วันเวลาปัจจุบัน 14 ต.ค. 2025, 23:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 17 มิ.ย. 2015, 05:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5394


 ข้อมูลส่วนตัว


" กัลยาณมิตร หาได้ไม่ง่าย หาไม่ได้สำหรับคนทั่วไป
ไม่ใช่ภริยาทุกคน เป็นกัลยาณมิตรของสามี
ไม่ใช่สามีทุกคน เป็นกัลยาณมิตรของภรรยา
ไม่ใช่เพื่อนทุกคน เป็นกัลยาณมิตรของกันและกัน
.
ผู้เป็นกัลยาณมิตรนั้น มีคุณสมบัติเป็นหลัก สำคัญที่สุด
คือความดี มีคุณธรรมประจำใจ พร้อมด้วยสติและปัญญา
.
ภรรยาสามี บุตรธิดา และ มิตรสหาย หรือผู้หนึ่งผู้ใด
ที่ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวมาจึงไม่อาจ เป็นกัลยาณมิตรได้ "
.
--- พระคติธรรม สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก





"อัฐิกลายเป็นพระธาตุ มีช้ามีเร็วต่างกัน
ด้วยองค์ประกอบดังนี้คือ

1.องค์ใดท่านปฏิบัติรู้ธรรมแบบขิปปาภิญญา
(รู้ บรรลุธรรมฉับพลัน)คือ รู้อย่างรวดเร็วแล้วก็นิพพานไปเสีย อัฐิท่านกลายเป็นพระธาตุช้า
การที่นิพพานเร็วนี่เอง เป็นเหตุให้อัฐิกลายเป็นพระธาตุช้า
เพราะสาเหตุว่า จิตที่บริสุทธิ์มีเวลาฟอกธาตุขันธ์น้อย


2.องค์ใดบำเพ็ญตั้งแต่ศีล สมาธิ ปัญญา รู้ธรรมไปอย่างเชื่องช้า สม่ำเสมอ ถ้าใจบริสุทธิ์แล้วครองขันธ์อยู่นาน อันนี้พอท่านมรณภาพไป อัฐิของท่านจะกลายเป็นพระธาตุอย่างเร็ว
การครองขันธ์นานนี่เอง เป็นเหตุให้จิตที่บริสุทธิ์มีเวลาที่จะทำหน้าที่ในการซักฟอกธาตุขันธ์ยาวนาน เพราะว่าจิตที่บริสุทธิ์นั้น เป็นฐานในการซักฟอกธาตุขันธ์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของจิตโดยหลักธรรมชาติ เพราะฉะนั้น อัฐิของท่านกับอัฐิของคนทั่วไป
จึงต่างกัน ต่างกันที่จิตบริสุทธิ์ซักฟอกธาตุขันธ์
ให้เป็นธาตุขันธ์ที่บริสุทธิ์ไปตามส่วนของธาตุที่เป็นวัตถุ

อัฐิที่จะกลายเป็นพระธาตุได้นั้น คือ อัฐิพระอรหันต์เท่านั้น...เวลาพระอรหันต์ท่านมีชีวิตอยู่จิตของท่านสง่างามจ้าครอบธาตุขันธ์ แล้วฟอกธาตุขันธ์ที่เป็นเรือนร่างของจิตที่บริสุทธิ์นั้น ฟอกมาโดยลำดับ กระแสของจิตที่บริสุทธิ์นี้กระจายออกทั่วสรรพางค์ร่างกาย เรียกว่าฟอกธาตุขันธ์ที่เป็นส่วนหยาบเหมือนคนทั่วๆไปนี้ ให้กลายเป็นส่วนละเอียดเข้าไปๆ

จิตบริสุทธิ์แล้ว ย่อมฟอกธาตุขันธ์นี้เองโดยหลักธรรมชาติ ที่เด่นที่สุดก็คือ เวลาท่านเข้าสมาธิสมาบัติภาวนา ท่านมองดูธาตุขันธ์ของ
ท่าน ถ้าพูดเทียบกับโลกนี้เรียกว่าเป็นทองคำทั้งแท่งอยู่ข้างใน"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี




ไม่มีใครทำร้ายตัวเราได้เท่าตัวเราเอง (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)

ไม่มีใครทำร้ายตัวเราได้เท่าตัวเรา ตัวเรานั่นแหละผู้ทำร้ายหรือทำดีให้กับตัวเราเองอย่าได้ไปเที่ยวโทษผู้อื่นเลย คนเราจะอับเฉาเศร้าหมองก็เพราะการกระทำของเรา และเป็นเพราะเราอดทนไม่ได้ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้เราไม่ได้ดี และก็เพราะเรามักง่ายเกินไปมิใช่หรือ ที่ทำให้เราโชคร้าย อย่าได้มัวไปโทษดวงชะตาว่ามันไม่ดี


ดวงชะตามันจะทำอะไรได้ ถ้าดวงชะตามันไม่ดี ทำไมมันจึงได้ทำเราให้เกิดมาเป็นคนก็บอกว่าวาสนาอาภัพนัก อับความเพียรต่างหาก ถ้าขยันหมั่นเพียรแล้ววาสนาก็จะมาเองวาสนา ดวงชะตาถ้าจะดีหรือร้าย ใครเล่าจะลิขิต ถ้าไม่ใช่ตัวเราไปขีดเขียนให้มันเป็นอย่างนั้น

ให้รู้จักขยันหมั่นทำความดี เพื่อทำชีวิตเราให้ดีขึ้นกันเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้เถิด



# อานิสงส์ของศีล คำสอนของครูบาศรีวิชัย #

"...เครื่องประดับขัตติยะนารีทั้งหลาย มีแก้วแหวนเงินทองเป็นตัณหากามคุณ เหมือนดั่งน้ำผึ้งแช่ยาพิษ สำหรับนำความทุกข์มาใส่ตัว โดยบ่มีประโยชน์สิ่งใดเลย แม่น้ำคงคา ยมนา อิระวดี มหิ มหาสรพู ซึ่งเป็นแม่น้ำใหญ่ทั้ง ๕ แม่น้ำนี้


แม้นจักเอามาอาบให้หมดทั้ง ๕ แม่น้ำนี้ ก็บ่อาจจะล้างบาป คือความเดือดร้อนภายในให้หายได้ ลมฝนลูกเห็บแม้นจะตกลงมาหลายห่า เย็นและหนาวสักปานใด ก็บ่อาจเย็นเข้าไปถึงภายในให้หายจากความทุกขเวทนาได้

ศีล ๕ เป็นอริยทรัพย์ เป็นต้นเหตุแห่งความบริสุทธิ์ เป็นนำ้ทิพย์สำหรับล้างบาป คือความเดือดร้อนภายในให้หายได้ เมื่อศีลบริสุทธิ์แล้ว สมาธิ ความตั้งมั่นก็จะมีมาแล้วให้ปลุกปัญญา ปัญญาก็จักเกิดมีขึ้นได้

คือ ให้หมั่นรำลึกถึงตัวตนอยู่เสมอว่า บ่ใช่ตัว บ่ใช่ตน จนเห็นแจ้งด้วย ปัญญาของตน จึงเป็นสมุทะ ประหารกิเลสหมดแล้ว จิตเป็นวิมุติ หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวลได้..."


โพสต์ เมื่อ: 17 มิ.ย. 2015, 18:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




IMG_20150611_45320.jpg
IMG_20150611_45320.jpg [ 31.95 KiB | เปิดดู 2781 ครั้ง ]
:b8:
สาธุกับคำสอนดีๆของครูบาอาจารย์ที่ยกมาแบ่งปันกันให้ได้รู้เห็น

กัลยาณมิตรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจิตใจของมนุษย์ ไปสู่ทางชั่ว หรือทางดี

กัลยาณมิตรในทางโลกนั้นคือผู้ที่ชักพาเราไปให้ประสบความสำเร็จที่ดีในทางโลก

กัลยาณมิตรในทางธรรมคือผู้ที่ชักนำทำให้เราเข้าถึง มรรค ผล นิพพาน
onion
โพสต์ เมื่อ: 17 มิ.ย. 2015, 21:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

กัลยาณมิตร..นี้สำคัญต่อการบรรลุธรรม...มาก

เรียกว่า...ในอายุพระศาสนา...ไม่มีใครบรรลุได้เองโดยปราศจากกัลยาณมิตรที่บรรลุไปก่อนแล้ว...

ถ้าท่านยังไม่พบผู้ที่บำเพ็ญบุญมาด้วยกันที่มีฐานะจะเป็นกัลยาณมิตรของท่านได้แล้วละก้อ...ความพากเพียรของท่านที่ทำอยู่...ก็จะเป็นบารมีสะสมไว้เมื่อถึงคราวไปเจอกับกัลยาณมิตร..นั้นเอง


โพสต์ เมื่อ: 18 มิ.ย. 2015, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5394


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ


โพสต์ เมื่อ: 19 มิ.ย. 2015, 12:27 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2972


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:


โพสต์ เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 01:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




IMG_20150611_54129.jpg
IMG_20150611_54129.jpg [ 28.44 KiB | เปิดดู 2689 ครั้ง ]
:b43:
ผู้รู้ธรรมแม้จะเป็นเพียงแค่ภาคทฤษฏี ที่เรียกว่า ปริยัติศาสนา ก็ถือว่าเป็นกัลยาณมิตรได้ .....แต่

ถ้าใครได้พบคบหากับผู้ที่รู้ปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรมจนถึงผลได้อย่างใดอย่างหนึ่งจนถึงได้ผลทั้ง 4 นั่นแสดงว่าเป็นโชคดีอย่างมหาศาลของบุคคลผู้นั้นที่ได้พบปะคบหาสมาคมกับ

"มหากัลยาณมิตร"

ขอให้ทุกๆท่านได้พบมหากัลยาณมิตรโดยเร็วพลันทุกท่านทุกคนเทอญ
:b8:
โพสต์ เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 06:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กัลยาณมิตร..นี้..ปุถุชนก็เป็นกัลยาณปุถุชนได้...คือเป็นแบบอย่างที่ทำให้เราอยากเป็นคนดีได้..อยากศึกษาพระธรรม...อันนี้ก็พอใช้ได้ในเบื้องต้น

แต่กัลยาณมิตร..ในทางธรรมะนี้..หมายถึง..คนบรรลุธรรมแล้ว...เท่านั้น
หย่อนให้ว่า..มรรค 4 ผล3...ก็พอๆได้..เอ้า..ดีที่สุดคือ..ผลอันที่4
:b16:


โพสต์ เมื่อ: 24 มิ.ย. 2015, 21:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b43:
ถ้ายังไม่มีโอกาสได้พบอริยเจ้าทั้ง 4 จำพวก หากได้พบเพียง "มรรคอาจารอริยะ"คือผู้ที่กำลังเดินอยู่บนทางแห่งมรรค 8 เพื่อให้ถึงความเป็นอริยะ ก็พอใช้ได้เพราะจะได้ชักชวนกันเดินร่วมกันไปสู่มรรค ผล นิพพานด้วยกัน
onion
หาให้เจอนะครับ. มรรคอาจารอริยะ


โพสต์ เมื่อ: 24 มิ.ย. 2015, 21:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b43:
ถ้ายังไม่มีโอกาสได้พบอริยเจ้าทั้ง 4 จำพวก หากได้พบเพียง "มรรคอาจารอริยะ"คือผู้ที่กำลังเดินอยู่บนทางแห่งมรรค 8 เพื่อให้ถึงความเป็นอริยะ ก็พอใช้ได้เพราะจะได้ชักชวนกันเดินร่วมกันไปสู่มรรค ผล นิพพานด้วยกัน
onion
หาให้เจอนะครับ. มรรคอาจารอริยะ


อะไรนะ....

หวังน้อยจ๊ะ.... :b14: :b14:


โพสต์ เมื่อ: 25 มิ.ย. 2015, 07:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




IMG_20150611_27999.jpg
IMG_20150611_27999.jpg [ 28.11 KiB | เปิดดู 2627 ครั้ง ]
s005
พระอริยเจ้าทั้ง 4 หรือแม้เพียงชั้นต้นโสดาบันบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ง่ายนักที่จะมารักเมตตากรุณามนุษย์เข้ามาดำผุดดำว่ายร่วมในลานธรรมทั้งหลายอันค่อนข้างจะมากมายด้วยบัญญัตอัตตามานะทิฏฐิ ถ้ามีปรากฏมาจึงเป็นเรื่องมหากุศลผลบุญของนักสนทนาธรรมและผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายในยุคสมัย เป็นโชคดีหากท่านอยู่คู่ลานไป เพราะจะได้เป็นหลักชักผู้คนอยู่สายกลาง

ส่วนมรรคอาจาระนั้นหาง่าย มีมากมายหลายท่านแสวงหาทั้งนอกลานในลานเป็นธรรมดา ต่างมุ่งหน้าสู่นิพพานสถานธรรม
ทั้งความรู้ประสบการณ์อันมากมาย ทั้งจิตใจยังหนุกหนานมุ่งก้าวหน้า จึงคุยกันมันและเผือกทุกเวลาไปจนกว่าถึงธรรมจึงจากจร

จึงบอกว่าถ้าพบมรรคอาจาระ เหมือนพบพระมาอวยพรและพร่ำสอน เพียงเท่านี้เหมือนมิตรดีมาอาทร มาร่วมกินร่วมนอนร่วมเดินทาง สู่มรรคาศาสดาทรงชี้พร่ำ คือทางธรรมทั้ง 8 ไม่มีถอน ขอให้ชาวชนในลานจงได้พรพบมิตรดีที่แน่นอนพาสู่ธรรม
:b11:
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร