วันเวลาปัจจุบัน 27 ส.ค. 2025, 06:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 07:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ

s006

ทำไม มันยากจัง

cry


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 08:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนรอยนิ้วมือหรือ
รอยนิ้วหัวแม่มือ ย่อมปรากฏอยู่ที่ด้ามเครื่องมือของพวก
ช่างไม้ หรือลูกมือของพวกช่างไม้ แต่เขาก็ไม่มีความรู้ว่า
ด้ามเครื่องมือของเรา วันนี้สึกไปเท่านี้ วานนี้สึกไปเท่านี้
วันอื่น ๆ สึกไปเท่านี้ ๆ คงรู้แต่ว่ามันสึกไป ๆ เท่านั้น,
นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบภาวนาอยู่ ก็
ไม่รู้อย่างนี้ว่า วันนี้ อาสวะของเราสิ้นไปเท่านี้ วานนี้สิ้น
ไปเท่านี้ วันอื่น ๆ สิ้นไปเท่านี้ ๆ รู้แต่เพียงว่า สิ้นไปใน
เมื่อมันสิ้นไป ๆ เท่านั้น, ฉันใดก็ฉันนั้น.

สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๒๘/๖๘.

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 09:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่แสดงความเห็นส่วนตัวนะคะ tongue

รู้แบบไหนเหรอคะ :b12:

วิธีปฏิบัติ มีเยอะนะ
แต่ต้องศึกษา..และรู้ให้ถึง..ใจตน.........เป็นดีที่สุด
กิเลส..มันกำเริบ..เพราะอะไร..ตรงไหน..ดูให้ดี..จี้ให้ถูกจุด
จะตามมันไป..ก็ให้ตามเห็น..การกระทำที่น่าละอายของตน..ที่มันยังกำเริบ..
พิจารณาบ่อยๆ.....
มันก็เห็นแต่ทุกข์ จริงๆเลยค่ะ
เพราะงั้นตอนนี้ "กำลัง"ตัวไหนมันบกพร่อง........แรงส่งก็สำคัญ
จะมาเอาแต่มองคนอื่น แค่นี้เขาดี..แค่นี้เขาพอ..แค่นี้เขาก็ไปได้แล้ว
แต่เราเอา..แล้วยังไปไม่ได้...ก็ต้องหาอุบายให้กับตัวเองค่ะ
เอาให้จริง..สู้กับมันบ่อยๆ..ทุกเวลาเลยยิ่งดี
กิเลสจะลดหรือไม่ลด อย่าเพิ่งไปมองหามัน
:b40: วิธีการปฏิบัติมันมีหลายวิธีจริงๆค่ะ
ให้กิเลสแค่สงบ..ก็อย่าง
ให้ขุดรากถอนโคนทิ้ง..ก็อย่าง
แต่ในมุมมองของไอเดีย.....เมื่อ"รู้"ปัจจุบันขณะ กำลังไม่พอ
ก็ลงสนามเองเลย :b14:
ความรู้สึกตอนนี้..มันสื่อออกมาได้..ประมานว่า...ลงไปสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเลย
เหนื่อยหน่อย..แต่ก็ทำให้เรา..ไม่ห่างจากความเพียรค่ะ..กาย เวทนา จิต ธรรม
พอรอบมันเต็ม...เห็นอะไร...มันก็บอกว่า..เป็นทุกข์ๆๆๆๆ
ความเบื่อหน่ายมันก็มา...แบบ..ชะแว๊บๆๆๆให้เห็นอยู่เนื่องๆ :b32: :b32: :b9:

s005 ความรู้น้อย...พูดได้แต่แชร์..ประสบการณ์ของตัวเองนะ
เพราะก็อยู่ในขั้น..ต่อสู้..อยู่ค่ะ..ก็แค่ประคับประคองอยู่เหมือนกัน
:b40: อยากกิเลสลด...ก็ตกอยู่ในเงื้อมมือมารอยู่ดีนะอย่าลืม 555555
:b39: ทำๆไปเถอะ..เพียร..เพื่อความพ้นทุกข์
กิเลสจะลดหรือไม่ลด..ช่างมัน..ถึงเวลา..มันจะเป็นผลพลอยได้เอง
ได้เอง,,รู้เอง...เห็นมันเกิด-ดับไปแค่นั้น

:b54: ความอยากในข้อที่มันหมด..ไม่เกิดขึ้น
ก็เหมือนเราพยายามสูดลมหายใจยังไงก็ไม่เข้า :b46: :b46: :b41: :b41:
เพราะฉะนั้นถ้าจะ..อยาก..ให้ความอยากมันลด
ก็เหมือนไปพยายามหยุดลมหายใจ....แล้วจะทนทุกข์ไหวเหรอ....เมื่อยังไม่รู้จักทุกข์จริงๆ
:b27: :b27: :b27:
คุยสนุกๆนะ..รู้สึกอย่างนี้..เมื่อคุยกับคุณเปลี่ยนชื่อ
ไม่เข้าใจก็...ถือซะว่า
เข้ามาทักทาย
เป็นกำลังใจให้จร้าาาาา
rolleyes rolleyes rolleyes
:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 09:41 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2962


 ข้อมูลส่วนตัว


หลักปฏิบัติ 3 ขั้น ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งต้องเกื้อหนุนกัน...ปฏิบัติขั้นศีล รักษาศีล...กิเลสก็ลดไปเยอะพอควรแล้วค่ะ...ขั้นภาวนา หากปฏิบัติถูกต้อง กิเลสจะต้องลดลงไปตามลำดับค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 17:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนรอยนิ้วมือหรือ
รอยนิ้วหัวแม่มือ ย่อมปรากฏอยู่ที่ด้ามเครื่องมือของพวก
ช่างไม้ หรือลูกมือของพวกช่างไม้ แต่เขาก็ไม่มีความรู้ว่า
ด้ามเครื่องมือของเรา วันนี้สึกไปเท่านี้ วานนี้สึกไปเท่านี้
วันอื่น ๆ สึกไปเท่านี้ ๆ คงรู้แต่ว่ามันสึกไป ๆ เท่านั้น,
นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบภาวนาอยู่ ก็
ไม่รู้อย่างนี้ว่า วันนี้ อาสวะของเราสิ้นไปเท่านี้ วานนี้สิ้น
ไปเท่านี้ วันอื่น ๆ สิ้นไปเท่านี้ ๆ รู้แต่เพียงว่า สิ้นไปใน
เมื่อมันสิ้นไป ๆ เท่านั้น, ฉันใดก็ฉันนั้น.

สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๒๘/๖๘.


:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 17:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sirinpho เขียน:
หลักปฏิบัติ 3 ขั้น ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งต้องเกื้อหนุนกัน...ปฏิบัติขั้นศีล รักษาศีล...กิเลสก็ลดไปเยอะพอควรแล้วค่ะ...ขั้นภาวนา หากปฏิบัติถูกต้อง กิเลสจะต้องลดลงไปตามลำดับค่ะ :b1:


:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 17:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
แค่แสดงความเห็นส่วนตัวนะคะ tongue

รู้แบบไหนเหรอคะ :b12:

วิธีปฏิบัติ มีเยอะนะ
แต่ต้องศึกษา..และรู้ให้ถึง..ใจตน.........เป็นดีที่สุด
กิเลส..มันกำเริบ..เพราะอะไร..ตรงไหน..ดูให้ดี..จี้ให้ถูกจุด
จะตามมันไป..ก็ให้ตามเห็น..การกระทำที่น่าละอายของตน..ที่มันยังกำเริบ..
พิจารณาบ่อยๆ.....
มันก็เห็นแต่ทุกข์ จริงๆเลยค่ะ
เพราะงั้นตอนนี้ "กำลัง"ตัวไหนมันบกพร่อง........แรงส่งก็สำคัญ
จะมาเอาแต่มองคนอื่น แค่นี้เขาดี..แค่นี้เขาพอ..แค่นี้เขาก็ไปได้แล้ว
แต่เราเอา..แล้วยังไปไม่ได้...ก็ต้องหาอุบายให้กับตัวเองค่ะ
เอาให้จริง..สู้กับมันบ่อยๆ..ทุกเวลาเลยยิ่งดี
กิเลสจะลดหรือไม่ลด อย่าเพิ่งไปมองหามัน
:b40: วิธีการปฏิบัติมันมีหลายวิธีจริงๆค่ะ
ให้กิเลสแค่สงบ..ก็อย่าง
ให้ขุดรากถอนโคนทิ้ง..ก็อย่าง
แต่ในมุมมองของไอเดีย.....เมื่อ"รู้"ปัจจุบันขณะ กำลังไม่พอ
ก็ลงสนามเองเลย :b14:
ความรู้สึกตอนนี้..มันสื่อออกมาได้..ประมานว่า...ลงไปสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเลย
เหนื่อยหน่อย..แต่ก็ทำให้เรา..ไม่ห่างจากความเพียรค่ะ..กาย เวทนา จิต ธรรม
พอรอบมันเต็ม...เห็นอะไร...มันก็บอกว่า..เป็นทุกข์ๆๆๆๆ
ความเบื่อหน่ายมันก็มา...แบบ..ชะแว๊บๆๆๆให้เห็นอยู่เนื่องๆ :b32: :b32: :b9:

s005 ความรู้น้อย...พูดได้แต่แชร์..ประสบการณ์ของตัวเองนะ
เพราะก็อยู่ในขั้น..ต่อสู้..อยู่ค่ะ..ก็แค่ประคับประคองอยู่เหมือนกัน
:b40: อยากกิเลสลด...ก็ตกอยู่ในเงื้อมมือมารอยู่ดีนะอย่าลืม 555555
:b39: ทำๆไปเถอะ..เพียร..เพื่อความพ้นทุกข์
กิเลสจะลดหรือไม่ลด..ช่างมัน..ถึงเวลา..มันจะเป็นผลพลอยได้เอง
ได้เอง,,รู้เอง...เห็นมันเกิด-ดับไปแค่นั้น

:b54: ความอยากในข้อที่มันหมด..ไม่เกิดขึ้น
ก็เหมือนเราพยายามสูดลมหายใจยังไงก็ไม่เข้า :b46: :b46: :b41: :b41:
เพราะฉะนั้นถ้าจะ..อยาก..ให้ความอยากมันลด
ก็เหมือนไปพยายามหยุดลมหายใจ....แล้วจะทนทุกข์ไหวเหรอ....เมื่อยังไม่รู้จักทุกข์จริงๆ
:b27: :b27: :b27:
คุยสนุกๆนะ..รู้สึกอย่างนี้..เมื่อคุยกับคุณเปลี่ยนชื่อ
ไม่เข้าใจก็...ถือซะว่า
เข้ามาทักทาย
เป็นกำลังใจให้จร้าาาาา
rolleyes rolleyes rolleyes
:b4: :b4: :b4:


Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 20:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 21:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ

s006

ทำไม มันยากจัง

cry


ดีแล้ว....ที่รู้ :b9:

คนอื่นมอง..ก็มองว่าคนเข้าวัดนี้...คงเป็นคนมีความสุขมาก

แต่คนปฏิบัติ..นี้..ทุกข์...ชิ..เป้ง..ใครจะรู้...555
rolleyes

ทำไป..ทำไป..แต่ก็ยังทุกข์อยู่นั้นแหละ...

พอเพื่อน ๆ มาปรับทุกข์..นะ...
"เธอ...แฟนฉันมีกิ๊ก"
"เธอ...ผัวฉันไม่ค่อยช่วยฉัน..เพื่อนที่ทำงานไม่ช่วยงานฉัน..เจ้านายไม่ทำงานผลักมาให้แต่ฉัน "
"เธอ...ฉันอ้วน..ทำงัย"
"เธอ...ฉันเครียด"
"เธอ...ฉันถูกนินทา"
"เธอ..............."
ฯลฯ..

เราก็ถึงบางอ้อ...เฮ้ย...ไอ้ความทุกข์แบบเดิมๆ ..เก่า ๆ ..แบบทั่ว ๆ ไปที่เขาเป็นกัน....เราไม่เจอมันมานานเท่าไรแล้วนี้?.. :b12: :b12:

ไม่ทุกข์..ไม่พบธรรม..ครับ

ก็ต้องใช้ปัญญาแก้ไขไปทีละเปลาะ..แก้ทีละข้อ...อย่าไปตั้งใว้เยอะ...เอาทีละข้อ..ครับ
แต่ความตั้งใจต้องตั้งใว้จุดที่สูง ๆ เข้าใว้..แต่เดินที่ละขั้น

สู้...สู้... :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 21:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ

s006

ทำไม มันยากจัง

cry


ดีแล้ว....ที่รู้ :b9:

คนอื่นมอง..ก็มองว่าคนเข้าวัดนี้...คงเป็นคนมีความสุขมาก

แต่คนปฏิบัติ..นี้..ทุกข์...ชิ..เป้ง..ใครจะรู้...555
rolleyes

ทำไป..ทำไป..แต่ก็ยังทุกข์อยู่นั้นแหละ...

พอเพื่อน ๆ มาปรับทุกข์..นะ...
"เธอ...แฟนฉันมีกิ๊ก"
"เธอ...ผัวฉันไม่ค่อยช่วยฉัน..เพื่อนที่ทำงานไม่ช่วยงานฉัน..เจ้านายไม่ทำงานผลักมาให้แต่ฉัน "
"เธอ...ฉันอ้วน..ทำงัย"
"เธอ...ฉันเครียด"
"เธอ...ฉันถูกนินทา"
"เธอ..............."
ฯลฯ..

เราก็ถึงบางอ้อ...เฮ้ย...ไอ้ความทุกข์แบบเดิมๆ ..เก่า ๆ ..แบบทั่ว ๆ ไปที่เขาเป็นกัน....เราไม่เจอมันมานานเท่าไรแล้วนี้?.. :b12: :b12:

ไม่ทุกข์..ไม่พบธรรม..ครับ

ก็ต้องใช้ปัญญาแก้ไขไปทีละเปลาะ..แก้ทีละข้อ...อย่าไปตั้งใว้เยอะ...เอาทีละข้อ..ครับ
แต่ความตั้งใจต้องตั้งใว้จุดที่สูง ๆ เข้าใว้..แต่เดินที่ละขั้น

สู้...สู้... :b4: :b4:



การปฎิบัติ มันก็มีช่วงที่ก้าวหน้า

และบางช่วงมันก็อยู่กับที่ บางช่วงมันก็ถอยหลัง
s004

เราก็ไปบังคับ สั่งไม่ได้เสียด้วยว่าให้ถึงที่หมายเร็วๆ
cry

:b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:

การปฎิบัติ มันก็มีช่วงที่ก้าวหน้า

และบางช่วงมันก็อยู่กับที่ บางช่วงมันก็ถอยหลัง
s004

เราก็ไปบังคับ สั่งไม่ได้เสียด้วยว่าให้ถึงที่หมายเร็วๆ
cry

:b2:


ใช่ครับ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 21:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ

s006

ทำไม มันยากจัง

cry


ก็ได้เยอะแล้วนิครับ

ความเห็นอาจเปลี่ยนไปบ้างแล้ว แบบใครมาบอกอย่างไรก็ไม่หลงเชื่ออีกต่อไปไงครับ เช่น

คนเราเกิดมาชาติเดียว ตายแล้วสูญ ไม่ต้องไปชดใช้อะไร จบแล้วจบเลย มันเป็นชีวิตเรา ถ้ามีคนมาบอกคุณ เปลี่ยนชื่อใหม่อย่างนี้ คุณเปลี่ยนชื่อใหม่จะลังเลสงสัยไหมครับ หรือมานั่งทบทวนไหมครับว่า เออ อาจจะจริงอย่างที่เขาว่าแฮะ แต่เราปฎิบัติมาได้แล้ว ไม่สงสัยแล้ว ชาติหน้ามีจริงแน่นอนเพราะสร้างเหตุเอาไว้ ต่อให้เอามีดมาจี้คอหอย เราก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดนี้ได้ เพราะความเห็นเราเปลี่ยนแล้ว เหมือนเกลือเค็ม คนทั้งโลกรู้แล้วว่ารสเค็มเป็นอย่างไร ความเห็นว่ารสเค็มนั้นติดตัวเขาเหล่านั้นไปตลอดชีวิตแล้ว มันเป็นปัญญาแบบสัญชาติญาณ ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนเราเป็นคนที่เข้าใจความจริงขั้นสูงได้ แต่ชาติหน้ามีจริง ทำอย่างไรก็ต้องพบกับผลที่ทำไว้ นี่เป็นความเห็นที่ละเอียดขึ้น เป็นปัญญาขั้นที่สูงขึ้น ไม่ใช่ทุกคนจะซาบซึ้ง มันไม่ใช่สัญชาติญาณอีกต่อไป มันเป็นสัมมาทิฎฐิ ที่เปลี่ยนความเห็นเราตลอดชีวิตนั่นเอง

กิเลสที่หนาก็ต้องอาศัยความตั้งมั่น ความเพียร ค่อยๆทำกันไป มันจะค่อยๆหายไปพร้อมกับความเห็นถูกของเรานั่นเอง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2015, 08:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ

s006

ทำไม มันยากจัง

cry


ก็ได้เยอะแล้วนิครับ

ความเห็นอาจเปลี่ยนไปบ้างแล้ว แบบใครมาบอกอย่างไรก็ไม่หลงเชื่ออีกต่อไปไงครับ เช่น

คนเราเกิดมาชาติเดียว ตายแล้วสูญ ไม่ต้องไปชดใช้อะไร จบแล้วจบเลย มันเป็นชีวิตเรา ถ้ามีคนมาบอกคุณ เปลี่ยนชื่อใหม่อย่างนี้ คุณเปลี่ยนชื่อใหม่จะลังเลสงสัยไหมครับ หรือมานั่งทบทวนไหมครับว่า เออ อาจจะจริงอย่างที่เขาว่าแฮะ แต่เราปฎิบัติมาได้แล้ว ไม่สงสัยแล้ว ชาติหน้ามีจริงแน่นอนเพราะสร้างเหตุเอาไว้ ต่อให้เอามีดมาจี้คอหอย เราก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดนี้ได้ เพราะความเห็นเราเปลี่ยนแล้ว เหมือนเกลือเค็ม คนทั้งโลกรู้แล้วว่ารสเค็มเป็นอย่างไร ความเห็นว่ารสเค็มนั้นติดตัวเขาเหล่านั้นไปตลอดชีวิตแล้ว มันเป็นปัญญาแบบสัญชาติญาณ ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนเราเป็นคนที่เข้าใจความจริงขั้นสูงได้ แต่ชาติหน้ามีจริง ทำอย่างไรก็ต้องพบกับผลที่ทำไว้ นี่เป็นความเห็นที่ละเอียดขึ้น เป็นปัญญาขั้นที่สูงขึ้น ไม่ใช่ทุกคนจะซาบซึ้ง มันไม่ใช่สัญชาติญาณอีกต่อไป มันเป็นสัมมาทิฎฐิ ที่เปลี่ยนความเห็นเราตลอดชีวิตนั่นเอง

กิเลสที่หนาก็ต้องอาศัยความตั้งมั่น ความเพียร ค่อยๆทำกันไป มันจะค่อยๆหายไปพร้อมกับความเห็นถูกของเรานั่นเอง


เรื่องชาติหน้าจากที่อยากรู้ มันก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายละครับ เรื่องผี เทวดา จากที่อยากรู้อยากเห็นก็ไม่ได้สนใจเพราะ

เมื่อลองปฎิบัติไป เราก็จะไปเห็นว่าทางพ้นทุกข์มันมีอยู่จริง

เรื่องอื่นๆ มันก็ดูมีความสำคัญน้อยไป อย่างถนัดตา

ทางเดินมันก็ตรงๆนะครับ แต่เรานี่ละคอยจะออกนอกเส้นเอง :b2: :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2015, 09:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณมีวิธีพิสูจน์แล้วหรือว่าอะไรลด อะไรไม่ลด แล้วอะไรคือกิเลส อะไรไม่ใช่กิเลส
พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า การละกิเลสต้องละด้วยการรู้การเห็น กิเลสเมื่อจะเกิดก็เกิดที่ตา เมื่อจะดับก็ดับที่ตา เมื่อจะเกิดก็เกิดที่ใจ จะดับก็ดับที่ใจ ต้นเหตุกิเลสอยู่ที่ชอบ ชัง เฉย ตราบใดที่ยังมีชอบ ชัง เฉย อยู่ กิเลสก็ยังมีอยู่ ถ้าดับความชอบ ชัง เฉย ได้ก็ดับกิเลสได้ จะคิดดับๆ
จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2015, 14:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
คุณมีวิธีพิสูจน์แล้วหรือว่าอะไรลด อะไรไม่ลด แล้วอะไรคือกิเลส อะไรไม่ใช่กิเลส
พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า การละกิเลสต้องละด้วยการรู้การเห็น กิเลสเมื่อจะเกิดก็เกิดที่ตา เมื่อจะดับก็ดับที่ตา เมื่อจะเกิดก็เกิดที่ใจ จะดับก็ดับที่ใจ ต้นเหตุกิเลสอยู่ที่ชอบ ชัง เฉย ตราบใดที่ยังมีชอบ ชัง เฉย อยู่ กิเลสก็ยังมีอยู่ ถ้าดับความชอบ ชัง เฉย ได้ก็ดับกิเลสได้ จะคิดดับๆ
จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


wink


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร