วันเวลาปัจจุบัน 22 มิ.ย. 2025, 18:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2014, 17:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปว่าจะไปไหน ทำอะไร ที่บอร์ดไหนๆ ส่วนมากจะเป็นถาม-ตอบกันทำนองว่า นั่นนี่ก็ไม่ใช่ของเรา กายใจก็ไม่ใช่ของเรา :b1: ชีวิตก็ไม่ใช่ของเรา แล้วมันมีอะไรบ้างไหมที่เป็นของเรา ความดี (ความชั่ว) เป็นของเราไหม ? :b10: :b14:

ไปเห็นมาอีก คือ เขาถามว่า


อ้างคำพูด:
เรียนถามผู้รู้นะคะ
กายไม่ใช่ของเรา ชีวิตไม่ใช่ของเรา สิ่งใด ๆ ไม่ใช่ของเรา แล้วในวัฏสงสารนี้ มีอะไรเป็นของเราบ้างไหมคะ เช่น ความดี รบกวนผู้รู้ค่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2014, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศก ฯลฯ จะตอบเขายังไงครับ :b10: :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2014, 20:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ไม่มีอะไรเลยที่เป็นของเราครับ กาย-ใจ ความดี-ความชั่วเป็นสิ่งสมมติ เป็นเพียงสถานะ
ที่ถูกคำว่าของเราเข้าไปยึดไว้ เมื่อยังมีแรงยึดเราก็ยังคว้าเอาสิ่งทั้งหลายมากำหนดเอาเอง
ว่าเป็นของเรา เมื่อหมดแรงยึดก็แบกเอาไว้ไม่ไหว เกาะไม่ไหว ก็ต้องทิ้งเอาไว้ หลุดลอยไป
เพียงดวงจิต ดวงจิตนี้ก็เกิด-ดับ เกิด-ดับนับไม่ถ้วน ที่ว่าเกิดดับ เมื่อเราตายดวงจิตก็ต้อง
ไปหาร่างใหม่ เมื่อได้ร่างใหม่จิตดวงเดิม ความทรงจำเดิมๆก็ดับไป เกิดเป็นจิตดวงใหม่
ที่จะบันทึกเอาความทรงจำใหม่ๆของชาติภพใหม่ วนไปเวียนมาแบบนั้น จึงไม่มีของเราเลย
แม้แต่จิตก็ไม่ใช่ของเราเพราะจิตนี้ก็เกิด-ดับ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 10:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สมบัติของวัฏสงสารนี้...เป้นสมบัติหรือ..ผลิตผลของอวิชชา...จึง.ไม่มีอะไรเป็นของเรา...จริงๆ..

คุณลักษณะของ..สมบัติอวิชชา..หรือ...สมบัตินองวัฏสงสาร..คือ...มีขึ่นมาแล้วก็สลายตัวไปในที่สุด...
บุญ...เมื่อได้เสวยบุญแล้ว...บุญก็มีการหมดไปได้
บาป...เมื่อได้มีการชดใช้กันไปแล้ว...ก็มีการหมดไปได้

บุญบาป...จึงยังไม่ใช่ของเราอย่างแท้จริง.... .
พระศาสดาจึงไม่สอนให้ไปสวรรค์...มีสวรรค์เป้นสรณะ

สมบัติของวัฏสงสารจึงเป็นของชั่วคราว....การไปยึดไปเยื้อ...หวังให้มันมั่นคงยืนยงอยู่กับเรา...จึงเป็นทุกข์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 11:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศก ฯลฯ จะตอบเขายังไงครับ :b10: :b14:

:b39:
กาย ใจ ไม่ใช่ของเรา นั้นถูกต้องที่สุดแล้วครับ อย่ามัวสงสัยอยู่เลย

เพราะมีกู หรือ มี เรา จิตดวงนี้จึงสืบต่อยืนยาวเวียนวน ตาย เกิดอยู่ไม่รู้จบ

มีกู (เรา) จึงมีเกิด

มีกู จึงมีแก่

มีกู จึงมีเจ็บ

มีกู จึงมีตาย

มีกู จึงมีความเวียนว่ายในวัฏฏะสงสาร

มีกู (เรา) อยู่ จึงมีคำถาม ว่า "กาย ใจไม่ใช่ของเรา แล้วจะมีอะไรเป็นของเรา

หมดกู ก็หมดคำถาม

:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศก ฯลฯ จะตอบเขายังไงครับ :b10: :b14:

:b39:
กาย ใจ ไม่ใช่ของเรา นั้นถูกต้องที่สุดแล้วครับ อย่ามัวสงสัยอยู่เลย

เพราะมีกู หรือ มี เรา จิตดวงนี้จึงสืบต่อยืนยาวเวียนวน ตาย เกิดอยู่ไม่รู้จบ

มีกู (เรา) จึงมีเกิด

มีกู จึงมีแก่

มีกู จึงมีเจ็บ

มีกู จึงมีตาย

มีกู จึงมีความเวียนว่ายในวัฏฏะสงสาร

มีกู (เรา) อยู่ จึงมีคำถาม ว่า "กาย ใจไม่ใช่ของเรา แล้วจะมีอะไรเป็นของเรา

หมดกู ก็หมดคำถาม

:b38:



เมื่อไม่ใช่ตัวกู ของกู แล้วมันเป็นใคร ของใครล่ะงั้น :b10: แล้วใครล่ะทำงาน กินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน นุ่งผ้า เป็นต้น ล่ะงั้น เออๆๆ แล้วใครปวดหัว ตัวร้อน กินยาล่ะงั้นเออๆ ใครล่ะหัวเราะ ร้องไห้ ล่ะอโศก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 18:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธศาสนามีคำสอนว่าด้วยอัตตาหรือตัวตน เราเขา เช่น

อ้างคำพูด:
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ. โก หิ นาโถ ปโร สิยา.

ตนแล เป็นที่พึงแห่งตน คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้.

อตฺตทีปา อตฺตสรณา. จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา. บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ. ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตัว

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช.

หากรู้ว่าตัวนี้เป็นที่รัก ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ



ถ้าอย่างที่ว่ากันมานั้น คำสอนนี้ มิเป็นหมันไปหรือ จะแก้ว่ายังไง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 20:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศก ฯลฯ จะตอบเขายังไงครับ :b10: :b14:

:b39:
กาย ใจ ไม่ใช่ของเรา นั้นถูกต้องที่สุดแล้วครับ อย่ามัวสงสัยอยู่เลย

เพราะมีกู หรือ มี เรา จิตดวงนี้จึงสืบต่อยืนยาวเวียนวน ตาย เกิดอยู่ไม่รู้จบ

มีกู (เรา) จึงมีเกิด

มีกู จึงมีแก่

มีกู จึงมีเจ็บ

มีกู จึงมีตาย

มีกู จึงมีความเวียนว่ายในวัฏฏะสงสาร

มีกู (เรา) อยู่ จึงมีคำถาม ว่า "กาย ใจไม่ใช่ของเรา แล้วจะมีอะไรเป็นของเรา

หมดกู ก็หมดคำถาม

:b38:



เมื่อไม่ใช่ตัวกู ของกู แล้วมันเป็นใคร ของใครล่ะงั้น :b10: แล้วใครล่ะทำงาน กินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน นุ่งผ้า เป็นต้น ล่ะงั้น เออๆๆ แล้วใครปวดหัว ตัวร้อน กินยาล่ะงั้นเออๆ ใครล่ะหัวเราะ ร้องไห้ ล่ะอโศก :b1:

:b47:
เมื่อหมด กู แล้วแต่ยังไม่หมดวิบากแห่งกรรม กาย ใจที่หมดกูนั้นกยังต้องโลดแล่นไปตามอำนาจของวิบาก

ผู้ที่มานั่งบรรลังก์ใจแทน กู นั้นคือ สติกับปัญญา กาย ใจที่หมดกูก้อนนั้นจะดำเนินชีวิตไปด้วย เหตุ ผล การกระทำทุกอย่างจะเป็นเพียงแค่กิริยา เป็นอโหสิกรรมอยู่เรื่อยไป

ภาวะของผู้หมดกูนั้น ใครจะมานึกคิดเดาเอาไม่มีทางเข้าใจได้ ตราบใดที่ยังไม่หมดกูดุจจิตและธาตุขันธ์ก้อนที่หมดกูนั้น
:b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 20:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พระพุทธศาสนามีคำสอนว่าด้วยอัตตาหรือตัวตน เราเขา เช่น

อ้างคำพูด:
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ. โก หิ นาโถ ปโร สิยา.

ตนแล เป็นที่พึงแห่งตน คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้.

อตฺตทีปา อตฺตสรณา. จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา. บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ. ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตัว

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช.

หากรู้ว่าตัวนี้เป็นที่รัก ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ



ถ้าอย่างที่ว่ากันมานั้น คำสอนนี้ มิเป็นหมันไปหรือ จะแก้ว่ายังไง :b1:

:b8:
คำแทนตัวทั้งหมดนั้นจะเป็นเพียงสมมุติบัญญัติเพื่อใช้สื่อสารกันให้รู้เรื่องเท่านั้น แต่ไม่มีความเป็นกูเป็นเราในใจ

คำสอนของผู้หมดกูจะไม่เป็นหมันเมื่อสอนปุถุชนที่ยังมีกู
แต่จะเป็นหมันเมื่อสอนคนที่หมดกูเช่นเดียวกัน
:b46: :b46: :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 20:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านแล้วเหนื่อย.. :b5: :b5:

ตน..ก็คือ.เรานั้นแหละ..แต่เราคืออะไรนั้น...ไม่ต้องไปหา..แค่...เพียงแค่ขจัดส่วนที่เราหลงผิดคิดว่าเป็นเรา...ออกให้หมด...ก็เห็นเอง...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 21:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ่านแล้วเหนื่อย.. :b5: :b5:

ตน..ก็คือ.เรานั้นแหละ..แต่เราคืออะไรนั้น...ไม่ต้องไปหา..แค่...เพียงแค่ขจัดส่วนที่เราหลงผิดคิดว่าเป็นเรา...ออกให้หมด...ก็เห็นเอง...

:b12:

smiley

"ส่วนที เรา หลงผิดคิดว่าเป็น เรา"
s006
s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 21:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ่านแล้วเหนื่อย.. :b5: :b5:

ตน..ก็คือ.เรานั้นแหละ..แต่เราคืออะไรนั้น...ไม่ต้องไปหา..แค่...เพียงแค่ขจัดส่วนที่เราหลงผิดคิดว่าเป็นเรา...ออกให้หมด...ก็เห็นเอง...



ท่านอโศกก็มีวิธีของท่าน คือ นิ่งเฉย ไม่ตะบอย อยู่ปัจจุบันอารมณ์ของท่านไป จนตัวกูตายดับไม่เหลือหรอ :b32:

แต่ท่านกบยังไม่เคยเห็นแนะนำวิธีเลย เอาตัวกูออกยังไงอ่ะ :b10: :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


จะเอาออกไปไหน... :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ่านแล้วเหนื่อย.. :b5: :b5:

ตน..ก็คือ.เรานั้นแหละ..แต่เราคืออะไรนั้น...ไม่ต้องไปหา..แค่...เพียงแค่ขจัดส่วนที่เราหลงผิดคิดว่าเป็นเรา...ออกให้หมด...ก็เห็นเอง...



เอาออกไปไหนนั่นน่ะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2014, 22:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ... :b32:

ขจัดความหลงผิด...ออกไปจากความเข้าใจเดิมๆ

ไม่ได้หยิบจับอะไร..จากไหนไปใว้ตรงไหน...นิ

:b19: :b19: :b11:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร