วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 19:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 18:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


'วัดเสือ' ยังวุ่น ! พระ-เณรปักหลักขวางรถ จนท. ขนหมีควาย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 เม.ย. 2558 07:59
รูปภาพ
วัดป่าหลวงตามหาบัว เมืองกาญจน์ ยังวุ่น! หลวงตาจันทร์ นำพระเณร ปักหลักขวางหน้ารถ จนท. ขนหมีควาย 6 ตัว ที่ถูกอายัด หลังไม่มีอยู่ในบัญชีของกลาง และทางวัดไม่มีเอกสารการครอบครองมาแสดงได้ ยังเจรจาไม่ได้...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 เม.ย. 58 นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทน์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า อุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย สพ.ญ.ศิรินทิพย์ เข็มทอง สัตวแพทย์ประจำสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมทีมงานสัตวแพทย์ และ พ.ต.ท.วัตรไชย รอดไหม รอง ผกก.สส.สภ.ไทรโยค ร.ต.กล้า แหวนเครือ นายทหารชุดควบคุมกรมทหารราบที่ 29 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 136 (ไทรโยค) เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง พร้อมกำลัง พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มค.289/2558 ลงวันที่ 2 เม.ย. 2558 เดินทางไปที่วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อยึดหมีควายจำนวน 6 ตัว ที่ถูกขังอยู่ในกรงขนาดใหญ่

นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า เดิมทีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบไมโครชิพเสือของกลางทั้งหมดที่มีอยู่ จำนวน 146 ตัว เพื่อนำไมโครชิพไปเปรียบเทียบกับไมโครชิพของเสือ จำนวน 3 ตัว ที่มีข่าวว่าถูกขโมยออกไปจากวัดเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งเราได้พยายามดำเนินการที่จะตรวจสอบให้แล้วเสร็จมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเราไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของวัดเท่าที่ควร ซึ่งวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เราก็ได้เข้ามาขอตรวจสอบไมโครชิพของเสืยอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะทางวัดไม่ยอมส่งเจ้าหน้าที่มาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

ขณะกำลังเดินทางกลับเจ้าหน้าที่พบกรงเหล็กขนาดใหญ่ จึงเข้าไปตรวจสอบว่า ภายในกรงมีอะไร ก็พบหมีควาย หรือหมีดำ สัตว์ป่าคุ้มครอง (ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535) อยู่จำนวน 6 ตัว ดังนั้น วันนี้เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปขอหมายค้นจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเข้ามาตรวจสอบหมีที่พบ และจากการนำบัญชีสัตว์ป่าของกลางที่กรมอุทยานฯ เคยฝากให้วัดเลี้ยงดู ก็พบว่า หมีทั้งหมดไม่มีอยู่ในบัญชีของกลาง อีกทั้งทางวัดไม่มีเอกสารการครอบครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงต้องทำการอายัด พร้อมนำหมีทั้ง 6 ตัว ไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

รูปภาพ
ด้านนายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ขั้นตอนของการที่จะนำหมีออกมาจากกรงได้นั้น เราวางแผนเอาไว้ 2 วิธี คือ ให้หมีเดินเข้ามาภายในกรงที่เราเตรียมเอาไว้ และวิธีการวางยาสลบ ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดเราได้เตรียมเอาไว้หมดแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่จากการวางแผนที่จะให้หมีเดินเข้ามาในกรงเองนั้น เราได้ลองทำดูแล้วปรากฏว่าไม่ได้ผล อีกทั้งอากาศค่อนข้างร้อนทำให้หมีนั้นหงุดหงิดง่าย เราจึงจำเป็นต้องใช้วิธีที่สองคือการวางยาสลบ ซึ่งการวางยาสลบ จะทำให้หมีสลบภายในเวลา 15 นาที และจะฟื้นตัวภายใน 15 นาทีเช่นกัน ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่จะต้องรีบนำหมีเข้ากรงที่เราเตรียมเอาไว้ให้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์วุ่นวายและชุลมุนเกิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ได้วางยาหมีควายทั้ง 6 ตัวแล้วเสร็จ และได้นำหมีเข้ากรงพร้อมทั้งนำขึ้นรถบรรทุกของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุงเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องขนย้ายหมีทั้งหมดออกมานอกเขตวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ก่อนเวลา 18.00 น. ตามที่หมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี กำหนดเวลาเอาไว้

