วันเวลาปัจจุบัน 17 ก.ค. 2025, 21:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2013, 11:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2011, 13:22
โพสต์: 79


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเองเคยเชื่อวิทยาศาตร์จนเถียงวิชาพุทธศาสตร์อย่างจัง จนวันหนึ่งได้ร่วมทำประวัติหลวงปู่มั่น ได้ศึกษาปฏิปทาของท่านเกิดความเลี่อมใส เลยต้องทดลองทำตามคือทำสมาธิ โดยเอาปัญญามาคิดให้มากถึงความเป็นจริงของกรรม คือการกิน ถ้าเรากินเราต้องฆ่าเขาแล้วพ่อแม่เราละฆ่าเขามากี่ตัวแล้วก่อนที่จะมีเรา แล้วปู่ยาตายายเราละ เลยสลดใจกับการกินของตัวเอง รู้ว่ามีกรรมจากการกินมีตั้งแต่เกิดแล้ว ถ้ามีเหตุต้องมีผลเลยเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จากเหตุและผลเหมือนวิทยาศาตร์ แต่วิทยาศาตร์เอาเหตุผลของกิเลสเป็นหลัก ส่วนพระพุทธเจ้าเอาเหตุผลของการละ เลิก หยุด กิเลสเพื่อนิพพานเป็นหลัก ตอนนี้ผมเถียงวิทยาศาสตร์แทนและเชื่อพระพุทธเจ้ามิมีข้อสงสัยใดๆ ลองทำตามดูนะครับ ความรู้เกิดความไม่รู้หรือสงสัยจะหายไปครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2013, 11:50 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2941


 ข้อมูลส่วนตัว


อมันตรา เขียน:
เลยเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จากเหตุและผลเหมือนวิทยาศาตร์ แต่วิทยาศาตร์เอาเหตุผลของกิเลสเป็นหลัก ส่วนพระพุทธเจ้าเอาเหตุผลของการละ เลิก หยุด กิเลสเพื่อนิพพานเป็นหลัก


:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2013, 14:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


การเอาศรัทธามาตั้งก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีครับ ยิ่งทดลองยิ่งได้รับคำตอบไม่มากก็น้อย แต่วิทยาศาสตร์ก็มีส่วนให้เราได้คิดเหมือนกัน เช่น เสียงเดินทางได้หากมีอากาศธาตุ แล้วเสียงเดินทางได้มีขีดจำกัด เช่น หากบุคคลคนหนึ่งร้องตะโกนออกมาจากจุดA ผู้ที่มีโสตธาตุไม่บกพร่อง ภายในรัศมี 10เมตร ย่อมได้ยินเสียงตะโกนนั้น แต่หากมีบุคคลอื่นที่ยืนอยู่ห่างออกไป 50 กิโลเมตรออกไป ไม่ว่าจะหูดีแค่ไหนก็ไม่สามารถได้ยินเสียงได้ เมื่ออยู่ในสูญญากาศ เสียงไม่สามารถเดินทางได้ แม้จะอยู่ใกล้แค่ 1 นิ้วจากต้นเสียงก็ไม่สามารถได้ยินได้ ความรู้นี้ก็มีส่วนสำคัญกับการกำหนดรู้ลงสู่ความทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็จะกำหนดได้อย่างชัดเจน

การเถียงวิทยาศาสตร์คือการเถียงความจริง เช่น เหล็กทื้งไว้ก็ไม่สามารถคงสภาพเดิม ทั้งๆที่ไม่มีชีวิตจิตใจ ก็กลายสภาพเป็นสนิม ไม่มีใครสามารถบังคับไม่ให้เหล็กเกิดสนิมได้ อย่างดีก็แค่ชะลอตัวด้วยการใช้ส่วนผสมอื่นเข้าไป แต่ในที่สุดตัวเหล็กก็ทำลายตัวมันเองลง

วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาไปด้วยกันได้ เมื่อมีความเห็นถูก จึงเกิดปัญญารู้ชัด แต่หากจะแยกวิทยาศาสตร์ออกจากพุทธศาสนา ก็จะเหลือเพียงแค่ความเชื่อความศรัทธาครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2013, 15:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2011, 13:22
โพสต์: 79


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ ผมเป็นพุทธทาสไม่ปรารถนาใหญ่ มีอีกเรื่องที่ฝึกยากมากคือความไม่โกรธ ฝึกตามแบบท่านหลวงปู่ชา จะพยายามครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2013, 17:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ปัญหาที่ ๑๘ ถามถึงเรื่องสิ่งที่ทำได้ยากของพระพุทธเจ้า

“ ข้าแต่พระนาคเสน สิ่งที่ทำได้ยากที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำนั้น ได้แก่อะไร ? ”
“ ขอถวายพระพร พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำสิ่งที่ทำได้ยาก ได้แก่การทรงแสดงซึ่งธรรมอันไม่มีรูปร่าง อันมีอยู่ในจิต เจตสิดอันเป็นไปในอารมณ์อันเดียวเหล่านี้ได้ว่า อันนี้เป็นผัสสะ อันนี้เป็นเวทนา อันนี้เป็นสัญญา อันนี้เป็นเจตนา อันนี้เป็นจิต
“ ขอนิมนต์อุปมาด้วย ”
“ ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนกับบุรุษคนหนึ่งลงเรือไปที่มหาสมุทร วักน้ำขึ้นมาวางไว้ที่ลิ้น ก็รู้ว่านี้เป็นน้ำคงคา นี้เป็นน้ำยมนา นี้เป็นน้ำสรภู นี้เป็นน้ำอจิรวดี นี้เป็นน้ำมหิ ดังนี้ได้ เป็นของง่ายหรือยากล่ะ ?”
“ เป็นของยาก พระผู้เป็นเจ้า ”
“ ขอถวายพระพร การที่พระพุทธเจ้าทรงบอกสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง ที่มีในจิตใจ ที่เป็นอารมณ์อันเดียวกันว่า นี้เป็นผัสสะ นี้เป็นเวทนา นี้เป็นสัญญา นี้เป็นเจตนา นี้เป็นจิต ดังนี้ยิ่งยากกว่านั้น ”
“ ถูกดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า ”

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2013, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ธะรมมะและวิทยาศาสตร์ล้วนอาศัยหลักเดียวกัน แม้อาจจะไม่มีผู้ใดเคยกล่าวว่าวิทยาศาสตร์
มีที่มาโดยอาศัยหลักเดียวกันกับธรรมมะ แต่จริงๆก็คือใช้หลักเดียวกันคือ สงสัย ตั้งข้อสังเกต
ทดลอง สรุป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงใช้หลักนี้จนบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้
คุณ จขกท ค่อยๆทำความเข้าใจไปเรื่อยๆนะครับ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 03:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
อ้างคำพูด:
ปัญหาที่ ๑๘ ถามถึงเรื่องสิ่งที่ทำได้ยากของพระพุทธเจ้า

“ ข้าแต่พระนาคเสน สิ่งที่ทำได้ยากที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำนั้น ได้แก่อะไร ? ”
“ ขอถวายพระพร พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำสิ่งที่ทำได้ยาก ได้แก่การทรงแสดงซึ่งธรรมอันไม่มีรูปร่าง อันมีอยู่ในจิต เจตสิดอันเป็นไปในอารมณ์อันเดียวเหล่านี้ได้ว่า อันนี้เป็นผัสสะ อันนี้เป็นเวทนา อันนี้เป็นสัญญา อันนี้เป็นเจตนา อันนี้เป็นจิต
“ ขอนิมนต์อุปมาด้วย ”
“ ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนกับบุรุษคนหนึ่งลงเรือไปที่มหาสมุทร วักน้ำขึ้นมาวางไว้ที่ลิ้น ก็รู้ว่านี้เป็นน้ำคงคา นี้เป็นน้ำยมนา นี้เป็นน้ำสรภู นี้เป็นน้ำอจิรวดี นี้เป็นน้ำมหิ ดังนี้ได้ เป็นของง่ายหรือยากล่ะ ?”
“ เป็นของยาก พระผู้เป็นเจ้า ”
“ ขอถวายพระพร การที่พระพุทธเจ้าทรงบอกสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง ที่มีในจิตใจ ที่เป็นอารมณ์อันเดียวกันว่า นี้เป็นผัสสะ นี้เป็นเวทนา นี้เป็นสัญญา นี้เป็นเจตนา นี้เป็นจิต ดังนี้ยิ่งยากกว่านั้น ”
“ ถูกดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า ”


อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 15:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2011, 13:22
โพสต์: 79


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกกำลังใจ ข้าพเจ้าทาสพุทธเจ้า ผู้มีความรู้น้อยจะพยายาม สู้ สู้ ตามรอยบาทพระชินสี ผู้ถากถางทางเดินเพื่อมนุษย์ผู้โง่เขลาอย่างข้าพเจ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2013, 14:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ตอนนี้ผมเถียงวิทยาศาสตร์แทนและเชื่อพระพุทธเจ้ามิมีข้อสงสัยใดๆ ลองทำตามดูนะครับ ความรู้เกิดความไม่รู้หรือสงสัยจะหายไปครับ

:b12:
ผมว่าเรามาเปลี่ยนคำว่า....."ธรรมะต้องทดลอง"....มาเป็นคำว่า...."ธรรมะต้องพิสูจน์" ......กันดีไหมครับ
:b10:
เพราะธรรมะไม่ใช่ของลองเล่น.....ในบทสวดสวากขาโตนั้นท่านท้าให้พิสูจน์......
onion
ง่ายที่สุดในการบรรลุธรรมคือจงพิสูจน์ดูให้ได้ซิว่า......."สัพเพธัมมา อนัตตา"...ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็นอนัตตา......ซึ่งถ้าจะพิสูจน์ต้องแปลว่า...."บังคับไม่ได้"
:b11:
ลงนั่ง...หรือ ยืน
....เดิน....นอน...พิสูจน์ดูว่า หมดทั้งตัวและใจเรานี้มีอะไรที่บังคับบัญชาให้เป็นไปดั่งใจหวังหรืออยากได้หรือไม่?

:b43:
ถ้าพิสูจน์แล้วเห็นจริงว่าไม่มีอะไรบังคับบัญชาได้เลย......นั่นแหละท่านเกิดดวงตาเห็นธรรม.....และจะ
"เข้าถึงธรรม" ...ในเวลาถัดจากนั้นไป

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2013, 17:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2013, 09:36
โพสต์: 11

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
การเอาศรัทธามาตั้งก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีครับ ยิ่งทดลองยิ่งได้รับคำตอบไม่มากก็น้อย แต่วิทยาศาสตร์ก็มีส่วนให้เราได้คิดเหมือนกัน เช่น เสียงเดินทางได้หากมีอากาศธาตุ แล้วเสียงเดินทางได้มีขีดจำกัด เช่น หากบุคคลคนหนึ่งร้องตะโกนออกมาจากจุดA ผู้ที่มีโสตธาตุไม่บกพร่อง ภายในรัศมี 10เมตร ย่อมได้ยินเสียงตะโกนนั้น แต่หากมีบุคคลอื่นที่ยืนอยู่ห่างออกไป 50 กิโลเมตรออกไป ไม่ว่าจะหูดีแค่ไหนก็ไม่สามารถได้ยินเสียงได้ เมื่ออยู่ในสูญญากาศ เสียงไม่สามารถเดินทางได้ แม้จะอยู่ใกล้แค่ 1 นิ้วจากต้นเสียงก็ไม่สามารถได้ยินได้ ความรู้นี้ก็มีส่วนสำคัญกับการกำหนดรู้ลงสู่ความทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็จะกำหนดได้อย่างชัดเจน

การเถียงวิทยาศาสตร์คือการเถียงความจริง เช่น เหล็กทื้งไว้ก็ไม่สามารถคงสภาพเดิม ทั้งๆที่ไม่มีชีวิตจิตใจ ก็กลายสภาพเป็นสนิม ไม่มีใครสามารถบังคับไม่ให้เหล็กเกิดสนิมได้ อย่างดีก็แค่ชะลอตัวด้วยการใช้ส่วนผสมอื่นเข้าไป แต่ในที่สุดตัวเหล็กก็ทำลายตัวมันเองลง

วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาไปด้วยกันได้ เมื่อมีความเห็นถูก จึงเกิดปัญญารู้ชัด แต่หากจะแยกวิทยาศาสตร์ออกจากพุทธศาสนา ก็จะเหลือเพียงแค่ความเชื่อความศรัทธาครับผม


ชัดเจนครับ ......


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร