วันเวลาปัจจุบัน 07 พ.ย. 2025, 06:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เส้นทางชีวิตของมนุษย์ คุณคิดว่าใครคือผู้กำหนด
กรรมและเหตุ ที่เคยสร้างไว้ใช่หรือไม่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เราถูกกำหนดโดยกรรมและเหตุปัจจัย
ทำให้วงล้อของวิถีชีวิตดำเนินไปตามแรงกรรม
เพราะเหตุนี้ชีวิตคนเราจึงแตกต่างกัน สุขทุกข์ไม่เท่ากัน กิเลศมากน้อยแตกต่างกันไป ดีเลวไม่เสมอกัน เกิดมารวยหรือจน สวยหรือ หล่อ ขี้เหร่ก็กรรมจัดสรร เคยรู้สึกไหมว่า บางครั้งเราอยากมีชีวิตเป็นอย่างนี้ ไม่อยากมีชีวิตเป็นแบบที่ตนเป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะกรรมกำหนด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 14:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
เส้นทางชีวิตของมนุษย์ คุณคิดว่าใครคือผู้กำหนด
กรรมและเหตุ ที่เคยสร้างไว้ใช่หรือไม่


พระพุทธองค์...ทรงสอนใว้..ไม่ให้คิดว่า..หรือ..เชื่อว่า...ที่เราเป็นอยู่นี้เป็นเพราะ..กรรมในอดีตเป็นผู้กำหนดให้เป็น..ให้เรามี...ในปัจจุบัน

ท่านตรัสทำนองว่า...หากพราหมณ์เหล่าใดมีทิฏฐิเช่นนี้...ท่านจะตรัสถามพราหมณ์เหล่านั้นทำนองว่า...ถ้ากรรมเก่ากำหนดให้ท่านต้องฆ่าสัตว์..ต้องลักทรัพย์..ฯลฯ...ให้ท่านต้องกระทำผิดเป็นข้าศึกต่อพรหมณ์จรรย์...ท่านจักกระทำตามนั้นมั้ย?

จริงอยู่...ในขณะเดียวกัน...พระพุทธองค์ก็ยังสอนว่า...ไม่มีอะไรไม่เกิดจากเหตุ..เหตุนั้นเราเป็นผู้กระทำเอง

ทั้งสองอย่างนี้..ไม่ขัดกันนะครับ

ในความคิดของผม...กรรมในอดีตไม่ว่าดีหรือชั่ว...เราต้องได้รับ...แต่เราก็มีสิทธิที่จะกระทำกรรมใหม่ๆ ณ. ปัจจุบัน...ว่าเราจะทำกุศล..หรือ..อกุศล...จะตกอยู่ในวัฏฏะสงสารหรือจะออกจากวัฏฏะวน...จะทุกข์ต่อไปหรือจะพบสุขอย่างยิ่ง....อันนี้เราเลือกได้...เลือกกระทำได้

และ...การเลือกกระทำกรรมใหม่ๆในปัจจุบัน..นี้แหละ...มันก็จะกลายเป็นกรรมในอดีตของวันพรุ่งนี้ไปโดยปริยาย

คำตอบว่าใครเป็นผู้กำหนด...จึงกลายเป็นว่า...เรา..ณ. ปัจจุบันนี้แหละ...ถ้าคิดดีมีวิชชา..ก็ไปสุคโต...ถ้าคิดไม่ดีมีมานะทิฏฐิ...ก็เวียนว่ายต่อไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 14:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ กบ เขียน


อ้างคำพูด:
ในความคิดของผม...กรรมในอดีตไม่ว่าดีหรือชั่ว...เราต้องได้รับ...แต่เราก็มีสิทธิที่จะกระทำกรรมใหม่ๆ ณ. ปัจจุบัน...ว่าเราจะทำกุศล..หรือ..อกุศล...จะตกอยู่ในวัฏฏะสงสารหรือจะออกจากวัฏฏะวน..จะทุกข์ต่อไปหรือจะพบสุขอย่างยิ่ง....อันนี้เราเลือกได้...เลือกกระทำได้


:b8:

ผู้ที่จะออกจากวัฎฎะวนได้ จะต้องทำอย่างไร
ในเมื่อยังต้องใช้ชีวิต อยู่ในโลกที่มีแต่กิเลส
:b41: :b55: :b48:


แก้ไขล่าสุดโดย bbby เมื่อ 14 ธ.ค. 2014, 15:03, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้องเขีย



อ้างคำพูด:
เราถูกกำหนดโดยกรรมและเหตุปัจจัยทำให้วงล้อของวิถีชีวิตดำเนินไปตามแรงกรรมเพราะเหตุนี้ชีวิตคนเราจึงแตกต่างกัน สุขทุกข์ไม่เท่ากัน กิเลศมากน้อยแตกต่างกันไป ดีเลวไม่เสมอกัน เกิดมารวยหรือจน สวยหรือ หล่อ ขี้เหร่ก็กรรมจัดสรร เคยรู้สึกไหมว่า บางครั้งเราอยากมีชีวิตเป็นอย่างนี้ ไม่อยากมีชีวิตเป็นแบบที่ตนเป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะกรรมกำหนด



บางครั้งพี่เต้ก็คิดแบบคุณน้องเขียนนี่หล่ะค่ะ
คิดว่าชีวิตที่มันเกิดขึ้นทุกวันนี้
มันไม่ใช่สิ่งที่เราคิดหรือนึก แต่สิ่งเหล่านี้
เข้าในชีวิตของเราได้ยังไง
เพราะฉนั้นอะไรล่ะ ที่ทำให้สิ่งต่างๆเข้ามา
ในชีวิต

หนทางที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดได้
จะต้องทำอย่างไร มนุษย์เราหนีกรรม
หรือเหตุที่สร้างไว้ไม่ได้จริงๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 15:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณ กบ เขียน


อ้างคำพูด:
ในความคิดของผม...กรรมในอดีตไม่ว่าดีหรือชั่ว...เราต้องได้รับ...แต่เราก็มีสิทธิที่จะกระทำกรรมใหม่ๆ ณ. ปัจจุบัน...ว่าเราจะทำกุศล..หรือ..อกุศล...จะตกอยู่ในวัฏฏะสงสารหรือจะออกจากวัฏฏะวน...จะทุกข์ต่อไปหรือจะพบสุขอย่างยิ่ง....อันนี้เราเลือกได้...เลือกกระทำได้


:b8:

ผู้ที่จะออกจากวัฎฎะวนได้ จะต้องทำอย่างไร
ในเมื่อยังต้องใช้ชีวิต อยู่ในโลกที่มีแต่กิเลส
:b41: :b55: :b48:

ผู้หมดกิเลส...ก็ล้วนอยู่ในโลกที่มีกิเลส..ทุกคนครับ

ส่วน...ทำอย่างไรนั้น...ก็ต้องทำอย่างที่พระพุทธองค์ตรัสรู้
ท่านตรัสรู้..อริยะสัจ4...เราก็ไปดูว่า..อริยะสัจสี่..มีอะไร...รู้อะไร
ท่านตรัสสอนทางดำเนิน..คือ..โพธิปักขิยธรรม 37 เราก็ไปดู..ไปศึกษา

คนที่จะไปได้...บารมี10 บุญกริยาวัตถุ 10 ต้องครบ...ต้องพบกัลยาณมิตรที่มีกัลยาณธรรม..จุดนี้สำคัญนะครับ..
กัลยาณมิตรสำคัญนะครับ..ไม่งั้นอ่านหนังสือก็ได้แค่อ่านไปงั้นๆ...

ทีนี้...จะพบกัลยาณมิตร(ตัวเป็นๆ)ยังงัย?...ต้องได้...อธิฐานครับว่า...ขอทำนิพพานในชาตินี้..และขอละสิ่งที่เคยอธิฐานเก่าก่อนทั้งหมดด้วย...(เอาชัวร์..เพราะไม่รู้ว่าเราได้อธิฐานก่อนมาเกิดรึเปล่า)...ซึ่งเป็น 1 ในบารมี10...

แล้ว...เราจะพบกัลยาณมิตรคู่ปรับของเรา...ทีนี้...จะเรียนจะรู้อริยะสัจสี่...จะเรียนโพธิปักขิยธรรม 37...ก็จะซึมเข้าไปในใจได้...ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 15:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2011, 09:13
โพสต์: 73


 ข้อมูลส่วนตัว


เส้นทางชีวิตของมนุษย์ คุณคิดว่าใครคือผู้กำหนด
กรรมและเหตุ ที่เคยสร้างไว้ใช่หรือไม่

ตัวเราเป็นผู้กำหนดตัวเราเอง เส้นทางอันยาวไกลมีอยู่เส้นทางนึงมีจุดสิ้นสุด คือเส้นสาย อริยะ อย่างน้อยชาตินี้ต้องละสังโยชน์ 3 ประการเบื้องต้นอย่างมากไม่เกิน 7 ชาติ หากคลาดจากเส้นทางนี้ ก็คงอีกนาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เอ่อ..ถ้าเรามีสัจจะวาจาตั้งใจอธิษฐานบารมี ขอนิพพานหลุดพ้นจากวัฏฏะในชาติปัจจุบันนี้...
แล้วประกอบกับผู้นั้นมีความเพียรและบารมีถึงขั้นสามารถปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้นได้ตามสัจจะอธิษฐานตน..คุนน้องว่ากระแสแห่งกรรมจะเหวี่ยงให้เราได้พบกับกัลยามิตรรวมถึง คู่กรรมคู่เวร :b5: และเจ้าหนี้หลายภพชาติจะมารอจ่อบัตรคิวชำระหนี้สิน อย่างแน่นอน.แต่จะมาในรูปแบบใดก็ไม่รู้(ที่กล้าพูดเพราะเจอมากับตัวเอง)..มันจะต้องผ่านบททดสอบค่ะ เรียนรู้ทุกข์ระดับตั้งแต่อนุบาล..ประถม..มัธยม..และปริญญา :b32: จนจบหลักสูตรของความทุกข์ เมื่อมันทุกข์จนขี้เกียจทุกข์เพราะเจอสารพัดทุกข์นั้นเอง จนเห็นแจ้งในทุกข์จนไม่เอาแล้วทกข์ ไม่มีอะไรในโลกนี้สามารถทำให้ทุกข์ได้อีก ถึงจะจบหลักสูตร ได้นิพพาน เป็นใบประกาศนียบัตร :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 15:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8612


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
บางครั้งพี่เต้ก็คิดแบบคุณน้องเขียนนี่หล่ะค่ะ
คิดว่าชีวิตที่มันเกิดขึ้นทุกวันนี้
มันไม่ใช่สิ่งที่เราคิดหรือนึก แต่สิ่งเหล่านี้
เข้าในชีวิตของเราได้ยังไง
เพราะฉนั้นอะไรล่ะ ที่ทำให้สิ่งต่างๆเข้ามา
ในชีวิต

หนทางที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดได้
จะต้องทำอย่างไร มนุษย์เราหนีกรรม
หรือเหตุที่สร้างไว้ไม่ได้จริงๆ


ชีวิตเราเกิดมาไม่ใช่จะอาศัย "กรรม" เพียงอย่างเดียว
ยังมี จิต, อุตุ, อาหาร, อีก ที่เป็นปัจจัยที่สนับสนุนกันเกิดขึ้น
เมื่อ กรรม, จิต, อุตุ, อาหาร, เหล่านี้ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปการเกิดขึ้นก็เกิดไม่ได้

การเกิดขึ้นของชีวิตโดยอาศัยเหตุเหล่านั้น
ธรรมที่เป็นเหตุให้รูปเกิดขึ้นนั้น มีอยู่ ๔ อย่าง คือ

๑. กรรม ๒. จิต ๓. อุตุ ๔. อาหาร

๑. กรรม หมานถึงการกระทำที่เกี่ยวด้วย กาย วาจา ใจ เป็นกุศลบ้าง เป็น อกุศลบ้าง
ที่ได้ทำมาแล้วในภพก่อนหรือภพนี้ ได้แก่ กรรม ๒๕ คือ เจตนาที่อยู่ใน อกุศลจิต ๑๒
มหากุศลจิต ๘ รูปวจรกุศลจิต ๕ รวมกรรม ๒๕ นี้ ทำให้กัมมชรูป
เกิดขึ้นในสันดานของสัตว์ทั้งหลาย ทุก ๆ ขณะของจิต นับตั้งแต่ปฏิสนธิจิตเป็นต้นมา

๒. จิต ได้แก่ จิต ๗๕ (เว้นทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ อรูปวิบาก ๔ ปฏิสนธิจิต
ของสัตว์ทั้งหลาย และจุติจิตของพระอรหันต์) เจตสิก ๕๒ ที่ในปัจจุบันภพ ทำให้
จิตตชรูปเกิดขึ้นในสันดานของสัตว์ทั้งหลาย ทุก ๆ อุปปาทักขณะของจิตนับตั้งแต่ปฐมภวังค์
ที่ต่อจากปฏิสนธิจิตเป็นต้นมา

๓. อุตุ ได้แก่ สีตเตโช ความเย็น อุณหเตโช ความร้อน ที่อยู่ภายในสัตว์และภายนอกสัตว์
ทำให้อุตุชรูปเกิดขึ้น สำหรับภายในสัตว์ให้เกิดขึ้นทุก ๆ ขณะจิต นับ ตั้งแต่ฐีติขณะ
ของปฏิสนธิจิตเป็นต้นมา ส่วนความเย็นและความร้อนอยู่ภายนอกสัตว์นั้น เวลาใดปรากฏเกิดขึ้น
เรียบร้อยแล้ว เวลานั้นทำให้อุตุชรูปเกิดขึ้นได้เรื่อย ๆ ไปไม่ขาดสาย

๔. อาหาร ได้แก่ โอชาที่อยู่ในอาหารต่าง ๆ ทำให้อาหารชรูปเกิดขึ้นในสันดาน
ของสัตว์ทั้งหลายทุก ๆ ขณะของจิต นับตั้งแต่โอชาของอาหารนั้นแผ่เข้าไปในร่างกายของสัตว์นั้น ๆ
เรียบร้อยแล้ว

อยากทราบรายละเอียดมากกว่านี้ โปรดศึกษาในพระอภิธรรมัตถสังคหะนั้นเถิด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 16:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8612


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ผู้ที่จะออกจากวัฎฎะวนได้ จะต้องทำอย่างไร
ในเมื่อยังต้องใช้ชีวิต อยู่ในโลกที่มีแต่กิเลส
:b41: :b55: :b48:

การจะออกจากวัฏฏะได้นั้นก็อาศัยธรรมชาตินี้แหละ ที่เป็นกุศลบ้างอกุศลบ้างเหล่านี้
เป็นเครื่องพิจารณาเป็นการกระทำให้กุศลเกิดขึ้นเพื่อชำระอกุศลที่เป็นตัวเหนี่ยวรั้งให้อยู่ในวัฏฏะ
การทำกุศลที่จะออกจากวัฏฏะได้นั้นก็ต้องเป็นการทำกุศลที่เจริญขึ้นติดต่อกัน
กุศลนั้นได้แก่การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ที่เป็นมรรคกุศลที่ตัดวงจรวัฏฏะได้ ถึงเป็นพระอริยะบุคคล

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 16:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว




9.2pic.gif
9.2pic.gif [ 47.89 KiB | เปิดดู 5849 ครั้ง ]
การที่เราจะออกจากวังวนในวัฏฏสงสารนี้ได้ ต้องทำลายตัวอวิชชา(ความไม่รู้ตามความเป็นจริง)นี่แหละครับ
ถ้าเราทำลายตัว อวิชชาลงได้เมื่อไหร่ได้ก็เท่ากับตัดวงจรที่จะเป็นปัจจัยในการเกื้อกูลให้มีการเกิดต่อไป ที่เรียกว่า
"ปฏิจสมุปบาท" เพราะถ้าไม่มีการเกิดก็ย่อมจะไม่มีทุกข์อีกต่อไปครับ

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 17:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ กบฯ เขียน

อ้างคำพูด:
คนที่จะไปได้...บารมี10 บุญกริยาวัตถุ 10 ต้องครบ...ต้องพบกัลยาณมิตรที่มีกัลยาณธรรม..จุดนี้สำคัญนะครับ..
กัลยาณมิตรสำคัญนะครับ..ไม่งั้นอ่านหนังสือก็ได้แค่อ่านไปงั้นๆ...

ทีนี้...จะพบกัลยาณมิตร(ตัวเป็นๆ)ยังงัย?...ต้องได้...อธิฐานครับว่า...ขอทำนิพพานในชาตินี้..และขอละสิ่งที่เคยอธิฐานเก่าก่อนทั้งหมดด้วย...(เอาชัวร์..เพราะไม่รู้ว่าเราได้อธิฐานก่อนมาเกิดรึเปล่า)...ซึ่งเป็น 1 ในบารมี10...




นี่คือเหตุผลหนึ่งค่ะที่เราไปเชียงใหม่ เราก็ไม่ได้อธิฐานอะไร

ผลปรากฏว่าเจอแต่กิเลสล้วนๆเลย :b41: :b55: :b47:


แก้ไขล่าสุดโดย bbby เมื่อ 14 ธ.ค. 2014, 17:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 17:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ หัสพล พวงแก้ว เขียน

อ้างคำพูด:
การที่เราจะออกจากวังวนในวัฏฏสงสารนี้ได้ ต้องทำลายตัวอวิชชา(ความไม่รู้ตามความเป็นจริง)นี่แหละครับ
ถ้าเราทำลายตัว อวิชชาลงได้เมื่อไหร่ได้ก็เท่ากับตัดวงจรที่จะเป็นปัจจัยในการเกื้อกูลให้มีการเกิดต่อไป ที่เรียกว่า
"ปฏิจสมุปบาท" เพราะถ้าไม่มีการเกิดก็ย่อมจะไม่มีทุกข์อีกต่อไปครับ



คุณหมายถึง การหยุดการปรุงแต่งใช่หรือไม่ค่ะ :b8:
:b41: :b55: :b47:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


bbby เขียน:
เส้นทางชีวิตของมนุษย์ คุณคิดว่าใครคือผู้กำหนด
กรรมและเหตุ ที่เคยสร้างไว้ใช่หรือไม่


กราบเรียนท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติอย่างนี้นะครับ

โลกนี้ใครสร้าง
ไอโฟนใครสร้าง
ไมโครซอฟต์ใครสร้าง

คนสร้างนั่นแหล่ะครับกำหนด

หากมองอีกด้านนะครับ ถ้าท่านคิดว่าไม่มีใครสร้างสรรพสิ่ง

ทุกสิ่ง เกิดขึ้นเอง ตั้งอยู่เอง ดับไปเอง ด้วยตัวของมันเอง
ไม่มีใครสร้าง ไม่มีใครกำหนด มันมีของมันอยู่แล้ว เราแค่
บังเอิญเกิดมารับรู้ว่าทุกสิ่งเป็นอย่างไรก็เท่านั้นเอง

พยายามทำความเข้าใจนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนธรรมดา
ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนเลยครับ

รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับใช้ท่านนะครับ ขอให้ท่านค้นหาคำตอบให้พบนะครับ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 06:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:


นี่คือเหตุผลหนึ่งค่ะที่เราไปเชียงใหม่ เราก็ไม่ได้อธิฐานอะไร

ผลปรากฏว่าเจอแต่กิเลสล้วนๆเลย :b41: :b55: :b47:

:b12: :b12:

เจอแล้ว....ทำงัยต่อ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron