วันเวลาปัจจุบัน 08 ต.ค. 2025, 01:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2015, 09:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5387


 ข้อมูลส่วนตัว


เจตนาที่เราคิดว่าจะทำความดีในครั้งแรกนั้น
เป็น "ตัวกุศลที่แท้จริง" คือ ความดีในขั้นแรก
เปรียบเหมือนกับเราตั้งใจปลูกต้นไม้ไว้ต้นหนึ่ง
.
ต่อมาเมื่อเราบำเพ็ญทาน
ก็เปรียบเหมือนเราหาปุ๋ยไปใส่ไว้ที่โคนต้นไม้นั้น
รักษาศีล ก็เท่ากับเราคอยระวัง
เก็บตัวบุ้งตัวหนอนที่มันจะมาคอยกัดกินดอกกินใบ
และทำอันตรายแก่ต้นไม้นั้น
.
ส่วนภาวนา ก็เท่ากับเราไปตักน้ำเย็นๆ
ที่ใสสะอาดมารดที่โคนต้น
ไม่ช้า ต้นไม้ของเรานั้น
ก็ต้องงอกงามเจริญขึ้นทุกทีๆ
จนเกิดดอก ออกผลให้เรา
ได้กินอิ่มหนำสำราญสมความตั้งใจ
.
ถ้าเป็นไม้ดอกมันก็จะมีสีสดงดงาม
กลีบใหญ่มีกลิ่นหอมชื่นใจ
ถ้าเป็นไม้ผล ลูกของมันก็จะต้องดก
มีพันธุ์ใหญ่และรสหวาน
เหตุนั้น ทาน ศีล และภาวนา
จึงเป็นการส่งเสริมเพิ่มพูนบุญเก่าด้วยประการฉะนี้
.
ท่านพ่อลี ธัมมธโร



พุทธธรรมคือเดินทางของชีวิต

ที่นี้ก็มารู้จักคำว่าทาง
พระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบทางแล้วก็ชี้ทาง
แนะทาง ทางเป็นของธรรมชาติ เป็นนิรันดร บางทีก็จะลืมไป บางทีก็จะรู้จัก พระพุทธเจ้าเกิดเป็นคราวๆ พระพุทธเจ้าค้นพบทาง ทางที่มีอยู่เป็นนิรันดร แล้วก็ชี้ทาง พระธรรมคือตัวทางหรือตัวการเดินทาง พระสงฆ์คือผู้รับระบบคำสอนอันนี้ แล้วก็เดินทาง เดินทางไปจนประสบความสำเร็จในการเดินทาง พระพุทธเจ้าก็ดี พระธรรมก็ดี พระสงฆ์ก็ดี เกี่ยวกับทาง เกี่ยวกับการเดินทางทั้งนั้น


เราจะเห็นได้ทันทีว่า การที่มาศึกษาพุทธศาสนาหรือศึกษาธรรมนี้ มันก็คือศึกษาเรื่องทางและการเดินทาง ให้เรามีความรู้เรื่องนี้อย่างถูกต้อง มิฉะนั้นมันก็จะเหมือนกับว่า หลับตาแล้วก็เดินทาง มันใช้ไม่ได้ ศึกษาธรรมะ ศึกษาพุทธศาสนา ศึกษาอานาปานสติ ก็คือ ศึกษาเรื่องทาง แล้วก็เดินทางให้ถูกต้อง

พุทธทาสภิกขุ.....



เรื่องสมถะมักน้อยสันโดษนี้ " หลวงปู่ชอบ ฐานสโม " ท่านจะเป็นผู้ที่มีความโดดเด่นมากในวงพระกรรมฐานลูกศิษย์สาย " หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต " .....

กุฏิของหลวงปู่ชอบที่อยู่วัดป่าโคกมน หรือวัดป่าสัมมานุสรณ์ ลูกศิษย์สร้างให้องค์ท่านแต่ละหลังใหญ่โตมาก หลวงปู่ท่านจะอยู่พักฉลองศรัทธาให้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ส่วนมากกุฏิของหลวงปู่จะใช้เป็นที่เก็บของให้องค์ท่าน ท่านจะให้ครูบาอาจารย์หรือพระผู้เฒ่าไปอยู่เพื่อรักษากุฏิแทน ส่วนองค์ท่านจะอยู่ในที่พักกะลอมซอมซ่อ เช่น ห้องพักโรงเก็บรถ ศาลาเมรุเผาผี หรือไม่ก็กระต๊อบหลุมฝังศพที่อยู่หลังกุฏิที่พักของเรา..


ท่านบอก " พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกทั้งหลายท่านตรัสรู้ธรรมในสถานที่กันดารความสุขทางกาย เราก็รู้เห็นธรรมในสถานที่กันดารสุขของกิเลส เราไม่เคยลืมในบุญคุณสถานที่เหล่านี้ เราอยู่เพื่อเตือนใจตนเอง เราอยู่เพื่อเป็นแบบอย่างให้พระเณรลูกหลานสืบนิสัย "..

เรื่องนิสัยสมถะมักน้อยสันโดษนี้ องค์ท่านจะสอนพระเณรลูกหลานทุกองค์ ใครมีนิสัยสืบต่อ องค์ท่านก็สอนสานต่อให้ องค์ไหนไม่มีนิสัย องค์ท่านก็จะตัดขาดนิสัยกับพระเณรรูปนั้นๆโดยไม่อบรมว่ากล่าวธรรมอะไรให้ฟัง หรือพระเณรบางองค์หลวงปู่ท่านก็จะไล่ออกจากสำนักไปก็มี..

คนข้างนอกส่วนมากเขาไม่ค่อยรู้ เขาจะมองกันว่าหลวงปู่ชอบท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านต้องมีความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบายในเรื่องเครื่องอำนวยความสะดวก เพราะคนส่วนมากเวลามากราบองค์ท่านเขาก็จะเห็นองค์ท่านนั่งอยู่ในรถเข็น และสถานที่รับแขกที่เป็นกิจลักษณะดูดี แต่คนส่วนมากเขาไม่ค่อยได้เห็นความเป็นอยู่ที่แท้จริงขององค์ท่านเหมือนพวกเราที่เป็นลูกศิษย์อุปัฏฐาก..

องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาอยู่อย่างไร พวกเราพระเณรอุปัฏฐากองค์ท่านก็อยู่กันได้โดยไม่มีใครบ่นว่าทุกข์ มีแต่ความสุขทางใจยินดีที่จะอยู่ปรนนิบัติรักษาองค์ท่าน ความสบายทางกายหาได้ง่ายในโลกนี้ ความสบายทางใจนี่สิเป็นสิ่งที่หาได้ยากบนโลกแห่งความวุ่นวาย พ่อแม่ครูอาจารย์ชอบท่านถึงบอกเรา " อยู่กับร้อนให้เป็น อยู่กับเย็นให้ได้ ถึงจะได้ชื่อว่า เป็นผู้รู้ "..



# คำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล โปรดนักเลงให้กลับใจ #

...ท่านมาในรูปของพระธุดงคกัมมัฏฐาน และพำนักโปรดญาติโยมอยู่ที่เสนาสนะป่า บ้านหนองเสม็ด ตำบลเฉนียง อำเภอเมืองสุรินทร์ ในช่วงนั้นได้มีชายหัวนักเลงอันธพาลผู้หนึ่ง มีความโหดร้ายระดับเสือ ...กลุ่มชายผู้นี้ท่องเที่ยวหากินแถบชายแดนไทยและกัมพูชา เมื่อได้ยินข่าวเล่าลือเกี่ยวกับพระธุดงค์มาพำนัก...เขามั่นใจว่าพระจะต้องเป็นผู้ที่มีวิชาด้านคาถาอาคมอันล้ำเลิศอย่างแน่นอน จึงมีความประสงค์จะได้วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ประเภทอยู่ยงคงกระพัน ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า...จึงพาลูกสมุนตัวกลั่น ๔ คน มีอาวุธครบครัน แอบเข้าไปหาหลวงปู่อย่างเงียบๆ...แสดงตนให้ประจักษ์ กล่าวอ้อนวอนหลวงปู่ว่า พวกตนรักการดำเนินชีวิตท่ามกลางคมหอกคมดาบ และได้ก่อศัตรูไม่น้อย ที่มาครั้งนี้ก็เพราะมีความเลื่อมใสศรัทธา มีเจตนาจะมาขอวิชาอาคมไว้ป้องกันตัวให้พ้นจากอันตราย ขอพระครูท่านได้โปรดมีจิตเมตตาเห็นแก่ความลำบากยากเข็ญ ของพวกกระผมที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคหลบศัตรูมุ่งร้ายหมายขวัญ ได้โปรดถ่ายทอดวิชาอาคมให้พวกกระผมเถิด


หลวงปู่กล่าวกับชายกลุ่มนั้นว่า " ข้อนี้ไม่ยาก แต่ว่าผู้ที่จะรับวิชาอาคมของเราได้นั้น จะต้องมีการปรับพื้นฐานจิตให้แข็งแกร่งเสียก่อน มิฉะนั้นจะรองรับอาถรรพ์ไว้ไม่อยู่ วิชาก็จะย้อนเข้าตัว เกิดวิบัติภัยร้ายแรงได้ "..." คาถาทุกคาถาหรือวิชาอาคมที่ประสงค์จะเรียนนั้น จะต้องอาศัยพื้นฐาน คือ พลังจิต จิตจะมีพลังได้ก็ต้องมีสมาธิ สมาธินั้นจะเกิดขึ้นได้แต่จากการนั่งภาวนาทำใจให้สงบ วิชาที่จะร่ำเรียนไปจึงจะบังเกิดผลศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีพิบัติภัยตามมา "

ฝ่ายนักเลง...เมื่อเห็นอากัปกิริยาอันสงบเย็นมั่นคง มิได้รู้สึกสะทกสะท้าน...ประกอบกับปฏิปทาอันงดงามของท่าน ก็เกิดความเย็นกายเย็นใจเลื่อมใสนับถือ อีกอย่างก็มีความอยากได้วิชาอาคม...จึงยินดีปฏิบัติตาม

หลวงปู่ได้แนะนำให้นั่งสมาธิภาวนา แล้วบริกรรม...ในใจว่า พุทโธ พุทโธ ชั่วเวลาประมาณ ๑๐-๒๐ นาที...จอมนักเลงก็รู้สึกสงบเย็น ยังมีปีติให้บังเกิดซาบซ่านขึ้นอย่างแรง เป็นปีติชนิดโลดโผน เกิดอาการสะดุ้งสุดตัว ขนลุกขนชัน และร้องไห้ เห็นปรากฏชัดในสิ่งที่ตนเคยกระทำมา เห็นวัวควายกำลังถูกฆ่า เห็นคนที่มีอาการทุรนทุรายเนื่องจากถูกทำร้าย เห็นความชั่วช้าเลวทรามต่างๆ ของตน ทำให้รู้สึกสังเวชสลดใจอย่างยิ่ง

หลวงปู่ก็ปลอบโยนให้การแนะนำว่า " ให้ตั้งสมาธิภาวนาต่อไปอีก ทำต่อไป ในไม่ช้าก็จะพ้นจากภาวะนั้นอย่างแน่นอน " นักเลงเหล่านั้นพากันนั่งสมาธิอยู่กับหลวงปู่ไปจนตลอดคืน ครั้นรุ่งเช้า อานุภาพแห่งศีลและสมาธิ ที่ได้รับการอบรมฝึกฝนมาตลอดทั้งคืน ก็ยังปัญญาให้เกิดแก่นักเลงเหล่านั้น จิตใจของพวกเขารู้สึกอิ่มเอิบด้วยธรรม เปี่ยมไปด้วยศรัทธา บังเกิดความเลื่อมใส จึงเปลี่ยนใจไปจากการอยากได้วิชาอาคมขลัง ตลอดจนกลับใจเลิกพฤติกรรมอันทำความเดือดร้อน ทั้งแก่ตนเองและแก่ผู้อื่นจนหมดสิ้น ปฏิญาณตนเป็นคำตายกับหลวงปู่ว่า จะไม่ทำกรรมชั่วทุจริตอีกแล้ว

# ในขณะจิตที่ตั้งใจ ความชั่วทั้งหลายก็หยุดพักไว้ ศีลก็มีความสมบูรณ์พอที่จะเป็นบาทฐานของสมาธิภาวนาได้ เมื่อรักษาอย่างนั้นไม่ขาดสาย จิตย่อมตั้งมั่นอยู่ด้วยดี เรียกว่ามีสมาธิ จิตที่ไม่กำเริบแปรปรวน เรียกว่าจิตมีศีล และอาการตั้งมั่นอยู่ด้วยดี เรียกว่ามีสมาธิ ย่อมมีความคล่องแคล่วแก่การงาน ควรแก่การพิจารณาปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าสติปัญญา #


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร