วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 15:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 13:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2013, 18:02
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


1.กรรมทั้งหลายที่ถูกเก็บไว้ในจิตจนกระทั่งสิ้นสุดชาติภพหนึ่งๆที่จุติจิต และชักนำให้เกิดปฏิสนธิจิต
ในชาติภพต่อไป ขอเรียนถามว่ากรรมเหล่านี้ที่ข้ามภพข้ามชาติ จัดเป็นสัญญาหรือไม่
2.เวทนาเก่าๆทั้งหลายสามารถข้ามชาติข้ามภพได้หรือไม่
ขอบคุณครับ
ภก.พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา
ชมรมจิตวิทยาสมาธิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 15:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
1.กรรมทั้งหลายที่ถูกเก็บไว้ในจิตจนกระทั่งสิ้นสุดชาติภพหนึ่งๆที่จุติจิต และชักนำให้เกิดปฏิสนธิจิต
ในชาติภพต่อไป ขอเรียนถามว่ากรรมเหล่านี้ที่ข้ามภพข้ามชาติ จัดเป็นสัญญาหรือไม่

พุทธศาสนสุภาษิตว่า "เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ" แปลว่า "เจตนานั่นแหละเป็นกรรม" อันมาจากพุทธพจน์ว่า "เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ, เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรมิ กาเยน วาจาย มนสา" แปลว่า "ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า เจตนานั่นแหละเป็นกรรม เมื่อมีเจตนาแล้ว บุคคลย่อมกระทำกรรมโดย ทางกาย วาจา ใจ

สัญญาเป็นสังขารขันธ์ เป็นปัจจัยให้เจตนาได้ คือ เกิดร่วมกับเจตนาให้เกิดในภพใหม่ได้
แต่สัญญาไม่ใช่เป็นตัวนำเกิด เพราะสัญญาจึงมิใช่ตัวกรรม
อ้างคำพูด:
2.เวทนาเก่าๆทั้งหลายสามารถข้ามชาติข้ามภพได้หรือไม่

เวทนาเก่าย่อมดับไป เวทนาใหม่ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา เมื่อภพชาติยังไม่สิ้น
เวทนาเก่าก็ย่อมข้ามภพข้ามชาติไม่ได้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


medihealing เขียน:
1.กรรมทั้งหลายที่ถูกเก็บไว้ในจิตจนกระทั่งสิ้นสุดชาติภพหนึ่งๆที่จุติจิต และชักนำให้เกิดปฏิสนธิจิต
ในชาติภพต่อไป ขอเรียนถามว่ากรรมเหล่านี้ที่ข้ามภพข้ามชาติ จัดเป็นสัญญาหรือไม่
2.เวทนาเก่าๆทั้งหลายสามารถข้ามชาติข้ามภพได้หรือไม่
ขอบคุณครับ
ภก.พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา
ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นกำเนิด คือมีกรรมเป็นเหตุเกิด
กรรมไม่ได้เก็บไว้ในที่ใดเลย กรรมคือเจตนา กรรมคือสังขารการประมวล
เมื่อสัตว์ยังข้องอยู่กับภพ ยังยึดถือขันธ์ทั้งหลายอยู่ว่าเป็นตน
เมื่อถึงคราที่ขันธ์ในปัจจุบันถึงกาลอันต้องแตกทำลาย
สัตว์นั้นจึงจุติ พร้อมกับความติดข้องในตัวตนนั้น กรรมก็ประมวลการจุติไปพร้อมกับสัตว์นั้น

กรรมทั้งหลายย่อมให้ผลแก่สัตว์นั้น
การให้ผลของกรรม เรียกว่า วิบากกรรม

สัตว์มีวิบากกรรมเป็นของๆ ตน
วิบากกรรม ย่อมให้ผลแก่สัตว์ผู้ยังข้องอยู่ในขันธ์ทั้งหลายว่าเป็นตน
สัตว์จึงยังต้องปฏิสนธิ หลังจากสัตว์นั้นจุติจากภพหนึ่งสู่ภพหนึ่งทันที ด้วยอำนาจของวิบากกรรมของสัตว์นั้นเอง

ดังนั้น กรรม จึงไม่ใช่สัญญา

เวทนา มีผัสสะเป็นเหตุเป็นปัจจัย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


การถ่ายทอด สัญญา
การถ่ายทอด เวทนา

ระหว่าง ขันธ์ในอดีต กับขันธ์ในปัจจุบัน มีสิทธิ์ เป็นไปได้ ยกตัวอย่างเช่น

เมื่อเช้า เราปวดฟัน จัดเป็นเวทนา ความปวดนั้น ยังคงอยู่ถึงตอนเย็น ทั้งๆ ที่ ผ่านการเกิดดับของขันธ์มา นับตั้งแต่เช้า จนถึงตอนเย็น ไม่รู้กี่ล้านๆ ขันธ์

ส่วนความจำได้ คือสัญญา เรื่องราวผ่านมาหลายปี ยังจำได้ ทั้งๆที่ ขันธ์ผ่านการเกิดดับมา นับไม่ถ้วน

จะจำได้ไปถึง อายุเท่าไร ..................... ไม่มีใครกำหนดได้ เป็นอนัตตา ..... สัญญาอนัตตา

เวทนา จะเจ็บปวด ไปนานกี่วัน ................. ไม่มีใครกำหนดได้ เป็นอนัตตา ..... สังขารเป็นอนัตตา

ขันธ์ในชาตินี้ กับชาติหน้า ช่วงรอยต่อ ก็เป็นเช่นเดียวกัน
บางคน ที่ถูกทำร้าย หรือถูกไฟเผา เจ็บปวดอยู่ ก่อนตาย พอเปลี่ยนภพใหม่ ก็ยังมีเวทนา ตัวนั้นอยู่ เป็นไปได้

ดังที่ปรากฏ ตัวอย่าง เยอะแยะ

สัญญา มีหน้าที่จำ แต่ สติ ทำหน้าที่ ระลึก การระลึกเรื่องเก่าๆ ได้จึงเป็นเรื่องของสติ

ส่วนผลของกรรม นั้น ข้ามภพ ข้ามชาติ ได้เสมอ อยู่แล้ว

Quote Tipitaka:
ก็ความต่างแห่งกรรมเป็นไฉน คือ
กรรมที่ให้วิบากในนรกก็มี
ที่ให้วิบากในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานก็มี
ที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มี
ที่ให้วิบากในมนุษย์โลกก็มี
ที่ให้วิบากในเทวโลกก็มี
นี้เรียกว่าความต่างแห่งกรรม

ก็วิบากแห่งกรรมเป็นไฉน คือ
เราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรมว่ามี ๓ ประการ คือ
กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน ๑
กรรมที่ให้ผลในภพที่เกิด ๑
กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆ ไป ๑
นี้เรียกว่าวิบากแห่งกรรม

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 611&Z=9753

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


medihealing เขียน:
1.กรรมทั้งหลายที่ถูกเก็บไว้ในจิตจนกระทั่งสิ้นสุดชาติภพหนึ่งๆที่จุติจิต และชักนำให้เกิดปฏิสนธิจิต
ในชาติภพต่อไป ขอเรียนถามว่ากรรมเหล่านี้ที่ข้ามภพข้ามชาติ จัดเป็นสัญญาหรือไม่
2.เวทนาเก่าๆทั้งหลายสามารถข้ามชาติข้ามภพได้หรือไม่
ขอบคุณครับ
ภก.พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา
ชมรมจิตวิทยาสมาธิ


ขอตอบเป็นเรื่องราวนะคะ ว่าจะเป็นไปได้ในลักษณะไหน

พวกสัตว์นรกที่ต้องทรมานอยู่ในนรกเป็นเวลานานๆ นั้น เมื่อจุติจากนรกแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์นั้น จะเป็นคนที่มีโทสะแรง เนื่องจากปกตูปนิสสยปััจจัยหรืออุปนิสัยของเค้าตอนที่อยู่ในนรกนั้นมีแต่โทสะเนื่องจาก
ได้รับการทรมาน มีแต่ทุกขเวทนา ดังนั้นเมื่อจุติจากนรกมาปฏิสนธิในภพมนุษย์แล้วนั้น เมื่อคลอดออก
มาจะร้องไห้งอแง เป็นเด็กโมโหร้ายอาละวาด ใครขัดใจไม่ได้ ร้องกรี๊ดๆ ดิ้นพลาดๆ โตขึ้นมาก็จะมีนิสัย
ที่ดุร้าย เป็นคนโทสะแรง โกรธง่าย อะไรนิดอะไรหน่อยก็โกรธ เ็ป็นคนเกเร หยาบคาย สอนให้ดีได้ยาก

ดูจาก ในประมวลปกิณณกธรรม ปุจฉา-วิสัชชนา
ปุจฉา เหตุที่จะให้รู้ว่าเด็กนี้มาจากภูมิไหน จะมีวิธีสังเกตรู้ได้อย่างไร และเหตุที่จะให้รู้ได้ว่าผู้ที่ตายไปแล้วนั้นเกิดภูมิไหน จะรู้ได้อย่างไร ? ให้อธิบาย

วิสัชชนา เหตุที่จะให้รู้ว่าเด็กคนนีมาจากภูมิไหนนั้น มีวิธีที่จะพึงสังเกตุได้ คือ เมื่อเด็กคนใดเกิดมาแล้ว
ครบกำหนด ๗ วัน ถ้าเด็กคนนั้นมีการร้องไห้มากจนผิดธรรมดาก็พึงรู้ได้ว่าเด็กคนนั้นมาจากอบายภูมิ
ถ้าเด็กคนใดมีหน้าตายิ้มแย้มผ่องใสเบิกบานอยู่เสมอแล้วก็พึงรู้ได้ว่าเด็กคนนั้นมาจากสุคติภูมิ คือ
มนุสสภูมิ เทวภูมิ พรหมภูมิ

อีกเรื่องหนึ่งคือ การระลึกชาติได้
อ่านเรื่องที่ท่านพระโสภณมหาเถระ (มหาสีสยาดอ) รจนาไว้เกี่ยวกับอารมณ์ที่ปรากฏก่อนตาย

อีกตัวอย่างหนึ่งเป็นเรื่องชายคนหนึ่งในเมืองเมาะละแหม่ง เมื่อเวลาใกล้ตายได้กล่าวว่าเขาเห็น
เรือนหลังใหญ่สวยงาม นิมิตนี้หมายถึงเทวโลกเช่นเดียวกันกับทานมหาธรรมิกอุบาสกเห็นราชรถจาก
สวรรค์มารอรับ

ส่วนผู้ที่ได้เห็นหมู่บ้านหรือที่พำนักของบิดามารดาในภพใหม่ ก็อาจได้เกิดเป็นมนุษย์
ท่านสยาดอ (พระอาจารย์) รูปหนึ่งในเมืองเมาะละแหม่งได้ถูกโจรฆ่าตาย หลังจากนั้นอีก ๓ ปี
มีเด็กจากเมืองมยิตได้รบเร้าให้บิดามารดาเดินทางไปส่งที่เมืองเมาะละแหม่ง เด็กคนนี้สามารถ
บอกชื่อของสยาดอหลายรูปที่เคยอยู่ในวัดเดียวกันในภพก่อนได้ เขาเล่าว่าเมื่อโจรไม่ได้เงินจากเขา
ตามต้องการจึงได้แทงเขา เขาได้วิ่งหนีไปที่ท่าน้ำ แล้วลงเรือไปที่เมืองมยิต อาศัยอยู่ที่บ้าน
ของพ่อแม่ในปัจจุบัน การวิ่งหนีและการลงเรือเป็นต้นนี้เป็นคตินิมิตของท่านสยาดอนั่นเอง

ผู้ที่จุติจากมนุษย์และปฏิสนธิในภพมนุษย์ต่อทันที (โดยไม่มีการเกิดในภพใดมาคั่นนั้น)
สัญญาจากชาติก่อนจะติดมาค่ะ เพราะเพิ่งผ่านมาไม่นาน เด็กที่เริ่มพูดรู้เรื่อง จะเริ่มพูดถึงชาติก่อน
และคิดถึงคนที่ตนเพิ่งจากมา อยากจะกลับไปพบเจอให้หายคิดถึงค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 22:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกชายคุนน้องน่าจะจุติมาจากสวรรค์ชั้น5หรือ6นะเจ้าค่ะ เพราะลูกคุนน้องไม่มีอาการโคลิค (เด็กร้อง100วันร้องช่วงกลางคืน)ลูกคุนน้องร้องเฉพาะหิวนม นมยัดปากก็หยุด :b32: แต่พอเริ่มโต ถ้าถูกขัดใจก็จะโกรธแบบอาละวาด แต่ถ้าตามใจก็น่ารักสุดๆ :b19: ทำให้รู้เลยว่าเคยชินกับการได้แล้วก็ได้ ไม่เคยชินกับคำว่าไม่ได้ :b13:
ปล.ลูกเทวดา :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2013, 04:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


medihealing เขียน:
1.กรรมทั้งหลายที่ถูกเก็บไว้ในจิตจนกระทั่งสิ้นสุดชาติภพหนึ่งๆที่จุติจิต และชักนำให้เกิดปฏิสนธิจิต
ในชาติภพต่อไป ขอเรียนถามว่ากรรมเหล่านี้ที่ข้ามภพข้ามชาติ จัดเป็นสัญญาหรือไม่

การจะกล่าวอ้างบัญญัติในแต่ล่ะคำ เราต้องแยกแยะให้ถูกว่าตัวไหนเป็นสภาวะธรรม
ตัวไหนเป็นบัญญัติ ก่อนอื่นคุณจะต้องเข้าใจก่อนว่า ในสภาวะธรรมไม่มีเรื่องราวเหมือนกับ
ที่เขียนเป็นตัวหนังสือ

ดังนั้นบัญญัติแต่ล่ะคำเราต้องมีสมาธิพิจารณา อย่าให้ความคิดในส่วนที่เป็นสมอง
มาปนกับอารมณ์อันเกิดจากกระบวนการขันธ์

สัญญาในที่นี้ก็คือ ความหมายรู้ในในอารมณ์ต่างๆ(ไม่ใช่เรื่องเรื่องราวหรือความคิด)
ความหมายรู้ที่เป็นสภาวะสัญญาจะเกิดได้ต้องอาศัยเจตนา(กรรม)

ผลของการข้าภพข้ามชาติเรียกว่า วิบากกรรม
วิบากกรรมมีผลมาจาก กรรมหรือเจตนา
สัญญาก็มีผลมาจาก กรรมหรือเจตนา

ดังนั้นวิบากกรรมอันมีผลมาจากเจตนา ย่อมต้องมีสัญญาตามติดมาด้วย
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ วิบากกรรมเป็นปฏิจจสมุบาท เป็นอัญญมัญญปัจจัย
สัญญาเป็นสวนหนึ่งใน ปฏิจจสมุบาท เป็นเหตุปัจจัยจัยและเป็นอัญญมัญญปัจจัย
หมายความว่า เป็นเหตุให้เกิด และเมื่อเกิดแล้วก็อาศัยกันและกันในวิบากหรือปฏิจจสมุบาทนั้นๆ

medihealing เขียน:
2.เวทนาเก่าๆทั้งหลายสามารถข้ามชาติข้ามภพได้หรือไม่
ขอบคุณครับ
ภก.พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา
ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

เวทนาไม่มีเก่าไม่มีใหม่ เวทนาเป็นธรรมในธรรมชาติ ต่อให้ไม่มีคุณจขกท
เวทนาก็มีอยู่ มันเป็นธรรมฐิติมันต้องอยู่ของมันอย่างนั้น พระพุทธเจ้าไปตรัสรู้ค้นพบเข้า
จึงให้ธรรมนิยามมันขึ้น เช่น ปฏิจจสมุบาท ขันธ์ห้า

การที่คุณจขกทคิดว่าเวทนามีเก่ามีใหม่ ก็เพราะคิดว่าเรื่องราวการจินตนาการคือเวทนา ซึ่งมันไม่ใช่

ตามที่บอกเวทนาเป็นธรรมชาติที่มันตั้งอยู่ของมันเอง ในขณะที่จิตยังไม่เป็นวิญญานไปรู้รูป
หรือยังไม่ปฏิสนธิ์ นั้นคือยังไม่เกิดรูปนามใหม่ เวทนาย่อมไม่สามารถเกิดในสิ่งที่ยังไม่มีไม่ได้

อย่าสับสนเวทนาในปฏิจจสมุบาทกับสัญญาในขันธ์ห้า
ที่บอกว่ามีสัญญาตามติดมาด้วย หมายถึงสัญญาที่เป็นกองทุกข์กองสังขารในปฏิจจสมุบาท
เป็นกองสังขารของรูปนามเก่า ส่วนเวทนาเป็นธรรมใหม่อันเกิดจากรูปนามใหม่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร