุกคน...

:b7: :b7: :b7:

กะลาเราว่า เอาเวลาปั่นแต่งคำด่า คำเสียดสีชาวบ้าน
ไปฝึกการพิจารณาธรรม หัดหาเหตุหาผลดีกว่า

เข้ามาสนทนาธรรม ก็เอาธรรมมาคุยมาแย้งกับเขา
ไม่ใช่เข้ามา ชี้หน้าคนโน้นไม่มีศีล คนนี้ไม่มีธรรม

"แบบนี้มัน เว่อร์...ชัดๆ" :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเข้ามาเป็นกรรมการหน่อย คุนน้องว่าไม่มีใครผิดใครถูกหรอกนะเรื่องนี้ แต่มองกลางๆนะ ท่านกบก็เพ่งโทษผู้อื่น
ท่านพี่โฮก็เพ่งโทษท่านกบเช่นกัน มันเลยกลายเป็นแบบนี้ แต่ท่านกบไม่มีเจตนาคุนน้องเข้าใจ แต่สติระลึกไม่ทัน บางครั้งต้องตั้งสติก่อนค่อยพูด ไม่งั้นมันจะกลายเป็นแบบนี้แหละ คนใจโหดมีทุกเชื้อชาติ มีทุกที่ เมืองไทยเราก็มี อย่างข่าว แม่ใจบาปฆ่าลูกเพราะโมโหที่ลูกวัย 4เดือน ร้องไม่ยอมหยุดเลยเอาผ้าเทปปิดปากปิดจมูก เด็กดิ้นหายใจไม่ออกจนขาดอากาศตาย แบบนี้โหดไหมละ แล้วลองพิจาณณานะว่า พ่อใจบาปฆ่าลูกทีคบชู้สู่ชายชาวอินเดีย กับแม่ใจบาปที่ฆ่าลุกวัย4เดือน เพราะเด็กร้องไม่หยุดชาวไทย ใครโหด ใครบ้ามากกว่ากัน เหตุผลในการฆ่า อะไรไร้มนุษยธรรม คุนน้องอยากให้มองอะไรก็มองให้เป็นกลางๆ มี สัมมาสติ เพราะคนที่ศาสนาเข้าไม่ถึงจิตใจก็มีปะปนกันไปทุกชาติทุกศาสนา แล้วทำไมต้องไปเพ่งเล็งชาวอินเดีย แล้วเอามาเปรียบเทียบว่า เราโชคดีเกิดเป็นชาวพุทธละเชื่อในพระธรรม ให้มันระลึกอยู่ที่กายใจตนดีกว่า อย่าเอาออกมาเป็นคำพูดที่ เหมือนตัวเองได้ขึ้นไปอยู่ที่สูงแล้วมองเห็นทุกข์ผู้อื่น แล้วย้ำยีผู้อื่นด้วยวาจา ศาสนาทุกศาสนาสอนคนเป็นคนดีทั้งนั้น :b8:ส่วนพี่โฮก็ยึดมั่นในสิ่งที่ถุกต้องด้วยมานะ พี่โฮยึดในสิ่งที่ว่ามันถูกต้องในสิ่งที่ตนเห็นแย้งตนมีเหตุผล ใช่พี่โฮพูดมาทุกอย่างเรื่องจริง ซึ่งคุนน้องก็ไม่ค้านนะเจ้าค่ะ อัตตาในความถูกต้องของเรานี่แหละ ทำให้เรามีเจ้ากรรมนายเวร พี่โฮเชื่อคุนน้องไหม :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร