bbby เขียน:




คุณน้องคองเขียน




น่าสนใจค่ะคุณน้อง ขอบใจน่ะจ๊ะ ที่คุณน้องเขียนมา
คือตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าจะเขียนอย่างไรดี
เอาเป็นว่า เราขอความรู้จากตัวหนังสือที่เป็นสีแดงด้วยค่ะ

ก็เพราะตัวหนังสือสีแดงนั่นแหละ คุณน้องถึงเข้ามาแสดงความเห็นเพราะไม่อยากให้พี่เต้หลงผิด ถูกอวิชาบดบัง
ตัวคุณน้องเอง เมื่อหมดเหตุปัจจัยหมดภาระหน้าที่สิ่งที่คุณน้องปราถนาก็คืออยู่กับความสงบปราศจากกิเลศเครื่องร้อยรัดทั้งปวง คือคุณน้องไม่อยากให้พี่เข้าใจผิดว่าการอยู่ในโลกแห่งแสงสีจะทำให้พี่เต้ช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ได้ พี่เต้คิดว่าการที่พี่มีเมตาต่อสัตว์ ยกตัวอย่างสุนัข พี่ให้อาหาร ให้ที่พักพิง พี่สามารถช่วยให้เค้าหลุดพ้นทุกข์ได้จริงหรอ ยังไงซะสัตว์เหล่านั้นก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดไปจนกว่ากุศลผลบุญจะนำพาให้มาเกิดเป็นมนุษย์และเห็นแสงพระธรรม พี่เต้รู้ได้ยังไงว่าพี่เต้สามารถช่วยสัตว์เหล่านั้นให้พ้นทุกข์ ช่วยตนเองให้รอดพ้นจากบ่วงมารได้ พี่เต้ไม่กลัวว่าสังสารวัฏจะลากพี่เต้จากที่สูงลงที่ต่ำหรอแล้วถ้าพี่เต้ขาดปัญญาอย่าว่าแต่ช่วยคนอื่นเลย ช่วยตัวเองก็อาจจะทำไม่ได้เพราะไม่มีปัญญาที่จะพาตนเองให้รอดสังสารวัฏ จนถึงฝั่งพระนิพพาน แล้วพี่เต้ก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏแล้วแต่บุญและกรรมที่ตนกระทำมาบรรดาลให้เป็นไป.. ยังไงซะคุณน้องก็ต้องเดินเข้าหาเส้นทางธรรมเมื่อหมดเหตุปัจจัยหมดภาระหน้าที่ของตน ตอนนี้คุณน้องต้องเอาตัวเองให้รอดจากสังสารวัฏอันยาวนาน คุณน้องก็ต้องสร้างเหตุนั้นคือปฏิบัติเพื่อให้เกิดปัญญามีดวงตาเห็นธรรม ไม่ข้องติดใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ถึงชาตินี้คุณน้องจะบวชพระไม่ได้ แต่สวรรค์ก็ไม่ได้ใจร้ายเพราะว่าตอนนี้มีวัดของภิกษุณีแล้ว555 คุณน้องตั้งใจจะบวชและปฏิบัติเพื่อไม่ให้ข้องติดในกามคุณห้าจริงๆ ขอแค่มีความเพียร และคุณน้องอาจจะเกิดดวงตาเห็นธรรมและสามารถชี้หนทางสว่างให้ผู้อื่น ให้ธรรมทานแก่ผู้อื่นเป็นเหตุปัจจัยให้ผู้อื่นเดินอยู่บนเส้นทางสว่างไม่ตกลงไปในโลกที่ชั่ว

คุณเต้ เป็นคนมีจิตใจกว้างขวางนะครับ คือคิดดีต้องการจะช่วยสัตว์โลกให้พ้นจากความทุกข์ สัตว์ที่ว่านี้หมายรวมทั้งหมดคือคนด้วยไหมครับ หรือยังไง

คุณกรัชกายเขียน




ใช่ค่ะคนในความหมายของเรา คือเหล่าวิญญาณสัมภเวสีค่ะ เพราะเห็นพวกเค้าทุกข์มากค่ะ
ถ้าช่วงกลางคืนจะสวดมนต์ แล้วทำสมาธิส่งให้พวกเค้า

แล้วก็ต้องการช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้พวกเค้าได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ
ไม่ใช่แค่ความเมตตาให้อาหารค่ะ เราเคยเจอเหตุการณ์
ที่มนุษย์เรานั้น ช่วยให้วิญญาณของสัตว์เหล่านั้น เปลี่ยนภพภูมิได้

เราก็เลยมีความคิดว่า ถ้าเราบวช เราจะช่วยแค่ตัวเราให้พ้นจากทุกข์
แล้วสัตว์ล่ะ พวกเค้าไม่มีโอกาสเหมือนมนุษย์ เราก็เลยเปลี่ยนความคิดว่า
เราอยู่ในโลกที่มากไปด้วยกิเลสทั้งหลายนี้ ช่วยเปลี่ยนภพภูมิให้สัตว์ดีกว่าค่ะ

คุณน้องคองจ๋า พี่เต้ยืนยันน่ะจ๊ะ ความเมตาจากมนุษย์เรา
ช่วยสัตว์ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีได้จ๊ะ

อ้อ..."คน" ตามความหมายของคุณเต้ ได้แก่ "วิญญาณสัมภเวสี" ถ้ายังงี้นะครับ ก็ทำอย่างที่ทำนั่นแหละครับช่วยเขา อยู่ตรงไหนก็ทำได้

ส่วน "คน" ตามที่กรัชกายเข้าใจ ก็ได้แก่ เราๆท่านๆ มีสองแขนสองขา มีตา มีหู ฯลฯ เดินไปๆมาๆยักย้ายส่ายสะโพกอยู่ในสังคมโลกสังคมเรานี้เอง ที่เห็นๆอยู่นี่แหละ มีสุขบ้างทุกข์บ้าง หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้าง ยามร้ายก็ทะเลาะกันมั่ง ตีกันหัวร้างข้างแตก ... ยามดีกันก็จ๊ะๆจ๋าๆ ฉันรักเธอ เธอรักฉันมั้ย รักนะเด็กโง่ จุ๊บๆๆ จารไนไม่หวาดไหว นี่แหละครับ "คน"

เพลง "คน"

http://www.youtube.com/watch?v=rFpTiUW0rzY

สรุปพี่เต้ต้องการจะบอกว่า ถ้าบวชในพุทธศาสนาไม่สามารถช่วยสัตว์โลก(วิญาณสัมภเวสี ) เพราะถ้าบวชก็ช่วยเพียงแค่ตัวเราคนเดียว ความมีเมตตาของพี่เต้สามารถเปลี่ยนภพภูมิให้เค้าไปอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้น สาธุ สาธุ แต่พี่เต้กำลังเข้าใจผิดว่าพระที่บวชในพุทธศาสนาท่านไม่ใช่แค่ช่วยแค่ตัวท่านเพียงผู้เดียว แต่ท่านเป็นตัวแทนของพระศาสดาเป็นผู้เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านย่อมจะช่วยสัตว์โลก(สัมภะเวสี)ได้กว่ามนุษย์ที่กำลังวุ่นวายกับการทำมาหากิน วุ่นวายกับเรื่องลูกผัวญาติพี่น้อง การที่พี่เต้เข้าใจผิดไปว่าการบวชไม่ได้ช่วยสัตว์โลก(สัมภะเวสี)เพราะช่วยเพียงตนเองหลุดพ้นเพียงผู้เดียว พี่เต้กำลังเข้าใจผิด แค่อานิสงค์ของการแผ่เมตตาของพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หรือพระอริยะเจ้า ท่านก็มีหาประมาณมิได้ และก็มีมากกว่าเพศฆราวาสอย่างเราๆ และการช่วยสัตว์โลกที่เป็นมนุษย์นี่ ก็เป็นการช่วยที่ได้อานิสงค์มากกว่าสัตว์ภพภูมิอื่นเพราะสัตว์ภพภูมิอื่นไม่สามารถเปลี่ยนภพภูมิได้อย่างมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ประเสร็ฐ และการที่จะเปลี่ยนภพภูมิให้มนุษย์อยู่ในภพภูมิที่ดี เราก็ต้องเป็นผู้รู้ เป็นผู้ชี้ทางสว่างให้เขาเป็นผู้ให้ธรรมทานแก่เขา อย่าลืมสิเจ้าค่ะว่าธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง เพื่อให้เค้านำไปปฏิบัติเพื่อเป็นเส้นทางไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้นสูงขึ้นและจนถึงฝั่งพระนิพพาน สัตว์ถึงจะหลุดพ้นได้จริง แต่ผู้จะทำได้ก็ต้องมีปัญญา แล้วอย่างเพศฆราวาสไปบอกเขาไปสอนเขาแต่ตนเองทำไม่ได้ เค้าจะตบกบาลหัวทิ่มให้อ่าดิ แต่ถ้าตัดทางโลกถึงขนาดออกจากกามบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี ไม่ข้องติดใน รูป รส กลิ่น เสียง ถ้าเราเผยแพ่คำสอนของพระศาสดาด้วยความปราถนาอย่างให้คนอื่นหลุดพ้นทุกข์จริง คุณน้องว่ายังไงเค้าก็ต้องเชื่อถ้าเค้ามีศรัทธราในตัวเราแต่ถ้าไม่เชื่อก็เป็นเหตุของเขา ช่วยได้เท่าที่สามารถช่วยได้ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ปล.ประโยคสีแดงคุณน้องขอเพิ่มเติมอีกนิดนึงคือ มนุษย์เป็นสัตว์ประเสร็ฐเพราะว่า กว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น สุดแสนจะยากลำบากเหมือนเต่าทะเลาที่นานๆทีจะโผล่หัวขึ้นมาเหนือน้ำและติดบ่วง และการที่ได้เกิดเป็นมนุษย์แล้วนั้น ถ้าเดินอยู่บนเส้นทางที่ผิดเค้าก็ต้องกลับไปสู่ภพภูมิที่ต่ำกว่ามนุษย์และไม่ได้เห็นธรรมของพระพุทธเจ้า และการได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น เค้าสามารถที่จะได้เห็นแสงแห่งพระธรรมเห็นทางเดินสว่าง ถ้ามีผู้ชี้ทางเขาบอกทางเขา ให้เขาปฏิบัติเพื่อให้ไม่ตกลงไปในภพภูมิที่ต่ำให้เจริญๆๆยิ่งขึ้น การช่วยสัตว์โลกด้วยวิธีนี้ตะหากหละพี่เต้ คือการช่วยอย่างแท้จริง และเป็นไปตามที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าท่านช่วยสัตว์โลก โปรดสัตว์โลก แต่เราก็ช่วยได้ตามเหตุปัจจัย และทำความเพียรให้ยิ่งๆขึ้น

สิ่งที่คุณน้องเขียนมาทั้งหมด นั่นคือบวชพระค่ะ
ท่านเผยแพร่ศาสนา ท่านช่วยอะไรได้ทั้งหมด
ที่คุณน้องเขียนมา ไม่มีอะไรที่ผิดค่ะ
แต่ในความคิดของพี่เต้ สำหรับความรู้สึกของพี่เต้คนเดียวน่ะ
(เดี๋ยวค่อยคุยต่อฝนตกแรง)

ถ้าใครได้พบ ได้เจอ ได้เห็น สัตว์โลกตัวนี้
เมื่อเขามองแล้ว
มีจิตใจที่ดีต่อสัตว์ตัวนี้
มีเมตตาต่อสัตว์ตัวนี้
ปราถนาดีต่อสัตว์ตัวนี้
อยากช่วยเหลือสัตว์ตัวนี้ให้พ้นทุกข์
สัตว์ตัวนี้ ... แม้ได้รับรู้ ... ก็ได้รู้สึกอิ่มใจ...แล้ว
...
ความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้
ก็เป็นเชื้อไฟ(พลังใจ)ให้คนหลาย ๆ คน
ได้มีกำลังใจที่จะแสวงหาความสุข
และพยายามนำพาตัวเองให้ทะยานพ้นจากความทุกข์ได้
...

...เน๊อะ...

คุณเต้ใจดี...
อย่าลืม...ได้โปรดเมตตาต่อสัตว์ตัวนี้ด้วยน๊ะ





เราต่างเป็น "สัตตานัง"
"สัตตานัง" หรือจะช่วย "สัตตานัง" ด้วยกันให้พ้นทุกข์ได้
"สัตตานัง" ต้องอาศัยคำสอนของพระบรมศาสดาผู้รู้แจ้งแล้วใน "วิมุตติ"
เพื่อชี้นำ "สัตตานัง"
เพื่อที่ "สัตตานัง" จะได้อาศัยคำสอนนั้นนำพาตนเองให้พ้นไปจากสภาวะที่เป็นอยู่...



เหมือนพระบรมศาสดาได้จุดเทียนให้แสงสว่าง
และสาวกก็ได้จุดเทียนต่อ ๆ กันมา
และก็ต่อ ๆ กันไป...

เราอยากจะช่วยสัตว์ให้พ้นทุกข์...
และสัตว์จะพ้นทุกข์ได้...
ก็เป็นไปด้วยลักษณะแห่งแสงเทียนและเทียนที่จุดต่อ ๆ กันนั่นล่ะ
เทียนที่ติดไฟและให้แสงสว่าง...สัตว์ย่อมรับรู้ได้
เพียงแค่เราจุดเทียนของเราให้สว่าง...

...

เอาอย่างนี้ก่อนน่ะ สิ่งที่พี่เต้ตั้งใจมากตอนนี้เลยน่ะค่ะ
คือพี่เต้อยากจะช่วยสัตว์ ที่เค้าต้องเกิดมาในรูปของกรรม
คือสัตว์นี่หล่ะค่ะ พี่เต้อยากจะช่วยให้พวกเค้า ได้เปลี่ยนภพภูมิ
อย่างน้อยๆ ให้เค้าได้ไปเกิดเป็นคนค่ะ

ซึ่งพี่เต้เคยเห็นปาฎิหารย์มา2ครั้งแล้ว ว่ามนุษย์เรานั้น ช่วยให้สัตว์เปลี่ยนภพภูมิได้ค่ะ
แต่ทั้ง2ครั้งพี่เต้สวดมนต์ค่ะ ทีนี้ถ้าพี่เต้ไปบวชชี พี่เต้จะช่วยสัตว์เหล่านี้ได้ยังไง
ทีนี้ที่เมืองไทย ก็มีผู้ที่ให้ความเมตตากับสัตว์เยอะมาก
ทีนี้สัตว์ที่นี่ล่ะ

จะบวชหรือไม่บวช ชั่งมันเถิด สำคัญแต่ว่า วันนี้คุณภาวนาหรือยัง