วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 10:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2013, 09:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจก่อนว่า บวช คือ อะไร? บวชเป็นภาษาไทย
มาจากภาษาบาลีว่า ปวช แปลว่า การเว้นโดยทั่ว กล่าวคือ เว้นจากอกุศล
เว้นจากบาปธรรม เว้นจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง เห็นโทษของการอยู่ครองเรือนว่า
เป็นที่หลั่งไหลมาแห่งอกุศลธรรมทั้งหลายทั้งปวง จึงสละเพศคฤหัสถ์
มุ่งสู่เพศที่สูงยิ่ง คือ เพศบรรพชิต ด้วยความจริงใจ
เพื่อประโยชน์ในการขัดเกลากิเลสของตนเองให้ยิ่งขึ้น จุดประสงค์ของการบวชที่แท้จริง
คือ การขัดเกลากิเลส จนกระทั่งถึงสามารถดับกิเลสได้จนหมดสิ้นถึงความเป็นพระอรหันต์

พระอริยบุคคลทั้งหลายในอดีต มีทั้งผู้ที่เป็นบรรพชิต และเป็นคฤหัสถ์
การอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเอง ไม่ได้จำกัดที่เพศหนึ่ง
เพศใดโดยเฉพาะ ผู้ทีเห็นประโยชน์ของพระธรรม มีศรัทธาที่จะปฏิบัติธรรม ก็ย่อม
ได้ประโยชน์จากการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ผู้ชาย สามารถบวชเณรได้ ไม่จำกัด
ส่วนการบวชพระ ก็สามารถบวชได้หลายครั้ง
แต่มีข้อจำกัด คือ หากสึกออกมา เพราะได้ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ไม่สามารถ กลับ
ไปบวชเป็นพระได้อีก แต่ สามารถบวชเป็นสามเณรได้

-ผู้ชายถ้าบวชพระสามครั้งหรือเกินกว่านั้นเขาว่าไม่ดี คบไม่ได้ใช่ไหมครับ ?
การคบได้ หรือ ไม่ได้ ไม่ได้หมายถึง การบวชจำนวนครั้งที่มาก หรือ น้อย เพราะ
บุคคลที่ควรคบ คือ บุคคลที่มีคุณธรรม ความดี และ บุคคลที่ไม่ควรคบ คือ คนพาล
ที่มากไปด้วยการทำบาป เพราะฉะนั้น แม้จะไม่บวชเลย แต่ ทำบาป เป็นคนพาล มี
ความเห็นผิด ก็ไม่ควรคบ แต่ แม้จะบวชหลายครั้ง แต่เพราะ กิเลส ทำให้สึก แต่ก็
ตั้งใจที่จะอบรมปัญญา คุณความดี และ รู้ตัวว่าไม่ดี ก็อบรมปัญญา ฟังพระธรรม
ก็เป้นบุคคลที่ควรคบ เพราะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นบัณฑิตได้ เพราะฉะนั้น สำคัญที่
คุณความดีในจิตใจ ไม่ใช่อยู่ที่บวชมากแล้วคบไม่ได้

-ควรที่จะได้เข้าใจถึงจุดประสงค์ของการบวชว่า เพื่ออะไร ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น
แต่เพื่อศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลาละคลายกิเลสของตนเอง
ในเพศที่สูงยิ่ง โดยที่ไม่ได้มีข้อจำกัดลงไปตายตัวว่า จะต้องบวชและสึกกี่ครั้ง
ในสมัยพุทธกาล พระภิกษุรูปหนึ่ง ชื่อ จิตตหัตถ์ บวชและสึก ถึง ๗ ครั้ง
แต่ในที่สุดท่านก็ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์และไม่สึกอีกเลย





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2013, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 22:27
โพสต์: 76

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ ครับ ....
แถวบ้านผม ก็ ...บอกเช่นกัน ว่า หญิง 3 ชาย ชายสามโบสถ์ คบไม่ได้
ครับ

เหนื่อยใจ คนเราเอาไปตีความผิดๆ ซะงั่น

.....................................................
".....มหาปุริสภาวสฺส ลกฺขณํ กรุณาสโห....."
".....อัชฌาศัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณาเป็นลักษณะของความเป็นมหาบุรุษ....."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2013, 14:28 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2943


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2013, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงสามหม้า้ย ชายสามโบสถ์ โบราณอาจหมายถึงความมั่นคงบั้นปลายของชีวิต

ที่ว่า หญิงหม้ายเนี่ย ไม่ใช่จะหมายถึงฝา่ยหญิงแต่งงาน 3 ครั้งเสมอไป ยกตัวอย่าง หนุ่มสาวสมัยนี้ ก็ ทั้งคู่รักกัน ตกลงอยู่ด้วยกัน (แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน) ต่างฝ่ายต่างให้สัญญาใจกันและกันว่า เราจะสร้างอนาคตร่วมกัน จะมีนั่นมีนี่ จะซื้อบ้าน ซื้อรถ ว่าไป ทีนี้พออยู่ๆกันไป มีเหตุต้องให้เลิกกัน เช่น ฝ่ายชายไปเจอสาวคนใหม่ ...เลิกกัน ...ผญ.เสียเวลากับชายคนนี้ไป เป็น 10 ปี อายุตัวเองก็ปาเข้า 30 ปลายๆ ใกล้จะ 40 แล้ว (เลิกกันไป 1 ครั้งแล้วนะ) วิมานที่ช่วยกันวาดๆเรื่องบ้าน เรื่องรถ อะไรต่ออะไรที่สัญญากันไว้ ก็จบ....ฝ่ายหญิงเสียอกเสียใจเป็นปี หรือมากกว่าปีหนึ่ง กว่าจะทำใจได้ อายุมากขึ้น ...อยู่ๆมา ฝ่ายหญิง ไปพบชายคนใหม่ ก็เออๆหนอๆ รักกันวาดวิมานร่วมกันกับชายคนใหม่ ...สุดท้ายมีอันเป็นไป เลิกกันอีก...รวม 2 หนแล้วนะ ทรัพย์สินเงินทองอะไรติดตัวก็ไม่มี แยกทางกันก็มีแต่ตัว...ถ้าเป็นยังงี้สักสามหน อายุก็ปาเข้า 50 ขึ้น ใกล้ 60 แล้ว จะเอาแรงที่ไหนไปทำงาน เงินออมก็ไม่มี แล้วบั้นปลายชีวิตจะเอาอะไรกิน เจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายขึ้นมา จะเอาเงินที่ไหนรักษาตัว ไม่มีเงิน ไม่่มีสมบัติ พี่ๆน้องๆหลานๆที่ไหนจะเอาใจใส่ดูแล

นี่ก็ลักษณะญิงสามหม้าย ชีวิตบั้นปลายขาดความมั่นคงในชีวิตความเป็นอยู่ เิงินออมก็ไม่มี แก่ตัวก็ลำบาก

ส่วนชาย 3 โบสถ์ ก็คล้ายกัน ครั้งแรกบวชอายุก็ 20 กว่าแล้ว บวชแรกๆก็มีศรัทธา ทีนี้บวชไปๆ 10 กว่าปี หมดศรัทธา หรือด้วยเหตุใดแล้วแต่ จำต้องสึกออกมา อายุก็ปาเข้าไป 30 ใกล้ 40 แล้ว จะไปทำอะไรเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง...เป็นฆราวาสทำงานอยู่ระยะหนึ่ง 10 ปี ได้ ก็ยังไม่มีเงินเก็บออม ...เบื่อหน่ายเพศฆราวาส แหมลำบากจังกว่าจะได้เงินแต่ละบาท..บวชดีกว่า บวชอีก ...บวชได้สัก 10 กว่าปีได้ เบื่อเพศบรรชิตอีก แหมไม่อิสระจะไปไหนมาไหนก็ลำบาก อาจารย์ก็คอยพร่ำสอนน่าเบื่อ ถ้าแบบนี้ึสึกดีกว่า ...สึกอีก 2 หนแล้วนะ อายุก็มากแล้ว จะไปทำงานทำการอะไร ลองไล่ๆอายุดู ถ้าบวชๆสึกๆสามหนอายุปาเข้าไปเท่าไร จะไปทำอะไรกิน

โบราณท่านจึงพูดไว้ทำนองนั้น คือหญิ่ง 3 หม้าย ชาย 3 โบสถ์ (บวชๆสึกๆสามหน) เอาดีไม่ได้ หมายถึงบั้นชีวิตไม่มั่นคงแก่ตัวลำบาก ดังนั้้นเอายังไงก็เอาให้มันแน่สักอย่างหนึ่ง อย่าบวชๆสึกๆ


ดังนั้น เวลามีภิกษุกระสันจะสึกไปลาพระพุทธเจ้า พระองค์จะให้ไปเก็บก้อนกรวดมา (แล้วสมมติว่าเป็นเงิน) แล้วพระองค์จะแยกๆว่า ส่วนนี่เป็นค่าไถ ส่วนนี่เป็นค่าโค นี่เป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน สรุปแบบชาวบ้านก็ว่า คุณมีเงินเท่าไหร่ ที่ใช้เป็นทุนด้านอาชีพเลี้ยงชีวิต

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2014, 17:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 22:34
โพสต์: 173

ชื่อเล่น: เจ้ก
อายุ: 23

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณกรัชกาย ที่อธิบายได้กระจ่างมากเลยครับ อนุโมทนาสาธุครับ

.....................................................
จะขอเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่า..เพื่อเติมเต็มธรรมที่ขาดหาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2014, 20:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2014, 07:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
จะกี่โบสถ์ ไม่เป็นไร อย่าไปสน
หากเป็นคนไม่ท้อถอยหวังก้าวหน้า
ความล้มลุกคลุกคลานมันธรรมดา
สี่เท้ายังพลาดท่าล้มตะแคง

ปราชญ์บัณฑิต คิดการใหญ่ยังรู้พลั้ง
คนเก่งจังยังตกอับยากจนได้
แต่ผู้เพียรไม่หยุดยั้ง ไม่หย่อนใจ
บวชเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ดีทุกทีเอย

อโศกะ
๑๑/๒/๕๗


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2014, 06:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร