วันเวลาปัจจุบัน 24 พ.ค. 2024, 15:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 286 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2015, 20:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ถ้าทุกคนบอกว่าตนเป็นอริยชนก็ดีนะ. เพราะจะได้สำรวมระวังกระทำแต่กรรมดีให้เจริญยิ่งขึ้นไป


bigtoo เขียน:
มาเร็วๆมารับลองอริยะชอบรดน้ำมนต์. แขวนปะคำ รู้ว่าใครเป็นอรหันต์ Onion_L


รูปภาพ


...5 5 5...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2015, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ต๊ายตายไม่รู้เหรอจะว่ายุคไอทีอย่างนี้น่ะฤาษีเข้าฌานเขาอยู่ป่าคอนกรีตทันสมัยจะตาย555
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2015, 07:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
ต๊ายตายไม่รู้เหรอจะว่ายุคไอทีอย่างนี้น่ะฤาษีเข้าฌานเขาอยู่ป่าคอนกรีตทันสมัยจะตาย555
:b32: :b32:

มาเร็วๆมารับลองอริยะชอบรดน้ำมนต์. แขวนปะคำ รู้ว่าใครเป็นอรหันต์ Onion_L

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2015, 17:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
พระอริยเจ้าส่วนใหญ่ท่านมักถ่อมตัว ไม่อวดตัวเอง

ผู้ที่สามารถพยากรณ์ได้ว่าใครต่อใครบ้างเป็นพระอรหันต์ ต้องมีคุณธรรมอยู่ในระดับเดียวกันกับพระอรหันต์

พวกที่ชอบอวดตัวเองมักจะเป็นพวกพรหมอย่างเช่นผกาพรหมที่มาเถียงพระพุทธเจ้าและอวดตัวเองว่า เราไม่ตายแล้ว เราเป็นอมตะแล้ว

คนที่ได้สมาธิได้ฌาณจนข้ามเวทนาดับสัญญาได้ มากคนที่หลงผิดว่าตนได้ถึงนิพพาน เป็นอริยะแล้ว

จึงต้องระวังให้มากตรวจสอบเช็ควัดตัวเองให้ดีว่าได้ของแท้แน่หรือยัง

ถ้าได้ของแท้ย่อมสามารถเข้าไปเชยชมได้เสมอซึ่งนิพพานที่ท่านเรียกว่า

"เข้าผลสมาบัติ หรือ พละสมาบัติ"
s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2015, 05:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b36:
มีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องความโกรธมาให้พิจารณาอีกหน่อยว่า

ความเห็นผิดเป็นกูเป็นเราเป็นตัวเป็นตนหรือสักกายทิฏฐินี้ เปรียบเหมือนกูตัวพี่ซึ่งมีนิสัยหยาบกร้านเมื่อกระทบสัมผัสกับทุกขเวทนาและอารมณ์อันไม่ชอบใจแล้วจะปึงปังโกรธกระฟัดกระเฟียดขึ้นมาทันทีไม่มีสติสัมปชัญญะอะไรขึ้นมายับยั้งเพราะกูตัวพี่นี้มันจะเอาอารมณ์เป็นใหญ่ไม่ชอบใช้เหตุผล

ส่วนความยึดผิดคือความยึดถือในกายและความยึดถือในจิต หรือมานะทิฏฐินั้นเปรียบเหมือนกูตัวน้องซึ่งมีนิสัยละเอียดอ่อนลึกซึ้งฉลาดเฉลียวมันจะใช้ทั้งอารมณ์และเหตุผลแต่เหตุผลนั้นเป็นเหตุผลเข้าข้างกูหรือเพื่อกูมิใช่เหตุผลตามธรรม จึงเมื่อกระทบสัมผัสกับทุกขเวทนาหรือสุขเวทนาอารมณ์ที่น่าชอบใจไม่ชอบใจอย่างไรก็ตามมันจะเกิดเป็นความขุ่นมัวขึ้นมาในจิตก่อนแล้วจึงค่อยๆขยายตัวลุกไหม้ใหญ่ขึ้นมาเป็นไฟโกรธในภายหลังพร้อมทั้งจะตามมาด้วยความผูกโกรธ ความเคียดแค้นฝังลึกที่เรียกว่า "พยาบาท"

กูตัวพี่นี้ฆ่าครั้งเดียวด้วยโสดาปัตติมรรคก็ตายขาด

แต่กูตัวน้องนั้นต้องฆ่าถึง 3. ครั้งจึงจะตายขาด คือต้องฆ่าด้วย สกิทาคามีมรรค อนาคามีมรรคและอรหัตมรรค ครั้งที่ 1 ตัดขา ครั้งที 2 ตัดแขน ครั้งที่ 3
ตัดคอ

เพราะฉนั้นท่านที่จะใช้มิเตอร์วัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมจึงพึงมีความรู้ปลีกย่อยเหล่านี้ไว้ประกอบการวิเคราะห์ วัดผล ประเมินผลการปฏิบัติธรรมไว้ด้วยนะครับ

:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2015, 05:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b36:
มีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องความโกรธมาให้พิจารณาอีกหน่อยว่า

ความเห็นผิดเป็นกูเป็นเราเป็นตัวเป็นตนหรือสักกายทิฏฐินี้ เปรียบเหมือนกูตัวพี่ซึ่งมีนิสัยหยาบกร้านเมื่อกระทบสัมผัสกับทุกขเวทนาและอารมณ์อันไม่ชอบใจแล้วจะปึงปังโกรธกระฟัดกระเฟียดขึ้นมาทันทีไม่มีสติสัมปชัญญะอะไรขึ้นมายับยั้งเพราะกูตัวพี่นี้มันจะเอาอารมณ์เป็นใหญ่ไม่ชอบใช้เหตุผล

ส่วนความยึดผิดคือความยึดถือในกายและความยึดถือในจิต หรือมานะทิฏฐินั้นเปรียบเหมือนกูตัวน้องซึ่งมีนิสัยละเอียดอ่อนลึกซึ้งฉลาดเฉลียวมันจะใช้ทั้งอารมณ์และเหตุผลแต่เหตุผลนั้นเป็นเหตุผลเข้าข้างกูหรือเพื่อกูมิใช่เหตุผลตามธรรม จึงเมื่อกระทบสัมผัสกับทุกขเวทนาหรือสุขเวทนาอารมณ์ที่น่าชอบใจไม่ชอบใจอย่างไรก็ตามมันจะเกิดเป็นความขุ่นมัวขึ้นมาในจิต



ตรงนี้..เห็นด้วยคับ :b17: :b17:
สักกายทิฏฐิ....ตัวกูของกูแบบหยาบ...
มานะทิฏฐิ...ตัวกูของกูแบบละเอียด

asoka เขียน:
:
ส่วนความยึดผิดคือความยึดถือในกายและความยึดถือในจิต หรือมานะทิฏฐินั้นเปรียบเหมือนกูตัวน้องซึ่งมีนิสัยละเอียดอ่อนลึกซึ้งฉลาดเฉลียวมันจะใช้ทั้งอารมณ์และเหตุผลแต่เหตุผลนั้นเป็นเหตุผลเข้าข้างกูหรือเพื่อกูมิใช่เหตุผลตามธรรม จึงเมื่อกระทบสัมผัสกับทุกขเวทนาหรือสุขเวทนาอารมณ์ที่น่าชอบใจไม่ชอบใจอย่างไรก็ตามมันจะเกิดเป็นความขุ่นมัวขึ้นมาในจิตก่อนแล้วจึงค่อยๆขยายตัวลุกไหม้ใหญ่ขึ้นมาเป็นไฟโกรธในภายหลังพร้อมทั้งจะตามมาด้วยความผูกโกรธ ความเคียดแค้นฝังลึกที่เรียกว่า "พยาบาท"

กูตัวพี่นี้ฆ่าครั้งเดียวด้วยโสดาปัตติมรรคก็ตายขาด


ตรงนี้....ไม่เห็นด้วยครับ...

ถ้าอโสกะว่า..ตัวกูผู้น้อง...ทำให้พยาบาทได้...ก็เท่ากับ..อโสกะว่า..โสดาบันมีความพยาบาทได้..นะคับ..

จึงไม่เห็นด้วย....

asoka เขียน:
:
แต่กูตัวน้องนั้นต้องฆ่าถึง 3. ครั้งจึงจะตายขาด คือต้องฆ่าด้วย สกิทาคามีมรรค อนาคามีมรรคและอรหัตมรรค ครั้งที่ 1 ตัดขา ครั้งที 2 ตัดแขน ครั้งที่ 3
ตัดคอ

กูผู้น้อง....จึงเริ่มตัดได้ที่..อนาคามีผล..อรหัตมรรค..อรหัตผล

ตามนี้คับ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2015, 17:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
พยาบาทแปลเป็นไทยง่ายๆว่า "ผูกโกรธ" ความผูกโกรธของกูพี่นั้นเหมือนผูกเงื่อนตาย

แต่ความผูกโกรธของกูน้องในระดับโสดาบันและสกิทาคามีนั้นเปรียบเหมือนการผูกด้วยเงื่อนกระตุก

เหลือแต่กูน้องหรือมานะทิฏฐิ ซึ่งมีมาตั้งแต่โสดาบันแล้ว

ถ้าอุปมาความเห็นผิดยึดผิดเป็นกูทั้งหมดเท่ากับ 100%จะเป็นกูพี่อยู่ 25% เป็นกูน้องอยู่ 75%

โสดาบันบุคคล ฆ่ากูได้ 25% คือกูพี่

สกิทาคามีบุคคล ฆ่ากูน้อง มานะทิฏฐิได้อีก 25% รวมกูถูกฆ่าไปแล้ว 50%

อนาคามีบุคคลฆ่ากูน้องได้อีก 25% รวมกูถูกฆ่าไปแล้ว 75%

อรหันตบุคคลฆ่ากูน้องที่เหลืออยู่ 25% สุดท้าย รวมกูถูกฆ่าไปหมดทั้ง 100%

:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2015, 06:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าบ้าตัวเลข..10 20 50 75 ..เลย

ผูกโกรธด้วยเงื้อนกระตุก....แล้วงัยต่อ.. :b32:
อย่าอุปมาอะไรให้วุ่นวาย..

พยาบาท..ชัด ๆ เลยว่า..อโสกะว่าพัฒนามาได้จาก..มานะทิฏฐิ...กูผู้น้องอะไรของอโสกะ..นั้น

asoka เขียน:
:
ส่วนความยึดผิดคือความยึดถือในกายและความยึดถือในจิต หรือมานะทิฏฐินั้นเปรียบเหมือนกูตัวน้องซึ่งมีนิสัยละเอียดอ่อนลึกซึ้งฉลาดเฉลียวมันจะใช้ทั้งอารมณ์และเหตุผลแต่เหตุผลนั้นเป็นเหตุผลเข้าข้างกูหรือเพื่อกูมิใช่เหตุผลตามธรรม จึงเมื่อกระทบสัมผัสกับทุกขเวทนาหรือสุขเวทนาอารมณ์ที่น่าชอบใจไม่ชอบใจอย่างไรก็ตามมันจะเกิดเป็นความขุ่นมัวขึ้นมาในจิตก่อนแล้วจึงค่อยๆขยายตัวลุกไหม้ใหญ่ขึ้นมาเป็นไฟโกรธในภายหลังพร้อมทั้งจะตามมาด้วยความผูกโกรธ ความเคียดแค้นฝังลึกที่เรียกว่า "พยาบาท"

กูตัวพี่นี้ฆ่าครั้งเดียวด้วยโสดาปัตติมรรคก็ตายขาด


ซึ่งเท่ากับว่า..โสดาบันโกรธจนพยาบาท..ได้
ตรงนี้ที่ผมไม่เห็นด้วย...
กบนอกกะลา เขียน:
ตรงนี้....ไม่เห็นด้วยครับ...

ถ้าอโสกะว่า..ตัวกูผู้น้อง...ทำให้พยาบาทได้...ก็เท่ากับ..อโสกะว่า..โสดาบันมีความพยาบาทได้..นะคับ..

จึงไม่เห็นด้วย....


ที่อโสกะพูดมา...อาจพูดเพลินจนเลยเถิด..เลยพลาด...
แก้ไขคำพูดใหม่...ดูซิ..ว่า...ความอาฆาตพยาบาท..ยังมีในโสดาบันบุคคลมั้ย??


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2015, 14:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อย่าบ้าตัวเลข..10 20 50 75 ..เลย

ผูกโกรธด้วยเงื้อนกระตุก....แล้วงัยต่อ.. :b32:
อย่าอุปมาอะไรให้วุ่นวาย..

พยาบาท..ชัด ๆ เลยว่า..อโสกะว่าพัฒนามาได้จาก..มานะทิฏฐิ...กูผู้น้องอะไรของอโสกะ..นั้น

asoka เขียน:
:
ส่วนความยึดผิดคือความยึดถือในกายและความยึดถือในจิต หรือมานะทิฏฐินั้นเปรียบเหมือนกูตัวน้องซึ่งมีนิสัยละเอียดอ่อนลึกซึ้งฉลาดเฉลียวมันจะใช้ทั้งอารมณ์และเหตุผลแต่เหตุผลนั้นเป็นเหตุผลเข้าข้างกูหรือเพื่อกูมิใช่เหตุผลตามธรรม จึงเมื่อกระทบสัมผัสกับทุกขเวทนาหรือสุขเวทนาอารมณ์ที่น่าชอบใจไม่ชอบใจอย่างไรก็ตามมันจะเกิดเป็นความขุ่นมัวขึ้นมาในจิตก่อนแล้วจึงค่อยๆขยายตัวลุกไหม้ใหญ่ขึ้นมาเป็นไฟโกรธในภายหลังพร้อมทั้งจะตามมาด้วยความผูกโกรธ ความเคียดแค้นฝังลึกที่เรียกว่า "พยาบาท"

กูตัวพี่นี้ฆ่าครั้งเดียวด้วยโสดาปัตติมรรคก็ตายขาด


ซึ่งเท่ากับว่า..โสดาบันโกรธจนพยาบาท..ได้
ตรงนี้ที่ผมไม่เห็นด้วย...
กบนอกกะลา เขียน:
ตรงนี้....ไม่เห็นด้วยครับ...

ถ้าอโสกะว่า..ตัวกูผู้น้อง...ทำให้พยาบาทได้...ก็เท่ากับ..อโสกะว่า..โสดาบันมีความพยาบาทได้..นะคับ..

จึงไม่เห็นด้วย....


ที่อโสกะพูดมา...อาจพูดเพลินจนเลยเถิด..เลยพลาด...
แก้ไขคำพูดใหม่...ดูซิ..ว่า...ความอาฆาตพยาบาท..ยังมีในโสดาบันบุคคลมั้ย??

:b13: :b13:
พยาบาทนั้นมันเป็นเพียงความยินร้ายมีอยู่ในใจปุถุชนก็จะรุนแรงมาก มีในใจอริยชั้นต้นก็เป็นเพียงความยินร้ายที่เจือจางเบาบางลงไปน้อยไปตามลำดับ

ความผูกโกรธแบบเงื่อนกระตุกก็คือมันแก้ง่ายแค่กระตุกเงื่อนปมก็หลุด

แต่ถ้าผูกเงื่อนตายเหมือนในใจปุถุชนนั้นแก้ยากมาก

กบอย่ามีภาพลบกับคำว่า "พยาบาท" มากเกินไปสิ บาลีที่ว่าพยาบาทนี้มันก็แค่ความยินร้ายไม่พอใจในสัมผัสของทวารทั้ง6 เท่านั้นเอง มันจะเข้มข้นรุนแรงหรือไม่รุนแรงย่อมขึ้นอยู่กับดีกรีของอัตตาและมานะทิฏฐิที่อยู่ในตัวของคนแต่ละคน


กบไปได้จากตำราที่ไหนมาว่าพระโสดาบันไม่มีความยินร้ายหรือพยาบาท
งัดมาแสดงหน่อยนะครับ

:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2015, 20:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พยาบาท....นี้มันเลยโกรธ..มาแล้ว...เป็นผูกโกรธ..มีโกรธเป็นเจ้าเรือน..ปุถุชนเต็มขั้น

โสดาบัน..โกรธได้เป็นธรรมดาอย่างชาวบ้าน...แต่หยุดได้เร็ว...ไม่แสดงออกทางวจีทุจริต..กายทุจริต...เพราะศีลเป็นอธิศีล...ถ้าใครเป็นโสดาบัน..จะรู้ตรงนี้..ส่วนทางใจ...ใจไม่ผูกโกรธ..ไม่อาฆาต..ไม่พยาบาท...ไม่คิดจ้องปองร้าย..คิดจะเอาคืน...อะไรทำนองนั้น...เพราะเห็นเป็นกรรมของตน...เห็นกฏของกรรมเป็นหลัก...เห็นไตรลักษณ์บ้างไม่เด่น...อนัตตาไม่ต้องพูดถึง(เกินวิสัยอารมณ์โสดาบัน)

อโสกะ..อาจจะเถียงคอเป็นเอ็น..ว่า..โสดาบันละสักกายทิฏฐิได้แล้ว...อนัตตาต้องเห็นชัด...

ก็ว่าไปตามตัวหนังสือ..ไปงั้น...ก็ว่าไป

แต่..โสดาบัน..ไม่มีพยาบาท..ครับ..
โกรธนะโกรธ..แต่ไม่พยาบาท


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 03:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ต๊ายตายไม่รู้เหรอจะว่ายุคไอทีอย่างนี้น่ะฤาษีเข้าฌานเขาอยู่ป่าคอนกรีตทันสมัยจะตาย555
:b32: :b32:

มาเร็วๆมารับลองอริยะชอบรดน้ำมนต์. แขวนปะคำ รู้ว่าใครเป็นอรหันต์ Onion_L

wink
มีเพิ่มเติมให้วิจารณ์อีกเรื่องข้อที่รู้สึกว่ากามตายด้านแล้วพอจะเข้าอริยะได้ไหม
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 04:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b10: :b10: :b10:
เพิ่งตื่นนอน..รึว่า.ยังไม่ได้นอน..ละเนี้ย. :b14:

:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 04:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
. wink
มีเพิ่มเติมให้วิจารณ์อีกเรื่องข้อที่รู้สึกว่ากามตายด้านแล้วพอจะเข้าอริยะได้ไหม
:b32: :b32:


ตอบกลับพร้อมอ้างอิง

Rosarin



tongue
ระดับสูงๆไม่รู้นะ..จากประสบการณ์ตัวเอง
แค่ฌาน..ก็ข่มไว้ได้
แถมอีกนิด..ก่อนจะข่มไว้ได้นี้
ตอนมันเริ่มไม่เอา..ใหม่ๆ
ตอนรู้ตัว..ไม่มีอะไร
แต่ตอนนอน..จะฝัน..
รู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่นเหมือนมีคนมาคลอเคลียยั่วยุอยู่หลายวันเลยค่ะ
:b3:
มันก็แปลกดี..นึกคิดอยากรู้อะไร..ก็เหมือนมันผุดมาให้รู้
สงสัยในธรรมข้อใด..ก็บังเกิดให้เห็น
คิดจะพูด..แค่ได้หัวข้อมา..ความรู้ก็ไหลออกมาเหมือนสายน้ำฉะฉานยิ่งนัก
เห็นที่ๆจะไป..รู้ใครจะมาหาล่วงหน้า
เห็นอดีต..เห็นอนาคต
นึกอยากได้อะไร..ก็เหมือนมีโชคบังเอิญให้ได้ดั่งใจ..อื่นๆ+++
:b1:
ตอนนั้นปฏิบัติต่อเนื่องสักเดือนเดียวเองค่ะ
แต่คุณที่ชวนหลงได้ว่าวิเศษมาเยอะเชียว555
เพราะมันจำกัดความตอนนั้นได้ว่า...
ผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน :b9:
.มีความตื่นตลอด..รู้ตลอด..จิตใจแช่มชื่นเบิกบานตลอด
รัก,โลภ,โกรธ,หลง..มันสยบหมดเลย
มีแต่จิตใจที่นุ่มนวลมีเมตตา..สงบ
ทำให้เข้าใจในตอนนี้ว่า...มันต่างกัน
เมื่อดำเนินเข้ามาถึง..จิตผู้รู้ ยังต้องไปต่อ
รู้ก็ต้องปล่อยรู้^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 05:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
. :b10: :b10:
เพิ่งตื่นนอน..รึว่า.ยังไม่ได้นอน..ละเนี้ย. :b14:

:b32:

:b12:

:b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 05:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
พยาบาท....นี้มันเลยโกรธ..มาแล้ว...เป็นผูกโกรธ..มีโกรธเป็นเจ้าเรือน..ปุถุชนเต็มขั้น

โสดาบัน..โกรธได้เป็นธรรมดาอย่างชาวบ้าน...แต่หยุดได้เร็ว...ไม่แสดงออกทางวจีทุจริต..กายทุจริต...เพราะศีลเป็นอธิศีล...ถ้าใครเป็นโสดาบัน..จะรู้ตรงนี้..ส่วนทางใจ...ใจไม่ผูกโกรธ..ไม่อาฆาต..ไม่พยาบาท...ไม่คิดจ้องปองร้าย..คิดจะเอาคืน...อะไรทำนองนั้น...เพราะเห็นเป็นกรรมของตน...เห็นกฏของกรรมเป็นหลัก...เห็นไตรลักษณ์บ้างไม่เด่น...อนัตตาไม่ต้องพูดถึง(เกินวิสัยอารมณ์โสดาบัน)

อโสกะ..อาจจะเถียงคอเป็นเอ็น..ว่า..โสดาบันละสักกายทิฏฐิได้แล้ว...อนัตตาต้องเห็นชัด...

ก็ว่าไปตามตัวหนังสือ..ไปงั้น...ก็ว่าไป

แต่..โสดาบัน..ไม่มีพยาบาท..ครับ..
โกรธนะโกรธ..แต่ไม่พยาบาท

:b12:
เห็นรากความเห็นของกบตรงคำพูดคำนี้เองที่ว่า
อ้างคำพูด:
พยาบาท....นี้มันเลยโกรธ..มาแล้ว...เป็นผูกโกรธ..มีโกรธเป็นเจ้าเรือน..ปุถุชนเต็มขั้น


กบต้องกลับไปดูเรื่องนิวรณ์ 5. ให้ดีๆอีกครั้งหนึ่งนะครับ นิวรณ์ตัวที่ 1 กามฉันทะ กับตัวที่ 2. พยาบาทนี้เขาเป็นคู่ตรงกันข้ามกัน ซึ่งมีความหมายในสภาวธรรมจริงๆ เป็นความยินดี พอใจ กับความยินร้าย ไม่พอใจ ในผัสสะของทวารทั้ง 6

อันความยินร้ายนั้นมันเป็นตัวก่อให้เกิด ปฏิฆะ ความขุ่นมัวขึ้นมาก่อนแล้วขยายตัวมากขึ้นไปตามลำดับเป็นความโกร ธ. ความผูกโกรธ ความเคียดแค้น
อาฆาต จองเวรจองกรรม

ความขุ่นมัว ความโกรธ ความผูกโกรธนี้เขาก็มีดีกรีของเขาอาจแยกเป็นเปอร์เซ็นได้ตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 100. เปอร์เซ็นต์

นิวรณ์ธรรมทั้ง 5 นี้ท่านกล่าวไว้ว่าพระอนาคามีจึงจะกำหราบได้เกือบหมด
คงเหลืออุทธัจจะตัวเดียวที่ต้องได้อรหัตมรรคจึงจะตัดขาดหมดสิ้น


ดังนั้นในจิตใจของพระโสดาบันและพระสกิทาคามียังมีพยาบาทนิวรณ์อยู่แต่เจือจางลงเยอะมากกว่าปุถุชน อาจจะอุปมาได้ว่าโสดาบันพยาบาทหายไป 50% สกิทาคาหายไป 75 % อนาคาหายไป100%

พระโสดาบันและพระสกิทาคามี ทำลายได้แค่สักกายทิฏฐิ ความเห็นผิดแต่ยังไม่สามารถทำลายความยึดผิดในกายและจิตได้ อย่างไรๆความยินร้ายไม่พอใจยังเหลืออยู่แน่ๆแต่เบาบางไปตามลำดับขั้น


จึงขอให้กบพึงพิจารณาตามสภาวธรรมบ้างอย่าเอาแต่ความเห็นในความหมายของบัญญัติว่า พยาบาท ที่กบเข้าใจเป็นเกณฑ์ชี้วัด เพราะความเห็นไปตามบัญญัติมันไม่สามารถแยกแยะความละเอียดอ่อนของระดับอารมณ์หรือสภาวธรรมได้ด้วยคำๆเดียว

:b38:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 286 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 29 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร