วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 11:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2013, 18:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


สุพรหมเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว

ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า

จิตนี้สะดุ้งอยู่เป็นนิตย์ ใจนี้หวาด

เสียวอยู่เป็นนิตย์ ทั้งเมื่อกิจไม่เกิดขึ้น ทั้ง

เกิดขึ้นแล้วก็ตาม ถ้าความไม่สะดุ้งกลัวมี

อยู่ ข้าพระองค์ทูลถามแล้ว โปรดตรัส

บอกความไม่สะดุ้งนั้นแก่ข้าพระองค์เถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

เรายังมองไม่เห็นความสวัสดีแห่ง

สัตว์ทั้งหลาย นอกจากปัญญาและความ

เพียร นอกจากความสำรวมอินทรีย์ นอก

จากความสละวางทุกสิ่งทุกอย่าง.

สุพรหมเทวบุตรได้กล่าวดังนี้แล้วก็อันตรธานไปในที่นั้นเอง.



บทว่า สุพฺรหฺมา ความว่า ได้ยินว่า เทพบุตรนั้น

อันเหล่าเทพอัปสรห้อมล้อมแล้ว ไปยังสนามกีฬานันทวัน

นั่ง ณ อาสนะที่จัดไว้ ใต้โคนต้นปาริฉัตร เหล่าเทพธิดา

๕๐๐ ก็นั่งล้อมเทพบุตรนั้น.เหล่าเทพธิดา ๕๐๐ ก็ปีนขึ้น

ต้นไม้. ถามว่า ก็ต้นไม้แม้สูง ๑๐๐โยชน์ ก็น้อมลงมา

ถึงมือด้วยอำนาจจิตของเหล่าเทวดามิใช่หรือ เหตุไร

เทพธิดาเหล่านั้น จึงต้องปีนขึ้นเล่า. ตอบว่า เพราะ

เทพธิดาเหล่านั้นสนใจแต่จะเล่น แต่ครั้นปีนขึ้นไปแล้ว ก็

ขับเพลงด้วยเสียงอันไพเราะ ทำดอกไม้ทั้งหลายให้หล่น

ลง เหล่าเทพธิดานอกนี้ (ที่ไม่ได้ปีนขึ้น) เก็บดอกไม้เหล่า

นั้น เอามาร้อยทำเป็นพวงมาลัยขั้วเดียวกันเป็นต้น.

ครั้งนั้น เหล่าเทพธิดา ที่ปีนขึ้นต้นไม้ ก็ทำกาละ

(จุติ)ด้วยอำนาจอุปัจเฉทกกรรม ประหารครั้งเดียว

เท่านั้น ไปบังเกิดในอเวจีนรก เสวยทุกข์ใหญ่.

เมื่อเวลาล่วงไป เทพบุตรก็นึกรำพึงว่า ไม่ได้ยิน

เสียงเทพธิดาเหล่านั้น ดอกไม้ก็ไม่หล่น เขาไปไหนกัน

หนอ. ก็เห็นไปบังเกิดในนรกเกิดรันทดใจ เพราะความโศก

ในของรัก จึงดำริว่า ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ เหล่าเทพธิดา

ก็ไปตามกรรม ตัวเราจะมีอายุสังขารเท่าไรกันเล่าเทพ

บุตรนั้น ดำริว่า ในวันที่ ๗ เราก็จะพึงทำกาละ พร้อมกับ

เหล่าเทพธิดา ๕๐๐ ส่วนที่เหลือ พากันไปบังเกิดในนรก

นั้นเหมือนกัน รันทดระทมเพราะความโศกที่รุนแรง.

เทพบุตรนั้น ก็ดำริว่า ในมนุษยโลกพร้อมทั้ง

เทวโลก นอกจากพระตถาคตแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถ

ดับความโศกของเรานี้ได้ จึงไปเฝ้ากล่าวคาถาว่า

นิจฺจมุตฺรสุตํ ดังนี้เป็นต้น. บรรดาบทเหล่านั้น ด้วยบท

ว่า อิทํ เทพบุตรนั้น แสดงจิตของตน. บทที่ ๒

เป็นไวพจน์ของบทต้นนั่นแหละ. ก็บทว่า นิจฺจํไม่พึงถือ

เอาความว่า จำเดิมแต่กาลที่บังเกิดในเทวโลก.

พึงทราบความนั้นว่าเป็นนิตย์ จำเดิมแต่เวลาที่สะเทือน

ใจ. บทว่า อนุปฺปนฺเนสุ กิจฺเจสุ ได้แก่ ในทุกข์ทั้งหลาย

ที่เกิดขึ้น โดยล่วงไป ๗ วัน แต่วันนี้. ด้วยบทว่า

อโถ อุปฺปตฺติเตสุ จ เทพบุตรนั้นแสดงว่า ข้าแต่

พระผู้มีพระภาคเจ้า ในทุกข์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นแล้วและยัง

ไม่เกิดขึ้นเหล่านี้ อย่างนี้ คือ ในทุกข์ที่ข้าพระองค์ เห็น

นางอัปสร ๕๐๐ บังเกิดในนรก จิตของข้าพระองค์ก็

หวาดสะดุ้งเป็นนิตย์ ข้าพระองค์เป็น

ประหนึ่งถูกไฟเผาอยู่ในอก.

บทว่า นาญฺญตฺร โพชฺฌงฺคตปสา ความว่า

นอกจากการเจริญโพชฌงค์ และ คุณคือตปะ เรามอง

ไม่เห็นความสวัสดีในที่อื่น.บทว่า สพฺพนิสฺสคฺคา ได้แก่

พระนิพพาน. ก็ในบทนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือ

เอาการเจริญโพชฌงค์ก่อน ภายหลังก็ทรงถือเอา

อินทรียสังวรก็จริงอยู่ ถึงอย่างนั้น โดยใจความ

อินทรียสังวร ก็พึงทราบว่า ทรงถือเอาก่อน ด้วยว่า

เมื่อภิกษุถือเอาอินทรียสังวรแล้วก็เป็นอันถือเอาจตุ

ปาริสุทธิศีลด้วย. ภิกษุตั้งอยู่ในจตุปาริสุทธิศีลนั้นเป็น

นิสสัยมุตตกะ ( พ้นจากการถือนิสสัยกับอุปัชฌาย์หรือ

อาจารย์ )สมาทานตปคุณ กล่าวคือธุดงค์เข้าป่า

เจริญกัมมัฏฐาน ย่อมทำโพชฌงค์ให้เกิดมีพร้อมกับ

วิปัสสนา. อริยมรรคของภิกษุนั้น ทำนิพพานธรรม

อันใดเป็นอารมณ์แล้วเกิดขึ้น นิพพานธรรมอันนั้น

ชื่อว่า สัพพนิสสัคคะ.

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปลี่ยนเทศนาเป็นสัจจะ ๔.

เมื่อจบเทศนา เทพบุตรก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล.


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2013, 20:35 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2949


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: สาธุค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร