สำรวมวาจา พูดเฉพาะที่จำเป็นและพูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์คะ

แบบว่าเอกอนเห็นเขาโพสต์กันน่ารัก น่ารัก ที่นี่หง่ะ
ก็เลยมาสร้างกระทู้น่ารัก ๆ ให้คนน่ารัก ๆ และคนที่อยากน่ารัก....ได้แสดงความคิดเห็น...



...

ยอดเยี่ยม.....

ถ้าเรื่องการพูดจาอ่อนหวานนี่ ทำทุกวันอยู่แล้ว จ้าาาา
เพราะเวลาคุยกับพวกคุณลูก 4 ขา ไม่ว่าจะเป็นคุณลูกๆ4ขา
ทั้งที่อยู่ในบ้าน และที่อาศัยอยู่ตามข้างถนน ชอบฟังคำพูดหวานๆจ้า

เลยชินไปเลย แต่ทีนี้มาดูการได้ประโยชน์ของการพูดเพราะๆหวานๆน่ะค่ะ
ผลที่ได้คือ ทำให้เสียงของเราดีขึ้นค่ะ
หน้าจะยิ้มแบบมีความสุข ไม่หน้าหงิกหน้างอค่ะ

ก็ขอมอบ >> ฟังถ้อยคำที่ไม่น่าฟังด้วยใจที่สงบ
ก็เคยฝึกจากโจทย์ใกล้ๆตัวแต่ยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าได แต่ต่อไปจะพยายามทำให้ดีขึ้นมากๆ

เมื่อก่อนเคยใช้บอร์ดนี้ แต่รู้สึกเหงาๆพอโดนกระแทกก็กระเด็นไปพันทิพ
ที่นั่นกว้างขวางหลากหลายสำนัก และยังศาสนาอื่นๆอีก
ช่วงนี้โฉมใหม่ไม่มีกำแพงกั้นเกรียน เข้ามาป่วนกันเยอะมาก เลยหลบมาที่นี่
เข้ากระทู้นี้แล้วไม่ผิดหวัง ก็รู้สึกได้ว่าอบอุ่น สงบดี

สิ่งดีๆที่อยากจะมอบให้หรอ...(ตอนเป็นเด็กเขียนเรียงความจนครูให้ออกไปอ่านหน้าชั้นเลยนะ )
ปกติแล้วคุณน้องจะเป็นคนซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง ทำให้ปากพูดอะไรใจก็คิดเช่นนั้น ทำให้คุนน้องชอบมีหมามุ๋ยในปาก 555เป็นคนนิ่ง พูดน้อยต่อยหนัก ถ้าพูดแล้วคนรอบข้างจะยอมรับไม่ได้เพราะ เค้ามักจะคิดเสมอว่าการคุยกันด้วยเหตุผลจะต้องมีผู้แพ้และชนะ เค้าจึงรับไม่ได้กับเหตุผลที่มันเป็นความจริง และรับไม่ได้ถ้าจะต้องแพ้ คุณน้องเลยไม่พูดแต่จะยิ้มอย่างเดียว คือไม่พูดไรทั้งนั้น จะค่ะกับค่ะลูกเดียว555ไม่มีคำหวานใด ไม่มีการชมไม่มีการติ ถ้าคนในร้านถามว่า เค้าสวยมั้ย คุนน้องก็จะตอบว่า ค่ะ(ก็เค้าต้องการคำนั้นอยู่แล้ว)ทั้งที่ความสวยคุณน้องมองไม่เห็นเลย มันเป็นภาพลวงตาทั้งหมด(ขืนไปพูดกับคนทางโลกแบบนี้มีหวังสร้างศรัตรู )เห็นใครจ้องหน้า จะยิ้มให้ก่อนหรือไม่ยิ้มคุณน้องก็จะยิ้มให้เค้าเสมอ ยิ้มออกมาจากใจจริงๆ ไม่ได้เสแสร้ง เพราะคุณน้องรู้สึกรำคาญหงุดหงิดใจเวลาเจอลูกค้าเรื่ิงมาก(โดยเฉพาะคนต่างชาติ)อยากจะบอกเหมือนกันนะว่า ไปร้านอื่นก็ได้นะถ้าคุนไม่ชอบร้านชั้น คือบางครั้งเราเสียรู้โดนหลอกประจำ ก็พยายามคิดว่าเรากำลังสะสมบารมี555 เราจะได้มีกำลังใจทำหน้าที่ งานของคุณน้องต้องทำให้คนอื่นพอใจและมีความสุข แต่ไม่เคยมีใครรู้เลยว่า สิ่งเหล่านั้นมันปรุงแต่ง เพราะฉะนั้นสิ่งดีๆที่อยากจะมอบให้ทุกๆคนก็คือรอยยิ้มและความพอใจและความสุขของคนอื่นถึงเราจะเหนื่ิอยก็เอา จะสู้ๆ

ใครทำสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้นตอบแทนเสมอแหละ
เรียกว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ..

ท่านจึงสอนให้ทำความดี ให้ความรัก
มีความเมตตาและปรารถนาดีต่อกัน ..

เมื่อให้ปิยะวาจา ย่อมได้ปิยะวาจาตอบแทน ..

เหมือนปลูกกุหลาบ ย่อมได้ดอกกุหลาบ
ปลูกมะม่วง ย่อมได้ผลมะม่วง ..

ถ้าปลูกมะม่วงแล้วได้มะนาว
ก็ตัวใครตัวมันนะ ... อิอิ

เชื่อหรือไม่ค่ะว่าถึงแม้เราอยากจะให้สิ่งดีๆแก่ผู้อื่น แต่ด้วยความที่ผู้อื่นขาดปัญญารู้ตาม สิ่งที่เรามอบให้เค้าไปกลายเป็นดาบสองคมมากระชวกตัวเราเองซะงั้น คุณน้องยังเคยโดน เพราะมารเค้าไม่ยอมปล่อยเราง่ายๆ จะยกตัวอย่างในสมัยพุทธกาล
ในสมัยที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ ได้เสด็จไปพบพราหมณ์สองสามีภรรยา ซึ่งมีบุตรที่สุดสวยชื่อว่า นางมาคัณฑิยา พราหมณ์ทั้งสองชอบใจพระพุทธองค์ จึงได้ออกปากยกนางมาคัณฑิยาให้เป็นภรรยา พระพุทธองค์ไม่ทรงรับไว้ และมองเห็นนิสัยของพร่หมณ์ทั้งสองที่จะได้บรรลุมรรผล จึงได้ทรงแสดงพระธรรมให้ฟัง โดยยกเอากายคตานุสติกรรมฐานขึ้นมาเทศน์ ซึ่งได้ตรัสตำหนิโทษแห่งความสวยงามแห่งรูปกายนางมาคัณฑิยาว่า ทรงเห็นเป็นของปฏิกูล มูตรคูถ เน่าเหม็น หาความสวยงามใดๆไม่ได้เลย พราหมณ์ทั้งสองพิจารณาตามก็ได้ดวงตาเห็นธรรม ส่วนนางมาคัณฑิยาผูกโกรธและได้จองล้างจองผลาญพระพุทธองค์เพราะแรงพยาบาท
ปล.อย่างคุนน้องจะเหลือหรอ เจ้ากรรมนายเวรอาจจะจ้องอยู่รอวันเอาคืนก็ได้ ใครจะไปรู้

เชื่อครับ ดังนั้นถ้าจะทำอะไรที่คิดว่าดีๆแล้ว ควรคำนึงถึงสัปปุริสธรรม ๗ ด้วย

สัปปุริสธรรม ธรรมของสัตบุรุษ, ธรรมของคนดี,
ธรรมที่ทำให้เป็นสัตบุรุษ มี ๗ อย่าง คือ
๑. ธัมมัญญุตา รู้หลักหรือรู้จักเหตุ รู้ว่าจะทำอะไร
๒. อัตถัญญุตา รู้ความมุ่งหมายหรือรู้จักผล ประเมินว่าทำแล้วจะเกิดผลอย่างไร
๓. อัตตัญญุตา รู้จักตน รู้ความสามารถตัวเองว่าพอจะทำได้ไม้
๔. มัตตัญญุตา รู้จักประมาณ ถ้าทำควรทำอย่างไรแค่ไหนจึงจะเหมาะ
๕. กาลัญญุตา รู้จักกาล กะจังหวะให้เหมาะๆพอดีๆ
๖. ปริสัญญุตา รู้จักชุมชน คำนึงถึงคนรอบข้างด้วย
๗. ปุคคลัญญุตา รู้จักบุคคล; คนที่เราจะช่วยเป็นอย่างไรบ้าง

ที่จริงรายละเอียดแต่ละข้อมีเยอะ แต่เบื้องต้นถ้าฝึกได้ประมาณนี้ก็จะไม่กลายเป็นดาบสองคม

ขอบคุณค่ะที่เมตตาคุนน้อง

ผม ก็มีสิ่งดีๆ ที่อยากจะมอบให้เหมือนกัน

www.vitwong.blogspot.com

ครับผม

จะพยายามพูดให้น้อยลง ทำให้มากขึ้น

แม้จะพูดความจริงก็เถอะ แต่กับคนที่ยังไม่พร้อมไม่เข้าใจ มันเหมือนเป็นความเท็จสำหรับเขา

ว่าจะลดน้ำหนักสักสามโล เพราะเริ่มอ้วน อึดอัด

และจะเลิกนอนดึก เพราะมักง่วงนอนหลังทานข้าวกลางวัน มันไม่โปร่ง

เอ๊ะ มันเกี่ยวกันกับกะทู้มั้ยเนี่ย แต่เป็นเรื่องจริงนะ เป็นปัญหาในชีวิตประจำวันของผมจริงๆ