ตามสบาย
กรัชกายไม่ศึกษาพระสูตรอยู่แล้ว
แต่อยากเป็นศาสดา

เช่นนั้น เขาประสบปัญหา ณ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ ต้องแก้ปัญหา ณ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ อย่าไปอ้างพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระอัสสชิ พระนั่นนี่ ครั้งพุทธกาล

เริ่มต้นเช่นนั้น ก็เข้าใจพระพุทธศาสนา เข้าใจคำสอนผิดแล้วครับ อ้าวนี่พูดจริงๆ เช่นนั้นเลื่อนลอยแล้วครับ

ศีล เป็นความปรกติของความประพฤติทาง กาย ทางวาจา
มีกรรมอันเป็นปรกติ เกิดขึ้นเพราะใจ

จุดสังเกต คือ ใจจะไม่ก่อความเดือดร้อน ความเบียดเบียน ความมัวเมา ให้แสดงออกมาทางกาย และทางวาจา

ปัญหาของกรัชกาย ตอนนี้คือ ความเลื่อนลอยฟุ้งซ่านไปกับนามรูป เพราะความอวดดี
ไปศึกษาพระสูตรเหอะกรัชกาย

ก็เอาไตรสิกขา มาวางดูสิ

การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย ชื่อว่า ศีล

การรักษาใจมั่น ชื่อว่า สมาธิ

ความรอบรู้่ในกองสังขาร ชื่อ ปัญญา


ทำของง่ายๆให้เลอะให้ยาก เออ

เป็นบุญจริงวันนี้ ที่ได้เห็นตัวตน เห็นความคิดเช่นนั้น ชัดแจ๋วเลย ปาดโธี เขาจะเป็นจะตายวันนี้ บอกไปให้ฟังธรรมฟังเทศน์พระสารีบุตร พระอัสสชิ ฯลฯ โน้น จบครับนาย

กรัชกาย โง่ไปจนตาย เถอะครับ
ไปไม่เป็นแถไม่ออก จมอยู่กับความฝันฟุ้งไปกับนามรูปต่อไปครับ

สุดๆเลยเช่นนั้น เจ้าป่าเจ้าเขา โอ แล้วแบบนี้ คำสอนของพระพุทธเจ้าจะมีประโยชน์อะไรต่อคนในวันนี้หนอ พุทโธ ธัมโม สังโฆ แล้วพวกเรานี่จะเพ้อฝันกันไปอีกนานเท่าไรหนอ

คำสอนของพระพุทธองค์ มีประโยชน์
เพียงแต่กรัชกายไม่เข้าไปศึกษา
กรัชกาย ก็คงต้อง งงงวย กับและสงสัยอยู่ร่ำไปว่า "พวกเรานี่จะเพ้อฝันกันไปอีกนานเท่าไหร่หนอ"

ok มีประโยชน์รัับได้ ดังนั้น เช่นนั้น นำคำสอนที่ว่ามีประโยชน์มาแบให้ดูสักข้อสิขอรับ

เข้าไปศึกษาเองครับ

เหมือนเดิม ไปหาเอง จบข่าว

ใจสั่นไหว.....เป็นทุกข์

ผู้คิดจะทำอะไรไม่ดี....เบียดเบียนผู้อื่น...ผู้นั้นย่อมเบียดเบียนตนเองก่อน...เสมอ...ครับ

เห็นด้วยครับ
กายกรรม ก็ตาม วาจีกรรมก็ตาม
กรรมในที่นี้ จึงก่อจากใจเสมอครับ
ส่วนร่างกาย เคลื่อนไหวอย่างไรก็เป็นไปตามอำนาจของใจที่ก่อกรรมชนิดนั้นๆ