ทุกท่านเคยสงสัยพระนามที่เป็นบาลีบ้างหรือเปล่า

อันดับที่1ที่มาแรงคือสัตว์สัญญลักษณ์ที่ใช้แทนชื่อ
อยตัวอย่าง พระสมณะโคดม(วัว) พระนรสีหะ(สิงห์)

อันดับที่2คือเหตุการณ์สำคัญ เช่น พระปทุมุตระ ประทุหมายถึงการลงอเวจี สัตว์ที่เห็นอเวจีบ่อยคือพระยานาค

อันดับที่3คือทิฐิประจำตัว อย่าง พระตัณหังกโร ถนัดการละพยศของสรรพสัตว์

ปล.มิน่าคุณน้องเอาแต่เก๋งGใส่เราเพราะธรรมชาติผิดจะหรูดต่อกัน ตั้งแต่ตารับรูปเอาไปในมโนทวาร

...

เห็นคุณยุทธแล้วนึกถึงท่านผู้หนึ่งจริง ๆ...

ตอนแรกไม่เข้าใจเท่าไหร่..เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติม..
ที่แท้พระตัณหังกะโร คือ พระพุทธเจ้า..
นี้เป็นข้อมูลพระนามพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ตั้งแต่ปัจจุบันไปถึงอดีต..

http://forums.apinya.com/%E0%B8%AD%E0%B ... B8%95.html
ทำไมอายุของมนุษย์ในสมัย..พระพุทธเจ้าในอดีตถึงได้อายุยาวนานเป็นหมื่นๆปี...มนุษย์ยุคนี้ไม่ได้เศษขี้ฝุ่นมนุษย์ยุคนั้นเลย..หลังจากนี้ความเสื่อมทรามจะทวีขึ้นเรื่อยๆและรุนแรงที่สุดเมื่อเข้าสู่ยุคมิคสัญญี..เมื่อมนุษย์ผู้มีศีลรอดพ้นจากยุคนั้น..ถึงตระหนักในความเสื่อมทราม..หันมารักษาศีล..เจริญภาวนา..อายุขัยก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ...จนเข้าสู่ยุคพระศรีอริยะเมตไตย.

คุนน้องก็ไม่ค่อยเข้าใจธรรมชาติของตนเท่าไหร่..
แต่รู้ว่า..พวกมนุษย์ใจคับแคบ..อคติ..ชอบแต่คำรื่นหู..จะเข้ากันกับธาตุในตัวเราไม่ได้..ถ้าจะยกตัวอย่าง ทฤษฎีพี่เอกอนคือ คลื่นสอดแทรก..ทำให้เกิดการ overdrive แบบ การรวมกันแบบเสริม
และแบบ หักล้างกัน
ซึีงคุนน้องเข้าได้กับเฉพาะ กลุ่มคนในลักษณะพิเศษ..ซึ่งเป็นกลุ่มโดยเฉพาะเท่านั้น ..
เปรียบเทียบ กร๊ปเลือดให้เห็นชัดเจน
คุนน้องกร๊ป O เลือดที่มีคุนสมบัติที่ถ่ายให้กรุปอื่นๆได้..แต่ตนเองเข้าได้เฉพาะกร๊ปเดียวกัน

แปลกจังคุณลูกหว้าอยากรู้ ...

คุณ enlight น่ะ
แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณพงษ์จะเป็นคุณ enlighted นะ
เพราะ enlighted ที่เอกอนเคยสนทนาด้วย ท่านเพี้ยน-แสบ-คัน-ข่วน หนัก
ชนิดที่ว่า ถ้าท่านมาละเลงฝีมือที่นี่ รับรอง ลานป่วน

เพราะ ถ้าเป็นคุณ enlighted ที่เอกอนเคยได้สนทนาด้วย
ท่านสนทนาได้อย่างชนิดที่ว่าไม่เคยกลัวหน้าอิฐหน้าพรหมอะไรเรย...นะ

จนใครก็ยากที่จะสนทนากับท่านได้
แต่ทุก ๆ การสนทนา ท่านจะสอดแทรกการฝึกหัดให้กับผู้สนทนาตลอดเวลา

บางครั้งคนที่ใจกว้างดั่งผืนฟ้า แต่วาจาและการกระทำอาจจะเหมือนเหล็กแหลม เพื่อฝึกคน
เอกอนใจเย็นได้ง่ายขึ้น วางใจต่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รู้สึกเป็นสุขในใจได้ง่ายขึ้น
และก็เรียนรู้ที่จะใจกว้างให้มากขึ้น
ก็เพราะ ทัศนะที่ท่าน enlighted ได้เคยอบรมไว้

คือ... ...คนอื่นที่เคยสนทนากับท่าน อาจจะมองว่าท่านแสบ ท่านเพี้ยน
แต่เอกอนไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นเลย...



ส่วนที่คุณยุทธทำให้เอกอนมักนึกถึงท่าน enlighted เพราะ คุณยุทธชอบมีเรื่องแปลก ๆ
และชอบมีเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้ามานำเสนอน่ะ...

ตอนที่เอกอนสนทนากับท่าน enlighted
เอกอนต้องมีความตื่นตัวต่ออารมณ์ตัวเองตลอดเลย

ต้องเรียนรู้ที่จะเท่าทัน และเรียนรู้ที่จะปรับอารมณ์ตลอดเวลา
บอกตรง ๆ ว่าตลอดเวลา เพราะสำหรับท่านแล้วทุกเวลาคือการปฏิบัติ
ท่านไม่มีเวล่ำเวลา การรู้เท่าทันจิตต้องเป็นไปในตลอดเวลา

ท่านจะคอยหาเรื่องมารบกวนใจเราอย่างสุด ๆ สุด ๆ จริง ๆ เชื่อเถอะ
ท่านจะตอกย้ำ จนกว่าเราจะเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันได้

งั้นของพี่เอกอน..คือคลื่นสอดแทรก ทำให้ overdrive ไปในทิศทาง แบบรวมเสริมกัน...
คือมองเห็นจุดบกพร่องและเรียนรู้ที่จะรับมือ..
ใช่มั้ยค่ะ
แต่บางคนอาจจะเกิดการ overdrive แบบหักล้าง..
คือมองเห็นว่าท่าน enlighted มีข้อเสีย..ไม่น่าสนทนาร่วม..เพราะเกิดความรำคาญ..ทำให้เกิดการหักล้างและเข้ากันไม่ได้..ซึ่งเสียโอกาสที่จะเรียนรู้ในแง่ที่..พัฒนาใจตน..ยกระดับจิตตน
เลยไม่สามารถเรียนรู้ความใจกว้างเป็นอย่างไร..
ความวางเฉยในสิ่งปรุงแต่งเป็นอย่างไร..และพวกนี้คงอีกนานกว่าจะเห็นไตรลักษณ์..

อย่างคุนน้อง..เจอทั้งพี่โฮฮับกับพี่กรัชกาย..
ทั้ง overdrive ทั้ง overload. .แต่คุนน้องกลับระลึกถึงทั้ง 2 คน ที่เหมือนครูสอนให้รู้แจ้งในไตรลักษณ์

ก็ แต่ละท่านก็จะมีเอกลักษณ์ให้ระลึกถึงได้เหมิดล่ะ



อีกคน ท่านบิ๊ก โผล่มาทักอยู่อยู่แว๊บ ๆ หายไปอีกแร๊ะ

แปลกจังพี่เอกอนพูดถึง ท่านบิ๊ก..
เมื่อคืนคุนน้องเข้าไปห้องอภิญญา..เว็ปแห่งนึง..
เจอแกกับคุนนพ...กำลังวาทกรรมกันเรื่อง..คุนธรรมอันวิเศษในตน.. แต่กระทู้นั้นหัวข้อ วิบากกรรมที่ไปขัดขวางผู้อื่น สนทนาธรรมตามกาล..(แต่วันนี้ดันไม่เห็นกระทู้..สงสัยโดนลบ)
ซึ่งคุนน้องรู้สึกเกิดการ overdrive กับคุนนพ..(ไม่ใช่แบบหักล้างนะ)
เหมือนรู้สึกว่าท่านมีอะไรบางอย่าง..ที่อยากค้นหา
นี่ไงเจอเเล้ว
http://board.palungjit.org/f4/%E0%B8%A7 ... 47889.html

เป็นอีกกรณี...ที่...

...จริง ๆ ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลยนะ

ในคืนหนึ่ง พี่เอกอนฝันว่าได้รับไข่ไดโนเสาร์มา 1 ฟอง ทั้งก้อนสีเหมือน โอปอล



และไข่นั้นก็ฟักออกมาเป็น มังกร สีโอปอล์สุกสว่าง
ชาวบ้านมองว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งประหลาด อัปมงคล ต่างพากันไล่ล่า เพื่อทำลาย

พอวันต่อมา ก็ปรากฎชื่อ enlighted ขึ้นที่ลานแห่งนี้

แต่ก็ไม่ใช่แค่นั้น ในการเกิด Overdrive เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน
มันมีชุด Key Word ปรากฎอยู่ในหัวพี่เอกอนด้วย
นั่นคือสิ่งที่พี่เอกอนจะต้องเรียนรู้ที่จะต้องฝึกฝนมันในช่วงเวลาต่าง ๆ

ซึ่งเมื่อท่าน enlighted สนทนาจะมีชุดคำพูดหนึ่งที่ท่าน enlighted ใช้อยู่เป็นประจำ
เป็นหลักในการวางใจ ซึ่งชุดวาทะนั้น ตรง Key Word ที่มีอยู่ในใจ

เรื่องความมหัศจรรย์ของ Key Word ต้องให้ อ๊บซ์ นำเสนอ

...บางครั้ง เราก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมเราจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา
คนที่คนส่วนใหญ่...ต่างแผ่นออกห่าง
ซึ่งในลานแห่งนี้ผู้ที่ดูจะมีภูมิความรู้ทางธรรมดี ๆ ก็มีตั้งมากมาย
แต่เรากลับเดินเข้าไปหาคนที่นำเสนอธรรมที่แปลกออกไปจนถึงขั้นล่อแหลม
เพราะถ้าใช้ ตรรกะในการพิจารณา มันเป็นการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผลเลย
แต่... สิ่งที่ทำให้เราปรากฎขึ้นมาบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เรื่องราวของ ตรรกะ
แต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ จิต ซึ่ง ตรรกะ ความคิด เข้าไปไม่ถึง
จริง ๆ ก็กลัวที่จะเดินเข้าไปสนทนากับท่าน enlighted
แต่นั่นเราก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้า Key Word นี้โผล่มา
นั่นคือ เราต้องฝึกที่จะเอาชนะความกลัว ความหวาดระแวง ให้ได้
เราต้อง เชื่อใจ ไว้ใจ วางใจ คนที่เรารู้สึกว่ายากที่จะเชื่อใจ ไว้ใจ วางใจ เขาให้ได้
ต้องฝึกที่จะทิ้งตัวตน เพราะถ้าตัวตนมันหนา ความรู้สึกที่เข้ามารบกวนจิตใจก็เยอะ

ก็ฝึก และก็ยังคงฝึก

เอกอนนี้ก็ปะหลาดคน...ดีนิ..

...

จำกระทู้นี้ได้มั๊ย



จริง ๆ ลืมไปแล้ว แต่พอได้ระลึกถึงท่าน enlighted ก็เลยได้ย้อนกลับไปดูเรื่องราวในอดีต

viewtopic.php?f=1&t=38944&hilit=enlighted&start=15





บางครั้ง เมื่อเวลานั้น เราก็ไม่รู้จะกล่าวถึงสิ่งที่ดำเนินไปว่าอย่างไร

พูดไป ใครจะเข้าใจ ... เพราะมันเป็นเรื่องประหลาด กับ คนประหลาด ๆ ...

ความจำดีแท้....
..
อิอิ..

กระทู้...ของคุณน้ำอันนั้น..ลืมไปสนิท...
ใครที่เข้าใจว่าพระพุทธเจ้า..ยุคของเรา...เป็นแค่จำมาจากที่ใครไม่รู้ส่งจิตสื่อมาให้..นั้นนะ...

ก็น่าสงสารเขานะ...