เมื่อเจ้าหน้าที่เคลื่อนขบวนรถบรรทุกหมีมาถึงประตูทางออกในเวลาประมาณ 17.00 น. ปรากฏว่า พระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส พร้อมพระสงฆ์ สามเณรกว่า 100 รูป รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเสือทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาปิดล้อมขบวนรถของคณะเจ้าหน้าที่เอาไว้ซึ่งพระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงตาจันทร์ ได้นั่งและยืนขวางรถบรรทุกหมีเอาไว้ พร้อมตะโกนประกาศขอยอมตาย พร้อมกับหมีทั้ง 6 ตัว ขณะเดียวกัน พนักงานและเจ้าหน้าที่ของวัดทั้งไทยและต่างชาติต่างร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ส่วนพนักงานผู้ชายจำนวนหนึ่งต่างก็มีปากเสียงกับคณะเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง พร้อมทั้งขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะเจ้าหน้าที่อย่างไม่ลดละ ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย และเกิดการกระทบกระทั่งกันทั้งสองฝ่าย คณะเจ้าหน้าที่พยายามอธิบายเหตุผลต่างๆ นานา แต่ทุกคนก็ไม่ใส่ใจ

เวลาผ่านไปกว่า 30 นาที นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง จึงตัดสินใจอ่านหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ให้กับทุกคนรวมทั้งพระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส ได้รับฟัง แต่เจ้าหน้าที่ทางฝ่ายของวัดก็ยังไม่ยินยอม ถึงแม้จะมีการอ่านหมายศาลให้ทราบก็ตาม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของวัดเป็นชายฉกรรจ์ 2 คน ได้เกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายให้ชายทั้งสองคนเข้าใจว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการขัดหมายศาล ซึ่งทั้งสองก็ไม่สนใจ ในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ทราบชื่อต่อมา คือ นายสมเจตน์ จันทร์ดี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/7 หมู่ 15 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และนายอำนาจ จันทร์ที อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/3 หมู่ 2 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

ต่อมา เวลาประมาณ 17.45 น. พระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส ได้นำพระสงฆ์พร้อมสามเณร มานั่งเรียงแถวขวางรถบรรทุกหมีทั้ง 6 ตัวเอาไว้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมากั้นด้านหน้าเอาไว้ พร้อมทั้งย้ายโครงเหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กันมาตั้งขวางเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง

ขณะเดียวกัน คณะสัตวแพทย์ของกรมอุทยานฯ ได้คอยดูแลสุขภาพของหมีทั้ง 6 ตัว ที่อยู่ในกรงบนรถบรรทุกอย่างตั้งใจ เพราะอากาศในช่วงดังกล่าวค่อนข้างร้อนอบอ้าว จึงเกรงว่าหมีอาจจะเกิดอาการหงุดหงิดและส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะหมีควายเพศผู้ อายุประมาณ 7-8 ปี มีน้ำหนักถึง 450 กิโลกรัม

จากเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้น หลัง นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ได้รับรายงานเหตุการณ์ จึงมอบหมายให้นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รอง ผวจ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายณรงค์ ไพศาลทักษิณ ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอไทรโยค พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อประชุมหารือ เพื่อหาทางออกร่วมกันกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เข้าไปตรวจยึดหมีควาย โดยมี พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ภักดิ์จรุง รองประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ เป็นตัวแทนเข้าประชุมหารือ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ได้ไปนิมนต์พระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส ที่นั่งขวางรถบรรทุกหมีอยู่ เพื่อมาพูดคุยตกลงเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่พระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงตาจันทร์ ไม่ยอมมาตามที่คณะเจ้าหน้าที่นิมนต์ ดังนั้น คณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงเดินเข้าห้องประชุมหารือกันอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รอง ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวภายหลังเพียงสั้นๆ ว่า หลังจากประชุมครั้งแรกก็ได้ไปนิมนต์เจ้าอาวาสมาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก แต่ทางเจ้าอาวาสก็ไม่ยินยอม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้านสัตวแพทย์หญิง สุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวว่า หลังจากมีการขัดขวางไม่ให้มีการขนย้ายหมี สิ่งที่คณะสัตวแพทย์เป็นห่วงที่สุด คือ สุขภาพของหมีทุกตัวที่อยู่ในกรง ซึ่งก่อนที่จะนำหมีเข้ากรงคณะสัตวแพทย์ ได้ทำการวางยาสลบไปแล้วครั้งหนึ่ง และหากมีการนำหมีกลับไปไว้ที่วัด ก็คงจะไม่สามารถทำได้ เพราะหากนำหมีกลับไปลงที่กรงในช่วงเวลากลางคืน จะเกิดอันตรายต่อคนและสัตว์ เพราะหมีเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย อาจจะทำร้ายคนได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน และหากให้ยาสลบอีกครั้งหนึ่ง ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เพราะมันเป็นจรรยาบรรณของแพทย์ เราจะไม่มีการให้ยาสลบเป็นครั้งที่สองติดต่อกันเช่นนี้ และมีทางเดียวที่จะให้หมีปลอดภัย คือ จะต้องรีบขนย้ายหมีทั้งหมดไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จ.ชลบุรี ให้เร็วที่สุด หรือไม่ก็ต้องรีบนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน หรือเขาประทับช้างที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว

ด้านนายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้ กล่าวว่า หลังจากมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น อีกทั้งทางเจ้าอาวาสก็ไม่ยินยอมให้นำหมีออกไปจากวัด และหลังจากมีการหารือกับรอง ผวจ.กาญจนบุรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความว่าให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่ขณะที่เวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมง ทางวัดก็ยังคงนั่งขวางรถบรรทุกหมีอยู่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะได้เฝ้าดูสถานการณ์ไปจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคณะเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทราบแล้ว

จนถึงเวลา 22.00 น. พระเณรและเจ้าหน้าที่ของวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ หยุดสวดมนต์ จากนั้นช่วยกันจัดพื้นที่บนถนนหน้ารถบรรทุกหมี เป็นที่นอนพักค้างแรม เพื่อขวางมิให้เจ้าหน้าที่นำหมีควาย 6 ตัว ที่ถูกตรวจยึดออกไปจากวัด โดยเจ้าอาวาสประกาศให้กรมอุทยานฯ นำหมีไปไว้ที่เดิม

ส่วนเจ้าหน้าที่ยังคงปักหลักเฝ้าของกลาง โดยนายเชิดชาย จริยะปัญญา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เดินทางมาอำนวยการควบคุมสถานการณ์ ส่วน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรีนำกำลัง ตร.สภ.ไทรโยค และ ตร.สืบจังหวัด ลงพื้นที่เข้าร่วมกับ ทหาร ร้อย ควบคุม รส.ร.29 พล.ร.9 ร่วมดูและรักษาความสงบ และสั่งเตรียมพร้อม ตร.ปราบจราจลเพื่อลงพื้นที่ร่วมรักษาความสงบ

ส่วนนายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผวจ.กาญจนบุรี สั่งให้นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รอง ผวจ.กาญจนบุรี ประสานพระผู้ใหญ่ที่ปกครองฝ่ายธรรมยุต ในพื้นที่กาญจนบุรี และ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจ.กาญจนบุรี ร่วมลงพื้นที่เพื่อร่วมเจรจาให้วัดป่าหลวงตามหาบัวยอมดำเนินการตามกฎหมาย โดยนัดหมายในช่วงเช้า ซึ่งมีการจัดกำลังอส.จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมดูแลความสงบด้วย

ส่วนสภาพของหมีควาย 6 ตัว ที่อยู่ในกรงที่ถูกนำมาวางไว้ที่กระบะหลังรถบรรทุกของกรมอุทยานฯ น่าจะอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง เพราะยาสลบเริ่มหมดฤทธิ์ ทำให้หมีเริ่มมีอาการตื่นกลัว และอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ เพราะถูกขังในกรงนานกว่า 14 ชม. จากเวลา 16.00 น. (2 เม.ย.) ถึงเวลา 06.00 น. (3 เม.ย.)

โดยนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งการให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมดดูแลของกลางอย่างเคร่งครัด โดยห้ามเคลื่อนย้ายหมีของกลางลงจากรถบรรทุก และมีการสั่งการระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากอุทยานฯ ต่างๆ ให้เดินทางจากพื้นที่ต่างๆ เข้ามาสมทบสนับสนุนปฏิบัติการเคลื่อนย้ายของกลางในครั้งนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 20:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


วัด...มีหมีควาย..ผิดกฎหมาย...แต่วัดทำถูก...ที่จะกันไม่ให้เอาหมีควายไป
เจ้าหน้าที่...ทำถูกกฎหมาย...แต่ทำไม่ถูก...ที่ดึงดันจะเอาไปให้ได้..

ทำไมไม่ฟ้องศาล...ส่วนของกลางก็อายัดใว้..ให้วัดเลี้ยงต่อระหว่างฟ้องศาล..ตรวจดีเอ็นเอใว้เป็นหลักฐานก็พอ...

ทำตามกฎหมายได้..แต่อย่าทำร้ายจิตใจกัน

ปัดโถ่.... s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 20:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มาดูว่า..เลี้ยงหมีควาย..เลี้ยงเสือ..ผิดศีลของพระหรือเปล่า?

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 920&Z=2832

อ้างคำพูด:
จุลศีล
ดูกรอัมพัฏฐะ อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล?
๑. ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางทัณฑะ
วางศาตรา มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ ข้อนี้
เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๒. เธอละการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ รับแต่ของที่เขาให้ ต้องการแต่ของ
ที่เขาให้ ไม่ประพฤติตนเป็นขโมย เป็นผู้สะอาดอยู่ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๓. เธอละกรรมเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติห่างไกล
เว้นขาดจากเมถุนอันเป็นกิจของชาวบ้าน แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๔. เธอละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดแต่คำจริง ดำรงคำสัตย์มีถ้อยคำ
เป็นหลักฐานควรเชื่อได้ ไม่พูดลวงโลก แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๕. เธอละคำส่อเสียด เว้นขาดจากคำส่อเสียด ฟังจากข้างนี้แล้วไม่ไปบอกข้างโน้น
เพื่อให้คนหมู่นี้แตกร้าวกัน หรือฟังจากข้างโน้นแล้วไม่มาบอกข้างนี้ เพื่อให้คนหมู่โน้นแตกร้าว
กัน สมานคนที่แตกร้าวกันแล้วบ้าง ส่งเสริมคนที่พร้อมเพรียงกันแล้วบ้าง ชอบคนผู้พร้อมเพรียง
กัน ยินดีในคนผู้พร้อมเพรียงกัน เพลิดเพลินในคนผู้พร้อมเพรียงกัน กล่าวแต่คำที่ทำให้คน
พร้อมเพรียงกัน แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๖. เธอละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบกล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษ เพราะหู ชวนให้รัก
จับใจ เป็นของชาวเมือง คนส่วนมากรักใคร่ พอใจ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๗. เธอละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำที่เป็นจริง
พูดอิงอรรถ พูดอิงธรรม พูดอิงวินัย พูดแต่คำมีหลักฐาน มีที่อ้าง มีที่กำหนด ประกอบด้วย
ประโยชน์ โดยกาลอันควร แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๘. เธอเว้นขาดจากการพรากพืชคามและภูตคาม.
๙. เธอฉันหนเดียว เว้นการฉันในราตรี งดจากการฉันในเวลาวิกาล.
๑๐. เธอเว้นขาดจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่น อันเป็นข้าศึก
แก่กุศล.
๑๑. เธอเว้นขาดจากการทัดทรงประดับ และตบแต่งร่างกาย ด้วยดอกไม้ของหอมและ
เครื่องประเทืองผิว อันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว.
๑๒. เธอเว้นขาดจากการนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่.
๑๓. เธอเว้นขาดจากการรับทองและเงิน.
๑๔. เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหารดิบ.
๑๕. เธอเว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ.
๑๖. เธอเว้นขาดจากการรับสตรีและกุมารี.
๑๗. เธอเว้นขาดจากการรับทาสีและทาส.
๑๘. เธอเว้นขาดจากการรับแพะและแกะ.
๑๙. เธอเว้นขาดจากการรับไก่และสุกร.
๒๐. เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา.
๒๑. เธอเว้นขาดจากการรับไร่นาและที่ดิน.
๒๒. เธอเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรมและการรับใช้.
๒๓. เธอเว้นขาดจากการซื้อการขาย.
๒๔. เธอเว้นขาดจากการโกงด้วยตราชั่ง การโกงด้วยของปลอม และการโกงด้วย
เครื่องตวงวัด.
๒๕. เธอเว้นขาดจากการรับสินบน การล่อลวง และการตลบตะแลง.
๒๖. เธอเว้นขาดจากการตัด การฆ่า การจองจำ การตีชิงการปล้น และกรรโชก
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
จบจุลศีล
.
s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คงต้องบอกให้หมีควาย..แผ่เมตตาให้ จนท..ทั้งหลายชีวิต..สัตเพสัตตา อเวราโหตุ..
เบียดเบียนกันเข้าไป..พวกใจสกปรก..กับสัตว์น่าสงสารยังไม่เว้น!!
แปลกไหมล่ะ..ทำไมพระเหล่านั้นถึงปกป้องหมีควายทั้ง 6 ตัว...แล้วทำไมหมีควายได้มาอยู่ในวัด..ถ้าไม่มีบุพกรรมร่วมกัน..


แก้ไขล่าสุดโดย nongkong เมื่อ 03 เม.ย. 2015, 20:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 20:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:
หาไม่มี..แฮ่ะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 20:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สัตว์ที่บ้าน...ผมเลี้ยงเขามาตั้งแต่เกิด..หรือไม่ก็ตั้งแต่เด็กเล็ก...หลงทางมาบ้าง...อยากมาเองบ้าง...มาแล้วก็คลอดลูกให้บ้าง... :b9: :b9: จะรู้นิสัยเขาเป็นอย่างดี..ว่าตอนไหนต้องทำยังงัย...หรือไม่ควรทำอะไรกับเขา...

บางตัวก็พิการ...ต้องพาขี้พาเยี่ยว...ทำทุกวัน..2 ปีมาแล้ว...จึงไม่ได้ไปเที่ยวไหนๆกะเขา..

เลี้ยงมากะมือ...เลี้ยงเหมือนลูก...

จึงพอจะเข้าใจหัวอกของพระท่านที่เลี้ยง..มา...นะ :b2: :b2: :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
สัตว์ที่บ้าน...ผมเลี้ยงเขามาตั้งแต่เกิด..หรือไม่ก็ตั้งแต่เด็กเล็ก...จะรู้นิสัยเขาเป็นอย่างดี..ว่าตอนไหนต้องทำยังงัย...หรือไม่ควรทำอะไรกับเขา...

บางตัวก็พิการ...ต้องพาขี้พาเยี่ยว...ทำทุกวัน..2 ปีมาแล้ว...จึงไม่ได้ไปเที่ยวไหนๆกะเขา..

เลี้ยงมากะมือ...เลี้ยงเหมือนลูก...

จึงพอจะเข้าใจหัวอกของพระท่านที่เลี้ยง..มา...นะ :b2: :b2: :b2:

:b20: :b20: ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เข้าใจว่าวัดจะเอาสัตว์ไปกักขังไว้เพื่ออะไร
ถ้าเลี้ยงเพื่อความเมตตา สัตว์จะต้องมีความเป็นอิสระสิ
แต่นี่เอาสัตว์ไปกักขัง ไม่เข้าใจ :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


การถูกพรัดพรากจากผู้มีอุปการะคุนที่ตนเคารพรัก..ช่างน่าสงสารและเจ็บปวด.. :b2: ต้องไปอยู่กับคนที่ไม่เคยผูกพันธ์..คนที่ไม่ได้เมตตา..มันจะเป็นยังไง :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ กบฯ เขียน

อ้างคำพูด:
สัตว์ที่บ้าน...ผมเลี้ยงเขามาตั้งแต่เกิด..หรือไม่ก็ตั้งแต่เด็กเล็ก...หลงทางมาบ้าง...อยากมาเองบ้าง...มาแล้วก็คลอดลูกให้บ้าง... :b9: :b9: จะรู้นิสัยเขาเป็นอย่างดี..ว่าตอนไหนต้องทำยังงัย...หรือไม่ควรทำอะไรกับเขา...

บางตัวก็พิการ...ต้องพาขี้พาเยี่ยว...ทำทุกวัน..2 ปีมาแล้ว...จึงไม่ได้ไปเที่ยวไหนๆกะเขา..

เลี้ยงมากะมือ...เลี้ยงเหมือนลูก...

จึงพอจะเข้าใจหัวอกของพระท่านที่เลี้ยง..มา...นะ :b2: :b2: :b2:




สิ่งที่คุณกบฯเขียนมา นั่นคือผู้ที่มีเมตตา คือเป็นรูปแบบของฆราวาส

แต่ที่วัดนั่นคือสัตว์ป่านะ พวกมันน่าที่ จะได้อยู่ตามธรรมชาติของพวกมัน
แล้วถ้าบวชเป็นพระแล้วยังยึดติดอยู่ ทีนี้จะไปสอนผู้อื่นให้ปล่อยวางยังไงหล่ะ :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ไม่เข้าใจว่าวัดจะเอาสัตว์ไปกักขังไว้เพื่ออะไร
ถ้าเลี้ยงเพื่อความเมตตา สัตว์จะต้องมีความเป็นอิสระสิ
แต่นี่เอาสัตว์ไปกักขัง ไม่เข้าใจ :b41: :b55: :b49:


ไม่ทราบ..เหมือนกันว่า...วัดได้มาอย่างไร

แต่หากปล่อยตามพื้นที่...ที่เขาล่ากันเป็นปกติแล้ว..ละก้อ
มันก็น่าคิดนะว่า...อิสระ..ไม่ถูกขัง..กับถูกขัง...อันไหนจะดีกว่ากัน
:b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


นั่นคือกรรมของสัตว์ค่ะคุณกบฯ :b1:
กิจของสงฆ์คืออะไรค่ะ
ท่านบวชเพื่ออะไรค่ะ :b1: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:

สิ่งที่คุณกบฯเขียนมา นั่นคือผู้ที่มีเมตตา คือเป็นรูปแบบของฆราวาส

แต่ที่วัดนั่นคือสัตว์ป่านะ พวกมันน่าที่ จะได้อยู่ตามธรรมชาติของพวกมัน
แล้วถ้าบวชเป็นพระแล้วยังยึดติดอยู่ ทีนี้จะไปสอนผู้อื่นให้ปล่อยวางยังไงหล่ะ :b41: :b55: :b49:


ยึดติด...หรือไม่ยึดติด...จะดูที่อาการกริยาภายนอกอย่างเดียว..ยังไม่ได้ครับ

บางครั้ง...ผมก็เคยคิดนะ..ว่า..อาจยอมลงนรก...ถ้าจะแลกกับให้ใครบางคนหรือหลายๆคนมีไม่ทุกข์...พอจะมีความสุข...

(เพราะ..รู้ว่านรก...คืออะไร...ไม่ได้ขี้โกงนะเอ้า)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
นั่นคือกรรมของสัตว์ค่ะคุณกบฯ :b1:
กิจของสงฆ์คืออะไรค่ะ
ท่านบวชเพื่ออะไรค่ะ :b1: :b41: :b55: :b49:


มันเป็นกรรมหมดแหละครับ...แล้วที่กำลังทำ..ก็คือกรรมใหม่
ถ้าลูกๆผม..มีกรรมจะต้องตาย...ด้วยถูกรถทับ..รถชน...ตายก่อนอายุไข...ผมจะสวดมนต์...ทำสมาธิ..ทำบุญ...ทำกุศล...อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรเขา...ต่อรองยืดอายุเขาห้ถึงที่สุด...เผื่อว่า...ระหว่างที่เขาอายุยาวขึ้น...จะได้ยินผมสวดมนต์...เผื่อเขาจะชอบบทสวดมนต์ที่ผมสวด...ให้บทสวดมนต์ติดใว้ในใจเขา...เขาก็มีสิทธิ์ที่จะบรรลุธรรมในชาติต่อๆไปของเขาได้...

แค่นี้..ก็ชื่นใจแล้วครับ...วิเศษที่สุดแล้วสำหรับสัตว์เดรัจฉานอย่างเขา..

กิจของสงฆ์..คือ...ทำตามที่ตนตั้งปรารถณาใว้เพื่อพระนิพพาน..ครับ

นิพพาน..ก็เข้าได้ 3 ประเภทครับ...คือเป็นพระพุทธเจ้า...เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า..หรือไม่ก็.เป็นพระอรหันตสาวก..ครับ

ดูย่ากวนอิมซิครับ....


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 03 เม.ย. 2015, 21:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 21:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
นั่นคือกรรมของสัตว์ค่ะคุณกบฯ :b1:
กิจของสงฆ์คืออะไรค่ะ
ท่านบวชเพื่ออะไรค่ะ :b1: :b41: :b55: :b49:

พี่เต้มีญานเห็นกรรมของสัตว์หรือค่ะ..ถึงกล้าพูดว่าว่ากรรมคืออะไร...
สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้คือกรรมของสัตว์..แล้วกิจของสงฆ์ไม่มีกรรมอะไรทำให้เกี่ยวข้องกับสัตว์เลยหรอค่ะ...พี่เต้ไม่รู้เรื่องกรรม..อย่าให้ร้ายพระสงฆ์ดีกว่า..มันบาป..พี่เต้ไม่มีญานทัศนะที่จะไปรู้กรรมของสัตว์..พระบวชไม่ใช่จะตัดกรรมที่มีเหตุต่อกันได้..พระหลายๆท่านก็ยังเอาชนะกรรมไม่ได้เลย..
ทุกอย่างมันเกิดเพราะกรรมร่วมกันทั้งนั้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร